HP OMEN 15 – 2017 โน๊ตบุ๊คเพื่อการเล่นเกมส์ มาพร้อมประสิทธิภาพสูง คุณภาพเยี่ยมคอเกมส์ไม่ควรพลาด ตอบสนองทุกการใช้งานได้อย่างราบรื่น รวดเร็ว ออกแบบโน๊ตบุ๊ครุ่นนี้ให้มีความสวย ทันสมัย แบบสีดำดุดัน ให้ความแข็งแรง ทนทาน และยังออกแบบแป้นพิมพ์ให้สามารถเรืองแสงสีแดง เพิ่มความโดดเด่น ใช้งานง่ายและสะดวก แม้ในที่มีแสงน้อย เรียกได้ว่ารุ่นปี 2017 นี้ยังคงในส่วนนี้เหมือนปีรุ่นปี 2016 อยู่
สำหรับสเปกได้รับการอัพเกรดมาใหม่ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของชิปประมวลผล Intel Core i7-7700HQ (2.80 – 3.80 GHz) รุ่นล่าสุด Gen 7 Kaby Lake จึงทำให้การใช้งานของคุณจะลื่นไหล รวดเร็วมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญมาพร้อมกับการ์ดจอแยกตัวแรงยอดนิยมอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1050 (4GB GDDR5) หรือ NVIDIA GeForce GTX 1050Ti (4GB GDDR5) ซึ่งมีประสิทธิภาพความแรงกว่ารุ่น GTX 960M พอสมควร นอกเหนือจากนั้นยังได้หน้าจอพาเนล IPS และ Windows 10 ในราคาเริ่มต้นเพียง 33,900 บาทเท่านั้น
VDO Review
Specification
สเปคเต็มๆ ของ HP OMEN 15 – 2017 แบ่งเป็น 3 สเปกด้วยกัน ที่หลักๆ แล้วเลือกติดตั้งชิปประมวลผลตัวแรง รุ่นล่าสุดอย่าง Intel Core i7-7700HQ (2.80 – 3.80 GHz) Gen 7 Kaby Lake ศักยภาพสูง มีกราฟฟิกการ์ดแยกเกมมิ่งอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1050 (4GB GDDR5) หรือ NVIDIA GeForce GTX 1050Ti (4GB GDDR5) สำหรับรุ่นท็อปสุด ซึ่งมีประสิทธิภาพความแรงกว่ารุ่น GTX 960M พอตัว รองรับการเล่นเกมปัจจุบันได้ลื่นๆ ทั้งหมด
นอหเหนือจากนี้ได้ติดตั้งฮาร์ดดิสก์เก็บข้อมูลความจุ 1 TB 7200 RPM หรือถ้าเป็นตัวกลางขึ้นไปก็จะได้ SSD แบบ M.2 PCIe Gen 3 NVME ได้อีก 1 ตัวความจุ 128GB โดยมีแรม DDR4 ขนาด 4GB หนึ่งแถว ส่วนตัวท็อปจะเป็นแรม 8GB ตอบรับกับการใช้งานได้ดีในทุกรูปแบบทั้งเกม ทำงาน หรือบันเทิง ด้วยระบบปฏิบัติการ Windows 10 แบบลิขสิทธิ์ ทำให้เราพร้อมใช้งานได้ทันทีในครั้งแรกของการเปิดเครื่อง
หน้าจอแสดงผล HP OMEN 15 – 2017 มีขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD หรือ 1920×1080 พิกเซล แบบด้านพาเนลจอ IPS ให้ความสวยงามสมจริง และมุมมองที่กว้างกว่าพาเนล TN ทั่วไป มีกล้องเว็บแคมมุมกว้าง 77 องศา และมีไมค์ดิจิตอลในตัว ส่วนการเชื่อมต่อก็มีมาอย่างครบถ้วน 1 x Microphone-in/Headphone-out jack , 1 x USB 2.0 , 2 x USB 3.0 x , 1 x RJ45 LAN Jack for LAN insert , 1 x HDMI พร้อมรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 4.2 และอินเตอร์เน็ตไวเลสผ่าน 802.11a/b/g/n/ac แต่มีจุดสังเกตอยู่ที่ขาดพอร์ตเชื่อมต่อ USB 3.1 Type-C ที่ควรจะมีโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่ๆ ไป
มิติของตัวเครื่อง HP OMEN 15 – 2017 มาในขนาดที่เล็กกระทัดรัดมากเมื่อเทียบกับ Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้วตามมาตรฐาน บนน้ำหนักตัวเครื่องที่เบามากๆ เพียง 2.0 กิโลกรัม ยิ่งเมื่อรวมแบตเตอรี่รูปแบบใหม่แบบแผ่นภายในตัวเครื่อง 4 Cell ขนาด 5,150 mAh ทำให้ตัวเครื่องมีขนาดที่เล็กลงพกพาง่ายขึ้น พร้อมสนนราคาอยู่ที่ 33,900 บาท ในตัวเริ่มต้น ส่วนตัวกลางจะมีราคา 36,900 บาท และตัวท็อปสุดจะตีบวกเพิ่มการ์ดจอเป็น GTX 1050Ti ที่แรงขึ้นประมาณ 10-20% พร้อมยังมีแรม DDR4 8GB และเพิ่มเติมในส่วนของ SSD M.2 128GB มาให้
โดยสเปก HP OMEN 15 – 2017 แบบออกเป็น 3 รุ่นได้ดังต่อไปนี้
- Core i7-7700HQ/GTX 1050/RAM 4GB/HDD 1TB ราคา 33,900 บาท
- Core i7-7700HQ/GTX 1050/RAM 4GB/HDD 1TB + SSD 128GB ราคา 36,900 บาท
- Core i7-7700HQ/GTX 1050 Ti/RAM 8GB/HDD 1TB + SSD 128GB ราคา 43,900 บาท
Hardware / Design
หน้าตาการออกแบบเอง HP OMEN 15 – 2017 ต้องบอกว่ายังไม่ได้รับการเปลี่ยนแปลงใดๆ จาก HP OMEN 15 – 2016 ทั้งในส่วนของดีไซน์ภายนอกภายใน ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าส่วนของรูปลักษณ์นั้นทำได้เป็นอย่างดีอยู่แล้ว ด้วยความโดดเด่นกับสีสันของตัวเครื่อง ที่สวยดุดันตามสไตล์ของ Gaming Notebook ที่นักเล่นเกมชื่นชอบกัน โดย HP OMEN 15 – 2017 ใช้เป็นโทนสีดำทั้งตัวเครื่องตัดกับสีแดง จากฝาหลังของตัวเครื่องที่มีโลโก้ OMEN เป็นเอกลักษณ์สีแดงสะดุดตา ประกอบกับพื้นผิวลวยลายสีดำแบบเคฟล่าแบบด้านสากมือที่ให้ความรู้สึกเป็น Gaming ที่ดี ส่วนสีด้านใต้เครื่องจะเป็นสีดำแบบมีกากเพชรสวยงาม
ด้านในตัวเครื่องมาพร้อมสีสันที่โดดเด่นดำแดงดุดัน พร้อมลวดลายเคฟล่าแบบฝังไปในเนื้อลักษณะเดียวกันกับรุ่นก่อนๆ ตัดด้วยไฟสีแดงจากแป้นคีย์บอร์ด และช่องลำโพงสามเหลี่ยมถี่ๆ ตามสไตล์ HP OMEN ที่ช่วยเสริมความสวยงามได้ดี รวมถึงยังมีบานพับใหม่สีดำมันแบบลมควันที่แลดูแข็งแรงทนทานสวยงามเข้ากับเครื่องได้ดีมากๆ โดยเป็นแบบ 2 แกน ที่เชื่อได้ว่าไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องบานพับในระยะยาวของการใช้งานแต่อย่างใด
สรุปเรื่องการออกแบบดีไซน์ของ HP OMEN 15 – 2017 ต้องบอกว่างานดีจริงๆ เหมือนรุ่นปี 2016 เหมาะสำหรับคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คเพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะ และไม่ว่าจะเป็นงานเอกสารหรือเล่นอินเตอร์เน็ตเว็บไซต์ รวมไปถึงงานหนักๆ หรือเล่นเกมก็สามารถรองรับได้อย่างสบายๆ ที่สำคัญดีไซน์การออกแบบยังก้าวล้ำด้วยความบางเบากว่าคู่แข่งในสเปกและราคาที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งตรงนี้ก็ต้องยอมรับว่ามีไม่ได้ติดตั้งไดร์ฟออฟติคอล DVD มาให้ ที่จะว่าไปคนก็ไม่ค่อยได้ใช้กันแล้ว โดยตรงนี้ทำให้ตัวเครื่องมีความบางและเบากว่า Gaming Notebook ทั่วไปนั่นเอง โดยมีน้ำหนักที่ 2 กิโลกรัมเท่านั้น
อย่างไรก็ตามการที่หน้าตาของ HP OMEN 15 – 2017 ยังคงเหมือนรุ่นเดิมนั้นหลายคนอาจจะชอบหรือบางคนอาจจะคิดว่าไม่สดใหม่เท่าไหร่ ซึ่งโดยส่วนตัวนั้นถือว่าขึ้นอยู่กับแต่ละคนจริงๆ เพราะจะว่าไปดีไซน์แบบนี้ก็อยู่ในเกณฑ์ที่สมบูรณ์แล้ว ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนการออกแบบบ่อยๆ แต่อย่างใด
Keyboard / Touchpad
ส่วนของคีย์บอร์ดนั้นตัวปุ่มเป็นพลาสติกสีดำเข้ากับตัวเครื่อง โดยสกรีนตัวอักษรเป็นแดงพร้อมฟอนต์ที่ดูดุดัน อีกทั้งได้รับการปรับดีไซน์ใหม่แบบ Island Style ทำให้สามารถพิมพ์ได้ง่ายขึ้น แต่สำหรับคนที่นิ้วเล็กนิ้วใหญ่สามารถใช้งานได้สะดวกทั้งหมด แน่นอนว่ามาพร้อมกับปุ่มชุดตัวเลข Numpad ด้านขวา ในส่วนของไฟ LED Backlit สีแดงก็สามารถใช้งานได้ดีทีเดียว โดยมีระบบการปรับระดับความสว่างได้สองระดับ ส่วนปุ่มเปิดเครื่องจะไปอยู่ที่มุมซ้ายบนสีกลืนไปกับเครื่อง ซึ่งข้อดีก็คือมั่นใจได้ว่าจะไม่ไปเผลอกดระหว่างการใช้งานแน่นอน พร้อมมีไฟส่องสว่างให้เห็นสถานะ ซึ่งโดยรวมแล้วแม้ไม่ใช่คีย์บอร์ด Gaming จริงๆ แต่ก็พอที่จะใช้งานได้อย่างไม่ติดขัดอะไร
ทัชแพดมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับขนาดตัวเครื่อง ส่วนดีไซน์นั้นก็ใช้เป็นแบบไม่มีปุ่มแยกออกมาเช่นเดียวกับ HP Pavilion 15 หลายๆ รุ่น การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ตัวซอฟต์แวร์ควบคุมก็ช่วยจัดการได้ดี โดยมีการจับความเคลื่อนไหวว่าผู้ใช้กำลังพิมพ์ข้อความอยู่หรือไม่ ซึ่งจะช่วยให้เคอร์เซอร์ไม่เลื่อนไปจากตำแหน่งเก่า ถ้าผู้ใช้เผลอนำมือไปโดนทัชแพดเข้า
Screen / Speaker
ในส่วนของหน้าจอ HP OMEN 15 – 2017 เป็นแบบด้านที่ลดแสงสะท้อนขนาด 15.6″ บนความละเอียดในระดับ Full HD หรือ 1920 x 1080 พิกเซล ที่สำคัญพาเนลยังเป็น IPS คุณภาพสูง ให้การแสดงผลที่สมจริงแบบสุดๆ มุมมองกว้างที่ 178 องศา ทำให้สีสันแทบไม่เพี้ยนเลย เมื่อลองใช้งานจริงแล้วให้ประสบการณ์ใช้งานระดับที่น่าพึงพอใจ ทั้งการเล่นเกม ดูหนัง ฟังเอ็มวีผ่าน Youtube ก็สามารถมอบประสบการณ์ความบันเทิงให้อย่างดี จากความเรียบเนียนของพิกเซลและพื้นที่ในการใช้งานที่เหนือกว่า 1366 x 768 พิกเซลเดิมๆ หรือพวกที่เป็นพาเนล TN ทั่วไปมาก เรียกได้ว่า HP OMEN 15 – 2017 จัดเต็มเรื่องหน้าจอมาให้มากกว่า Gaming Notebook ราคาใกล้เคียงกันทีเดียว
จุดเด่นก็ยังหนีไม่พ้นระบบและการออกแบบลำโพงที่เป็นจุดเด่นของรุ่นอย่างแท้จริง เนื่องจากด้านบนเป็นลำโพงขนาดใหญ่เป็นแผงยาวตลอดคีย์บอร์ดจำนวน 2 ตัว โดยใช้ระบบเสียงด้วย Bang & Olufsen ซึ่งได้ให้การแบ่งทิศทางเสียงด้านซ้ายขวา อีกทั้งมีเทคโนโลยี HP Audio Boost ทำให้ได้พลังของเสียงที่มีคุณภาพ และความหนักแน่น สร้างประสบการณ์ที่ดูดีกว่าเสียงจากโน๊ตบุ๊คทั่วไปเลยทีเดียว
Connector / Thin And Weight
พอร์ตการเชื่อมต่อตัวเครื่อง HP OMEN 15 – 2017 นี้จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่มีความครบครับอย่างมาก แม้ว่าจะเป็นเครื่องที่มีการออกแบบมาให้เป็นเครื่องที่มีขนาดความบางและน้ำหนักเบาแต่เรื่องพอร์ตการเชื่อมต่อต่างๆ นั้น ก็มีมาให้มากพอทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น USB 3.0 จำนวน 2 พอร์ต, USB 2.0 อีก 1 พอร์ต และ HDMI พร้อมช่องต่อหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร แน่นอนว่ามี SD Card Reader เป็นมาตรฐาน พร้อมพอร์ต LAN ตัวเต็ม แต่ก็น่าเสียดายที่ไม่มีพอร์ตอนาคตอย่าง USB 3.1 Type-C มาให้ใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ใหม่ๆ แม้จะเข้าใจว่าเป็นการใช้ดีไซน์ตัวเครื่องแบบเดิมอยู่
ขนาดของตัวเครื่องและสายชาร์จ เมื่อเทียบกับขนาดของโน๊ตบุ๊ค 15.6″ ทั่วไปถือได้ว่ามีมิติที่เล็กกว่าพอสมควร ส่วนน้ำหนักตัวเครื่องเปล่านั้น อยู่ที่ 2 กิโลกรัม และเมื่อรวมกับตัวอแด็ปเตอร์เข้าไปด้วย ก็จะมีหนักไ 2 กิโลกรัมหน่อยๆ เท่านั้น ก็จัดว่ามีน้ำหนักที่มีความไม่หนักจนเกินไปนัก แน่นอนว่าตอบสนองในเรื่องของการพกพาไปนอกสถานที่ได้อย่างเต็มรูปแบบ ถือว่าเป็น Gaming Notebook ตัวแรงที่น้ำหนักเบารุ่นหนึ่งเลย
Performance / Software
โดยมาพร้อมกับชิปประมวลผลจาก Intel Core i7-7700HQ (รุ่นยอดนิยมประจำปี 2017) ซึ่งเป็นชิปประมวลผลที่เน้นการใช้งานหนักๆ ไม่จะเป็นการโปรเซสหรือเล่นเกม มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.80 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 3.80 GHz เป็นซีพียูแบบ 4 Core 8 Threads รุ่นใหม่ล่าสุดที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปมากๆ หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลจริงจังก็รองรับได้อย่างสบายๆ เรียกได้ว่าแรงกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่าง Intel Core i7-6700HQ มาพร้อมแรมภายในขนาด 8GB DDR4 บัส 2400 MHz
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel HD Graphics 630 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน ที่โดยรวมแล้วให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีกว่า Intel HD Graphics 530 รุ่นก่อนหน้าแน่นอน เพราะอย่างน้อยๆ ก็รองรับการทำงานกับหน้าจอความละเอียดสูงได้แบบไม่มีปัญหา
อีกทั้งยังมีกราฟิกการ์ดจอแยกรุ่นใหม่ล่าสุดตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1050 ที่ต้องบอกว่าแรงเทียบเท่าระดับพีซี และแรงกว่า GTX 1050 แบบรู้สึกได้ หรือถ้าเทียบกับรุ่นก่อนก็บอกได้เลยว่าแรงกว่า GTX 960M อย่างสบายๆ เรียกได้ยิ่งตอบสนองในส่วนของการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ 3 มิติ หรือเกมที่กินทรัพยากรได้เป็นอย่างดีทีเดียว
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูงสุดๆ ที่น่าประทับใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบน ที่เน้นการทำงานเป็นหลัก
ทดสอบการทำงานฮาร์ดดิสก์ความจุอยู่ที่ 1TB แบบความเร็ว 7200 รอบที่ติดตั้งมาให้ ด้วยโปรแกรม HD Tune แล้วพบว่าอัตราการถ่ายโอนข้อมูลน้อยสุดที่ 58MB/s และสูงสุดที่ 148MB/s ทำให้ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 116MB/s ด้วยกัน มีอัตราการเข้าถึงข้อมูลที่ 15.4 ms ซึ่งนับได้ว่าผลทดสอบที่ออกมานั้นมีความน่าประทับใจทีเดียว เรียกได้ว่าทำได้ดีกว่าฮาร์ดดิสก์ปกติที่ 5400 รอบแบบรู้สึกได้เวลาเข้าเกมโหลดเกม
ซึ่งในส่วนนี้เราจะทดสอบ HP OMEN 15 – 2017 ในเรื่องของประสิทธิภาพการเล่นเกมทั้ง 5 เกม โดยรุ่นที่ทีมงาน NotebookSPEC ได้รับมาทดสอบจากทาง HP ประเทศไทย เป็นรุ่นล่างสุด 33,900 บาท แต่ทางทีมงานได้ทำการอัพเกรดในส่วนของแรมเป็น 8GB และ SSD 128GB ไปเรียบร้อยแล้ว เอาว่าไปชมกันเลยดีกว่า
คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของเฟรมเรทจากทั้ง 5 เกมที่ได้ทดสอบมีค่ามากกว่า 30FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-7700HQ ที่สามารถรีดพลัง NVIDIA GeForce GTX 1050 ออกมาได้อย่างเต็มที่ ประกอบกับยังใช้แรม 8GB DDR4 และ SSD ความเร็วสูง รวมไปถึงฮาร์ดดิสก์ 7200 รอบ (ใช้ติดตั้งเกม)
ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง Battlefield 1 /GTA V และ Rise of the Tomb Raider ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล ตาม Native ของหน้าจอ โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด ภาพก็สวยจนน่าประทับใจแบบที่สุด ซึ่งดูจากเฟรมเรทเฉลี่ยแล้วแทบไม่ต่ำไปกว่า 30FPS เรียกได้ว่าเหลือๆ กับการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้สมบูรณ์ที่สุด แม้ว่าต้องยอมว่ามีข้อสังเกตุว่ามีภาพฉีกอยู่บ้างกับเกมบางฉากที่เคลื่อนไหวเร็วๆ จากการที่หน้าจอไม่ได้เป็น G-Sync เวลาที่เราปรับให้ปล่อยเฟรมเรทสูงๆ แต่ในส่วนของพาเนล IPS ก็ทำหน้าที่เรื่องสีสันได้ดีเช่นเดิม
อีก 2 เกมออนไลน์ที่โดยส่วนตัวเล่นเป็นประจำอย่าง Overwatch, DOTA 2 ก็จัดการทดสอบให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่น ระดับเฟรมเรทที่สูงสุด แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็สบายๆ ค่าเฟรมเรทเฉลี่ยแทบไม่ต่ำ 60 เฟรมเช่นกัน สรุปโดยรวมแล้วคือเล่นได้สบายๆ ทำได้อย่างน่าประทับใจ ทั้งจากความลื่นไหลและหน้าจอที่สวยงามสมจริง
*ไว้มีโอกาสรีวิวในส่วนของรุ่นที่เป็น GTX 1050Ti จะนำมาทดสอบให้ได้ชมกันเต็มๆ อีกครั้งหนึ่งครับ
อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจของ HP OMEN 15 – 2017 ก็คือมาพร้อมซอฟต์แวร์บันเดิลอย่าง HP Support Assistant โดยเป็นโปรแกรมซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้เราดูแลคอมพิวเตอร์ได้อย่างเหมาะสม ป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น และช่วยแก้ปัญหาได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว โปรแกรมนี้ยังระบุข้อมูลที่สำคัญสำหรับแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งนั่นหมายรวมไปถึงการอัพเดทไดร์เวอร์ต่างๆ และ Windows ด้วย จัดได้ว่าดีและใช้งานได้จริง
Battery / Heat / Noise
HP OMEN 15 – 2017 นั้นมาพร้อมกับแบตเตอรี่ประมาณ 4,000 mAh ซึ่งจะว่าไปแล้วนั้นก็ค่อนข้างที่จะน้อยไปหน่อย แต่เมื่อมาดูประสิทธิภาพโดยรวมของอายุการใช้งานของแบตเตอรี่แล้วถือว่าโอเคเลย โดยสามารถใช้งาน Wi-Fi เพื่อท่องเว็บได้ยาวนานประมาณ 5 – 6 ชั่วโมง ซึ่งหากดูตามตารางแล้วนั้นจะเห็นได้ครับว่า HP OMEN 15 – 2017 สามารถที่จะทำเวลาได้ดีกว่าโน๊ตบุ๊คที่ใช้ Core i7 รุ่นเดียวกันในหลายๆ รุ่นด้วยกัน
ส่วนของอุณหภูมิถือว่าสามารถที่จะทำได้ดีตอนที่ใช้งานเครื่องแบบไปบีบขั้นทรัพยากรมากนัก และถึงจะเป็นการเล่นเกมที่เน้น GPU และ CPU เข้ามาด้วยเป็นเวลานานๆ นั้นก็พบว่าระดับของอุณหภูมิในจุดต่างๆ ของตัวเครื่องจะเพิ่มขึ้นมาน้อยมาก จุดที่มีอุณหภูมืที่หนักที่สุดจะอยู่ที่ ตรงกลางขอบเครื่องแต่ก็ใช้เวลาถ่ายความร้อนออกไปได้ไม่นานมากเท่าไรนักอันนี้คงต้องยอมรับหล่ะครับว่าระบบระบายความร้อนของเขาดีจริงๆ และสำหรับนักเล่นเกมที่ใช้คีย์บอร์ดเล่นเป็นประจำนั้น บริเวณของปุ่ม WASD ก็มีความร้อนสะสมน้อยเช่นกัน
ส่วนของอุณหภูมิการระบายความร้อน HP OMEN 15 – 2017 ถือว่าสามารถที่จะทำได้ดีขณะที่เราเล่นเกมทดสอบเป็นเวลานาน ซึ่งเป็นการเล่นเกมที่เน้น GPU และ CPU พบว่าระดับของอุณหภูมิในจุดต่างๆ ของตัวเครื่องจะเพิ่มขึ้นมาน้อยมาก จุดที่มีอุณหภูมืที่หนักที่สุดจะอยู่ที่ ตรงกลางขอบเครื่องด้านหลัง แต่ก็ใช้เวลาถ่ายความร้อนออกไปได้ไม่นานมากเท่าไรนักเมื่อเราใช้งานทั่วไป อันนี้คงต้องยอมรับว่าระบบระบายความร้อนทำได้น่าประทับใจอยู่ จากการที่มีพัดลมสองตัว พร้อมฮีตไปป์สองเส้นเป่าออกด้านหลัง และเทคโนโลยี HP Cool Sense ช่วยจัดการ
อุณหภูมิต่ำสุดของเครื่องจะอยู่ที่ 36 องศาเซลเซียส แต่พอรีดประสิทธิภาพเต็มที่จะเห็นว่าเครื่องจะร้อนที่สุดเพียง 80 – 88 องศาเซลเซียสเท่านั้น ด้วยการทดสอบให้ห้องแอร์ปรับอากาศที่ 26 องศาเซลเซียส จากการเล่นเกมยาวๆ หลายเกมต่อเนื่อง อีกทั้งยังทดลองใช้งานด้านนอกตัวอาคารที่มีอุณหภูมิสูงกว่า 30 องศาเซลเซียส ก็จะเห็นว่ามีอุณหภูมิสูงสุดจะอยู่ที่ระดับ 90 – 95 องศาเซลเซียเลยล่ะ ยังไงกรณีก็ไม่แนะนำให้ใช้เป็นเวลานานๆ หรือจำเป็นจริงๆ ก็ควรมี Cooling Pad คอยช่วยซะหน่อย เอาว่าระบบระบายความร้อนของ HP OMEN 15 – 2017 เครื่องนี้ทำออกมาได้ดีตามมาตรฐานของ Gaming Notebook ปี 2017 ทีเดียว ฉะนั้นหายห่วงเรื่องนี้ได้เลย
ทั้งนี้ในการใช้งานทั่วไปตามปกตินั้น (เช่นท่องเว็บ, พิมพ์งาน ฯลฯ) เราจะแทบไม่ได้ยินเสียงของระบบระบายความร้อนเลยแม้แต่น้อย งานนี้ทาง HP ทำการบ้านมาดีมาก ทำงานได้ค่อนข้างเบาและเงียบทีเดียว อย่างไรก็ตามเมื่อไรก็ตามที่เราต้องใช้การทำงานทั้งจาก CPU และ GPU (เช่นการเล่นเกม) เรื่องของเสียงนั้นจะเปลี่ยนไปเพราะพัดลมนั้นค่อนข้างที่จะดัง (แต่อยู่ในเกณฑ์รับได้) ทว่ามันก็จะเกิดขึ้นเพียงแค่เฉพาะตอนใช้งานหนักๆ เท่านั้น ถ้าเลิกใช้งานเมื่อไรแป๊บเดียวก็หายไปเแล้ว ซึ่งเหมือนเร่งเครื่องพัดลมให้ทำเครื่องได้ระบายความร้อนอย่างเต็มที่เท่านั้น
Conclusion / Award
สรุปจาการที่สัมผัสและใช้งานจริงๆ ของ HP OMEN 15 – 2017 ทั้งการทำงานต่างๆ บันเทิงดูหนังฟังเพลง รวมไปถึงการเล่นเกม NotebookSPEC บอกได้อย่างเต็มปากเลยว่า HP ทำออกมาได้ดีเหนือความคาดหมายมากๆ เพราะใครจะเชื่อล่ะว่าจ่ายเงินที่ 33,990 บาทแต่จะได้ Gamimg Notebook ที่มีสเปคประสิทธิภาพสูง ที่สำคัญคือได้หน้าจอพาเนล IPS และมี Windows 10 มาให้พร้อมใช้งานด้วย
เน้นเลยก็คือสเปกเป็นชิปประมวลผล Core i7-7700HQ พร้อมด้วยการ์ดจอ GeForce GTX 1050 GDDR5 4GB และแรม DDR4 อีกทั้งยังรองรับการอัพเกรด SSD แบบ M.2 นอกจากนี้ยังมีชุดระบายความร้อนที่ดี และหน้าจอแสดงผล 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD IPS ที่ให้ภาพคมชัดสวยงามสมจริง ครบครันกับการใช้งาน เรียกได้ว่ายังได้ดีเหมือนกับรุ่นพี่อย่าง HP OMEN 15 – 2016 แต่ได้เพิ่มเติมเรื่องของประสิทธิภาพความแรงเข้ามา
ในเรื่องของการออกแบบที่ HP OMEN 15 – 2017 ทำได้ดีไม่แพ้กัน ถึงแม้จะใช้รูปร่างหน้าตาแบบเดิมๆ แต่ด้วยความเบาเพียง 2 กิโลกรัม และดีไซน์สไตล์ OMEN ที่เป็น Gaming Notebook ที่ดูดุดันจริงจังเกินราคา บวกกับฟีเจอร์อย่างคีย์บอร์ดมีไฟ ระบบเสียง Bang & Olufsen คุณภาพดี และการรับประกันอย่าง HP Onsite Service รับเครื่องซ่อมถึงหน้าบ้านเป็นระยะเวลา 2 ปี + Smart Friend 1 ปี กู้ข้อมูลฟรี 1 ครั้ง , เช็คเครื่องฟรี 2 ครั้ง และ Call Center Support ตลอด 24 ชั่วโมง และอื่นๆ ยิ่งชี้ตอกย้ำความคุ้มค่าของ HP OMEN 15-2017 เป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม HP OMEN 15 – 2017 ก็ยังพอมีข้อสังเกตอยู่บ้างเช่นปุ่มทิศทางลูกศรที่เล็กเกินไป ทำให้บางคนกดไม่สะดวก รวมถึงไม่มี USB Type-C 3.1 ติดตั้งมาให้ ซึ่งก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้อยู่เมื่อเทียบกับข้อดีต่างๆ เอาว่าเพื่อนๆ ท่านใดที่สนใจก็สามารถสอบถามไปยังตัวแทนจำหน่าย HP ชั้นนำกันได้เลย รวมไปถึงถ้ารุ่นเริ่มต้นในราคา 33,900 บาทยังแรงไม่พอ ก็สามารถดูเป็นรุ่นกลางที่มาพร้อมกับแรม 4GB และ SSD M.2 ความจุ 128GB มาให้ก็ได้ ในราคาเพียง 36,900 บาท ส่วนถ้าจะไปให้สุดก็ลองดูเป็นรุ่นท็อปไปเลยก็ได้ 43,900 บาท ได้ทั้งแรม 8GB SSD 128GB และการ์ดจอเป็น GTX 1050Ti
ส่วนปัญหาที่เคยเกิดขึ้นอย่างเล่นเกมไปซักพักแล้วกระตุกหรือหน่วงก็ได้รับการแก้ไขหาย 100% ใน HP OMEN 15 – 2017 ฉะนั้นสบายใจหายห่วง ถือได้ว่าใครอยากได้ Gaming Notebook ที่ได้หน้าจอพาเนล IPS และ Windows 10 ในราคาประมาณนี้ HP OMEN 15 – 2017 น่าจะตอบโจทย์ที่สุดแล้วล่ะครับ
ข้อดี
- ดีไซน์สวย วัสดุใช้ได้ สวยงามตามาสไตล์ OMEN
- ตัวเครื่องบางเบากว่า Gaming Notebook ทั่วไป
- สเปคสูงด้วย Core i7-7700HQ + GTX 1050 (หรือ GTX 1050Ti)
- หน้าจอความละเอียด Full HD พาเนล IPS คุณภาพสูง
- ระบบเสียงดีทีเดียวอย่าง Bang & Olufsen
- รองรับการอัพเกรดทั้ง SSD M.2 และ DDR4
- ติดตั้ง Windows 10 แท้ มาพร้อมใช้งานทันที
- HP On – site Service รับเครื่องซ่อมถึงหน้าบ้านเป็นระยะเวลา 2 ปี + Smart Friend 1 ปี
- ระบบระบายความร้อนทำได้ดีน่าพอใจ
ข้อสังเกต
- ปุ่มลูกศรเล็กเกินไป ใช้งานได้ลำบาก
- ตัวเริ่มต้นควรอัพเกรดแรมเป็นขนาด 8GB
- ไม่มีพอร์ต USB 3.1 Type-C มาให้
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับโน๊ตบุ๊คในกลุ่ม Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้ว ซึ่ง HP OMEN 15 – 2017 ก็ได้รับรางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Multimedia
ระบบเสียง Bang & Olufsen บนหน้าจอแสดงผลขนาด 15.6 นิ้วความละเอียดแบบ Full HD IPS แถมมาพร้อมด้วยสเปคของระบบที่สดใหม่และเร็วแรง สามารถตอบสนองความบันเทิงได้ในทุกๆ รูปแบบไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมก็ทำได้เป็นอย่างจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ HP OMEN 15 – 2017 จะได้รางวัลนี้ไป
Best Value
เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คราคา 33,990 บาท เรียกได้ว่าไม่มีโน๊ตบุ๊คตัวไหนที่ได้สเปคสูงขนาดนี้ทั้งจอ Full HD IPS ขนาด 15.6 นิ้ว, Core i7-7700HQ และการ์ดจอระดับ GTX 1050 พร้อมประกัน On-site 2 ปีอย่างแน่นอน ดังนั้นถ้าเพื่อนๆมีงบประมาณจำกัด แต่มองหาโน๊ตบุ๊คคุ้มๆ เล่นเกมลื่นๆ อยู่แล้วละก็ HP OMEN 15 – 2017 เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก
Best Performance
HP OMEN 15 – 2017 มีสเปคที่ครบครัน ทั้งชิบประมวลผล Core i7-7700HQ และการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1050 (4GB GDDR5) หรือ NVIDIA GeForce GTX 1050Ti (4GB GDDR5) พร้อมแรมเริ่มต้นขนาด 4GB มาตรฐานใหม่แบบ DDR4 และ SSD แบบ M.2 ให้การเข้าถึงข้อมูลได้รวดเร็ว ความเร็วสูงรองรับการทำงานต่างๆ พร้อมๆ กันได้หลายๆ งาน รวมถึงเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล
VDO Review
Specification
สเปคเต็มๆ ของ HP OMEN 15 – 2017 แบ่งเป็น 3 สเปกด้วยกัน ที่หลักๆ แล้วเลือกติดตั้งชิปประมวลผลตัวแรง รุ่นล่าสุดอย่าง Intel Core i7-7700HQ (2.80 – 3.80 GHz) Gen 7 Kaby Lake ศักยภาพสูง มีกราฟฟิกการ์ดแยกเกมมิ่งอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1050 (4GB GDDR5) หรือ NVIDIA GeForce GTX 1050Ti (4GB GDDR5) สำหรับรุ่นท็อปสุด ซึ่งมีประสิทธิภาพความแรงกว่ารุ่น GTX 960M พอตัว รองรับการเล่นเกมปัจจุบันได้ลื่นๆ ทั้งหมด
นอหเหนือจากนี้ได้ติดตั้งฮาร์ดดิสก์เก็บข้อมูลความจุ 1 TB 7200 RPM หรือถ้าเป็นตัวกลางขึ้นไปก็จะได้ SSD แบบ M.2 PCIe Gen 3 NVME ได้อีก 1 ตัวความจุ 128GB โดยมีแรม DDR4 ขนาด 4GB หนึ่งแถว ส่วนตัวท็อปจะเป็นแรม 8GB ตอบรับกับการใช้งานได้ดีในทุกรูปแบบทั้งเกม ทำงาน หรือบันเทิง ด้วยระบบปฏิบัติการ Windows 10 แบบลิขสิทธิ์ ทำให้เราพร้อมใช้งานได้ทันทีในครั้งแรกของการเปิดเครื่อง
หน้าจอแสดงผล HP OMEN 15 – 2017 มีขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD หรือ 1920×1080 พิกเซล แบบด้านพาเนลจอ IPS ให้ความสวยงามสมจริง และมุมมองที่กว้างกว่าพาเนล TN ทั่วไป มีกล้องเว็บแคมมุมกว้าง 77 องศา และมีไมค์ดิจิตอลในตัว ส่วนการเชื่อมต่อก็มีมาอย่างครบถ้วน 1 x Microphone-in/Headphone-out jack , 1 x USB 2.0 , 2 x USB 3.0 x , 1 x RJ45 LAN Jack for LAN insert , 1 x HDMI พร้อมรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 4.2 และอินเตอร์เน็ตไวเลสผ่าน 802.11a/b/g/n/ac แต่มีจุดสังเกตอยู่ที่ขาดพอร์ตเชื่อมต่อ USB 3.1 Type-C ที่ควรจะมีโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่ๆ ไป
มิติของตัวเครื่อง HP OMEN 15 – 2017 มาในขนาดที่เล็กกระทัดรัดมากเมื่อเทียบกับ Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้วตามมาตรฐาน บนน้ำหนักตัวเครื่องที่เบามากๆ เพียง 2.0 กิโลกรัม ยิ่งเมื่อรวมแบตเตอรี่รูปแบบใหม่แบบแผ่นภายในตัวเครื่อง 4 Cell ขนาด 5,150 mAh ทำให้ตัวเครื่องมีขนาดที่เล็กลงพกพาง่ายขึ้น พร้อมสนนราคาอยู่ที่ 33,900 บาท ในตัวเริ่มต้น ส่วนตัวกลางจะมีราคา 36,900 บาท และตัวท็อปสุดจะตีบวกเพิ่มการ์ดจอเป็น GTX 1050Ti ที่แรงขึ้นประมาณ 10-20% พร้อมยังมีแรม DDR4 8GB และเพิ่มเติมในส่วนของ SSD M.2 128GB มาให้
โดยสเปก HP OMEN 15 – 2017 แบบออกเป็น 3 รุ่นได้ดังต่อไปนี้
- Core i7-7700HQ/GTX 1050/RAM 4GB/HDD 1TB ราคา 33,900 บาท
- Core i7-7700HQ/GTX 1050/RAM 4GB/HDD 1TB + SSD 128GB ราคา 36,900 บาท
- Core i7-7700HQ/GTX 1050 Ti/RAM 8GB/HDD 1TB + SSD 128GB ราคา 43,900 บาท
Hardware / Design
หน้าตาการออกแบบเอง HP OMEN 15 – 2017 ต้องบอกว่ายังไม่ได้รับการเปลี่ยนแปลงใดๆ จาก HP OMEN 15 – 2016 ทั้งในส่วนของดีไซน์ภายนอกภายใน ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าส่วนของรูปลักษณ์นั้นทำได้เป็นอย่างดีอยู่แล้ว ด้วยความโดดเด่นกับสีสันของตัวเครื่อง ที่สวยดุดันตามสไตล์ของ Gaming Notebook ที่นักเล่นเกมชื่นชอบกัน โดย HP OMEN 15 – 2017 ใช้เป็นโทนสีดำทั้งตัวเครื่องตัดกับสีแดง จากฝาหลังของตัวเครื่องที่มีโลโก้ OMEN เป็นเอกลักษณ์สีแดงสะดุดตา ประกอบกับพื้นผิวลวยลายสีดำแบบเคฟล่าแบบด้านสากมือที่ให้ความรู้สึกเป็น Gaming ที่ดี ส่วนสีด้านใต้เครื่องจะเป็นสีดำแบบมีกากเพชรสวยงาม
ด้านในตัวเครื่องมาพร้อมสีสันที่โดดเด่นดำแดงดุดัน พร้อมลวดลายเคฟล่าแบบฝังไปในเนื้อลักษณะเดียวกันกับรุ่นก่อนๆ ตัดด้วยไฟสีแดงจากแป้นคีย์บอร์ด และช่องลำโพงสามเหลี่ยมถี่ๆ ตามสไตล์ HP OMEN ที่ช่วยเสริมความสวยงามได้ดี รวมถึงยังมีบานพับใหม่สีดำมันแบบลมควันที่แลดูแข็งแรงทนทานสวยงามเข้ากับเครื่องได้ดีมากๆ โดยเป็นแบบ 2 แกน ที่เชื่อได้ว่าไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องบานพับในระยะยาวของการใช้งานแต่อย่างใด
สรุปเรื่องการออกแบบดีไซน์ของ HP OMEN 15 – 2017 ต้องบอกว่างานดีจริงๆ เหมือนรุ่นปี 2016 เหมาะสำหรับคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คเพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะ และไม่ว่าจะเป็นงานเอกสารหรือเล่นอินเตอร์เน็ตเว็บไซต์ รวมไปถึงงานหนักๆ หรือเล่นเกมก็สามารถรองรับได้อย่างสบายๆ ที่สำคัญดีไซน์การออกแบบยังก้าวล้ำด้วยความบางเบากว่าคู่แข่งในสเปกและราคาที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งตรงนี้ก็ต้องยอมรับว่ามีไม่ได้ติดตั้งไดร์ฟออฟติคอล DVD มาให้ ที่จะว่าไปคนก็ไม่ค่อยได้ใช้กันแล้ว โดยตรงนี้ทำให้ตัวเครื่องมีความบางและเบากว่า Gaming Notebook ทั่วไปนั่นเอง โดยมีน้ำหนักที่ 2 กิโลกรัมเท่านั้น
อย่างไรก็ตามการที่หน้าตาของ HP OMEN 15 – 2017 ยังคงเหมือนรุ่นเดิมนั้นหลายคนอาจจะชอบหรือบางคนอาจจะคิดว่าไม่สดใหม่เท่าไหร่ ซึ่งโดยส่วนตัวนั้นถือว่าขึ้นอยู่กับแต่ละคนจริงๆ เพราะจะว่าไปดีไซน์แบบนี้ก็อยู่ในเกณฑ์ที่สมบูรณ์แล้ว ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนการออกแบบบ่อยๆ แต่อย่างใด
Keyboard / Touchpad
ส่วนของคีย์บอร์ดนั้นตัวปุ่มเป็นพลาสติกสีดำเข้ากับตัวเครื่อง โดยสกรีนตัวอักษรเป็นแดงพร้อมฟอนต์ที่ดูดุดัน อีกทั้งได้รับการปรับดีไซน์ใหม่แบบ Island Style ทำให้สามารถพิมพ์ได้ง่ายขึ้น แต่สำหรับคนที่นิ้วเล็กนิ้วใหญ่สามารถใช้งานได้สะดวกทั้งหมด แน่นอนว่ามาพร้อมกับปุ่มชุดตัวเลข Numpad ด้านขวา ในส่วนของไฟ LED Backlit สีแดงก็สามารถใช้งานได้ดีทีเดียว โดยมีระบบการปรับระดับความสว่างได้สองระดับ ส่วนปุ่มเปิดเครื่องจะไปอยู่ที่มุมซ้ายบนสีกลืนไปกับเครื่อง ซึ่งข้อดีก็คือมั่นใจได้ว่าจะไม่ไปเผลอกดระหว่างการใช้งานแน่นอน พร้อมมีไฟส่องสว่างให้เห็นสถานะ ซึ่งโดยรวมแล้วแม้ไม่ใช่คีย์บอร์ด Gaming จริงๆ แต่ก็พอที่จะใช้งานได้อย่างไม่ติดขัดอะไร
ทัชแพดมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับขนาดตัวเครื่อง ส่วนดีไซน์นั้นก็ใช้เป็นแบบไม่มีปุ่มแยกออกมาเช่นเดียวกับ HP Pavilion 15 หลายๆ รุ่น การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ตัวซอฟต์แวร์ควบคุมก็ช่วยจัดการได้ดี โดยมีการจับความเคลื่อนไหวว่าผู้ใช้กำลังพิมพ์ข้อความอยู่หรือไม่ ซึ่งจะช่วยให้เคอร์เซอร์ไม่เลื่อนไปจากตำแหน่งเก่า ถ้าผู้ใช้เผลอนำมือไปโดนทัชแพดเข้า
Screen / Speaker
ในส่วนของหน้าจอ HP OMEN 15 – 2017 เป็นแบบด้านที่ลดแสงสะท้อนขนาด 15.6″ บนความละเอียดในระดับ Full HD หรือ 1920 x 1080 พิกเซล ที่สำคัญพาเนลยังเป็น IPS คุณภาพสูง ให้การแสดงผลที่สมจริงแบบสุดๆ มุมมองกว้างที่ 178 องศา ทำให้สีสันแทบไม่เพี้ยนเลย เมื่อลองใช้งานจริงแล้วให้ประสบการณ์ใช้งานระดับที่น่าพึงพอใจ ทั้งการเล่นเกม ดูหนัง ฟังเอ็มวีผ่าน Youtube ก็สามารถมอบประสบการณ์ความบันเทิงให้อย่างดี จากความเรียบเนียนของพิกเซลและพื้นที่ในการใช้งานที่เหนือกว่า 1366 x 768 พิกเซลเดิมๆ หรือพวกที่เป็นพาเนล TN ทั่วไปมาก เรียกได้ว่า HP OMEN 15 – 2017 จัดเต็มเรื่องหน้าจอมาให้มากกว่า Gaming Notebook ราคาใกล้เคียงกันทีเดียว
จุดเด่นก็ยังหนีไม่พ้นระบบและการออกแบบลำโพงที่เป็นจุดเด่นของรุ่นอย่างแท้จริง เนื่องจากด้านบนเป็นลำโพงขนาดใหญ่เป็นแผงยาวตลอดคีย์บอร์ดจำนวน 2 ตัว โดยใช้ระบบเสียงด้วย Bang & Olufsen ซึ่งได้ให้การแบ่งทิศทางเสียงด้านซ้ายขวา อีกทั้งมีเทคโนโลยี HP Audio Boost ทำให้ได้พลังของเสียงที่มีคุณภาพ และความหนักแน่น สร้างประสบการณ์ที่ดูดีกว่าเสียงจากโน๊ตบุ๊คทั่วไปเลยทีเดียว
Connector / Thin And Weight
พอร์ตการเชื่อมต่อตัวเครื่อง HP OMEN 15 – 2017 นี้จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่มีความครบครับอย่างมาก แม้ว่าจะเป็นเครื่องที่มีการออกแบบมาให้เป็นเครื่องที่มีขนาดความบางและน้ำหนักเบาแต่เรื่องพอร์ตการเชื่อมต่อต่างๆ นั้น ก็มีมาให้มากพอทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น USB 3.0 จำนวน 2 พอร์ต, USB 2.0 อีก 1 พอร์ต และ HDMI พร้อมช่องต่อหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร แน่นอนว่ามี SD Card Reader เป็นมาตรฐาน พร้อมพอร์ต LAN ตัวเต็ม แต่ก็น่าเสียดายที่ไม่มีพอร์ตอนาคตอย่าง USB 3.1 Type-C มาให้ใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ใหม่ๆ แม้จะเข้าใจว่าเป็นการใช้ดีไซน์ตัวเครื่องแบบเดิมอยู่
ขนาดของตัวเครื่องและสายชาร์จ เมื่อเทียบกับขนาดของโน๊ตบุ๊ค 15.6″ ทั่วไปถือได้ว่ามีมิติที่เล็กกว่าพอสมควร ส่วนน้ำหนักตัวเครื่องเปล่านั้น อยู่ที่ 2 กิโลกรัม และเมื่อรวมกับตัวอแด็ปเตอร์เข้าไปด้วย ก็จะมีหนักไ 2 กิโลกรัมหน่อยๆ เท่านั้น ก็จัดว่ามีน้ำหนักที่มีความไม่หนักจนเกินไปนัก แน่นอนว่าตอบสนองในเรื่องของการพกพาไปนอกสถานที่ได้อย่างเต็มรูปแบบ ถือว่าเป็น Gaming Notebook ตัวแรงที่น้ำหนักเบารุ่นหนึ่งเลย
Performance / Software
โดยมาพร้อมกับชิปประมวลผลจาก Intel Core i7-7700HQ (รุ่นยอดนิยมประจำปี 2017) ซึ่งเป็นชิปประมวลผลที่เน้นการใช้งานหนักๆ ไม่จะเป็นการโปรเซสหรือเล่นเกม มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.80 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 3.80 GHz เป็นซีพียูแบบ 4 Core 8 Threads รุ่นใหม่ล่าสุดที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปมากๆ หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลจริงจังก็รองรับได้อย่างสบายๆ เรียกได้ว่าแรงกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่าง Intel Core i7-6700HQ มาพร้อมแรมภายในขนาด 8GB DDR4 บัส 2400 MHz
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel HD Graphics 630 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน ที่โดยรวมแล้วให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีกว่า Intel HD Graphics 530 รุ่นก่อนหน้าแน่นอน เพราะอย่างน้อยๆ ก็รองรับการทำงานกับหน้าจอความละเอียดสูงได้แบบไม่มีปัญหา
อีกทั้งยังมีกราฟิกการ์ดจอแยกรุ่นใหม่ล่าสุดตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1050 ที่ต้องบอกว่าแรงเทียบเท่าระดับพีซี และแรงกว่า GTX 1050 แบบรู้สึกได้ หรือถ้าเทียบกับรุ่นก่อนก็บอกได้เลยว่าแรงกว่า GTX 960M อย่างสบายๆ เรียกได้ยิ่งตอบสนองในส่วนของการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ 3 มิติ หรือเกมที่กินทรัพยากรได้เป็นอย่างดีทีเดียว
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูงสุดๆ ที่น่าประทับใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบน ที่เน้นการทำงานเป็นหลัก
ทดสอบการทำงานฮาร์ดดิสก์ความจุอยู่ที่ 1TB แบบความเร็ว 7200 รอบที่ติดตั้งมาให้ ด้วยโปรแกรม HD Tune แล้วพบว่าอัตราการถ่ายโอนข้อมูลน้อยสุดที่ 58MB/s และสูงสุดที่ 148MB/s ทำให้ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 116MB/s ด้วยกัน มีอัตราการเข้าถึงข้อมูลที่ 15.4 ms ซึ่งนับได้ว่าผลทดสอบที่ออกมานั้นมีความน่าประทับใจทีเดียว เรียกได้ว่าทำได้ดีกว่าฮาร์ดดิสก์ปกติที่ 5400 รอบแบบรู้สึกได้เวลาเข้าเกมโหลดเกม
ซึ่งในส่วนนี้เราจะทดสอบ HP OMEN 15 – 2017 ในเรื่องของประสิทธิภาพการเล่นเกมทั้ง 5 เกม โดยรุ่นที่ทีมงาน NotebookSPEC ได้รับมาทดสอบจากทาง HP ประเทศไทย เป็นรุ่นล่างสุด 33,900 บาท แต่ทางทีมงานได้ทำการอัพเกรดในส่วนของแรมเป็น 8GB และ SSD 128GB ไปเรียบร้อยแล้ว เอาว่าไปชมกันเลยดีกว่า
คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของเฟรมเรทจากทั้ง 5 เกมที่ได้ทดสอบมีค่ามากกว่า 30FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-7700HQ ที่สามารถรีดพลัง NVIDIA GeForce GTX 1050 ออกมาได้อย่างเต็มที่ ประกอบกับยังใช้แรม 8GB DDR4 และ SSD ความเร็วสูง รวมไปถึงฮาร์ดดิสก์ 7200 รอบ (ใช้ติดตั้งเกม)
ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง Battlefield 1 /GTA V และ Rise of the Tomb Raider ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล ตาม Native ของหน้าจอ โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด ภาพก็สวยจนน่าประทับใจแบบที่สุด ซึ่งดูจากเฟรมเรทเฉลี่ยแล้วแทบไม่ต่ำไปกว่า 30FPS เรียกได้ว่าเหลือๆ กับการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้สมบูรณ์ที่สุด แม้ว่าต้องยอมว่ามีข้อสังเกตุว่ามีภาพฉีกอยู่บ้างกับเกมบางฉากที่เคลื่อนไหวเร็วๆ จากการที่หน้าจอไม่ได้เป็น G-Sync เวลาที่เราปรับให้ปล่อยเฟรมเรทสูงๆ แต่ในส่วนของพาเนล IPS ก็ทำหน้าที่เรื่องสีสันได้ดีเช่นเดิม
อีก 2 เกมออนไลน์ที่โดยส่วนตัวเล่นเป็นประจำอย่าง Overwatch, DOTA 2 ก็จัดการทดสอบให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่น ระดับเฟรมเรทที่สูงสุด แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็สบายๆ ค่าเฟรมเรทเฉลี่ยแทบไม่ต่ำ 60 เฟรมเช่นกัน สรุปโดยรวมแล้วคือเล่นได้สบายๆ ทำได้อย่างน่าประทับใจ ทั้งจากความลื่นไหลและหน้าจอที่สวยงามสมจริง
*ไว้มีโอกาสรีวิวในส่วนของรุ่นที่เป็น GTX 1050Ti จะนำมาทดสอบให้ได้ชมกันเต็มๆ อีกครั้งหนึ่งครับ
อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจของ HP OMEN 15 – 2017 ก็คือมาพร้อมซอฟต์แวร์บันเดิลอย่าง HP Support Assistant โดยเป็นโปรแกรมซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้เราดูแลคอมพิวเตอร์ได้อย่างเหมาะสม ป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น และช่วยแก้ปัญหาได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว โปรแกรมนี้ยังระบุข้อมูลที่สำคัญสำหรับแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งนั่นหมายรวมไปถึงการอัพเดทไดร์เวอร์ต่างๆ และ Windows ด้วย จัดได้ว่าดีและใช้งานได้จริง
Battery / Heat / Noise
HP OMEN 15 – 2017 นั้นมาพร้อมกับแบตเตอรี่ประมาณ 4,000 mAh ซึ่งจะว่าไปแล้วนั้นก็ค่อนข้างที่จะน้อยไปหน่อย แต่เมื่อมาดูประสิทธิภาพโดยรวมของอายุการใช้งานของแบตเตอรี่แล้วถือว่าโอเคเลย โดยสามารถใช้งาน Wi-Fi เพื่อท่องเว็บได้ยาวนานประมาณ 5 – 6 ชั่วโมง ซึ่งหากดูตามตารางแล้วนั้นจะเห็นได้ครับว่า HP OMEN 15 – 2017 สามารถที่จะทำเวลาได้ดีกว่าโน๊ตบุ๊คที่ใช้ Core i7 รุ่นเดียวกันในหลายๆ รุ่นด้วยกัน
ส่วนของอุณหภูมิถือว่าสามารถที่จะทำได้ดีตอนที่ใช้งานเครื่องแบบไปบีบขั้นทรัพยากรมากนัก และถึงจะเป็นการเล่นเกมที่เน้น GPU และ CPU เข้ามาด้วยเป็นเวลานานๆ นั้นก็พบว่าระดับของอุณหภูมิในจุดต่างๆ ของตัวเครื่องจะเพิ่มขึ้นมาน้อยมาก จุดที่มีอุณหภูมืที่หนักที่สุดจะอยู่ที่ ตรงกลางขอบเครื่องแต่ก็ใช้เวลาถ่ายความร้อนออกไปได้ไม่นานมากเท่าไรนักอันนี้คงต้องยอมรับหล่ะครับว่าระบบระบายความร้อนของเขาดีจริงๆ และสำหรับนักเล่นเกมที่ใช้คีย์บอร์ดเล่นเป็นประจำนั้น บริเวณของปุ่ม WASD ก็มีความร้อนสะสมน้อยเช่นกัน
ส่วนของอุณหภูมิการระบายความร้อน HP OMEN 15 – 2017 ถือว่าสามารถที่จะทำได้ดีขณะที่เราเล่นเกมทดสอบเป็นเวลานาน ซึ่งเป็นการเล่นเกมที่เน้น GPU และ CPU พบว่าระดับของอุณหภูมิในจุดต่างๆ ของตัวเครื่องจะเพิ่มขึ้นมาน้อยมาก จุดที่มีอุณหภูมืที่หนักที่สุดจะอยู่ที่ ตรงกลางขอบเครื่องด้านหลัง แต่ก็ใช้เวลาถ่ายความร้อนออกไปได้ไม่นานมากเท่าไรนักเมื่อเราใช้งานทั่วไป อันนี้คงต้องยอมรับว่าระบบระบายความร้อนทำได้น่าประทับใจอยู่ จากการที่มีพัดลมสองตัว พร้อมฮีตไปป์สองเส้นเป่าออกด้านหลัง และเทคโนโลยี HP Cool Sense ช่วยจัดการ
อุณหภูมิต่ำสุดของเครื่องจะอยู่ที่ 36 องศาเซลเซียส แต่พอรีดประสิทธิภาพเต็มที่จะเห็นว่าเครื่องจะร้อนที่สุดเพียง 80 – 88 องศาเซลเซียสเท่านั้น ด้วยการทดสอบให้ห้องแอร์ปรับอากาศที่ 26 องศาเซลเซียส จากการเล่นเกมยาวๆ หลายเกมต่อเนื่อง อีกทั้งยังทดลองใช้งานด้านนอกตัวอาคารที่มีอุณหภูมิสูงกว่า 30 องศาเซลเซียส ก็จะเห็นว่ามีอุณหภูมิสูงสุดจะอยู่ที่ระดับ 90 – 95 องศาเซลเซียเลยล่ะ ยังไงกรณีก็ไม่แนะนำให้ใช้เป็นเวลานานๆ หรือจำเป็นจริงๆ ก็ควรมี Cooling Pad คอยช่วยซะหน่อย เอาว่าระบบระบายความร้อนของ HP OMEN 15 – 2017 เครื่องนี้ทำออกมาได้ดีตามมาตรฐานของ Gaming Notebook ปี 2017 ทีเดียว ฉะนั้นหายห่วงเรื่องนี้ได้เลย
ทั้งนี้ในการใช้งานทั่วไปตามปกตินั้น (เช่นท่องเว็บ, พิมพ์งาน ฯลฯ) เราจะแทบไม่ได้ยินเสียงของระบบระบายความร้อนเลยแม้แต่น้อย งานนี้ทาง HP ทำการบ้านมาดีมาก ทำงานได้ค่อนข้างเบาและเงียบทีเดียว อย่างไรก็ตามเมื่อไรก็ตามที่เราต้องใช้การทำงานทั้งจาก CPU และ GPU (เช่นการเล่นเกม) เรื่องของเสียงนั้นจะเปลี่ยนไปเพราะพัดลมนั้นค่อนข้างที่จะดัง (แต่อยู่ในเกณฑ์รับได้) ทว่ามันก็จะเกิดขึ้นเพียงแค่เฉพาะตอนใช้งานหนักๆ เท่านั้น ถ้าเลิกใช้งานเมื่อไรแป๊บเดียวก็หายไปเแล้ว ซึ่งเหมือนเร่งเครื่องพัดลมให้ทำเครื่องได้ระบายความร้อนอย่างเต็มที่เท่านั้น
Conclusion / Award
สรุปจาการที่สัมผัสและใช้งานจริงๆ ของ HP OMEN 15 – 2017 ทั้งการทำงานต่างๆ บันเทิงดูหนังฟังเพลง รวมไปถึงการเล่นเกม NotebookSPEC บอกได้อย่างเต็มปากเลยว่า HP ทำออกมาได้ดีเหนือความคาดหมายมากๆ เพราะใครจะเชื่อล่ะว่าจ่ายเงินที่ 33,990 บาทแต่จะได้ Gamimg Notebook ที่มีสเปคประสิทธิภาพสูง ที่สำคัญคือได้หน้าจอพาเนล IPS และมี Windows 10 มาให้พร้อมใช้งานด้วย
เน้นเลยก็คือสเปกเป็นชิปประมวลผล Core i7-7700HQ พร้อมด้วยการ์ดจอ GeForce GTX 1050 GDDR5 4GB และแรม DDR4 อีกทั้งยังรองรับการอัพเกรด SSD แบบ M.2 นอกจากนี้ยังมีชุดระบายความร้อนที่ดี และหน้าจอแสดงผล 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD IPS ที่ให้ภาพคมชัดสวยงามสมจริง ครบครันกับการใช้งาน เรียกได้ว่ายังได้ดีเหมือนกับรุ่นพี่อย่าง HP OMEN 15 – 2016 แต่ได้เพิ่มเติมเรื่องของประสิทธิภาพความแรงเข้ามา
ในเรื่องของการออกแบบที่ HP OMEN 15 – 2017 ทำได้ดีไม่แพ้กัน ถึงแม้จะใช้รูปร่างหน้าตาแบบเดิมๆ แต่ด้วยความเบาเพียง 2 กิโลกรัม และดีไซน์สไตล์ OMEN ที่เป็น Gaming Notebook ที่ดูดุดันจริงจังเกินราคา บวกกับฟีเจอร์อย่างคีย์บอร์ดมีไฟ ระบบเสียง Bang & Olufsen คุณภาพดี และการรับประกันอย่าง HP Onsite Service รับเครื่องซ่อมถึงหน้าบ้านเป็นระยะเวลา 2 ปี + Smart Friend 1 ปี กู้ข้อมูลฟรี 1 ครั้ง , เช็คเครื่องฟรี 2 ครั้ง และ Call Center Support ตลอด 24 ชั่วโมง และอื่นๆ ยิ่งชี้ตอกย้ำความคุ้มค่าของ HP OMEN 15-2017 เป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม HP OMEN 15 – 2017 ก็ยังพอมีข้อสังเกตอยู่บ้างเช่นปุ่มทิศทางลูกศรที่เล็กเกินไป ทำให้บางคนกดไม่สะดวก รวมถึงไม่มี USB Type-C 3.1 ติดตั้งมาให้ ซึ่งก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้อยู่เมื่อเทียบกับข้อดีต่างๆ เอาว่าเพื่อนๆ ท่านใดที่สนใจก็สามารถสอบถามไปยังตัวแทนจำหน่าย HP ชั้นนำกันได้เลย รวมไปถึงถ้ารุ่นเริ่มต้นในราคา 33,900 บาทยังแรงไม่พอ ก็สามารถดูเป็นรุ่นกลางที่มาพร้อมกับแรม 4GB และ SSD M.2 ความจุ 128GB มาให้ก็ได้ ในราคาเพียง 36,900 บาท ส่วนถ้าจะไปให้สุดก็ลองดูเป็นรุ่นท็อปไปเลยก็ได้ 43,900 บาท ได้ทั้งแรม 8GB SSD 128GB และการ์ดจอเป็น GTX 1050Ti
ส่วนปัญหาที่เคยเกิดขึ้นอย่างเล่นเกมไปซักพักแล้วกระตุกหรือหน่วงก็ได้รับการแก้ไขหาย 100% ใน HP OMEN 15 – 2017 ฉะนั้นสบายใจหายห่วง ถือได้ว่าใครอยากได้ Gaming Notebook ที่ได้หน้าจอพาเนล IPS และ Windows 10 ในราคาประมาณนี้ HP OMEN 15 – 2017 น่าจะตอบโจทย์ที่สุดแล้วล่ะครับ
ข้อดี
- ดีไซน์สวย วัสดุใช้ได้ สวยงามตามาสไตล์ OMEN
- ตัวเครื่องบางเบากว่า Gaming Notebook ทั่วไป
- สเปคสูงด้วย Core i7-7700HQ + GTX 1050 (หรือ GTX 1050Ti)
- หน้าจอความละเอียด Full HD พาเนล IPS คุณภาพสูง
- ระบบเสียงดีทีเดียวอย่าง Bang & Olufsen
- รองรับการอัพเกรดทั้ง SSD M.2 และ DDR4
- ติดตั้ง Windows 10 แท้ มาพร้อมใช้งานทันที
- HP On – site Service รับเครื่องซ่อมถึงหน้าบ้านเป็นระยะเวลา 2 ปี + Smart Friend 1 ปี
- ระบบระบายความร้อนทำได้ดีน่าพอใจ
ข้อสังเกต
- ปุ่มลูกศรเล็กเกินไป ใช้งานได้ลำบาก
- ตัวเริ่มต้นควรอัพเกรดแรมเป็นขนาด 8GB
- ไม่มีพอร์ต USB 3.1 Type-C มาให้
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับโน๊ตบุ๊คในกลุ่ม Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้ว ซึ่ง HP OMEN 15 – 2017 ก็ได้รับรางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Multimedia
ระบบเสียง Bang & Olufsen บนหน้าจอแสดงผลขนาด 15.6 นิ้วความละเอียดแบบ Full HD IPS แถมมาพร้อมด้วยสเปคของระบบที่สดใหม่และเร็วแรง สามารถตอบสนองความบันเทิงได้ในทุกๆ รูปแบบไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมก็ทำได้เป็นอย่างจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ HP OMEN 15 – 2017 จะได้รางวัลนี้ไป
Best Value
เกมมิ่งโน๊ตบุ๊คราคา 33,990 บาท เรียกได้ว่าไม่มีโน๊ตบุ๊คตัวไหนที่ได้สเปคสูงขนาดนี้ทั้งจอ Full HD IPS ขนาด 15.6 นิ้ว, Core i7-7700HQ และการ์ดจอระดับ GTX 1050 พร้อมประกัน On-site 2 ปีอย่างแน่นอน ดังนั้นถ้าเพื่อนๆมีงบประมาณจำกัด แต่มองหาโน๊ตบุ๊คคุ้มๆ เล่นเกมลื่นๆ อยู่แล้วละก็ HP OMEN 15 – 2017 เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก
Best Performance
HP OMEN 15 – 2017 มีสเปคที่ครบครัน ทั้งชิบประมวลผล Core i7-7700HQ และการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1050 (4GB GDDR5) หรือ NVIDIA GeForce GTX 1050Ti (4GB GDDR5) พร้อมแรมเริ่มต้นขนาด 4GB มาตรฐานใหม่แบบ DDR4 และ SSD แบบ M.2 ให้การเข้าถึงข้อมูลได้รวดเร็ว ความเร็วสูงรองรับการทำงานต่างๆ พร้อมๆ กันได้หลายๆ งาน รวมถึงเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล