[Review] Acer Aspire VX5 – Gaming Notebook สเปก i7-7700HQ + GTX 1050 ที่คุ้มค่าที่สุด !!!

*อัพเดทราคาใหม่
หนึ่งใน Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 15.6″ ที่น่าสนใจที่สุดในช่วงต้นปี 2017 อย่าง Acer Aspire VX5 เพราะเป็นโน๊ตบุ๊คเพื่อการเล่นเกมที่มาพร้อมสเปกในฝันอย่างชิปประมวลผลรุ่นล่าสุด Intel Core i7-7700HQ และการ์ดจอระดับกลางตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1050/1050Ti โดยมีราคาเริ่มต้นเพียง 31,990 บาทเท่านั้น จนไปถึง 37,990 บาท ซึ่งต้องบอกว่าเป็น Gaming Notebook ที่มีสเปกคุ้มค่าต่อราคามากๆ

โดยทั้ง 3 รุ่นมาพร้อมกับประกัน 3 ปีแบบ On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน เรียกได้ว่าทาง Acer นั้นจัดเต็มจริงๆ ซึ่งล่าสุดทางทีมงาน NotebookSPEC ก็ได้จัดมาเพื่อทำการรีวิวเรียบร้อยแล้ว โดยเป็นในส่วนของรุ่นกลางราคา 34,990 บาท ที่ต้องบอกว่าด้วยราคาต่อสเปกขนาดนี้ เล่นเอา Gaming Notebook ค่ายอื่นๆ ต้องทำการบ้านกันเหมือนกัน ว่าแล้ว Acer Aspire VX5 จะดีแค่ไหน ประสิทธิภาพเป็นเช่นไร ไปติดตามรีวิวเต็มๆ กันได้เลย

VDO Review

Specification

Acer Aspire VX5 จะมีจำหน่ายด้วยกัน 3 รุ่นย่อย ซึ่งตัวที่ NotebookSPEC ได้มาทดสอบ เป็นตัวรุ่นกลาง กับราคา 32,900 บาท ใช้ชิปประมวลผลเป็น Intel Core i7-7700HQ (2.80 – 3.80 GHz) ทำงานแบบ 4 คอร์ 8 เธร์ด ประสิทธิภาพไว้ใจได้ พร้อมกราฟฟิการ์ดตัวแรงระดับ Desktop อย่าง NVIDIA GeForce GTX 1050 (4GB GDDR5) มีที่เก็บข้อมูลฮาร์ดดิสก์ความจุ 1TB 5400 รอบ พร้อมติดตั้ง SSD แบบ  M.2 ความจุ 128GB ไว้ด้วย ในส่วนของแรมเองมีมาให้ 8GB แบบ DDR4 อัพเกรดได้สูงสุด 32GB

นอกจากนี้ Acer Aspire VX5 มาพร้อมจอแสดงผลแบบด้าน 15.6 นิ้ว ที่ความละเอียด Full HD พาเนลเป็น TN คุณภาพดีให้สีสันและมุมมองดีกว่า TN ทั่วไปแบบเห็นได้ชัด แต่ยังไงเสียก็คงไม่สวยงามเท่ากับพาเนล IPS ซักทีเดียว ในส่วนของระบบเสียงเป็นลำโพงแบบสเตอริโอให้เสียงที่ดีในระดับที่น่าพอใจ ประกอบกับมีซอฟต์แวร์จัดการเสียงอย่าง DOLBY AUDIO ทำให้มีคุณภาพที่ดียิ่งขั้นไปอีก

พร้อมด้วยกล้องเว็บแคม HD และมีไมค์ดิจิตอลในตัว ส่วนการเชื่อมต่อก็มีมาอย่างครบถ้วน ทั้ง HDMI, 2 x USB 3.0, 1 x USB 3.1 Type-C,  1 x USB 2.0, Kensington Lock, 2-in-1 SD, RJ-45 , Headset 3.5mm พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 4.0 และ Wi-Fi Intel Dual Band มาตรฐาน 802.11a/b/g/n/ac

สนนราคา Acer Aspire VX5 เริ่มต้นะอยู่ที่ 31,900 บาท ซึ่งจะเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-7700HQ และการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1050 ซึ่งจะมาพร้อมแรม 4GB DDR4 และจะไม่มี SSD M.2 มาให้ แต่เราก็สามารถอัพเกรดเพิ่มเองได้ ส่วนรุ่นกลางที่เรารีวิวอยู่นี้จะมี RAM มาให้เป็น 8GB (1 แถว) และ SSD M.2 ความจุ 128GB สุดท้ายกับรุ่นบนสุดท๊อปสุดก็จะเหมือนรุ่นกลาง แต่จะได้การ์ดจอเป็น GTX 1050Ti นั่นเอง โดยทั้งสามรุ่นมาพร้อมกับการรับประกัน 3 ปีแบบ On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน

• Core i7-7700HQ/GTX 1050/RAM 4GB DDR4/HDD 1TB ราคา 31,990 บาท
• Core i7-7700HQ/GTX 1050/RAM 8GB DDR4/HDD 1TB + SSD 128GB ราคา 34,990 บาท
• Core i7-7700HQ/GTX 1050 Ti/RAM 8GB DDR4/ HDD 1TB + SSD 128GB ราคา 37,990 บาท

Hardware / Design

ดีไซน์ของตัวเครื่องนั้นค่อนข้างที่จะเหมือนกับดีไซน์สมัยใหม่ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นยานอวกาศ ซึ่งจะว่าไปแล้วนั้นก็น่าจะได้รับแรงบันดาลใจมาจากรุ่นใหญ่อย่างตระกูล Predator และ Acer Aspire V Nitro อยู่พอสมควร แม้ว่าจะเป็น Gaming Notebook รุ่นที่ล่างกว่า Acer Aspire VX5 วัสดุหลักทั้งตัวเครื่องไม่ว่าจะด้านนอกด้านในใช้งานเป็นพลาสติก ABS เกรดดี ที่ต้องบอกว่างานดีจริงๆ โดยสีสันจะเป็นโทนดำตัดกับสีแดงตามสไตล์ Gaming ที่ดูดุดัน โดยฝาบนจะเป็นลวาลายคล้ายโลหะ พร้อมกับมีขีดแดงๆ สองเส้น ซึ่งเมื่อได้สัมผัสตัวจริงต้องบอกว่างานประกอบนั้น Acer Aspire VX5 ทำได้เป็นอย่างดี น่าประทับใจสุดๆ เพราะถึงว่าจะมีราคาที่ไม่แพง แต่ทาง Acer ก็ยังใส่ใจไม่น้อยไปกว่ารุ่นบนๆ เลย

สำหรับเรื่องขนาดของ Acer Aspire VX5  เรียกได้ว่าทำออกมาได้ดีในระดับหนึ่งคือไม่ใหญ่เกินไปเหมือน Predator 15 แล้วก็ไม่ได้เล็กมากจนเกินไปเหมือน Gaming Notebook บางรุ่นที่เน้นความบางเบา (จนบางครั้งก็บางเกิน ทำให้ระบายความร้อนได้ไม่ดีนัก) อย่างไรก็ตามเรื่องขนาดนั้นสรุปได้ว่า Acer Aspire VX5 อยู่ตรงโซนกลางๆ ของโน๊ตบุ๊คสำหรับการเล่นเกมที่มาพร้อมกับหน้าจอ 15.6 นิ้ว ดังนั้นแล้วเรื่อยพกพาไม่ต้องพูดถึง เพราะว่ามันเบากว่าโน๊ตบุ๊คสำหรับการเล่นเกมที่มีหน้าจอ 15.6 นิ้วของเมื่อ 2 – 3 ปีที่แล้วพอตัว อีกทั้งการที่ตัวเครื่องไม่บางเกินไปนั้นก็ทำให้ระบายความร้อนได้เป็นอย่างดีอีกด้วย แม้ว่าฝาจออาจจะดูหนาไปหน่อย แต่ก็ไม่มีผลกับการใช้งานแต่อย่างใด

Acer Aspire VX5 นั้นสามารถที่จะแกะด้านล่างของตัวเครื่องออกมาได้มากๆ แล้วแกะออกมาทีเดียวก็จะเห็นแผงวงจรของตัวเครื่องทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นพัดลมระบายความร้อน, หน่วยความจำหรือกระทั่งแหล่งเก็บข้อมูล อย่างไรก็ตามด้วยการที่มันแกะง่ายนี่เองที่ทำให้การซ่อมบำรุงรักษานั้นสามารถทำได้อย่างไม่ยากเย็นมากนัก ที่เจ๋งไปกว่านั้นก็คือผู้ใช้ยังสามารถที่จะใช้อุปกรณ์ไขควงทั่วไป (ขนาดเล็ก) ในการเปิดฝาตัวเครื่องออกมาเพื่อทำการอัพเกรดฮาร์ดแวร์ได้ด้วยตัวเองอีกต่างหาก เรียกได้ว่าเราสามารถจะเปิดฝาตัวเครื่องออกมาเป่าทำความสะอาดพัดลมระบายความร้อยได้บ่อยๆ  เลย อย่างนี้ระบบระบายความร้อนของตัวเครื่องก็จะยังคงบสภาพเหมือนใหม่ไปได้อีกนาน โดยไม่ต้องพึงพาช่างแต่อย่างใด

Keyboard / Touchpad

ตัวเครื่องที่มาพร้อมกับหน้าจอใหญ่ถึง 15.6 นิ้วนั้นทำให้ทาง Acer สามารถที่จะติดตั้งคีย์บอร์ดแบบ Full Size มาให้ผู้ใช้งานได้ใช้กันได้อย่างสบายๆ โดยจุดเด่นนั้นก็คงหนีไม่พ้นเรื่องการมี ปุ่มแป้นคีย์ตัวเลข (Numpad) มาให้ด้วย รวมไปถึงแป้นปุ่มตรงตัวอักษร WASD ยังเป็นสีแดงเด่นออกมา ซึ่งมาพร้อมกับไฟส่องสว่างสีแดง ที่แม้ว่าจะไม่สามารถเปลี่ยนสีใดๆ ก็สวยงามใช้ได้อยู่ (เปิดปิดได้เท่านั้น ปรับระดับแสงไม่ได้) อย่างไรก็ตามทาง Acer ก็ไม่ได้ใส่ฟีเจอร์อะไรสำหรับให้เหมาะสมกับการเป็นเครื่องโน๊ตบุ๊คสำหรับการเล่นเกมอะไรมาก็จริง แต่ในการใช้งานจริงก็ถือว่าตอบสนองได้ดีอยู่ ระดับที่น่าประทับใจทีเดียว

สำหรับทัชแพดนั้นจะมีขนาดอยู่ที่ 10.5 x 7.8 เซนติเมตร ซึ่งถือว่าค่อนข้างใหญ่เป็นแบบชิ้นเดียวให้ความลื่นไหนในการใช้งานเป็นอย่างดี โดยตัวทัชแพดจะวางตัวไปทางด้านซ้ายของเครื่องเล็กน้อย ตัวทัชแพดไม่มีปุ่มกดเหมือนกับโน๊ตบุ๊คสมัยใหม่ที่จะไม่ค่อยมี โดยเป็นดีไซน์แบบซ่อนปุ่มตามสมัยนิยมซึ่งนั่นก็ไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด

Screen / Speaker

Acer Aspire VX5 มีหน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD (1920×1080 พิกเซล) แบบ Wide View มีมุมมองด้านซ้าย ด้านขวา และด้านล่าง ที่กว้างเกือบเทียบเท่าเกือบเทียบเท่าพาเนล IPS  แต่ในส่วนมุมมองด้านบนอาจจะทำออกมาในมุมที่ไม่กว้างนัก แต่การใช้งานโดยรวมยังถือว่าทำออกมาได้ดีกว่าจอแบบ TN ธรรมดา พื้นผิวจอแบบด้าน Anti-Glare รวมๆ ทั้งสีสันความคมชัดแล้วจัดว่าใช้ได้เลย เหมาะกับการใช้งานทั่วๆ ไปหรือการเล่นเกมก็ทำได้อย่างน่าประทับใจ ยังไงก็ตามถ้าได้เป็นพาเนล IPS ก็คงดีขึ้นไปอีกขั้น แต่ตรงนี้ส่วนตัวถือว่าตามราคาพอใจแล้วล่ะ

สำหรับลำโพงของ Acer Aspire VX5 นั้นจะมีด้วยกัน 2 ตัวโดยจะอยู่ทางด้านล่างมุมซ้ายและขวาของเครื่องอย่างละตัว ลำโพงนั้นจะมีการวางตำแหน่งในลักษณะเฉียงลงไปยังพื้นเพื่อที่จะให้เสียงได้สัมผัสกับพื้นแล้วสะท้อนขึ้นมาให้ผู้ใช้ได้ยินซึ่งถือว่าเป็นการออกแบบที่ดีมากอย่างหนึ่งบน Acer Aspire VX5 คุณภาพเสียงการใช้งานต่างๆ เมื่อใช้งานร่วมกับฟีเจอร์ DOLBY AUDIO ยังสามารถทำออกมาได้ดีน่าประทับใจ  แต่เหมาะกับการฟังเพียงคนเดียวมากกว่าเพราะมุมกระจายเสียงค่อนข้างแคบ หากเปิดฟังเพลงภายในห้องจะให้รายละเอียดเสียงที่ไม่ดีนัก

Connector / Thin And Weight

Acer Aspire VX5 จัดว่าเป็น Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้ว ที่มีพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น 2x USB 3.0, 1x USB 3.1 Type-C, 1x USB 2.0  1x HDMI 1.4, SD(XC/HC) Card reader, RJ45 (Killer E2400 Gigabit Ethernet with Killer Shield) และ Mic-in/Headphone-out เรียกได้ว่าพอเพียงกับการใช้งานทั่วไปอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามสำหรับ USB 2.0 อีกหนึ่งพอร์ตนั้น ถ้าเป็น USB 3.0 ไปเลยจะดีมากๆ

Acer Aspire VX5 ยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 4 และอินเตอร์เน็ตไร้สายมาตรฐาน 802.11b/g/n/ac Dual Band MIMO ซึ่งจะช่วยให้การเชื่อมต่ออินเตอรร์เน็ตมีความสเถียร จนส่งผลให้การเล่นเกมออนไลน์สามารถได้ลื่นๆ อีกด้วย โดยเสาอากาศนั้นยังได้ถูกติดตั้งไว้บริเวณขอบหน้าจอ ส่วนของการพกพา Acer Aspire VX5 ทำได้น่าพอใจไม่แพ้ Gaming Notebook รุ่นอื่นๆ (แม้ว่าตรงส่วนจอจะดูหนาไปซักหน่อย) ด้วยน้ำหนัก 2.6 กิโลกรัม เมื่อรวมกับอแดปเตอร์ก็จะมีน้ำหนักรวมอยู่ที่ประมาณ 3 กิโลกรัมเท่านั้นเอง

Performance / Software

โดยมาพร้อมกับชิปประมวลผลจาก Intel Core i7-7700HQ (รุ่นยอดนิยมประจำปี 2017) ซึ่งเป็นชิปประมวลผลที่เน้นการใช้งานหนักๆ ไม่จะเป็นการโปรเซสหรือเล่นเกม มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.80 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 3.80 GHz เป็นซีพียูแบบ 4 Core 8 Threads รุ่นใหม่ล่าสุดที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปมากๆ หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลจริงจังก็รองรับได้อย่างสบายๆ เรียกได้ว่าแรงกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่าง Intel Core i7-6700HQ มาพร้อมแรมภายในขนาด 8GB DDR4 บัส 2400 MHz

กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel HD Graphics 630 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน ที่โดยรวมแล้วให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีกว่า Intel HD Graphics 530 รุ่นก่อนหน้าแน่นอน เพราะอย่างน้อยๆ ก็รองรับการทำงานกับหน้าจอความละเอียดสูงได้แบบไม่มีปัญหา

อีกทั้งยังมีกราฟิกการ์ดจอแยกรุ่นใหม่ล่าสุดตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1050 ที่ต้องบอกว่าแรงเทียบเท่าระดับพีซี และแรงกว่า GTX 1050 แบบรู้สึกได้ หรือถ้าเทียบกับรุ่นก่อนก็บอกได้เลยว่าแรงกว่า GTX 960M อย่างสบายๆ เรียกได้ยิ่งตอบสนองในส่วนของการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ 3 มิติ หรือเกมที่กินทรัพยากรได้เป็นอย่างดีทีเดียว

สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูงสุดๆ ที่น่าประทับใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบน ที่เน้นการทำงานเป็นหลัก

ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 128GB แบบ M.2  (สล็อตรองรับการอัพเกรดเป็น SSD M.2 NVMe ได้) ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 515MB/s และเขียนที่ 464MB/s

ทดสอบการทำงานฮาร์ดดิสก์ความจุอยู่ที่ 1TB แบบความเร็ว 5400 รอบที่ติดตั้งมาให้ ด้วยโปรแกรม HD Tune แล้วพบว่าอัตราการถ่ายโอนข้อมูลน้อยสุดที่ 44MB/s และสูงสุดที่ 109MB/s ทำให้ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 81MB/s ด้วยกัน มีอัตราการเข้าถึงข้อมูลที่ 18.3 ms ซึ่งนับได้ว่าผลทดสอบที่ออกมานั้นมีความน่าประทับใจทีเดียว เรียกได้ว่าทำได้ดีกว่าฮาร์ดดิสก์ปกติที่ 5400 รอบแบบรู้สึกได้เวลาเข้าเกมโหลดเกม

คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของ FPS จากทั้ง 5 เกมที่ได้ทดสอบมีค่ามากกว่า 30 – 60FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-7700HQ ที่สามารถรีดพลัง NVIDIA GeForce GTX 1050 ออกมาได้อย่างเต็มที่ ประกอบกับยังใช้แรม 8GB DDR4 และ SSD ความเร็วสูง รวมไปถึงฮาร์ดดิสก์ 5400 รอบ (ใช้ติดตั้งเกม)

ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง Battlefield 1 /GTA V และ  Rise of the Tomb Raider ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด ภาพก็สวยจนน่าประทับใจแบบที่สุด ซึ่งดูจากเฟรมเรทเฉลี่ยแล้วแทบไม่ต่ำไปกว่า 30FPS เรียกได้ว่าเหลือๆ กับการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้สมบูรณ์ที่สุด แม้ว่าต้องยอมว่ามีข้อสังเกตุว่ามีภาพฉีกอยู่บ้างกับเกมบางฉากที่เคลื่อนไหวเร็วๆ จากการที่หน้าจอไม่ได้เป็น 120Hz เวลาที่เราปรับให้ปล่อยเฟรมเรทสูงๆ

อีก 2 เกมออนไลน์ที่โดยส่วนตัวเล่นเป็นประจำอย่าง Overwatch, DOTA 2 ก็จัดการทดสอบให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน  ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่น ระดับเฟรมเรทที่สูงสุด แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็สบายๆ ค่าเฟรมเรทเฉลี่ยแทบไม่ต่ำ 60 เฟรมเช่นกัน สรุปโดยรวมแล้วคือเล่นได้สบายๆ ทำได้อย่างน่าประทับใจ ทั้งจากความลื่นไหลและหน้าจอที่สวยงามสมจริง

*ไว้มีโอกาสรีวิวในส่วนของ GTX 1050Ti  จะนำมาทดสอบให้ได้ชมกันเต็มๆ อีกครั้งหนึ่งครับ

นอกจากนี้ทาง Acer เองเองก็ยังมีในส่วนของซอต์ฟแวร์ที่จะเป็นตัวช่วยในการใช้งานของเราอีกด้วยอย่าง Acer Care Center  ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสเปกภายใน หรือเช็คสถานะการทำงานส่วนต่างๆ ของเครื่อง รวมไปถึงยังสามารถ ตรวจเช็คสถานะเครื่องกับข้อมูลแคชต่างๆ ก็ทำการลบทิ้งได้ตรงนี้เลย หรือเช็คอัพเดทซอฟ์ตแวร์และไดร์เวอร์ต่างๆ ของเครื่องก็สามารถทำผ่านตรงนี้ได้เช่นกัน ที่สำคัญถ้าใครต้องการ Backup หรือ Recovery ข้อมูลภายในก็จัดการได้เลย โดยสามารถดาวน์โหลดมาใช้งานผ่านทางเว็บไซต์ Acer ได้เลย

Battery / Heat / Noise

Acer Aspire VX5 นั้นมาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุ 52 Wh ซึ่งจะว่าไปแล้วนั้นก็ค่อนข้างที่จะน้อยไปหน่อย แต่เมื่อมาดูประสิทธิภาพโดยรวมของอายุการใช้งานของแบตเตอรี่แล้วนั้นคงต้องขอเปลี่ยนคำพูดครับเนื่องจาก Acer Aspire VX5 สามารถใช้งาน Wi-Fi เพื่อท่องเว็บได้ยาวนานราวๆ  5 – 6 ชั่วโมง ซึ่งหากดูตามตารางแล้วนั้นจะเห็นได้ครับว่า Acer Aspire VX5สามารถที่จะทำเวลาได้ดีกว่าโน๊ตบุ๊คที่ใช้ Core i7 รุ่นเดียวกันทั้งหมด

ส่วนของอุณหภูมิถือว่าสามารถที่จะทำได้ดีตอนที่ใช้งานเครื่องแบบไปบีบขั้นทรัพยากรมากนัก และถึงจะเป็นการเล่นเกมที่เน้น GPU และ CPU เข้ามาด้วยเป็นเวลานานๆ นั้นก็พบว่าระดับของอุณหภูมิในจุดต่างๆ ของตัวเครื่องจะเพิ่มขึ้นมาน้อยมาก จุดที่มีอุณหภูมืที่หนักที่สุดจะอยู่ที่ ตรงกลางขอบเครื่องแต่ก็ใช้เวลาถ่ายความร้อนออกไปได้ไม่นานมากเท่าไรนักอันนี้คงต้องยอมรับหล่ะครับว่าระบบระบายความร้อนของเขาดีจริงๆ  และสำหรับนักเล่นเกมที่ใช้คีย์บอร์ดเล่นเป็นประจำนั้น บริเวณของปุ่ม WASD ก็มีความร้อนสะสมน้อยเช่นกัน

อุณหภูมิต่ำสุดของเครื่องจะอยู่ที่ 36 องศาเซลเซียส แต่พอรีดประสิทธิภาพเต็มที่จะเห็นว่าเครื่องจะร้อนที่สุดเพียง 91 องศาเซลเซียสเท่านั้น จากการใช้โปรแกรมรีดประสิทธิภาพ (ซึ่งถึงจุดนี้ชิปประมวลผลจะลดความเร็วลงมาเองอัตโนมัติประมาณครึ่งนึง) นับว่าระบบระบายความร้อนของ Acer Aspire VX5 เครื่องนี้ทำออกมาได้ดีตามมาตรฐานของ Gaming Notebook ทีเดียว ฉะนั้นหายห่วงเรื่องนี้ได้เลย

ทั้งนี้ในการใช้งานทั่วไปตามปกตินั้น (เช่นท่องเว็บ, พิมพ์งาน ฯลฯ) คุณจะแทบไม่ได้ยินเสียงของระบบระบายความร้อนเลยแม้แต่น้อย  งานนี้ทาง Acer ทำการบ้านมาดีมากครับ ทว่าเมื่อไรก็ตามที่คุณต้องใช้การทำงานทั้งจาก CPU และ GPU(เช่นการเล่นเกม) เรื่องของเสียงนั้นจะเปลี่ยนไปเพราะพัดลมนั้นค่อนข้างที่จะดังมากเลยทีเดียว ทว่ามันก็จะเกิดขึ้นเพียงแค่แป๊บเดียวแล้วหายไปเหมือนเร่งเครื่องพัดลมล่ะครับ

Conclusion / Award

สรุปรีวิว Acer Aspire VX5 เป็น Gaming Notebook ที่ติดตั้งการ์ดจอตัวแรงระดับกลางค่อนบนอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1050 ที่แรงคุ้มที่สุดในท้องตลาดปี 2017 เลย ด้วยความสมบูรณ์แบบในความเป็นโน๊ตบุ๊คเพื่อการเล่นเกมจากประสิทธิภาพในการเล่นเกมที่ทำได้ดี ด้วยชิปประมวลผล Intel Core i7-7700HQ ที่เป็น Core i Gen 7 Kaby Lake บนแรม DDR4 ที่อัพเกรดได้ถึง 16GB ที่สำคัญสามารถรองรับการเล่นเกมได้อย่างครอบคลุมจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นออฟไลน์หรือออนไลน์ อันนี้สบายๆ แน่นอน

โดยรวมแล้วนั้น Acer Aspire VX5 ถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊คสำหรับการเล่นเกมที่น่าใช้งานตัวหนึ่งเลย ด้วยการ์ดจอ GTX 1050 ที่คุ้มค่าต่อราคา แรงได้เต็มที่ภายใต้การขับเคลื่อนของ i7-7700HQ แถมถึงจะมีสเปคที่แรงอย่างนี้เรื่องความร้อนก็สามารถสบายใจหายห่วงได้เพราะว่า Acer ทำการบ้านมาเป็นอย่างดีความร้อนสะสมจึงไม่มี จะมีที่น่าตกใจก็คือช่วงเร่งของพัดลมระบายความร้อนอาจจะดังไปนิดหน่อยแต่นั่นก็ชั่วคราวเท่านั้น ฉะนั้นไร้กังวลว่าจะเล่นเกมไปนานๆ แล้วจะเกิดปัญหาอะไร หรือถ้าใครเน้นชัวร์ๆ ก็ใช้ Cooling มาช่วยเสริมได้

นอกเหนือจากนี้ในส่วนของหน้าจอเป็นเพียงพาเนล TN ก็จริง แต่จากการใช้งานถือว่าสวยงามใช้ได้ทีเดียว แม้ว่ามุมมองหรือความสวยงามไม่เท่ากับพาเนล IPS แต่ก็ดีกว่าพาเนล TN ทั่วไปอย่างแน่นอน รวมไปถึงลำโพงก็จัดว่าเสียงดีน่าประทับใจทีเดียว อีกทั้ง Acer Aspire VX5 นั้นไม่ได้มี Windows 10 มาให้พร้อมใช้งานก็จริง แต่ด้วยราคานี้สเปกต่อราคาก็ถือว่าคุ้มค่าอยู่ดี

เอาตามความจริง Acer Aspire VX5 จะไม่มีฟีเจอร์อะไรที่โดดเด่น แต่เมื่อเปรียบเทียบกับสเปคและการออกแบบสไตล์ Gaming Notebook โดนใจเกมเมอร์ รวมไปถึงราคาที่ไม่แพง (ถูกกว่าแบรนด์อื่นๆ ในสเปกที่เหมือนกัน) ที่สำคัญคือทั้ง 3 รุ่นมาพร้อมกับประกัน 3 ปีแบบ On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน เรียกได้ว่าทาง Acer นั้นจัดเต็มจริงๆ ทำให้ต้องยอมรับเลยว่า Acer Aspire VX5 เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับเกมเมอร์ที่มีงบประมาณจำกัดอยู่ได้ดีที่สุด ณ ขณะนี้ทีเดียว เอาเป็นว่าเพื่อนๆ ท่านไหนที่สนใจ Gaming Notebook อย่าง Acer Aspire VX5 ในตอนนี้ก็สามารถหาซื้อกันได้เลย ส่วนยังไงถ้ามีโอกาสไว้ทีมงานจะมารีวิวรุ่นการ์ดจอที่เป็น GTX 1050Ti กันอีกทีนึง อยากรู้เรื่องความแรงความร้อนเหมือนกัน

สุดท้ายถ้าถามว่าจะเลือกซื้อ Acer Aspire VX5 รุ่นไหนดีก็คงขึ้นอยู่กับงบประมาณ แนะนำถ้างบถึงรุ่นท็อปก็จัดไปเลย 37,990 บาท ได้ครบๆ ของแรง GTX 1050Ti แน่นอน แต่ถ้างบน้อยลงมาหน่อยรุ่นกลาง 34,990 บาท ก็ถือว่าใช้ได้ด้วยแรม 8GB และ SSD 128GB หรือนเน้นถูกที่สุด 31,990 บาท แล้วค่อยมาอัพเกรดภายหลังก็น่าสนใจไม่แพ้กัน

ข้อดี

• ดีไซน์การออกแบบสวยงามถูกใจเกมเมอร์ งานประกอบแน่นหนา วัสดุอยู่ในเกณฑ์ดี
• สเปคเหมาะกับการเล่นเกมด้วย Core i7-7700HQ และการ์ดจอ GeForce GTX 1050
• ทดสอบประสิทธิภาพแล้วดีกว่ารุ่นสเปก Core i7-6700HQ + GTX 960M พอสมควร
• พอร์ตเชื่อมต่อครบครันทีเดียวไม่ว่าจะเป็น USB 3.0, USB 3.1 Type-C, HDMI
• มาพร้อมลำโพงให้เสียงที่ดี น่าประทับใจพร้อมมีซอฟต์แวร์ปรับแต่ง
• รองรับ SSD แบบ M.2 ซึ่งรุ่นนี้ติดตั้งมาเลย ใช้งานได้รวดเร็ว
• ระบบระบายความร้อนสามารถทำได้ดีตามมาตรฐาน
• แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานประมาณ 5 ชั่วโมง
• ราคาคุ้มค่ามากๆ เมื่อเทียบกับสเปกที่ได้
• มาพร้อมกับการรับประกัน 3 ปี แบบ On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน

ข้อสังเกต

• หน้าจอเป็นพาเนล TN แต่คุณภาพอยู่ในระดับที่ดี
• ไม่มี Windows 10 ติดตั้งมาให้ แต่ด้วยราคาถือว่ายอมรับได้

 

AWARDS

โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับโน๊ตบุ๊คในกลุ่ม Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้ว ซึ่ง Acer Aspire VX5 ก็ได้รับรางวัลต่างๆ ดังนี้

Best Design

เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ Acer  มาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดใน Acer Aspire VX5 ที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามดุดัน เรียกได้ว่าได้เค้าโครงจากรุ่นพี่อย่าง Predator และ Aspire V Nirto มาเต็มๆ รวมไปถึงงานการประกอบก็ระดับคุณภาพ ซึ่งในจุดของรูปร่างหน้าตาก็เป็นสิ่งที่หลายๆ คนยอมรับกันอยู่แล้ว ถือว่าทำได้ดีในแง่ของการดีไซน์ Gaming Notebook ในช่วงราคานี้

Best Performance

Acer Aspire VX5 มีสเปคที่ครบครัน ทั้งชิบประมวลผล Core i7-7700HQ และการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1050 (4GB GDDR5) พร้อมแรมตัวเครื่องขนาด 4GB มาตรฐานใหม่แบบ DDR4  และ SSD แบบ M.2 ให้การเข้าถึงข้อมูลได้รวดเร็วสูงถึง 2200MB/s ความเร็วสูงรองรับการทำงานต่างๆ พร้อมๆ กันได้หลายๆ งาน รวมถึงเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล

Best Value

Acer Aspire VX5 มาพร้อมกับสเปคที่ลงตัวกับการใช้งานหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นทำงานออฟฟิศทั่วไป งานเอกสาร ดูหนังฟังเพลงก็สบายๆ  ที่เน้นๆ เลยก็คือเรื่องของการเล่นเกมเป็นหลัก เนื่องจากการเลือกใช้ชิปประมวลผล Intel Core i7-7700HQ ตัวแรง ที่ประสิทธิภาพกำลังดี พ่วงพร้อมการประหยัดพลังงาน ทั้งยังมีกราฟิกชิปเป็น NVIDIA GeForce GTX 1050 และแรม DDR4 เข้ามาอีก ภายในราคาเริ่มต้นที่ 29,990 บาทเท่านั้น เหมาะมากๆ สำหรับใครที่อยากได้โน๊ตบุ๊คมาเล่นเกมในราคาคุ้มค่าที่สุด

 

VDO Review

Specification

Acer Aspire VX5 จะมีจำหน่ายด้วยกัน 3 รุ่นย่อย ซึ่งตัวที่ NotebookSPEC ได้มาทดสอบ เป็นตัวรุ่นกลาง กับราคา 32,900 บาท ใช้ชิปประมวลผลเป็น Intel Core i7-7700HQ (2.80 – 3.80 GHz) ทำงานแบบ 4 คอร์ 8 เธร์ด ประสิทธิภาพไว้ใจได้ พร้อมกราฟฟิการ์ดตัวแรงระดับ Desktop อย่าง NVIDIA GeForce GTX 1050 (4GB GDDR5) มีที่เก็บข้อมูลฮาร์ดดิสก์ความจุ 1TB 5400 รอบ พร้อมติดตั้ง SSD แบบ  M.2 ความจุ 128GB ไว้ด้วย ในส่วนของแรมเองมีมาให้ 8GB แบบ DDR4 อัพเกรดได้สูงสุด 32GB

นอกจากนี้ Acer Aspire VX5 มาพร้อมจอแสดงผลแบบด้าน 15.6 นิ้ว ที่ความละเอียด Full HD พาเนลเป็น TN คุณภาพดีให้สีสันและมุมมองดีกว่า TN ทั่วไปแบบเห็นได้ชัด แต่ยังไงเสียก็คงไม่สวยงามเท่ากับพาเนล IPS ซักทีเดียว ในส่วนของระบบเสียงเป็นลำโพงแบบสเตอริโอให้เสียงที่ดีในระดับที่น่าพอใจ ประกอบกับมีซอฟต์แวร์จัดการเสียงอย่าง DOLBY AUDIO ทำให้มีคุณภาพที่ดียิ่งขั้นไปอีก

พร้อมด้วยกล้องเว็บแคม HD และมีไมค์ดิจิตอลในตัว ส่วนการเชื่อมต่อก็มีมาอย่างครบถ้วน ทั้ง HDMI, 2 x USB 3.0, 1 x USB 3.1 Type-C,  1 x USB 2.0, Kensington Lock, 2-in-1 SD, RJ-45 , Headset 3.5mm พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 4.0 และ Wi-Fi Intel Dual Band มาตรฐาน 802.11a/b/g/n/ac

สนนราคา Acer Aspire VX5 เริ่มต้นะอยู่ที่ 31,900 บาท ซึ่งจะเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-7700HQ และการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1050 ซึ่งจะมาพร้อมแรม 4GB DDR4 และจะไม่มี SSD M.2 มาให้ แต่เราก็สามารถอัพเกรดเพิ่มเองได้ ส่วนรุ่นกลางที่เรารีวิวอยู่นี้จะมี RAM มาให้เป็น 8GB (1 แถว) และ SSD M.2 ความจุ 128GB สุดท้ายกับรุ่นบนสุดท๊อปสุดก็จะเหมือนรุ่นกลาง แต่จะได้การ์ดจอเป็น GTX 1050Ti นั่นเอง โดยทั้งสามรุ่นมาพร้อมกับการรับประกัน 3 ปีแบบ On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน

• Core i7-7700HQ/GTX 1050/RAM 4GB DDR4/HDD 1TB ราคา 31,990 บาท
• Core i7-7700HQ/GTX 1050/RAM 8GB DDR4/HDD 1TB + SSD 128GB ราคา 34,990 บาท
• Core i7-7700HQ/GTX 1050 Ti/RAM 8GB DDR4/ HDD 1TB + SSD 128GB ราคา 37,990 บาท

Hardware / Design

ดีไซน์ของตัวเครื่องนั้นค่อนข้างที่จะเหมือนกับดีไซน์สมัยใหม่ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นยานอวกาศ ซึ่งจะว่าไปแล้วนั้นก็น่าจะได้รับแรงบันดาลใจมาจากรุ่นใหญ่อย่างตระกูล Predator และ Acer Aspire V Nitro อยู่พอสมควร แม้ว่าจะเป็น Gaming Notebook รุ่นที่ล่างกว่า Acer Aspire VX5 วัสดุหลักทั้งตัวเครื่องไม่ว่าจะด้านนอกด้านในใช้งานเป็นพลาสติก ABS เกรดดี ที่ต้องบอกว่างานดีจริงๆ โดยสีสันจะเป็นโทนดำตัดกับสีแดงตามสไตล์ Gaming ที่ดูดุดัน โดยฝาบนจะเป็นลวาลายคล้ายโลหะ พร้อมกับมีขีดแดงๆ สองเส้น ซึ่งเมื่อได้สัมผัสตัวจริงต้องบอกว่างานประกอบนั้น Acer Aspire VX5 ทำได้เป็นอย่างดี น่าประทับใจสุดๆ เพราะถึงว่าจะมีราคาที่ไม่แพง แต่ทาง Acer ก็ยังใส่ใจไม่น้อยไปกว่ารุ่นบนๆ เลย

สำหรับเรื่องขนาดของ Acer Aspire VX5  เรียกได้ว่าทำออกมาได้ดีในระดับหนึ่งคือไม่ใหญ่เกินไปเหมือน Predator 15 แล้วก็ไม่ได้เล็กมากจนเกินไปเหมือน Gaming Notebook บางรุ่นที่เน้นความบางเบา (จนบางครั้งก็บางเกิน ทำให้ระบายความร้อนได้ไม่ดีนัก) อย่างไรก็ตามเรื่องขนาดนั้นสรุปได้ว่า Acer Aspire VX5 อยู่ตรงโซนกลางๆ ของโน๊ตบุ๊คสำหรับการเล่นเกมที่มาพร้อมกับหน้าจอ 15.6 นิ้ว ดังนั้นแล้วเรื่อยพกพาไม่ต้องพูดถึง เพราะว่ามันเบากว่าโน๊ตบุ๊คสำหรับการเล่นเกมที่มีหน้าจอ 15.6 นิ้วของเมื่อ 2 – 3 ปีที่แล้วพอตัว อีกทั้งการที่ตัวเครื่องไม่บางเกินไปนั้นก็ทำให้ระบายความร้อนได้เป็นอย่างดีอีกด้วย แม้ว่าฝาจออาจจะดูหนาไปหน่อย แต่ก็ไม่มีผลกับการใช้งานแต่อย่างใด

Acer Aspire VX5 นั้นสามารถที่จะแกะด้านล่างของตัวเครื่องออกมาได้มากๆ แล้วแกะออกมาทีเดียวก็จะเห็นแผงวงจรของตัวเครื่องทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นพัดลมระบายความร้อน, หน่วยความจำหรือกระทั่งแหล่งเก็บข้อมูล อย่างไรก็ตามด้วยการที่มันแกะง่ายนี่เองที่ทำให้การซ่อมบำรุงรักษานั้นสามารถทำได้อย่างไม่ยากเย็นมากนัก ที่เจ๋งไปกว่านั้นก็คือผู้ใช้ยังสามารถที่จะใช้อุปกรณ์ไขควงทั่วไป (ขนาดเล็ก) ในการเปิดฝาตัวเครื่องออกมาเพื่อทำการอัพเกรดฮาร์ดแวร์ได้ด้วยตัวเองอีกต่างหาก เรียกได้ว่าเราสามารถจะเปิดฝาตัวเครื่องออกมาเป่าทำความสะอาดพัดลมระบายความร้อยได้บ่อยๆ  เลย อย่างนี้ระบบระบายความร้อนของตัวเครื่องก็จะยังคงบสภาพเหมือนใหม่ไปได้อีกนาน โดยไม่ต้องพึงพาช่างแต่อย่างใด

Keyboard / Touchpad

ตัวเครื่องที่มาพร้อมกับหน้าจอใหญ่ถึง 15.6 นิ้วนั้นทำให้ทาง Acer สามารถที่จะติดตั้งคีย์บอร์ดแบบ Full Size มาให้ผู้ใช้งานได้ใช้กันได้อย่างสบายๆ โดยจุดเด่นนั้นก็คงหนีไม่พ้นเรื่องการมี ปุ่มแป้นคีย์ตัวเลข (Numpad) มาให้ด้วย รวมไปถึงแป้นปุ่มตรงตัวอักษร WASD ยังเป็นสีแดงเด่นออกมา ซึ่งมาพร้อมกับไฟส่องสว่างสีแดง ที่แม้ว่าจะไม่สามารถเปลี่ยนสีใดๆ ก็สวยงามใช้ได้อยู่ (เปิดปิดได้เท่านั้น ปรับระดับแสงไม่ได้) อย่างไรก็ตามทาง Acer ก็ไม่ได้ใส่ฟีเจอร์อะไรสำหรับให้เหมาะสมกับการเป็นเครื่องโน๊ตบุ๊คสำหรับการเล่นเกมอะไรมาก็จริง แต่ในการใช้งานจริงก็ถือว่าตอบสนองได้ดีอยู่ ระดับที่น่าประทับใจทีเดียว

สำหรับทัชแพดนั้นจะมีขนาดอยู่ที่ 10.5 x 7.8 เซนติเมตร ซึ่งถือว่าค่อนข้างใหญ่เป็นแบบชิ้นเดียวให้ความลื่นไหนในการใช้งานเป็นอย่างดี โดยตัวทัชแพดจะวางตัวไปทางด้านซ้ายของเครื่องเล็กน้อย ตัวทัชแพดไม่มีปุ่มกดเหมือนกับโน๊ตบุ๊คสมัยใหม่ที่จะไม่ค่อยมี โดยเป็นดีไซน์แบบซ่อนปุ่มตามสมัยนิยมซึ่งนั่นก็ไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด

Screen / Speaker

Acer Aspire VX5 มีหน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียด Full HD (1920×1080 พิกเซล) แบบ Wide View มีมุมมองด้านซ้าย ด้านขวา และด้านล่าง ที่กว้างเกือบเทียบเท่าเกือบเทียบเท่าพาเนล IPS  แต่ในส่วนมุมมองด้านบนอาจจะทำออกมาในมุมที่ไม่กว้างนัก แต่การใช้งานโดยรวมยังถือว่าทำออกมาได้ดีกว่าจอแบบ TN ธรรมดา พื้นผิวจอแบบด้าน Anti-Glare รวมๆ ทั้งสีสันความคมชัดแล้วจัดว่าใช้ได้เลย เหมาะกับการใช้งานทั่วๆ ไปหรือการเล่นเกมก็ทำได้อย่างน่าประทับใจ ยังไงก็ตามถ้าได้เป็นพาเนล IPS ก็คงดีขึ้นไปอีกขั้น แต่ตรงนี้ส่วนตัวถือว่าตามราคาพอใจแล้วล่ะ

สำหรับลำโพงของ Acer Aspire VX5 นั้นจะมีด้วยกัน 2 ตัวโดยจะอยู่ทางด้านล่างมุมซ้ายและขวาของเครื่องอย่างละตัว ลำโพงนั้นจะมีการวางตำแหน่งในลักษณะเฉียงลงไปยังพื้นเพื่อที่จะให้เสียงได้สัมผัสกับพื้นแล้วสะท้อนขึ้นมาให้ผู้ใช้ได้ยินซึ่งถือว่าเป็นการออกแบบที่ดีมากอย่างหนึ่งบน Acer Aspire VX5 คุณภาพเสียงการใช้งานต่างๆ เมื่อใช้งานร่วมกับฟีเจอร์ DOLBY AUDIO ยังสามารถทำออกมาได้ดีน่าประทับใจ  แต่เหมาะกับการฟังเพียงคนเดียวมากกว่าเพราะมุมกระจายเสียงค่อนข้างแคบ หากเปิดฟังเพลงภายในห้องจะให้รายละเอียดเสียงที่ไม่ดีนัก

Connector / Thin And Weight

Acer Aspire VX5 จัดว่าเป็น Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้ว ที่มีพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น 2x USB 3.0, 1x USB 3.1 Type-C, 1x USB 2.0  1x HDMI 1.4, SD(XC/HC) Card reader, RJ45 (Killer E2400 Gigabit Ethernet with Killer Shield) และ Mic-in/Headphone-out เรียกได้ว่าพอเพียงกับการใช้งานทั่วไปอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามสำหรับ USB 2.0 อีกหนึ่งพอร์ตนั้น ถ้าเป็น USB 3.0 ไปเลยจะดีมากๆ

Acer Aspire VX5 ยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 4 และอินเตอร์เน็ตไร้สายมาตรฐาน 802.11b/g/n/ac Dual Band MIMO ซึ่งจะช่วยให้การเชื่อมต่ออินเตอรร์เน็ตมีความสเถียร จนส่งผลให้การเล่นเกมออนไลน์สามารถได้ลื่นๆ อีกด้วย โดยเสาอากาศนั้นยังได้ถูกติดตั้งไว้บริเวณขอบหน้าจอ ส่วนของการพกพา Acer Aspire VX5 ทำได้น่าพอใจไม่แพ้ Gaming Notebook รุ่นอื่นๆ (แม้ว่าตรงส่วนจอจะดูหนาไปซักหน่อย) ด้วยน้ำหนัก 2.6 กิโลกรัม เมื่อรวมกับอแดปเตอร์ก็จะมีน้ำหนักรวมอยู่ที่ประมาณ 3 กิโลกรัมเท่านั้นเอง

Performance / Software

โดยมาพร้อมกับชิปประมวลผลจาก Intel Core i7-7700HQ (รุ่นยอดนิยมประจำปี 2017) ซึ่งเป็นชิปประมวลผลที่เน้นการใช้งานหนักๆ ไม่จะเป็นการโปรเซสหรือเล่นเกม มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.80 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 3.80 GHz เป็นซีพียูแบบ 4 Core 8 Threads รุ่นใหม่ล่าสุดที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปมากๆ หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลจริงจังก็รองรับได้อย่างสบายๆ เรียกได้ว่าแรงกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่าง Intel Core i7-6700HQ มาพร้อมแรมภายในขนาด 8GB DDR4 บัส 2400 MHz

กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel HD Graphics 630 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน ที่โดยรวมแล้วให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีกว่า Intel HD Graphics 530 รุ่นก่อนหน้าแน่นอน เพราะอย่างน้อยๆ ก็รองรับการทำงานกับหน้าจอความละเอียดสูงได้แบบไม่มีปัญหา

อีกทั้งยังมีกราฟิกการ์ดจอแยกรุ่นใหม่ล่าสุดตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1050 ที่ต้องบอกว่าแรงเทียบเท่าระดับพีซี และแรงกว่า GTX 1050 แบบรู้สึกได้ หรือถ้าเทียบกับรุ่นก่อนก็บอกได้เลยว่าแรงกว่า GTX 960M อย่างสบายๆ เรียกได้ยิ่งตอบสนองในส่วนของการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ 3 มิติ หรือเกมที่กินทรัพยากรได้เป็นอย่างดีทีเดียว

สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูงสุดๆ ที่น่าประทับใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบน ที่เน้นการทำงานเป็นหลัก

ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 128GB แบบ M.2  (สล็อตรองรับการอัพเกรดเป็น SSD M.2 NVMe ได้) ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 515MB/s และเขียนที่ 464MB/s

ทดสอบการทำงานฮาร์ดดิสก์ความจุอยู่ที่ 1TB แบบความเร็ว 5400 รอบที่ติดตั้งมาให้ ด้วยโปรแกรม HD Tune แล้วพบว่าอัตราการถ่ายโอนข้อมูลน้อยสุดที่ 44MB/s และสูงสุดที่ 109MB/s ทำให้ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 81MB/s ด้วยกัน มีอัตราการเข้าถึงข้อมูลที่ 18.3 ms ซึ่งนับได้ว่าผลทดสอบที่ออกมานั้นมีความน่าประทับใจทีเดียว เรียกได้ว่าทำได้ดีกว่าฮาร์ดดิสก์ปกติที่ 5400 รอบแบบรู้สึกได้เวลาเข้าเกมโหลดเกม

คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของ FPS จากทั้ง 5 เกมที่ได้ทดสอบมีค่ามากกว่า 30 – 60FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-7700HQ ที่สามารถรีดพลัง NVIDIA GeForce GTX 1050 ออกมาได้อย่างเต็มที่ ประกอบกับยังใช้แรม 8GB DDR4 และ SSD ความเร็วสูง รวมไปถึงฮาร์ดดิสก์ 5400 รอบ (ใช้ติดตั้งเกม)

ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง Battlefield 1 /GTA V และ  Rise of the Tomb Raider ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับสูงสุดทั้งหมด ภาพก็สวยจนน่าประทับใจแบบที่สุด ซึ่งดูจากเฟรมเรทเฉลี่ยแล้วแทบไม่ต่ำไปกว่า 30FPS เรียกได้ว่าเหลือๆ กับการตอบสนองความต้องการเล่นเกมได้สมบูรณ์ที่สุด แม้ว่าต้องยอมว่ามีข้อสังเกตุว่ามีภาพฉีกอยู่บ้างกับเกมบางฉากที่เคลื่อนไหวเร็วๆ จากการที่หน้าจอไม่ได้เป็น 120Hz เวลาที่เราปรับให้ปล่อยเฟรมเรทสูงๆ

อีก 2 เกมออนไลน์ที่โดยส่วนตัวเล่นเป็นประจำอย่าง Overwatch, DOTA 2 ก็จัดการทดสอบให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน  ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่น ระดับเฟรมเรทที่สูงสุด แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็สบายๆ ค่าเฟรมเรทเฉลี่ยแทบไม่ต่ำ 60 เฟรมเช่นกัน สรุปโดยรวมแล้วคือเล่นได้สบายๆ ทำได้อย่างน่าประทับใจ ทั้งจากความลื่นไหลและหน้าจอที่สวยงามสมจริง

*ไว้มีโอกาสรีวิวในส่วนของ GTX 1050Ti  จะนำมาทดสอบให้ได้ชมกันเต็มๆ อีกครั้งหนึ่งครับ

นอกจากนี้ทาง Acer เองเองก็ยังมีในส่วนของซอต์ฟแวร์ที่จะเป็นตัวช่วยในการใช้งานของเราอีกด้วยอย่าง Acer Care Center  ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสเปกภายใน หรือเช็คสถานะการทำงานส่วนต่างๆ ของเครื่อง รวมไปถึงยังสามารถ ตรวจเช็คสถานะเครื่องกับข้อมูลแคชต่างๆ ก็ทำการลบทิ้งได้ตรงนี้เลย หรือเช็คอัพเดทซอฟ์ตแวร์และไดร์เวอร์ต่างๆ ของเครื่องก็สามารถทำผ่านตรงนี้ได้เช่นกัน ที่สำคัญถ้าใครต้องการ Backup หรือ Recovery ข้อมูลภายในก็จัดการได้เลย โดยสามารถดาวน์โหลดมาใช้งานผ่านทางเว็บไซต์ Acer ได้เลย

Battery / Heat / Noise

Acer Aspire VX5 นั้นมาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุ 52 Wh ซึ่งจะว่าไปแล้วนั้นก็ค่อนข้างที่จะน้อยไปหน่อย แต่เมื่อมาดูประสิทธิภาพโดยรวมของอายุการใช้งานของแบตเตอรี่แล้วนั้นคงต้องขอเปลี่ยนคำพูดครับเนื่องจาก Acer Aspire VX5 สามารถใช้งาน Wi-Fi เพื่อท่องเว็บได้ยาวนานราวๆ  5 – 6 ชั่วโมง ซึ่งหากดูตามตารางแล้วนั้นจะเห็นได้ครับว่า Acer Aspire VX5สามารถที่จะทำเวลาได้ดีกว่าโน๊ตบุ๊คที่ใช้ Core i7 รุ่นเดียวกันทั้งหมด

ส่วนของอุณหภูมิถือว่าสามารถที่จะทำได้ดีตอนที่ใช้งานเครื่องแบบไปบีบขั้นทรัพยากรมากนัก และถึงจะเป็นการเล่นเกมที่เน้น GPU และ CPU เข้ามาด้วยเป็นเวลานานๆ นั้นก็พบว่าระดับของอุณหภูมิในจุดต่างๆ ของตัวเครื่องจะเพิ่มขึ้นมาน้อยมาก จุดที่มีอุณหภูมืที่หนักที่สุดจะอยู่ที่ ตรงกลางขอบเครื่องแต่ก็ใช้เวลาถ่ายความร้อนออกไปได้ไม่นานมากเท่าไรนักอันนี้คงต้องยอมรับหล่ะครับว่าระบบระบายความร้อนของเขาดีจริงๆ  และสำหรับนักเล่นเกมที่ใช้คีย์บอร์ดเล่นเป็นประจำนั้น บริเวณของปุ่ม WASD ก็มีความร้อนสะสมน้อยเช่นกัน

อุณหภูมิต่ำสุดของเครื่องจะอยู่ที่ 36 องศาเซลเซียส แต่พอรีดประสิทธิภาพเต็มที่จะเห็นว่าเครื่องจะร้อนที่สุดเพียง 91 องศาเซลเซียสเท่านั้น จากการใช้โปรแกรมรีดประสิทธิภาพ (ซึ่งถึงจุดนี้ชิปประมวลผลจะลดความเร็วลงมาเองอัตโนมัติประมาณครึ่งนึง) นับว่าระบบระบายความร้อนของ Acer Aspire VX5 เครื่องนี้ทำออกมาได้ดีตามมาตรฐานของ Gaming Notebook ทีเดียว ฉะนั้นหายห่วงเรื่องนี้ได้เลย

ทั้งนี้ในการใช้งานทั่วไปตามปกตินั้น (เช่นท่องเว็บ, พิมพ์งาน ฯลฯ) คุณจะแทบไม่ได้ยินเสียงของระบบระบายความร้อนเลยแม้แต่น้อย  งานนี้ทาง Acer ทำการบ้านมาดีมากครับ ทว่าเมื่อไรก็ตามที่คุณต้องใช้การทำงานทั้งจาก CPU และ GPU(เช่นการเล่นเกม) เรื่องของเสียงนั้นจะเปลี่ยนไปเพราะพัดลมนั้นค่อนข้างที่จะดังมากเลยทีเดียว ทว่ามันก็จะเกิดขึ้นเพียงแค่แป๊บเดียวแล้วหายไปเหมือนเร่งเครื่องพัดลมล่ะครับ

Conclusion / Award

สรุปรีวิว Acer Aspire VX5 เป็น Gaming Notebook ที่ติดตั้งการ์ดจอตัวแรงระดับกลางค่อนบนอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1050 ที่แรงคุ้มที่สุดในท้องตลาดปี 2017 เลย ด้วยความสมบูรณ์แบบในความเป็นโน๊ตบุ๊คเพื่อการเล่นเกมจากประสิทธิภาพในการเล่นเกมที่ทำได้ดี ด้วยชิปประมวลผล Intel Core i7-7700HQ ที่เป็น Core i Gen 7 Kaby Lake บนแรม DDR4 ที่อัพเกรดได้ถึง 16GB ที่สำคัญสามารถรองรับการเล่นเกมได้อย่างครอบคลุมจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นออฟไลน์หรือออนไลน์ อันนี้สบายๆ แน่นอน

โดยรวมแล้วนั้น Acer Aspire VX5 ถือว่าเป็นโน๊ตบุ๊คสำหรับการเล่นเกมที่น่าใช้งานตัวหนึ่งเลย ด้วยการ์ดจอ GTX 1050 ที่คุ้มค่าต่อราคา แรงได้เต็มที่ภายใต้การขับเคลื่อนของ i7-7700HQ แถมถึงจะมีสเปคที่แรงอย่างนี้เรื่องความร้อนก็สามารถสบายใจหายห่วงได้เพราะว่า Acer ทำการบ้านมาเป็นอย่างดีความร้อนสะสมจึงไม่มี จะมีที่น่าตกใจก็คือช่วงเร่งของพัดลมระบายความร้อนอาจจะดังไปนิดหน่อยแต่นั่นก็ชั่วคราวเท่านั้น ฉะนั้นไร้กังวลว่าจะเล่นเกมไปนานๆ แล้วจะเกิดปัญหาอะไร หรือถ้าใครเน้นชัวร์ๆ ก็ใช้ Cooling มาช่วยเสริมได้

นอกเหนือจากนี้ในส่วนของหน้าจอเป็นเพียงพาเนล TN ก็จริง แต่จากการใช้งานถือว่าสวยงามใช้ได้ทีเดียว แม้ว่ามุมมองหรือความสวยงามไม่เท่ากับพาเนล IPS แต่ก็ดีกว่าพาเนล TN ทั่วไปอย่างแน่นอน รวมไปถึงลำโพงก็จัดว่าเสียงดีน่าประทับใจทีเดียว อีกทั้ง Acer Aspire VX5 นั้นไม่ได้มี Windows 10 มาให้พร้อมใช้งานก็จริง แต่ด้วยราคานี้สเปกต่อราคาก็ถือว่าคุ้มค่าอยู่ดี

เอาตามความจริง Acer Aspire VX5 จะไม่มีฟีเจอร์อะไรที่โดดเด่น แต่เมื่อเปรียบเทียบกับสเปคและการออกแบบสไตล์ Gaming Notebook โดนใจเกมเมอร์ รวมไปถึงราคาที่ไม่แพง (ถูกกว่าแบรนด์อื่นๆ ในสเปกที่เหมือนกัน) ที่สำคัญคือทั้ง 3 รุ่นมาพร้อมกับประกัน 3 ปีแบบ On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน เรียกได้ว่าทาง Acer นั้นจัดเต็มจริงๆ ทำให้ต้องยอมรับเลยว่า Acer Aspire VX5 เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับเกมเมอร์ที่มีงบประมาณจำกัดอยู่ได้ดีที่สุด ณ ขณะนี้ทีเดียว เอาเป็นว่าเพื่อนๆ ท่านไหนที่สนใจ Gaming Notebook อย่าง Acer Aspire VX5 ในตอนนี้ก็สามารถหาซื้อกันได้เลย ส่วนยังไงถ้ามีโอกาสไว้ทีมงานจะมารีวิวรุ่นการ์ดจอที่เป็น GTX 1050Ti กันอีกทีนึง อยากรู้เรื่องความแรงความร้อนเหมือนกัน

สุดท้ายถ้าถามว่าจะเลือกซื้อ Acer Aspire VX5 รุ่นไหนดีก็คงขึ้นอยู่กับงบประมาณ แนะนำถ้างบถึงรุ่นท็อปก็จัดไปเลย 37,990 บาท ได้ครบๆ ของแรง GTX 1050Ti แน่นอน แต่ถ้างบน้อยลงมาหน่อยรุ่นกลาง 34,990 บาท ก็ถือว่าใช้ได้ด้วยแรม 8GB และ SSD 128GB หรือนเน้นถูกที่สุด 31,990 บาท แล้วค่อยมาอัพเกรดภายหลังก็น่าสนใจไม่แพ้กัน

ข้อดี

• ดีไซน์การออกแบบสวยงามถูกใจเกมเมอร์ งานประกอบแน่นหนา วัสดุอยู่ในเกณฑ์ดี
• สเปคเหมาะกับการเล่นเกมด้วย Core i7-7700HQ และการ์ดจอ GeForce GTX 1050
• ทดสอบประสิทธิภาพแล้วดีกว่ารุ่นสเปก Core i7-6700HQ + GTX 960M พอสมควร
• พอร์ตเชื่อมต่อครบครันทีเดียวไม่ว่าจะเป็น USB 3.0, USB 3.1 Type-C, HDMI
• มาพร้อมลำโพงให้เสียงที่ดี น่าประทับใจพร้อมมีซอฟต์แวร์ปรับแต่ง
• รองรับ SSD แบบ M.2 ซึ่งรุ่นนี้ติดตั้งมาเลย ใช้งานได้รวดเร็ว
• ระบบระบายความร้อนสามารถทำได้ดีตามมาตรฐาน
• แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานประมาณ 5 ชั่วโมง
• ราคาคุ้มค่ามากๆ เมื่อเทียบกับสเปกที่ได้
• มาพร้อมกับการรับประกัน 3 ปี แบบ On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน

ข้อสังเกต

• หน้าจอเป็นพาเนล TN แต่คุณภาพอยู่ในระดับที่ดี
• ไม่มี Windows 10 ติดตั้งมาให้ แต่ด้วยราคาถือว่ายอมรับได้

 

AWARDS

โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับโน๊ตบุ๊คในกลุ่ม Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้ว ซึ่ง Acer Aspire VX5 ก็ได้รับรางวัลต่างๆ ดังนี้

Best Design

เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ Acer  มาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดใน Acer Aspire VX5 ที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามดุดัน เรียกได้ว่าได้เค้าโครงจากรุ่นพี่อย่าง Predator และ Aspire V Nirto มาเต็มๆ รวมไปถึงงานการประกอบก็ระดับคุณภาพ ซึ่งในจุดของรูปร่างหน้าตาก็เป็นสิ่งที่หลายๆ คนยอมรับกันอยู่แล้ว ถือว่าทำได้ดีในแง่ของการดีไซน์ Gaming Notebook ในช่วงราคานี้

Best Performance

Acer Aspire VX5 มีสเปคที่ครบครัน ทั้งชิบประมวลผล Core i7-7700HQ และการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1050 (4GB GDDR5) พร้อมแรมตัวเครื่องขนาด 4GB มาตรฐานใหม่แบบ DDR4  และ SSD แบบ M.2 ให้การเข้าถึงข้อมูลได้รวดเร็วสูงถึง 2200MB/s ความเร็วสูงรองรับการทำงานต่างๆ พร้อมๆ กันได้หลายๆ งาน รวมถึงเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล

Best Value

Acer Aspire VX5 มาพร้อมกับสเปคที่ลงตัวกับการใช้งานหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นทำงานออฟฟิศทั่วไป งานเอกสาร ดูหนังฟังเพลงก็สบายๆ  ที่เน้นๆ เลยก็คือเรื่องของการเล่นเกมเป็นหลัก เนื่องจากการเลือกใช้ชิปประมวลผล Intel Core i7-7700HQ ตัวแรง ที่ประสิทธิภาพกำลังดี พ่วงพร้อมการประหยัดพลังงาน ทั้งยังมีกราฟิกชิปเป็น NVIDIA GeForce GTX 1050 และแรม DDR4 เข้ามาอีก ภายในราคาเริ่มต้นที่ 29,990 บาทเท่านั้น เหมาะมากๆ สำหรับใครที่อยากได้โน๊ตบุ๊คมาเล่นเกมในราคาคุ้มค่าที่สุด