G.Skill นามนี้หลาย ๆ คนคง คงจะนึกถึงแรมหน้าตาเท่ ๆ ที่ขายกันเต็มตลาดเมืองไทย แต่มิอาจหารู้ได้ว่า G.Skill ได้มีผลิตภัณฑ์ Gaming Gear ออกวางจำหน่ายอย่างมากมายหลายซีรีย์ ไม่ว่าจะเป็น หูฟัง เมาส์ คีย์บอร์ด ตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น ไปจนถึงระดับ Hi-End กันเลยทีเดียว โดยบทความนี้จะพามาพบกับคีย์บอร์ด Hi-End อีกหนึ่งรุ่น ที่อยู่จุดบนสุดของ Series นี้ และคีย์บอร์ดรุ่นนี้ก็คือ G.Skill Ripjaws KM780 RGB ตัวนี้นี่เอง
G.Skill Ripjaws KM780 RGB คือคีย์บอร์ดเกมมิ่งที่ถูกออกแบบมาให้ตอบสนองความต้องการของเกมเมอร์ได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการจัดวางคีย์การใช้งานที่หลากหลาย ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับเกมเมอร์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เสริมสกิลการเล่นเกมให้สูงขึ้นด้วยคีย์มาโครถึง 6 ปุ่ม และอีก 3 โหมดโปรไฟล์ รองรับทุกแนวเกม และทุกการใช้งาน รวมไปถึงการใช้งานมัลติมีเดียอีกด้วย อีกทั้งความสวยงามไม่เป็นสองรองใครด้วยไฟ RGB แบบฉบับสมัยนิยม โดดเด่น ดึงดูดน่าใช้งาน และสามารถปรับแต่ง Custom โหมดได้อย่างไร้ขีดจำกัด
Packaging
G.Skill Ripjaws KM780 RGB เริ่มกันในส่วนของ Packaging ที่จะมาพร้อมกับกล่องสี่เหลี่ยมตจตุรัสยาว ๆ เรียบ ๆ ไม่มีอะไรหวือหวามากมายนัก โดยหน้าตัวกล่องจะเน้นในภาพตัวผลิตภัณฑ์เป็นหลัก และฟีเจอร์ยิบย่อยด้านล่างกล่อง อาทิ Cherry MX, Anti-Ghosting, Media Control Panel, และอื่น ๆ อีกมากมาย พร้อมสติ๊กเกอร์บอกชนิดของ Switch ส่วนมุมขวาบนของกล่อง ในส่วนรอบข้างกล่องมีการระบุชื่อรุ่น G.Skill Ripjaws KM780 Keyboard MX Cherry และรายละเอียดของ Technical, System Requirement, และ Package Content
ส่วนด้านหลังกล่องเน้นในส่วนการอธิบายองค์ประกอบต่าง ๆ ของตัวคีย์บอร์ดครบทุกจุดเด่นที่เน้นการใช้งานหลัก ๆ ของคีย์บอร์ดครอบ รวมถึงดีเทลคำอธิบายฟีเจอร์แบบละเอียด 10 ภาษา ยกเว้นภาษาไทยอีกเช่นเคย ส่วนตัวกล่องเป็นกล่องแบบ 2 ชั้น ชั้นนอกเป็นกล่องกระดาษแข็งสกรีนลายสวยงาม ส่วนด้านในเป็นกล่องกระดาษลูกฟูกเสริมความแข็งแรงให้กับกล่องโดยรวม เมื่อเปิดกล่องชั้นในออก ก็จะเจอคีย์ตัวบอร์ดทันทีซึ่งถูกแพ็คมาอย่างเรียบง่ายไม่หวือหวามากนัก โดยดึงความสนใจไปที่ตัวคีย์บอร์ดและบันเดิ้ลที่แถมมาเป็นหลัก
Closer Examination
สิ่งถูกบรรจุอยู่ภายในกล่องมีทั้งหมด 4 อย่าง ได้แก่ คีย์บอร์ด, Warranty Guide, กล่องใส่ Key-Cap และ แท่นรองข้อมือ ทั้งนี้ไม่รวมกับห่อพลาสติดและกระดาษลูกฟูกกันกระแทกที่อยู่ภายในกล่อง โดยบันเดิ้ลหลัก ๆ ตัวแรกที่น่าสนใจคือ กล่องใส่คีย์แคปที่ถูกออกแบบมาให้มีตะขอเกี่ยวสามารถเกี่ยวเข้ากับตัวคีย์บอร์ดได้ เสริมความเท่ให้กับคีย์บอร์ด และสะดวกในการถอดเปลี่ยนคีย์ได้อย่างรวดเร็ว โดยภายในกล่องจะประกอบไปด้วยคีย์แคปเกมมิ่งสีแดง 10 ตัว Q,W,E,R,A,S,D,F,G,C และที่ดึงคีย์ ซึ่งตัวคีย์ W,A,S,D ถูกออกแบบมาให่มีส่วนโค้งรับเข้ากับการวางนิ้วมือเพื่อรองรับการเล่นเกม
อีกหนึ่งบันเดิลก็คือแท่นรองข้อมือวัสดุ ABS Plastic Rubber Texture โดยมีการออกแบบให้เข้ากับสรีระข้อมือ เพื่อให้ถูกหลักการวางข้อมือที่ถูกต้อง ช่วยให้สามารถใช้งานพิมพ์หรือเล่นเกมได้สบายมือมากยิ่งขึ้น และน้ำหนักไม่กดทับที่ข้อมือจุดเดียวมากจนเกินไปป้องกันข้อมือได้ได้อย่างดีอีกด้วย ตัวแท่นรองข้อมือถูกออกแบบมาให้สามารถถอดเข้าออกได้อย่างง่ายดาย แต่ยึดติดแน่นไม่มีสั่นคลอน อีกทั้งยังออกแบบมาให้หลุดออกเองโดยอัตโนมัติหากถูกหักลงเกิน 75 องศาเพื่อป้องกันเขี้ยวล๊อกหัก
ต่อมาในส่วนของคีย์บอร์ดถูกออกแบบมาให้แตกต่างจากคีย์บอร์ดเกมมิ่งทั่วไป ที่เน้นความ Minimal ปุ่มลอยฐานเล็ก ๆเน้นแสงสีเป็นหลัก แต่ G.Skill Ripjaws KM780 RGB ถูกออกแบบมาโดยผสมผสานความ Minimal เข้ากับ Extreme Gaming โดยเป็นคีย์บอร์ดปุ่มลอยเน้นแสงสี RGB แบบสมัยนิยม แต่มีการ Design เพิ่ม Chassis โลหะลักษณะเป็น Pipe รอบตัวคีย์บอร์ดเสริมความโดดเด่น และยังช่วยในเรื่องของความแข็งแรงอีกด้วย โดยจุดที่ยึด Chassis เข้ากับตัวคีย์บอร์ดถูกออกแบบให้มีลักษณะเป็นแฟริ่งยื่นออกมายึดกับ Chassis ทั้งด้านล่างและด้านข้าง โดยด้านข้างมีลักษณะคล้ายปีกและมีโลโก้ G.skill ที่ฝั่งซ้าย โดยตัวคีย์บอร์ดผลิตจากวัสดุ Aluminum Black Anodized ในส่วนด้านบน แต่ส่วนอื่น ๆ ผลิตจาก ABS Plastic ทั้งหมด
ส่วนสายไฟของตัวคีย์บอร์ดเป็นสายถักเส้นโต แข็งแรงทนทานไม่ต้องกลัวขาดใน ความยาวโดยรวมสองเมตร ปลายสายแยกออกมาเป็น 4 เส้นได้แกj USB แบบ Gold Plated สองเส้น และ 3.5 Audio Mic&Headphone แบบ Gold Plated ด้านหลังคีย์บอร์ดยังมีพอร์ตสำหรับเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ ได้โดยมี USB 2.0 หนึ่งพอร์ต และ 3.5 Audio Mic&Headphone พร้อม Foldable Cable Holder สำหรับจัดเก็บสายไฟให้เป็นระเบียบ สามารถพับเก็บได้หากไม่ใช้งาน
ในส่วของ Special Key Feature ทั้งหลายที่G.Skill บรรจงใส่เข้าบน KM780 RGB มี 3 ส่วนด้วยกัน ในส่วนแรกที่โดดเด่นที่สุดคือ Multimedia Control Panel ที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ควบคุบการใช้งานมัลติมีเดียบน Windows ไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง ฟังเพลงก็สามารถควบคุมการเล่นสื่อได้ผ่านทางคีย์บอร์ดอย่างง่ายดาย โดยจะมีปุ่มที่ให้มาคือ Stop, Back, Play/Pause, Next, Mute และที่โดดเด่นคือ Volume ถูกออกแบบมาให้เป็น Scroll หมุนขึ้นหมุนลงเพิ่มลด Volume ได้ โดยจะแสดงความดังเสียงผ่านทาง LED Volume Display ด้านล่าง อีกสองส่วนทางฝั่งขวาคือปุ่ม Macro Key 6 ปุ่ม G1-G6 และในส่วนด้านบนคือปุ่ม MR (Macro Recording) และ M1-M3 (Profile Select) ซึ่งจะอธิบายควบคู่ไปกับการใช้งาน Driver
ปุ่มกดทั้งหมดเป็นแบบ MX Cherry Blue Switch สุดยอดคีย์แคปสำหรับ Mechanical Keyboard ที่เหล่าเกมเมอร์ต้องการ โดยจะมีเฉพาะคีย์บอร์ดในระดับกลางจนถึงไฮเอนด์ขึ้นไป โดยปุ่มกดให้สัมผัสที่ค่อนข้างแข็งตามแบบ Blue Switch โดยใช้น้ำหนักในการกด 50 กรัม ซึ่งปุ่ม Switch เป็นแบบสองจังหวะให้เสียง “คลิก” เมื่อกดลงไปจังหวะแรก หากพิมพ์ไวๆจะรู้สึกมันส์มือเป็นอย่างมาก แต่อาจจะหนวกหูคนรอบข้างได้
Driver
Driver ของ G.skill Ripjaws KM780 RGB ไม่ได้ถูกแถมมาพร้อมกับตัวกล่องเป็นแผ่น DVD เหมือนกับแบรนด์อื่น ๆ แต่สามารถหาโหลดได้จากเว็บไซต์ gskill.com ถึงงแม้คอมพิวเตอร์ที่ไม่มี DVD-Rom ก็ยังสามารถใช้งานได้
นี่คือหน้าจอแรกเมื่อเปิดใช้งาน Driver จะประกอบด้วย 5 เมนูหลักได้แก่ Macro, Lighting Profile, Customize, Setting และ Lighting
เมนู Macroo สามารถบันทึกมาโครได้ที่ปุ่ม + และทำการกด Record เพื่อบันทึก และสามารถบันทึก Text ได้เช่นโดยการเลือกที่แท็บ Text และกดปุุ่ม + เพื่อบันทึกข้อความ
Lighting Profile สามารถปรับตั้งค่าแสงไฟและบันทึกไว้ล่วงหน้า เพื่อให้สามารถปรับแต่งแสงไฟได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังสามารถสร้างโปรไฟล์แสงได้อย่างหลากหลาย
Customize เมนูที่จะช่วยในการปรับแต่งทุกคีย์ให้เป็นไปตามที่เราต้อการ เพียแค่คลิกบนคีย์ที่คุณต้องการเปลี่ยนไม่ว่าจจะเป้น G1-G6 หรือปุ่มอื่น ๆ หลัจากนั้นสามารถเลือกคำสั่งคีย์ที่ต้องการเปลี่ยนได้
คำสั่งคีย์ที่สามารถเปลี่ยนได้มีหลายเมนูดังภาพซึ่งจะมีเมนูย่อยที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละคำสั่ง โดยสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานคีย์ต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดายไม่ซับซ้อน
Setting หรือเมนูการตั้งค่าโดยสามารถปรับแต่งการทำงานของคีย์บอร์ดได้อย่างหลากหลายไม่ว่าจะเป็น Polling Rate, Timer, Repeat Rate, Repeat Delay และ Sleep แต่ในส่วนอง N-Key ไม่สามรถเปลี่ยนแปลงได้
Lighting เมนูการปรับแต่งแสงไฟซึ่งสามารถเลือกแสงไฟได้หลายหลายโหมด รวมถึงสีของไฟก็สามารถดึงจาก Profile ที่เราตั้งค่าไว้มาใช้งานได้เช่นกัน
Value and Conclusion
จากการที่ได้ทำการทดลองใช้งาน G.skill Ripjaws KM780 RGB ทั้งการเล่นเกมและใช้พิมพ์บทความพบว่า สามารถใช้งานได้อย่างลื่นไหลในทุก ๆ การใช้งาน แต่ถ้าหากเป็นการเล่นเกมแล้ว ให้เปลี่ยนปุุ่มกดมาใช้เป็น Key Cap Gaming จะสามารถตอบสนองการใช้งานได้ดีกว่า ด้วยตัวปุ่ม WASD เองถูกออกแบบมาให้รองรับเข้ากับสรีระนิ้วมือ ซึ่งจะเหมาะกับเกมแนว FPS เป็นอย่างมาก หรือเกมอื่น ๆ ที่ใช้ WASD เป็นหลัก แต่ถ้าหากเป็นเกมที่ไม่ได้เน้นการใช้งาน WASD สามารถนำ Key Cap Gaming ไปใส่แทนที่ปุ่ม Arrow key ก็ได้ ซึ่งสัมผัสปุ่มกด MX Cherry Blue Switch ทุก ๆ ปุ่มตอบสนองได้อย่างดีเยี่ยมไม่มีปุ่มเบิ้ลหรืออาการหลอนกดไม่ติดมาให้เห็นแต่อย่างใด รวมถึงเสียงอันแสนไพเราะเสนาะหูที่เหล่าเกมมิ่งชอบ แต่อาจจะหนวกหูไปบ้างสำหรับคนอื่น
ส่วนฟังก์ชันการทำงานอื่น ๆ ในส่วนของการตั้งปุ่ม Macro G1-G6 ถ้าหากใช้ให้ชินแล้วจะสามารถซับพอร์ตการใช้งงานได้อย่างหลากหลาย โดยสามารถตั้งโปรไฟล์ได้ 3 แบบด้วยกัน เช่นโปรไฟล์แรกอาจจะตั้งไว้เป็นเกม MOBA คีย์สกิลเฉพาะสำหรับฮีโร่ที่เราชอบเล่น โปรไฟล์ที่สองตั้งไว้เป็น Text ข้อความสำหรับโต้ตอบในเกม FPS โปรไฟล์ที่สามตั้งไว้เป็นการร่ายสกิล Buff ในเกมแนว MMORPG ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับผู้ใช้งานว่าจะต้องค่า Macro และ Profile ไว้เป็นแบบไหน ซึ่งก็สามารถตั้งค่าได้อย่างไร้ขีดจำกัด ส่วนแสงไฟก็สามารถตั้งเป็นแบบที่เราชอบได้เช่นกัน อีกทั้งปรับลดความสว่างได้ถึง 3 ระดับช่วยให้แสงจากคีย์บอร์ดไม่แยงตามากจนเกินไป ส่วนปัญหาคีย์ภาษาอังกฤษ ถ้าหากพิมพ์สัมผัสได้คงไม่มีปัญหาอะไร หรือหาปุ่มคีย์ภาษาไทยสำหรับ MX Cherry มาเปลี่ยนก็ได้เช่นกัน
โดยรวมแล้วถือว่าเป็นคีย์บอร์ดที่ตอบสนองทุกการทำงานได้อย่างดีเยี่ยม ได้ทั้งดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม และทำงาน อีกทั้งยังมีความสวยงามที่สามารถปรับแต่งให้โดนใจได้อย่างหลากหลายรูปแบบไร้ขีดจำกัด รวมถึง Design การออกแบบโดยรวมทั้งตัวคีย์บอร์ดกับอุปกรณ์เสริมที่เน้นความสวยงาม และการใช้งานเป็นหลัก แข็งแรงทนทานบอดี้ผลิตจากวัสดุแข็งแรงทนทาน สมกับคีย์บอร์ดระดับ Hi-End ด้วยราคาประมาณ 6,xxx บาท
ข้อดี
- รองรับการใช้งานที่หลายหลาก ดูหนังง ฟังเพลง เล่นเกม ทำงาน ก็สามารถทำได้อย่างยอดเยี่ยม
- มาโคร G1-G6 และ 3โปรไฟล์ ช่วยให้สามารถตั้งงค่าได้อย่างหลากหลายรองรับทุกการใช้งาน
- ไฟ RGB ที่สามารถปรับแต่งได้อย่างไร้ขีดจำกัด
- ซอฟแวร์สามารถปรับแต่งการใช้งานได้อย่างครอบคลุมทุกความต้องการของผู้ใช้
- วัสดุโลหะช่วยให้แข็งแรงทนทานรวมถึงมีผิวสัมผัสที่ยอดเยี่ยม
- ออกแบบมาอย่างสวยงามตามสมัยนิยมแต่ยัคงเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร
- 10 Key Cap Gaming สามารถสับเปลี่ยนเพื่อตอบสนองการเล่นเกมที่ดียิ่งขึ้น
ข้อสังเกต
- ซอฟแวร์ค่อนข้างใช้งานยากสำหรับผู้ใช้งานเป็นครั้งแรก
- ไม่เหมาะสำหรับ Notebook
- Package ภายในดูธรรมดาไปสักเล็กน้อย
Packaging
G.Skill Ripjaws KM780 RGB เริ่มกันในส่วนของ Packaging ที่จะมาพร้อมกับกล่องสี่เหลี่ยมตจตุรัสยาว ๆ เรียบ ๆ ไม่มีอะไรหวือหวามากมายนัก โดยหน้าตัวกล่องจะเน้นในภาพตัวผลิตภัณฑ์เป็นหลัก และฟีเจอร์ยิบย่อยด้านล่างกล่อง อาทิ Cherry MX, Anti-Ghosting, Media Control Panel, และอื่น ๆ อีกมากมาย พร้อมสติ๊กเกอร์บอกชนิดของ Switch ส่วนมุมขวาบนของกล่อง ในส่วนรอบข้างกล่องมีการระบุชื่อรุ่น G.Skill Ripjaws KM780 Keyboard MX Cherry และรายละเอียดของ Technical, System Requirement, และ Package Content
ส่วนด้านหลังกล่องเน้นในส่วนการอธิบายองค์ประกอบต่าง ๆ ของตัวคีย์บอร์ดครบทุกจุดเด่นที่เน้นการใช้งานหลัก ๆ ของคีย์บอร์ดครอบ รวมถึงดีเทลคำอธิบายฟีเจอร์แบบละเอียด 10 ภาษา ยกเว้นภาษาไทยอีกเช่นเคย ส่วนตัวกล่องเป็นกล่องแบบ 2 ชั้น ชั้นนอกเป็นกล่องกระดาษแข็งสกรีนลายสวยงาม ส่วนด้านในเป็นกล่องกระดาษลูกฟูกเสริมความแข็งแรงให้กับกล่องโดยรวม เมื่อเปิดกล่องชั้นในออก ก็จะเจอคีย์ตัวบอร์ดทันทีซึ่งถูกแพ็คมาอย่างเรียบง่ายไม่หวือหวามากนัก โดยดึงความสนใจไปที่ตัวคีย์บอร์ดและบันเดิ้ลที่แถมมาเป็นหลัก
Closer Examination
สิ่งถูกบรรจุอยู่ภายในกล่องมีทั้งหมด 4 อย่าง ได้แก่ คีย์บอร์ด, Warranty Guide, กล่องใส่ Key-Cap และ แท่นรองข้อมือ ทั้งนี้ไม่รวมกับห่อพลาสติดและกระดาษลูกฟูกกันกระแทกที่อยู่ภายในกล่อง โดยบันเดิ้ลหลัก ๆ ตัวแรกที่น่าสนใจคือ กล่องใส่คีย์แคปที่ถูกออกแบบมาให้มีตะขอเกี่ยวสามารถเกี่ยวเข้ากับตัวคีย์บอร์ดได้ เสริมความเท่ให้กับคีย์บอร์ด และสะดวกในการถอดเปลี่ยนคีย์ได้อย่างรวดเร็ว โดยภายในกล่องจะประกอบไปด้วยคีย์แคปเกมมิ่งสีแดง 10 ตัว Q,W,E,R,A,S,D,F,G,C และที่ดึงคีย์ ซึ่งตัวคีย์ W,A,S,D ถูกออกแบบมาให่มีส่วนโค้งรับเข้ากับการวางนิ้วมือเพื่อรองรับการเล่นเกม
อีกหนึ่งบันเดิลก็คือแท่นรองข้อมือวัสดุ ABS Plastic Rubber Texture โดยมีการออกแบบให้เข้ากับสรีระข้อมือ เพื่อให้ถูกหลักการวางข้อมือที่ถูกต้อง ช่วยให้สามารถใช้งานพิมพ์หรือเล่นเกมได้สบายมือมากยิ่งขึ้น และน้ำหนักไม่กดทับที่ข้อมือจุดเดียวมากจนเกินไปป้องกันข้อมือได้ได้อย่างดีอีกด้วย ตัวแท่นรองข้อมือถูกออกแบบมาให้สามารถถอดเข้าออกได้อย่างง่ายดาย แต่ยึดติดแน่นไม่มีสั่นคลอน อีกทั้งยังออกแบบมาให้หลุดออกเองโดยอัตโนมัติหากถูกหักลงเกิน 75 องศาเพื่อป้องกันเขี้ยวล๊อกหัก
ต่อมาในส่วนของคีย์บอร์ดถูกออกแบบมาให้แตกต่างจากคีย์บอร์ดเกมมิ่งทั่วไป ที่เน้นความ Minimal ปุ่มลอยฐานเล็ก ๆเน้นแสงสีเป็นหลัก แต่ G.Skill Ripjaws KM780 RGB ถูกออกแบบมาโดยผสมผสานความ Minimal เข้ากับ Extreme Gaming โดยเป็นคีย์บอร์ดปุ่มลอยเน้นแสงสี RGB แบบสมัยนิยม แต่มีการ Design เพิ่ม Chassis โลหะลักษณะเป็น Pipe รอบตัวคีย์บอร์ดเสริมความโดดเด่น และยังช่วยในเรื่องของความแข็งแรงอีกด้วย โดยจุดที่ยึด Chassis เข้ากับตัวคีย์บอร์ดถูกออกแบบให้มีลักษณะเป็นแฟริ่งยื่นออกมายึดกับ Chassis ทั้งด้านล่างและด้านข้าง โดยด้านข้างมีลักษณะคล้ายปีกและมีโลโก้ G.skill ที่ฝั่งซ้าย โดยตัวคีย์บอร์ดผลิตจากวัสดุ Aluminum Black Anodized ในส่วนด้านบน แต่ส่วนอื่น ๆ ผลิตจาก ABS Plastic ทั้งหมด
ส่วนสายไฟของตัวคีย์บอร์ดเป็นสายถักเส้นโต แข็งแรงทนทานไม่ต้องกลัวขาดใน ความยาวโดยรวมสองเมตร ปลายสายแยกออกมาเป็น 4 เส้นได้แกj USB แบบ Gold Plated สองเส้น และ 3.5 Audio Mic&Headphone แบบ Gold Plated ด้านหลังคีย์บอร์ดยังมีพอร์ตสำหรับเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ ได้โดยมี USB 2.0 หนึ่งพอร์ต และ 3.5 Audio Mic&Headphone พร้อม Foldable Cable Holder สำหรับจัดเก็บสายไฟให้เป็นระเบียบ สามารถพับเก็บได้หากไม่ใช้งาน
ในส่วของ Special Key Feature ทั้งหลายที่G.Skill บรรจงใส่เข้าบน KM780 RGB มี 3 ส่วนด้วยกัน ในส่วนแรกที่โดดเด่นที่สุดคือ Multimedia Control Panel ที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ควบคุบการใช้งานมัลติมีเดียบน Windows ไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง ฟังเพลงก็สามารถควบคุมการเล่นสื่อได้ผ่านทางคีย์บอร์ดอย่างง่ายดาย โดยจะมีปุ่มที่ให้มาคือ Stop, Back, Play/Pause, Next, Mute และที่โดดเด่นคือ Volume ถูกออกแบบมาให้เป็น Scroll หมุนขึ้นหมุนลงเพิ่มลด Volume ได้ โดยจะแสดงความดังเสียงผ่านทาง LED Volume Display ด้านล่าง อีกสองส่วนทางฝั่งขวาคือปุ่ม Macro Key 6 ปุ่ม G1-G6 และในส่วนด้านบนคือปุ่ม MR (Macro Recording) และ M1-M3 (Profile Select) ซึ่งจะอธิบายควบคู่ไปกับการใช้งาน Driver
ปุ่มกดทั้งหมดเป็นแบบ MX Cherry Blue Switch สุดยอดคีย์แคปสำหรับ Mechanical Keyboard ที่เหล่าเกมเมอร์ต้องการ โดยจะมีเฉพาะคีย์บอร์ดในระดับกลางจนถึงไฮเอนด์ขึ้นไป โดยปุ่มกดให้สัมผัสที่ค่อนข้างแข็งตามแบบ Blue Switch โดยใช้น้ำหนักในการกด 50 กรัม ซึ่งปุ่ม Switch เป็นแบบสองจังหวะให้เสียง “คลิก” เมื่อกดลงไปจังหวะแรก หากพิมพ์ไวๆจะรู้สึกมันส์มือเป็นอย่างมาก แต่อาจจะหนวกหูคนรอบข้างได้
Driver
Driver ของ G.skill Ripjaws KM780 RGB ไม่ได้ถูกแถมมาพร้อมกับตัวกล่องเป็นแผ่น DVD เหมือนกับแบรนด์อื่น ๆ แต่สามารถหาโหลดได้จากเว็บไซต์ gskill.com ถึงงแม้คอมพิวเตอร์ที่ไม่มี DVD-Rom ก็ยังสามารถใช้งานได้
นี่คือหน้าจอแรกเมื่อเปิดใช้งาน Driver จะประกอบด้วย 5 เมนูหลักได้แก่ Macro, Lighting Profile, Customize, Setting และ Lighting
เมนู Macroo สามารถบันทึกมาโครได้ที่ปุ่ม + และทำการกด Record เพื่อบันทึก และสามารถบันทึก Text ได้เช่นโดยการเลือกที่แท็บ Text และกดปุุ่ม + เพื่อบันทึกข้อความ
Lighting Profile สามารถปรับตั้งค่าแสงไฟและบันทึกไว้ล่วงหน้า เพื่อให้สามารถปรับแต่งแสงไฟได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังสามารถสร้างโปรไฟล์แสงได้อย่างหลากหลาย
Customize เมนูที่จะช่วยในการปรับแต่งทุกคีย์ให้เป็นไปตามที่เราต้อการ เพียแค่คลิกบนคีย์ที่คุณต้องการเปลี่ยนไม่ว่าจจะเป้น G1-G6 หรือปุ่มอื่น ๆ หลัจากนั้นสามารถเลือกคำสั่งคีย์ที่ต้องการเปลี่ยนได้
คำสั่งคีย์ที่สามารถเปลี่ยนได้มีหลายเมนูดังภาพซึ่งจะมีเมนูย่อยที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละคำสั่ง โดยสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานคีย์ต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดายไม่ซับซ้อน
Setting หรือเมนูการตั้งค่าโดยสามารถปรับแต่งการทำงานของคีย์บอร์ดได้อย่างหลากหลายไม่ว่าจะเป็น Polling Rate, Timer, Repeat Rate, Repeat Delay และ Sleep แต่ในส่วนอง N-Key ไม่สามรถเปลี่ยนแปลงได้
Lighting เมนูการปรับแต่งแสงไฟซึ่งสามารถเลือกแสงไฟได้หลายหลายโหมด รวมถึงสีของไฟก็สามารถดึงจาก Profile ที่เราตั้งค่าไว้มาใช้งานได้เช่นกัน
Value and Conclusion
จากการที่ได้ทำการทดลองใช้งาน G.skill Ripjaws KM780 RGB ทั้งการเล่นเกมและใช้พิมพ์บทความพบว่า สามารถใช้งานได้อย่างลื่นไหลในทุก ๆ การใช้งาน แต่ถ้าหากเป็นการเล่นเกมแล้ว ให้เปลี่ยนปุุ่มกดมาใช้เป็น Key Cap Gaming จะสามารถตอบสนองการใช้งานได้ดีกว่า ด้วยตัวปุ่ม WASD เองถูกออกแบบมาให้รองรับเข้ากับสรีระนิ้วมือ ซึ่งจะเหมาะกับเกมแนว FPS เป็นอย่างมาก หรือเกมอื่น ๆ ที่ใช้ WASD เป็นหลัก แต่ถ้าหากเป็นเกมที่ไม่ได้เน้นการใช้งาน WASD สามารถนำ Key Cap Gaming ไปใส่แทนที่ปุ่ม Arrow key ก็ได้ ซึ่งสัมผัสปุ่มกด MX Cherry Blue Switch ทุก ๆ ปุ่มตอบสนองได้อย่างดีเยี่ยมไม่มีปุ่มเบิ้ลหรืออาการหลอนกดไม่ติดมาให้เห็นแต่อย่างใด รวมถึงเสียงอันแสนไพเราะเสนาะหูที่เหล่าเกมมิ่งชอบ แต่อาจจะหนวกหูไปบ้างสำหรับคนอื่น
ส่วนฟังก์ชันการทำงานอื่น ๆ ในส่วนของการตั้งปุ่ม Macro G1-G6 ถ้าหากใช้ให้ชินแล้วจะสามารถซับพอร์ตการใช้งงานได้อย่างหลากหลาย โดยสามารถตั้งโปรไฟล์ได้ 3 แบบด้วยกัน เช่นโปรไฟล์แรกอาจจะตั้งไว้เป็นเกม MOBA คีย์สกิลเฉพาะสำหรับฮีโร่ที่เราชอบเล่น โปรไฟล์ที่สองตั้งไว้เป็น Text ข้อความสำหรับโต้ตอบในเกม FPS โปรไฟล์ที่สามตั้งไว้เป็นการร่ายสกิล Buff ในเกมแนว MMORPG ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับผู้ใช้งานว่าจะต้องค่า Macro และ Profile ไว้เป็นแบบไหน ซึ่งก็สามารถตั้งค่าได้อย่างไร้ขีดจำกัด ส่วนแสงไฟก็สามารถตั้งเป็นแบบที่เราชอบได้เช่นกัน อีกทั้งปรับลดความสว่างได้ถึง 3 ระดับช่วยให้แสงจากคีย์บอร์ดไม่แยงตามากจนเกินไป ส่วนปัญหาคีย์ภาษาอังกฤษ ถ้าหากพิมพ์สัมผัสได้คงไม่มีปัญหาอะไร หรือหาปุ่มคีย์ภาษาไทยสำหรับ MX Cherry มาเปลี่ยนก็ได้เช่นกัน
โดยรวมแล้วถือว่าเป็นคีย์บอร์ดที่ตอบสนองทุกการทำงานได้อย่างดีเยี่ยม ได้ทั้งดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม และทำงาน อีกทั้งยังมีความสวยงามที่สามารถปรับแต่งให้โดนใจได้อย่างหลากหลายรูปแบบไร้ขีดจำกัด รวมถึง Design การออกแบบโดยรวมทั้งตัวคีย์บอร์ดกับอุปกรณ์เสริมที่เน้นความสวยงาม และการใช้งานเป็นหลัก แข็งแรงทนทานบอดี้ผลิตจากวัสดุแข็งแรงทนทาน สมกับคีย์บอร์ดระดับ Hi-End ด้วยราคาประมาณ 6,xxx บาท
ข้อดี
- รองรับการใช้งานที่หลายหลาก ดูหนังง ฟังเพลง เล่นเกม ทำงาน ก็สามารถทำได้อย่างยอดเยี่ยม
- มาโคร G1-G6 และ 3โปรไฟล์ ช่วยให้สามารถตั้งงค่าได้อย่างหลากหลายรองรับทุกการใช้งาน
- ไฟ RGB ที่สามารถปรับแต่งได้อย่างไร้ขีดจำกัด
- ซอฟแวร์สามารถปรับแต่งการใช้งานได้อย่างครอบคลุมทุกความต้องการของผู้ใช้
- วัสดุโลหะช่วยให้แข็งแรงทนทานรวมถึงมีผิวสัมผัสที่ยอดเยี่ยม
- ออกแบบมาอย่างสวยงามตามสมัยนิยมแต่ยัคงเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร
- 10 Key Cap Gaming สามารถสับเปลี่ยนเพื่อตอบสนองการเล่นเกมที่ดียิ่งขึ้น
ข้อสังเกต
- ซอฟแวร์ค่อนข้างใช้งานยากสำหรับผู้ใช้งานเป็นครั้งแรก
- ไม่เหมาะสำหรับ Notebook
- Package ภายในดูธรรมดาไปสักเล็กน้อย