วันนี้ทีมงานขอพาไปพบกับอีกหนึ่งโน๊ตบุ๊คที่น่าสนใจด้วยความบางเบาพิเศษ พร้อมวัสดุตัวเครื่องที่ช่วยเสริมความทนทาน และยังช่วยให้ตัวเครื่องดูสวยงามไม่เหมือนใคร เป็นอีกหนึ่ง Ultrabook สำหรับคนทำงาน พกพาไปใช้งานภายนอกได้อย่างสะดวกและยังสะดุดทุกสายตา พร้อมสเปคสดใหม่ล่าสุดด้วย Core i7 Gen 7 จอภาพระดับ 3K ฮาร์ดดิสก์ความเร็วสูง SSD NVMe ทั้งหมดนี้อยู่ในเครื่องเล็กๆ กับ HP Envy 13 (2017)
สำหรับ HP Envy 13 (2017) ถือว่าเป็น Ultrabook หน้าจอ 13.3″ ที่มีน้ำหนักตัวที่เบามากๆ แถมตัวเครื่องยังบางสุดๆ โดยสามารถถือได้ด้วยมือเดียวอย่างสบายๆ ด้วยน้ำหนักเพียง 1.42 กิโลกรัมเท่านั้น ส่วนความบางมีเพียง 13.9 มิลลิเมตร เหมาะกับการพกพาเป็นอย่างยิ่งอีกหนึ่งฟีเจอร์เด็ดคือ HP Fast Charge ที่สามารถชาร์ตแบตถึง 90% ในเวลาเพียง 90 นาที สนนราคาเริ่มต้นที่ 32,900 – 45,900 บาท
VDO Review
Specification
สเปกตัวทีมงานได้รับมารีวิวเป็นตัวท็อปราคา 45,900 บาท ซีพียูเป็นตัว Intel Kaby Lake รุ่นล่าสุด ในรุ่น Intel Core i7-7500U ที่มีความเร็วสูงสุดถึง 2.9 GHz ส่วนการ์ดจอก็แน่นอนว่าต้องเป็น Intel HD Graphics 620 แรมก็ให้มา 8GB DDR3L เป็นแบบฝังติดบอร์ด ในส่วน SSD ได้อัพเกรดมาใช้แบบ PCIe NVMe ที่ให้ความเร็วสูงกว่า SSD ทั่วไป พร้อมความจุสูงถึง 512GB มาพร้อมกับจอขนาด 13.3 นิ้ว พาเนล IPS ความละเอียด 3200 x 1800 พิกเซล ซึ่งถือว่าเป็นความละเอียดที่สูงมากในโน๊ตบุ๊คขนาดจอภาพเดียวกัน แถมตัวคีย์บอร์ดยังมีไฟ LED Backlit มาให้ด้วย ที่สำคัญยังบางเฉียบและเบาเพียง 1.42 กิโลกรัมเท่านั้น จัดเต็มสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานหนักและยังพกพาสะดวกอีกด้วย
ระบบปฏิบัติการ Windows 10 Pro ลิขสิทธิ์ พอร์ตการเชื่อมต่อที่ครบครัน ประกันแบบ On-Site Service ให้เป็นระยะเวลา 2 ปีด้วยกัน และอีกหนึ่งฟีเจอร์เด็ดคือ HP Fast Charge ที่สามารถชาร์ตแบตถึง 90% ในเวลาเพียง 90 นาที ส่วนรุ่นล่างจะเป็น Core i7-7200U มาพร้อมแรม 4GB SSD 256GB ในราคา 32,900 บาท
HP Envy 13 (2017) : Core i5/RAM 4GB/SSD 256GB ราคา 32,900 บาท
HP Envy 13 (2017) : Core i7/RAM 8GB/SSD 512GB ราคา 45,900 บาท
Hardware / Design
การดีไซน์การออกแบบ HP Envy 13 (2017) ปรับปรุงขึ้นมาจากรุ่นปีก่อนพอสมควร แต่ก็ยังคงเอกลักษณ์ที่ดีไว้ไม่ว่าจะเป็น ขนาดหน้าจอ 13.3 นิ้ว ที่พกพาสะดวกและใช้งานได้ถนัด บางเบา ดูเล็ก กะทัดรัด เหมาะกับการพกพา ส่วนของบอดี้ จะใช้เป็นอลูมิเนียมคุณภาพสูงเป็นส่วนประกอบหลัก ทำให้ได้ข้อดีมาก็คือทั้งความแข็งแรงและน้ำหนักที่เบา รวมไปถึงดูหรูหรามีราคา ที่สำคัญก็คือในส่วนของดีไซน์การเปิดตัวหน้าจอและคีย์บอร์ดที่จะทำมุมอย่างเหมาะสมเวลาเปิด ทำให้ด้านหลังตัวเครื่องนูนขึ้นมาพิมพ์ใช้งานได้อย่างสะดวก พร้อมเล่นการออกแบบที่ขอบจอด้านล่างพร้อมชื่อรุ่น Envy ช่วยเพิ่มความหรูหราสวยงามขึ้นไปอีก ด้านหลังจะเป็น Logo HP แบบใหม่สำหรับกลุ่มสินค้า Hi End เท่านั้น การันตีได้ถึงความหรูหรา
ตัวเครื่องมีการออกแบบโดยรวมให้ดูทันสมัยและเรียบง่าย ที่มุมตัวเครื่องจะทำให้เป็นแบบโค้งมน แต่ว่าไม่ได้มนมากจนเกินไป ตัวเครื่องทั้งหมดใช้เป็นวัสดุอลูมิเนียมแบบ Unibody ไร้รอยต่อ ทำให้เครื่องมีความสวยงามและทนทานกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป และด้วยการใช้ผิวแบบด้านทำให้เป็นรอยนิ้วมือได้ยากในระดับนึง เรียกได้ว่า HP ใส่ใจทุกรายละเอียดการออกแบบมาเป็นอย่างดี สมกับเป็นโน๊ตบุ๊คคนทำงานที่เน้นความหรูหราสวยงามที่มาพร้อมกับการพกพาด้วย
ในส่วนของยางรองใต้ตัวเครื่อง เป็นแถมยาวขนาดใหญ่รูปตัว U ช่วยให้วางเครื่องจับถือได้อย่างมั่นคง พร้อมกับมีช่องระบายอากาศอยู่เป็นแนวยาวช่วยในการระบายความร้อน ผ่านช่องระบายความร้อนด้านหลังของตัวเครื่อง
Keyboard / Touchpad
ส่วนของคีย์บอร์ดนั้นตัวปุ่มเป็นพลาสติกสีเงินเข้ากับตัวเครื่อง โดยสกรีนตัวอักษรเป็นสีขาว อีกทั้งได้รับการปรับดีไซน์ใหม่ให้แต่ละปุ่มมีระยะห่างกัน 1.2 มิลลิเมตรทำให้สามารถพิมพ์ได้ง่ายขึ้น แต่สำหรับคนที่นิ้วเล็กนิ้วใหญ่สามารถใช้งานได้สะดวกทั้งหมด ในส่วนของไฟ LED Backlit ก็สามารถใช้งานได้ดีทีเดียว โดยมีระบบการปรับระดับความสว่างอัตโนมัติตามสภาพแสงรอบข้างด้วย ส่วนปุ่มเปิดเครื่องจะไปอยู่ที่มุมซ้ายบนสีกลืนไปกับเครื่อง ซึ่งข้อดีก็คือมั่นใจได้ว่าจะไม่ไปเผลอกดระหว่างการใช้งานแน่นอน พร้อมมีไฟส่องสว่างให้เห็นสถานะ
ทัชแพดมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับขนาดตัวเครื่อง ส่วนดีไซน์นั้นก็ใช้เป็นแบบไม่มีปุ่มแยกออกมาเช่นเดียวกับ Ultrabook หลายๆ รุ่น การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ตัวซอฟต์แวร์ควบคุมก็ช่วยจัดการได้ดี โดยมีการจับความเคลื่อนไหวว่าผู้ใช้กำลังพิมพ์ข้อความอยู่หรือไม่ ซึ่งจะช่วยให้เคอร์เซอร์ไม่เลื่อนไปจากตำแหน่งเก่า ถ้าผู้ใช้เผลอนำมือไปโดนทัชแพดเข้า
Screen / Speaker
หน้าจอของ HP Envy 13 มีความละเอียดสูงมากถึง 3200 x 1800 พิกเซล (276 ppi) ที่มีคุณภาพระดับมืออาชีพ ส่งผลให้มีสีสันสวยสมจริง คมชัดในทุกมุมมอง แถมยังเรียบเนียนตาแบบที่ Ultrabook รุ่นทั่วไปไม่สามารถให้ได้ ซึ่งในการแสดงผลจริงๆ ตัว Windows 10 จะปรับ icon ตัวถึงการแสดงผลให้มีขนาดใหญ่ก่อนในเบื่องต้น เพื่อให้ไม่เล็กเกินไปเมื่อเทียบกับจอภาพ 13 นิ้ว ซึ่งถ้าอยากเพิ่มพื้นที่ใช้งานหรือต้องการ icon ที่มีขนาดเล็กลงก็ยังสามารถปรับได้ตามต้องการ และยังช่วยให้มีพื้นที่แสดงผลที่มากกว่าจอภาพทั่วไปอีกด้วย
ลำโพงสเตอรีโอนั้นอยู่บริเวณด้านซ้ายขวาขอบตัวเครื่อง พร้อมการเล่นลวดลายเพิ่มความสวยงาม แม้เครื่องจะตัวเล็กแต่ก็ให้ความดังของเสียงที่ดังดีมากไม่แพ้โน๊ตบุ๊คเครื่องใหญ่ๆ ส่วนในเรื่องคุณภาพเสียงต้องบอกว่าเป็นของ Bang & Olufsen ที่ไว้ใจได้ แต่ถ้าหากว่าคุณเป็นผู้ใช้งานทั่วไป คุณภาพเสียงที่ได้นั้น ก็ถือว่าดีเพียงพอแบบสบายๆ แล้ว สำหรับการดูหนังฟังเพลงต่างๆ เสียงคมชัด และยังปรับรูปแบบเสียงได้ตามต้องการอีกด้วย
Connector / Thin And Weight
พอร์ตของ HP Envy 13 แม้ตัวเครื่องจะบางเบาแต่ก็จัดว่าครบครันดีทีเดียวครับ เริ่มด้วยด้านซ้ายของเรา Kensington Lock ,Micro SD Card Reader ,USB Type-C และ ช่องต่อหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร
ด้านขวา จะมีพอร์ต USB 3.0 จำนวน 2 พอร์ต ,HDMI และช่อง Adapter ซึ่งมาพร้อมHP Fast Charge ที่สามารถชาร์ตแบตถึง 90% ในเวลาเพียง 90 นาที
Performance / Software
ก่อนอื่นขอแนะนำโปรแกรม HP Bang & Olufsen Audio นอกจากการปรับรูปแบบเสียงแล้วยังสามารถเซ็ตไมค์ในตัวเครื่องให้รับเสียงเฉพาะคนเดียวหน้าเครื่อง หรือเสียงข้างๆด้วย ปรับได้มากพอสมควรเลยครับ
HP Envy 13 (2017) เครื่องที่ทีมงานได้มาทดสอบนี้เป็นตัวท๊อปล่าสุดที่มาพร้อมซีพียู intel kaby lake ด้วยซีพียู Intel Core i7-7500U จุดเด่นคือใช้พลังงานต่ำ ทำให้ใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนานขึ้น โดยสามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 2.9GHz นะครับ เป็นซีพียูแบบ 2 Core 4 Threads ที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลหนักก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือจะเล่นเกม online เบาๆก็ไม่มีปัญหา มาพร้อมแรมภายในขนาด 8GB พร้อมรองรับทุกการใช้งาน
การ์ดจอออนบอร์ดอย่าง Intel HD Graphics 620 ที่แม้จะไม่ใช่การ์ดจอแยก แต่ก็ให้พลังประมวลผลเพียงพอแล้วสำหรับการใช้งานทั่วไป ชมภาพยนตร์ Full HD หรือแม้กระทั่งความละเอียดสูงระดับ 4K ก็สามารถใช้งานได้อย่างไม่มีปัญหา สามารถทำงานร่วมกับจอ 3K ได้ดี และยังสามารถนำมาเล่นเกม Online หรือ Offline ที่ความละเอียดไม่สูงมากได้ด้วย อย่าง Overwatch สามารถเล่นได้ที่ความละเอียดกลางๆได้สบายๆเลย
โปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นการประมวลผลซีพียู คะแนนก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจ ใช้งานต่างๆได้อย่างดีแน่นอน
จุดเด่นอีกจุดหนึ่งของ HP Envy 13 (2017) นั่นก็คือฮาร์ดดิสค์ SSD แบบ PCIe ชนิด NVMe ที่ให้ประสิทธิภาพสูงกว่าฮาร์ดดิสค์ทั่วไปอย่างน้อย 2-3 เท่า ซื้งได้เลือกใช้ SSD จาก Samsung ในรุ่น MZVL512
มาถึงการทดสอบตัว SSD ให้ผลทดสอบที่น่าประทับใจอย่างมาก ถ้าเทียบกับ SSD ทั่วไปจะมีความเร็วการอ่านอยู่ที่ 500 MB/s แต่ SSD จาก Samsung ในรุ่น MZVL512 ใน HP Envy 13 (2017) ให้ความเร็วในการอ่านข้อมูลถึง 1,689 MB/s การันตีได้ถึงความเร็วแรงของฮาร์ดดิสค์ใน HP Envy 13 (2017)
Battery / Heat / Noise
ในส่วนของการใช้งานแบตเตอรี่ HP แนะนำว่าสามารถใช้งานได้นานสูงสุดถึง 14 ชั่วโมง ใช้งานตลอดวันสบายๆ โดยจากการทดสอบของทีมงานสามารถใช้งานได้ราวๆ 8-7 ชั่วโมง โดยใช้ความสว่างระดับปานกลาง และใช้งานทั่วๆไปพิมพ์งานเล่นเน็ต แม้จะไม่เท่าที่แนะนำไว้ แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่ใช้งานในเวลาทำงานสบายๆ อีกทั้ง HP Envy 13 (2017) ยังมาพร้อมฟังค์ชั่น HP Fast Charge ที่สามารถชาร์ตแบตถึง 90% ในเวลาเพียง 90 นาที ช่วยให้ไม่ต้องชาร์ตแบตเตอรี่นานๆอีกต่อไป
สุดท้ายทีมงานได้ทดสอบความร้อนของตัวเครื่อง HP Envy 13 (2017) จากการทดสอบาถ้าใช้งานหนักเช่นเล่นเกม หรือดูภาพยนตร์ความละเอียดสูง อุณหภูมิพุ่งขึ้นไปสูงสุด 90 องศาเลย แต่ส่วนใหญ่จะแกว่งอยู่ที่ราวๆ 70 องศา ด้วยตัวเครื่องที่บางเบา และช่องระบายความร้อนด้านหลังที่ถูกขอบจอบังทำให้มีความร้อนสะสมพอสมควร แต่กระนั่นแม้จะร้อนแต่ก็ไม่มีอาการดับหรือค้างแต่อย่างใด
Conclusion / Award
HP Envy 13 (2017) ให้ทั้งความหรูหราด้วยวัสดุที่เป็นอลูมิเนี่ยมชั้นดี และการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์สะดุดทุกสายตา งานประกอบตัวเครื่องที่เรียบเนียน ความบางเบาด้วยน้ำหนักเพียงโลนิดๆทำให้สามารถพกพาไปใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย บนจอภาพขนาด 13.3 นิ้ว ที่ความละเอียดระดับ 3K คมชัดใช้งานได้สะดวกยิ่งกว่า แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนาน พร้อมฟังค์ชั่นเพียบไม่ว่าจะเป็น ลำโพง Bang & Olusfen ,HP Fast Charge และ SSD ความเร็วสูง เริ่มต้นในราคา 32,900 บาท สำหรับ Core i5 และ 45,900 บาท สำหรับ Core i7 ในเครื่องทดสอบ
เมื่อเทียบสเปคและราคาแล้ว HP Envy 13 (2017) อาจจะดูสูง แต่อย่าลืมว่าตัวเครื่องเป็นอลูมิเนียมแบบ Unibody ตัวเครื่องที่เน้นการใช้งานสำหรับองค์กรที่ให้ความเชื่อถือที่สูงกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป แถมยังมีการรับประกันถึง 2 ปีอีกด้วย ที่สำคัญคือ On Site Service คือมารับมาส่งถึงบ้านเลย
แน่นอนว่าถ้าเพื่อนๆสนใจโน๊ตบุ๊คบางเบาสักเครื่องพกพาใช้งานได้อย่างสะดวก พร้อมความสวยงามหรูหราไม่เหมือนใคร และสเปคที่เรียกได้ว่าสูงสุดของ Ultrabook ในวันนี้ใช้งานต่างๆได้อย่างเต็มที่ไม่แพ้โน๊ตบุ๊คเครื่องใหญ่ HP Envy 13 (2017) เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่เพื่อนๆมองข้ามไปไม่ได้เลย
จุดเด่น
- เป็น Ultrabook หน้าจอ 13.3 นิ้ว ที่มีความบางและเบาพิเศษ
- หน้าจอมีความละเอียดสูงระดับ 3200 x 1800 พิกเซล UltraSharp QHD+
- วัสดุแข็งแรงทนทาน ดูสสวยหรู ด้วยอลูมิเนียมทั้งชิ้น
- ประสิทธิภาพดีด้วยชิปประมวลผล Intel รุ่นล่าสุด
- SSD แบบ NVMe ที่ให้ความเร็วสูง
- ราคาต่อสเปกที่ความคุ้มค่า เริ่มต้นเพียง 32,900 บาท
- แบตเตอรี่อึดพร้อม HP Fast Charge
- ประกันถึง 2 ปี มาพร้อม On-Site Service มาตรฐาน HP
ข้อสังเกตุ
- ราคาสูงกว่า Ultrabook ทั่วไป
- ตัวเครื่องมีความร้อนสูงเวลาใช้งานหนัก
- ขอบด้านล่างจอเป็นรอยได้ง่ายมาก
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 13.3 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง HP Envy 13 (2017) ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Design
ด้วยรูปร่างหน้าตาของ HP Envy 13 (2017) ที่สวยงามโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ลงตัวทั้งการพกพาและความสวยงาม
Best Mobility
HP Envy 13 (2017) ด้วยความบางเบาเป็นพิเศษที่ช่วยให้สามารถพกพาไปใช้งานภายนอกได้อย่างสะดวก น้ำหนักไม่ถึง 1.5 กิโลกรัม อีกทั้งยังให้ประสิทธิภาพสูงไม่แพ้โน๊ตบุ๊คทั่วไป
Best Technology
HP Envy 13 (2017) มาพร้อมเทคโนโลยีน่าสนใจเพียบไม่ว่าจะเป็น ซีพียูตัวล่าสุด Intel Core i Gen 7 ฮาร์ดดิสก์แบบ SSD PCIe NVMe จอภาพความละเอียดถึง 3K และ HP Fast Charge
Best Ultrabook
ทีมงานขอจัด HP Envy 13 (2017) เป็นอีกหนึ่งสุดยอด Ultrabook ตัวแรกของปี 2017 เลย นอกจากความบางเบาแล้ว ยังมาพร้อมวัสดุที่แข็งแรงหรูหราสวยงาม พร้อมประสิทธิภาพสูงด้วยสเปคใหม่ล่าสุด
VDO Review
Specification
สเปกตัวทีมงานได้รับมารีวิวเป็นตัวท็อปราคา 45,900 บาท ซีพียูเป็นตัว Intel Kaby Lake รุ่นล่าสุด ในรุ่น Intel Core i7-7500U ที่มีความเร็วสูงสุดถึง 2.9 GHz ส่วนการ์ดจอก็แน่นอนว่าต้องเป็น Intel HD Graphics 620 แรมก็ให้มา 8GB DDR3L เป็นแบบฝังติดบอร์ด ในส่วน SSD ได้อัพเกรดมาใช้แบบ PCIe NVMe ที่ให้ความเร็วสูงกว่า SSD ทั่วไป พร้อมความจุสูงถึง 512GB มาพร้อมกับจอขนาด 13.3 นิ้ว พาเนล IPS ความละเอียด 3200 x 1800 พิกเซล ซึ่งถือว่าเป็นความละเอียดที่สูงมากในโน๊ตบุ๊คขนาดจอภาพเดียวกัน แถมตัวคีย์บอร์ดยังมีไฟ LED Backlit มาให้ด้วย ที่สำคัญยังบางเฉียบและเบาเพียง 1.42 กิโลกรัมเท่านั้น จัดเต็มสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานหนักและยังพกพาสะดวกอีกด้วย
ระบบปฏิบัติการ Windows 10 Pro ลิขสิทธิ์ พอร์ตการเชื่อมต่อที่ครบครัน ประกันแบบ On-Site Service ให้เป็นระยะเวลา 2 ปีด้วยกัน และอีกหนึ่งฟีเจอร์เด็ดคือ HP Fast Charge ที่สามารถชาร์ตแบตถึง 90% ในเวลาเพียง 90 นาที ส่วนรุ่นล่างจะเป็น Core i7-7200U มาพร้อมแรม 4GB SSD 256GB ในราคา 32,900 บาท
HP Envy 13 (2017) : Core i5/RAM 4GB/SSD 256GB ราคา 32,900 บาท
HP Envy 13 (2017) : Core i7/RAM 8GB/SSD 512GB ราคา 45,900 บาท
Hardware / Design
การดีไซน์การออกแบบ HP Envy 13 (2017) ปรับปรุงขึ้นมาจากรุ่นปีก่อนพอสมควร แต่ก็ยังคงเอกลักษณ์ที่ดีไว้ไม่ว่าจะเป็น ขนาดหน้าจอ 13.3 นิ้ว ที่พกพาสะดวกและใช้งานได้ถนัด บางเบา ดูเล็ก กะทัดรัด เหมาะกับการพกพา ส่วนของบอดี้ จะใช้เป็นอลูมิเนียมคุณภาพสูงเป็นส่วนประกอบหลัก ทำให้ได้ข้อดีมาก็คือทั้งความแข็งแรงและน้ำหนักที่เบา รวมไปถึงดูหรูหรามีราคา ที่สำคัญก็คือในส่วนของดีไซน์การเปิดตัวหน้าจอและคีย์บอร์ดที่จะทำมุมอย่างเหมาะสมเวลาเปิด ทำให้ด้านหลังตัวเครื่องนูนขึ้นมาพิมพ์ใช้งานได้อย่างสะดวก พร้อมเล่นการออกแบบที่ขอบจอด้านล่างพร้อมชื่อรุ่น Envy ช่วยเพิ่มความหรูหราสวยงามขึ้นไปอีก ด้านหลังจะเป็น Logo HP แบบใหม่สำหรับกลุ่มสินค้า Hi End เท่านั้น การันตีได้ถึงความหรูหรา
ตัวเครื่องมีการออกแบบโดยรวมให้ดูทันสมัยและเรียบง่าย ที่มุมตัวเครื่องจะทำให้เป็นแบบโค้งมน แต่ว่าไม่ได้มนมากจนเกินไป ตัวเครื่องทั้งหมดใช้เป็นวัสดุอลูมิเนียมแบบ Unibody ไร้รอยต่อ ทำให้เครื่องมีความสวยงามและทนทานกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป และด้วยการใช้ผิวแบบด้านทำให้เป็นรอยนิ้วมือได้ยากในระดับนึง เรียกได้ว่า HP ใส่ใจทุกรายละเอียดการออกแบบมาเป็นอย่างดี สมกับเป็นโน๊ตบุ๊คคนทำงานที่เน้นความหรูหราสวยงามที่มาพร้อมกับการพกพาด้วย
ในส่วนของยางรองใต้ตัวเครื่อง เป็นแถมยาวขนาดใหญ่รูปตัว U ช่วยให้วางเครื่องจับถือได้อย่างมั่นคง พร้อมกับมีช่องระบายอากาศอยู่เป็นแนวยาวช่วยในการระบายความร้อน ผ่านช่องระบายความร้อนด้านหลังของตัวเครื่อง
Keyboard / Touchpad
ส่วนของคีย์บอร์ดนั้นตัวปุ่มเป็นพลาสติกสีเงินเข้ากับตัวเครื่อง โดยสกรีนตัวอักษรเป็นสีขาว อีกทั้งได้รับการปรับดีไซน์ใหม่ให้แต่ละปุ่มมีระยะห่างกัน 1.2 มิลลิเมตรทำให้สามารถพิมพ์ได้ง่ายขึ้น แต่สำหรับคนที่นิ้วเล็กนิ้วใหญ่สามารถใช้งานได้สะดวกทั้งหมด ในส่วนของไฟ LED Backlit ก็สามารถใช้งานได้ดีทีเดียว โดยมีระบบการปรับระดับความสว่างอัตโนมัติตามสภาพแสงรอบข้างด้วย ส่วนปุ่มเปิดเครื่องจะไปอยู่ที่มุมซ้ายบนสีกลืนไปกับเครื่อง ซึ่งข้อดีก็คือมั่นใจได้ว่าจะไม่ไปเผลอกดระหว่างการใช้งานแน่นอน พร้อมมีไฟส่องสว่างให้เห็นสถานะ
ทัชแพดมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับขนาดตัวเครื่อง ส่วนดีไซน์นั้นก็ใช้เป็นแบบไม่มีปุ่มแยกออกมาเช่นเดียวกับ Ultrabook หลายๆ รุ่น การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ตัวซอฟต์แวร์ควบคุมก็ช่วยจัดการได้ดี โดยมีการจับความเคลื่อนไหวว่าผู้ใช้กำลังพิมพ์ข้อความอยู่หรือไม่ ซึ่งจะช่วยให้เคอร์เซอร์ไม่เลื่อนไปจากตำแหน่งเก่า ถ้าผู้ใช้เผลอนำมือไปโดนทัชแพดเข้า
Screen / Speaker
หน้าจอของ HP Envy 13 มีความละเอียดสูงมากถึง 3200 x 1800 พิกเซล (276 ppi) ที่มีคุณภาพระดับมืออาชีพ ส่งผลให้มีสีสันสวยสมจริง คมชัดในทุกมุมมอง แถมยังเรียบเนียนตาแบบที่ Ultrabook รุ่นทั่วไปไม่สามารถให้ได้ ซึ่งในการแสดงผลจริงๆ ตัว Windows 10 จะปรับ icon ตัวถึงการแสดงผลให้มีขนาดใหญ่ก่อนในเบื่องต้น เพื่อให้ไม่เล็กเกินไปเมื่อเทียบกับจอภาพ 13 นิ้ว ซึ่งถ้าอยากเพิ่มพื้นที่ใช้งานหรือต้องการ icon ที่มีขนาดเล็กลงก็ยังสามารถปรับได้ตามต้องการ และยังช่วยให้มีพื้นที่แสดงผลที่มากกว่าจอภาพทั่วไปอีกด้วย
ลำโพงสเตอรีโอนั้นอยู่บริเวณด้านซ้ายขวาขอบตัวเครื่อง พร้อมการเล่นลวดลายเพิ่มความสวยงาม แม้เครื่องจะตัวเล็กแต่ก็ให้ความดังของเสียงที่ดังดีมากไม่แพ้โน๊ตบุ๊คเครื่องใหญ่ๆ ส่วนในเรื่องคุณภาพเสียงต้องบอกว่าเป็นของ Bang & Olufsen ที่ไว้ใจได้ แต่ถ้าหากว่าคุณเป็นผู้ใช้งานทั่วไป คุณภาพเสียงที่ได้นั้น ก็ถือว่าดีเพียงพอแบบสบายๆ แล้ว สำหรับการดูหนังฟังเพลงต่างๆ เสียงคมชัด และยังปรับรูปแบบเสียงได้ตามต้องการอีกด้วย
Connector / Thin And Weight
พอร์ตของ HP Envy 13 แม้ตัวเครื่องจะบางเบาแต่ก็จัดว่าครบครันดีทีเดียวครับ เริ่มด้วยด้านซ้ายของเรา Kensington Lock ,Micro SD Card Reader ,USB Type-C และ ช่องต่อหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร
ด้านขวา จะมีพอร์ต USB 3.0 จำนวน 2 พอร์ต ,HDMI และช่อง Adapter ซึ่งมาพร้อมHP Fast Charge ที่สามารถชาร์ตแบตถึง 90% ในเวลาเพียง 90 นาที
Performance / Software
ก่อนอื่นขอแนะนำโปรแกรม HP Bang & Olufsen Audio นอกจากการปรับรูปแบบเสียงแล้วยังสามารถเซ็ตไมค์ในตัวเครื่องให้รับเสียงเฉพาะคนเดียวหน้าเครื่อง หรือเสียงข้างๆด้วย ปรับได้มากพอสมควรเลยครับ
HP Envy 13 (2017) เครื่องที่ทีมงานได้มาทดสอบนี้เป็นตัวท๊อปล่าสุดที่มาพร้อมซีพียู intel kaby lake ด้วยซีพียู Intel Core i7-7500U จุดเด่นคือใช้พลังงานต่ำ ทำให้ใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนานขึ้น โดยสามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 2.9GHz นะครับ เป็นซีพียูแบบ 2 Core 4 Threads ที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลหนักก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือจะเล่นเกม online เบาๆก็ไม่มีปัญหา มาพร้อมแรมภายในขนาด 8GB พร้อมรองรับทุกการใช้งาน
การ์ดจอออนบอร์ดอย่าง Intel HD Graphics 620 ที่แม้จะไม่ใช่การ์ดจอแยก แต่ก็ให้พลังประมวลผลเพียงพอแล้วสำหรับการใช้งานทั่วไป ชมภาพยนตร์ Full HD หรือแม้กระทั่งความละเอียดสูงระดับ 4K ก็สามารถใช้งานได้อย่างไม่มีปัญหา สามารถทำงานร่วมกับจอ 3K ได้ดี และยังสามารถนำมาเล่นเกม Online หรือ Offline ที่ความละเอียดไม่สูงมากได้ด้วย อย่าง Overwatch สามารถเล่นได้ที่ความละเอียดกลางๆได้สบายๆเลย
โปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นการประมวลผลซีพียู คะแนนก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจ ใช้งานต่างๆได้อย่างดีแน่นอน
จุดเด่นอีกจุดหนึ่งของ HP Envy 13 (2017) นั่นก็คือฮาร์ดดิสค์ SSD แบบ PCIe ชนิด NVMe ที่ให้ประสิทธิภาพสูงกว่าฮาร์ดดิสค์ทั่วไปอย่างน้อย 2-3 เท่า ซื้งได้เลือกใช้ SSD จาก Samsung ในรุ่น MZVL512
มาถึงการทดสอบตัว SSD ให้ผลทดสอบที่น่าประทับใจอย่างมาก ถ้าเทียบกับ SSD ทั่วไปจะมีความเร็วการอ่านอยู่ที่ 500 MB/s แต่ SSD จาก Samsung ในรุ่น MZVL512 ใน HP Envy 13 (2017) ให้ความเร็วในการอ่านข้อมูลถึง 1,689 MB/s การันตีได้ถึงความเร็วแรงของฮาร์ดดิสค์ใน HP Envy 13 (2017)
Battery / Heat / Noise
ในส่วนของการใช้งานแบตเตอรี่ HP แนะนำว่าสามารถใช้งานได้นานสูงสุดถึง 14 ชั่วโมง ใช้งานตลอดวันสบายๆ โดยจากการทดสอบของทีมงานสามารถใช้งานได้ราวๆ 8-7 ชั่วโมง โดยใช้ความสว่างระดับปานกลาง และใช้งานทั่วๆไปพิมพ์งานเล่นเน็ต แม้จะไม่เท่าที่แนะนำไว้ แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่ใช้งานในเวลาทำงานสบายๆ อีกทั้ง HP Envy 13 (2017) ยังมาพร้อมฟังค์ชั่น HP Fast Charge ที่สามารถชาร์ตแบตถึง 90% ในเวลาเพียง 90 นาที ช่วยให้ไม่ต้องชาร์ตแบตเตอรี่นานๆอีกต่อไป
สุดท้ายทีมงานได้ทดสอบความร้อนของตัวเครื่อง HP Envy 13 (2017) จากการทดสอบาถ้าใช้งานหนักเช่นเล่นเกม หรือดูภาพยนตร์ความละเอียดสูง อุณหภูมิพุ่งขึ้นไปสูงสุด 90 องศาเลย แต่ส่วนใหญ่จะแกว่งอยู่ที่ราวๆ 70 องศา ด้วยตัวเครื่องที่บางเบา และช่องระบายความร้อนด้านหลังที่ถูกขอบจอบังทำให้มีความร้อนสะสมพอสมควร แต่กระนั่นแม้จะร้อนแต่ก็ไม่มีอาการดับหรือค้างแต่อย่างใด
Conclusion / Award
HP Envy 13 (2017) ให้ทั้งความหรูหราด้วยวัสดุที่เป็นอลูมิเนี่ยมชั้นดี และการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์สะดุดทุกสายตา งานประกอบตัวเครื่องที่เรียบเนียน ความบางเบาด้วยน้ำหนักเพียงโลนิดๆทำให้สามารถพกพาไปใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย บนจอภาพขนาด 13.3 นิ้ว ที่ความละเอียดระดับ 3K คมชัดใช้งานได้สะดวกยิ่งกว่า แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนาน พร้อมฟังค์ชั่นเพียบไม่ว่าจะเป็น ลำโพง Bang & Olusfen ,HP Fast Charge และ SSD ความเร็วสูง เริ่มต้นในราคา 32,900 บาท สำหรับ Core i5 และ 45,900 บาท สำหรับ Core i7 ในเครื่องทดสอบ
เมื่อเทียบสเปคและราคาแล้ว HP Envy 13 (2017) อาจจะดูสูง แต่อย่าลืมว่าตัวเครื่องเป็นอลูมิเนียมแบบ Unibody ตัวเครื่องที่เน้นการใช้งานสำหรับองค์กรที่ให้ความเชื่อถือที่สูงกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป แถมยังมีการรับประกันถึง 2 ปีอีกด้วย ที่สำคัญคือ On Site Service คือมารับมาส่งถึงบ้านเลย
แน่นอนว่าถ้าเพื่อนๆสนใจโน๊ตบุ๊คบางเบาสักเครื่องพกพาใช้งานได้อย่างสะดวก พร้อมความสวยงามหรูหราไม่เหมือนใคร และสเปคที่เรียกได้ว่าสูงสุดของ Ultrabook ในวันนี้ใช้งานต่างๆได้อย่างเต็มที่ไม่แพ้โน๊ตบุ๊คเครื่องใหญ่ HP Envy 13 (2017) เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่เพื่อนๆมองข้ามไปไม่ได้เลย
จุดเด่น
- เป็น Ultrabook หน้าจอ 13.3 นิ้ว ที่มีความบางและเบาพิเศษ
- หน้าจอมีความละเอียดสูงระดับ 3200 x 1800 พิกเซล UltraSharp QHD+
- วัสดุแข็งแรงทนทาน ดูสสวยหรู ด้วยอลูมิเนียมทั้งชิ้น
- ประสิทธิภาพดีด้วยชิปประมวลผล Intel รุ่นล่าสุด
- SSD แบบ NVMe ที่ให้ความเร็วสูง
- ราคาต่อสเปกที่ความคุ้มค่า เริ่มต้นเพียง 32,900 บาท
- แบตเตอรี่อึดพร้อม HP Fast Charge
- ประกันถึง 2 ปี มาพร้อม On-Site Service มาตรฐาน HP
ข้อสังเกตุ
- ราคาสูงกว่า Ultrabook ทั่วไป
- ตัวเครื่องมีความร้อนสูงเวลาใช้งานหนัก
- ขอบด้านล่างจอเป็นรอยได้ง่ายมาก
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 13.3 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง HP Envy 13 (2017) ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Design
ด้วยรูปร่างหน้าตาของ HP Envy 13 (2017) ที่สวยงามโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ลงตัวทั้งการพกพาและความสวยงาม
Best Mobility
HP Envy 13 (2017) ด้วยความบางเบาเป็นพิเศษที่ช่วยให้สามารถพกพาไปใช้งานภายนอกได้อย่างสะดวก น้ำหนักไม่ถึง 1.5 กิโลกรัม อีกทั้งยังให้ประสิทธิภาพสูงไม่แพ้โน๊ตบุ๊คทั่วไป
Best Technology
HP Envy 13 (2017) มาพร้อมเทคโนโลยีน่าสนใจเพียบไม่ว่าจะเป็น ซีพียูตัวล่าสุด Intel Core i Gen 7 ฮาร์ดดิสก์แบบ SSD PCIe NVMe จอภาพความละเอียดถึง 3K และ HP Fast Charge
Best Ultrabook
ทีมงานขอจัด HP Envy 13 (2017) เป็นอีกหนึ่งสุดยอด Ultrabook ตัวแรกของปี 2017 เลย นอกจากความบางเบาแล้ว ยังมาพร้อมวัสดุที่แข็งแรงหรูหราสวยงาม พร้อมประสิทธิภาพสูงด้วยสเปคใหม่ล่าสุด