ต้องยอมรับจริงๆครับว่า AMD Ryzen นั้นมาแรงเหลือเกิน (ส่วนหนึ่งมาจากสื่อบิ้วกันน่าดู 555) ไม่ว่าจะเป็นประสิทธิภาพความแรงจากการทดสอบเบื่องต้นที่ AMD ปล่อยมา แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพที่เหนือกว่า Intel Core i7 เลยทีเดียว
สถาปัตยกรรม Zen เรียกว่ายกเครื่องการออกแบบใหม่ทั้งหมดไม่ได้พัฒนาขึ้นมาจากตัวเก่าเลย โดยจะมีประสิทธิภาพโดยรวมสูงขึ้น 40% โดยหลักๆจะเป็นเรื่องของความเร็วที่ขึ้นไประดับ 3.4 GHz ขึ้นไป ตัวคอร์ของซีพียูจะสูงถึง 8 คอร์ 16 เทรด และ แคช L2+L3 ถึง 20 MB พร้อมเทคโนโลยีใหม่อย่าง SenseMI technology ที่อยู่บนหน่วยประมวลผล Ryzen ด้วยอีกต่างหาก โดยบนเทคโนโลยีนี้จะประกอบไปด้วยตัวช่วยสำหลับการประมวลผลของหน่วยประมวลผล Ryzen ต่างๆ ดังนี้ครับ
- Neural Net Prediction : เป็นปัญญาประดิษฐ์รูปแบบ neural network โดยมันจะทำหน้าที่ในการคาดเดาเส้นทางในอนาคตที่แอปพลิเคชันต่างๆ จะต้องใช้งานโดยอาศัยการทำงานที่เคยเกิดขึ้นในอดีต ผลที่ได้ก็คือแอปพลิเคชันต่างๆ นั้นจะสามารถทำงานได้เร็วมากขึ้นกว่าเดิมเพราะหน่วยประมวลผลได้ทำการเดาและจองเส้นทางไว้ให้แอปพลิเคชันแล้ว
- Smart Prefetch : จะทำงานควบคู่กับ Neural Net Prediction ในการเตรียมข้อมูลสำหรับการใช้งานของแอปพลิเคชันในอนาคตที่ได้มีการคาดเดาโดย Neural Net Prediction มาแล้วว่าจะต้องใช้
- Neural Net Prediction และ Smart Prefetch นั้นจะเป็นฟีเจอร์ที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการยกระดับประสิทธิภาพการประมวลผลของ Ryzen แล้วถึง 1 ใน 4
- “Pure Power” และ “Precision Boost” จะเป็นฟีเจอร์ที่มีหน้าที่ในการรับผิดชอบเรื่องเกี่ยวกับการเพิ่มลดความเร็วสัญญาณนาฬิกาของหน่วยประมวลผลให้เป็นไปตามการใช้งาน โดยในการทำให้ฟีเจอร์ทั้ง 2 นี้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้น ทาง AMD ได้ติดตั้งเซ็นเซอร์ขนาดเล็กมากกว่า 100 ตัวลงไปบนหน่วยประมวลผลซึ่งเซ็นเซอร์ต่างๆ แหล่านี้นั้นจะคอยตรวจจับความดังไฟฟ้า, พลังงานที่หน่วยประมวลผลใช้รวมไปถึงระดับของอุณหภูมิ เพื่อที่จะนำมาคำนวณและปรับลดแรงดันไฟฟ้าและความเร็วของหน่วยประมวลผลให้ออกมามีประสิทธิภาพที่สุด(โดยฟีเจอร์ดังกล่าวนี้นั้นจะเน้นเรื่องของการประหยัดพลังงานในขณะที่หน่วยประมวลผลยังสามารถที่จะประมวลผลได้เป็นอย่างดี)
- “Extended Frequency Range” (XFR) ท้ายสุดกับฟีเจอร์ที่จะทำหน้าที่เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกาโดยอาศัยกับรับรู้ในเรื่องอุณหภูมิมาเป็นเกณฑ์(ลักษณะคล้ายๆ กับ Turbo Boost ของทาง Intel) ตรงจุดนี้นั้นทาง AMD ได้บอกเอาไว้ว่าหากคุณใช้ระบบระบายความร้อนดีๆ แล้วนั้นก็มีสิทธิที่จะเพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกาไปได้มากโดยที่ตัวหน่วยประมวลผลจะทำให้คุณเองครับ
…
2. รุ่นที่ขาย
ชื่อรุ่นของ Ryzen จะแบ่งเป็น R3 ,R5 และ R7 พร้อมเลขรุ่นและรหัสต่อท้าย เป็นคำว่า X หมายถึง สามารถทำการ OC หรือมีความเร็วสูงขึ้นกว่าสเปคได้ โดยขึ้นอยู่กับอุณหภูมิของตัวซีพียูตามที่อธิบายไปก่อนหน้านี้ ส่วนรุ่นที่มีคำว่า Pro จะเป็นรุ่นที่ลดสเปคลงมาทำให้ขายได้ในราคาที่ถูกลง การแบ่งรุ่นคร่าวๆ จะแบ่งตามจำนวนของ คอร์และเทรดเป็นหลัก
- R3 มี 4 Cores 4 Threads ความเร็วเริ่มต้น 3.1 – 3.4 GHz
- R5 1300 – 1400 มี 4 Cores 8 Threads ความเร็วเริ่มต้น 3.2 – 3.5 GHz
- R5 1500 – 1600 มี 6 Cores 12 Threads ความเร็วเริ่มต้น 3.2 – 3.5 GHz
- R7 มี 8 Cores 12 Threads ความเร็วเริ่มต้น 3.0 – 3.6 GHz
…
3. การใช้พลังงาน (TDP)
AMD Ryzen ได้ปรับปรุงการใช้พลังงานหรือคำว่า TDP ใหม่คือ Thermal Design Power สิ่งที่กำหนดหรือออกแบบเอาไว้ ยังแปรผันกับอุณหภูมิของตัวซีพียูด้วย เช่นถ้ามีชุดพัดลมระบายความร้อนที่ทำอุณหภูมิได้ดี ก็จะได้ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นเหมาะกับสาย OC กรณีรุ่นที่ลงท้ายรหัส X จะระบุการใช้พลังงานเริ่มต้นและสามารถเพิ่มได้กรณีต้องการประสิทะิภาพเพิ่มขึ้น หรือถ้าอุณหภูมิสูงเกินไปก็จะลดการใช้พลังงานลง ด้วยเทคโนโลจีนี้ที่เรียกกันว่า Extended Frequency Range (XFR) โดยการใช้พลังงานเริ่มต้นที่ 65W เท่าๆกับ Intel Core i5 และ i7
- 65W ใน Ryzen 3 ,Ryzen 5 บางรุ่น ,Ryzen 7 1700
- 95W ในรุ่น Ryzen 5 1600 ,Ryzen 7 ส่วนใหญ่
- 95W+ สำหรับรุ่นที่รหัสลงท้าย X
…
4. เมนบอร์ด
เมนบอร์ดเริ่มเปิดตัวมาแล้วหลายค่ายไม่ว่าจะเป็น ASRock, Asus, Biostar, Gigabyte และ MSI แบ่งเป็น 2 รุ่นย่อยตามชิปเซ็ต X370 และ X300 โดยมาร์เธอร์บอร์ดที่ใช้ชิปเซ็ต X370 ได้รับการออกแบบมาสำหรับผู้ที่ต้องการความเป็นที่สุดด้านประสิทธิภาพการทำงาน, ฟีเจอร์ที่ทันสมัย และการเชื่อมต่อ I/O จากพีซีที่เหนือชั้น รวมถึงรองรับการ overclocking1 และการใช้การ์ดจอสองตัว ส่วนชิปเซ็ต X300 เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่มองหาประสิทธิภาพการทำงานในขนาดกะทัดรัดมากขึ้น X300 สำหรับเมนบอร์ด mini-ITX ซึ่งเหมาะสำหรับพีซีขนาดเล็ก รายนามเมนบอร์ดที่เปิดตัวมาแล้วได้แก่
- ASRock X370 Taichi, ASRock X370 Gaming K4, ASRock AB350 Gaming K4 & ASRock A320M Pro4
- Asus B350M-C
- Biostar X370GT7, Biostar X350GT5 & Biostar X350GT3
- Gigabyte GA-AX370-Gaming K5, Gigabyte GA-AX370-Gaming 5, Gigabyte AB350-Gaming 3 & Gigabyte A320M-HD3
- MSI A320M Pro-VD, MSI X370 Xpower Gaming Titanium, MSI B350 Tomahawk & MSI B350M Mortar
…
5. ใช้แรมแบบ DDR4
แรมบน AMD Ryzen จะเป็นแบบ Dual Channel ชนิด DDR4 เทียบชั้นกับคู่แข่งทำให้สามารถหาซื้อแรมมาใส่ได้ง่าย ส่วนตัวบัสแม้ตอนนี้จะไม่มีข้อมูลอย่างเป็นทางการ แค่จากการทดสอบหลายๆที่เริ่มที่ 2,400 MHz ไปถึงระดับ 4,000 MHz หรืออาจจะมากกว่าได้ ขึ้นอยู่กับตัวแรม
…
6. ออปชั่นเสริมใหม่ๆ
จากเดิมใน AM3+ ไม่มีเทคโนโลยีที่เป็นมาตรฐานเท่าในในส่วนของออปชั่นเสริมต่างๆ จะเป็นแต่ละแบรนด์ใส่เข้ามา แต่เมื่อมาใน AM4 AMD ได้กำหนดมาตรฐานมาให้เลยในส่วนของออปชั่นต่างๆ ให้รองรับอุปกรณ์ต่างๆมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น
- NVMe
- M.2 SATA devices
- USB 3.1 Gen 1 และ Gen 2
- PCIe® 3.0 capability2
…
7. ราคา
ตอนนี้ราคาที่หลุดมาเป็นเพียงราคาคาดการจากต่างประเทศ ซึ่งถ้าใครใช้ระบบ PC ของเราคงจะได้เห็นราคา โดยประมาณกันแล้ว ซึ่งราคาจริงๆยังไม่ออกมาเป็นที่แน่นอนต้องรอวันแถลงข่าวขายจริงละครับ แต่บอกได้เลยว่าราคาที่เราลงไว้ใหล้เคียงวามเป็นจริงมาก (ตามที่ AMD แซวมา) ซึ่งถ้าราคาเป็นแบบนี้จริง ก็จัดได้ว่าน่าสนใจอย่างมาก โดยเฉพาะราคากลุ่ม Ryzen 5 และ 7 ตามผลทดสอบที่ออกมาสามารถขี่ Core i7 ได้สบายๆ ในราคาที่ถูกกว่า ซึ่งต้องรอราคาและผลทดสอบจริงออกมาอีกทีละครับว่าจะตรงแค่ไหน
…
8. กำหนดการวางจำหน่าย
กำหนดการแน่นอนในการวางจำหน่ายในบ้านเราคือวันที่ 2 มีนาคมนี้ งานเปิดตัวพร้อมวางจำหน่ายทันทีทุกหน้าร้านทั่วประเทศ พร้อมเมนบอร์ดของแต่ละแบรนด์ที่พร้อมวางจำหน่ายกันแล้ว (โดยจะเริ่มส่งจากโรงงานราวๆวันที่ 27-28 กุมภา) เตรียมเงินกันได้เลยครับ และแน่นอนว่าในงานคอมมาร์ทจะมีไปจำหน่าย พร้อมโปรโมชั่นเล็กๆน้อยๆตอบแทนแฟนๆทุกท่านด้วย
…
9. อนาคตของ AMD A & FX Series
สุดท้ายคืออนาคตของ A & FX Series ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป ซึ่ง AMD ก็ได้ยืนยันว่าไม่ได้ทิ้งไป ยังคงมีอยู่เพื่อตลาดราคาประหยัดถึงราคากลางๆ สำหรับผู้มีงบประมาณน้อย ซึ่งซีพียู AMD ในกลุ่มนี้ยังทำได้ดีอยู่ โดย Ryzen จะเข้ามาแทนที่ตลาดบนในส่วนของ Core i5 ,i7 เป็นหลัก และไม่แน่ในอนาคตอาจจะได้เห็นสถาปัตยกรรม Ryzen เข้ามาอยู่ใน A & FX Series ก็เป็นได้
…
ส่งท้าย ณ ตอนนี้ยังมีเพียงแค่ ข่าวหลุด ผลทดสอบที่ยังไม่เป็นทางการ รวมถึงคำพูดปากต่อปากของ AMD Ryzen ซึ่งจะแรงจริง คุ้มค่าแค่ไหนนั้นคงต้องรอกันวันที่ 2 มีนาคมนี้ เปิดตัวพร้อมขายจริงอย่างเป็นทางการ และแน่นอนว่าทีมงาน notebookspec จะทดสอบกันให้เห็นว่า AMD Ryzen นั้น แรงจริง หรือว่าแค่ราคาคุยกันแน่