อาจจะไม่ใช่เรื่องใหม่ของใครหลายๆ คน กับ 2-in-1 Notebook ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติการใช้งานได้ทั้งโน๊ตบุ๊คหรือแท็บเล็ต ซึ่งที่ผ่านมาก็มีผลิตภัณฑ์ออกมาเรื่อยๆ หลากหลายแบรนด์ด้วยกัน แต่ที่ฮือฮากันที่สุดก็คงเป็นในส่วนของ Microsoft Surface รุ่นต่างๆ โดยล่าสุดทาง Acer ได้พร้อมท้าชนแล้ว กับการนำเสนอ Acer Switch Alpha 12 ที่เป็น 2-in-1 Notebook ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติที่เหนือกว่าหลายๆ อย่าง สำคัญคือมาในราคาจำหน่ายที่ถูกและคุ้มค่ามากๆ ทีเดียว
รวมไปถึงในเรื่องของงานประกอบและดีไซน์ คุณสมบัติที่ทันสมัย อุปกรณ์เสริมที่มีอย่างครบครัน รวมไปถึงการรับประกันถึง 3 ปี และการบริการขั้นเทพ ด้วย On-site Service ในปีแรก ทำให้ Acer Switch Alpha 12 เป็นคอมพิวเตอร์พกพาในกรุ๊ปของ 2-in-1 Notebook ที่น่าสนใจที่สุดก็ว่าได้ สนนราคาเริ่มต้นที่ 25,900 – 45,900 บาทเท่านั้นเอง ในบันเดิลให้ชุดคีย์บอร์ดและปากกาด้วย
VDO Review
Specification
ในเรื่องของสเปก Acer Switch Alpha 12 นั้น เครื่องที่เราได้มารีวิวเป็นเครื่องที่ใช้ CPU เป็น Intel Core i5-6200U ที่มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.3 GHz และเร่งความเร็วด้วย TurboBoost ได้เป็น 2.8 GHz ส่วนการ์ดจอก็แน่นอนว่าต้องเป็น Intel HD Graphics 520 ที่ติดมาใน CPU จาก Intel ตระกูล Skylake แรมก็ให้มา 8GB เป็นแบบฝังติดบอร์ดมาเช่นเดียวกับ Ultrabook โดยเลือกใช้ SSD ความจุที่ 256GB
ส่วนหน้าจอมีขนาด 12 นิ้ว แบบสัดส่วน 3:2 พาเนล IPS ความละเอียด 2160 x 1440 พิกเซล แบบสัมผัสรองรับกับปากกาสไตลัส Ace Active Pen ที่รับรู้แรงกดได้ถึง 256 ระดับ ที่สำคัญยังบางเฉียบและเบาเพียง 1.29 กิโลกรัมเท่านั้น (รวมชุดคีย์บอร์ดแล้ว) เรียกได้ว่าเป็นแท็บเล็ตระบบปฏิบัติการ Windows 10 ที่มาพร้อมคุณสมบัติครบครันจริงๆ
ส่วนเรื่องของพอร์ตเชื่อมต่อนั้นก็ยังมีพอร์ตมาตรฐานใกล้เคียง 2-in-1 Notebook รุ่นอื่นๆ ที่จัดว่าให้ค่อนข้างครบ เช่น USB 3.0 ตัวเต็ม และ USB 3.1 Type-C สำหรับเชื่อมต่อรูปแบบอื่นๆ (ในบันเดิลมีสายแปลง USB 3.1 Type-C to HDMI มาให้เลย) และ micro SD Card Reader มาให้ด้วย กรณีไว้อ่านหรือเพิ่มความจุ อีกอย่างที่ขาดไม่ได้เลยก็คือระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home ลิขสิทธิ์
ราคาจำหน่ายและสเปกเต็มๆ ของ Acer Switch Alpha 12 รุ่นต่างๆ
- Core i3-6100U / 256GB / แรม 4GB อยู่ที่ 25,900 บาท
- Core i5-6200U / 256GB / แรม 8GB อยู่ที่ 35,900 บาท
- Core i7-6500U / 512GB / แรม 8 GB อยู่ที่ 45,900 บาท
Hardware / Design
Acer Switch Alpha 12 มาในรูปลักษณ์ที่มีความบางเบามากกว่า 2-in-1 Notebook ทั่วไป ซึ่งมีความบางของตัวเครื่องที่บางมากๆ เรียกว่าพอๆ กับพอร์ต USB เลยล่ะ และหนักไม่ถึงหนึ่งกิโลกรัมสำหรับตัวเครื่องไม่รวมชุดคีย์บอร์ด รวมถึงมีลักษณะการใช้งานในสไตล์ของ Microsoft Surface Pro 4 ที่ทำเป็นแบบแท็ปเล็ตและมีขาตั้งด้านหลัง พร้อมคีย์บอร์ดมาให้และมีสไตลัสมาในตัว ดีไซน์การออกแบบโดยรวมมีความพรีเมียมตามสไตล์ของผลิตภัณฑ์ระดับสูงจากทาง Acer ด้วยความหรูหราที่เรียบง่าย ผลิตขึ้นมาจากวัสดุอลูมิเนียมเป็นองค์ประกอบในส่วนของฐานตั้งหน้าจอและส่วนอื่นๆ
โดยฐานตั้งหน้าจอ (Kickstand) ของ Acer Switch Alpha 12 นั้นมีความแข็งแรงและทนทาน โดยสามารถที่จะทำการตั้งหน้าจอให้ทำมุมได้มากสุดถึง 165 องศา โดยการตั้งหน้าจอที่มุม 165 องศานี้ เหมาะสมเป็นอย่างมากกับการใช้งานด้วยสไตลัสในการทำงานต่างๆ ใช้เป็นแท็บเล็ตก็ได้หรือต่อกับคีย์บอร์ดเป็นโน๊ตบุ๊คก็ดี โดดเด่นด้วยยางรองที่กันลื่นแบบสุดๆ
ที่สำคัญ Acer Switch Alpha 12 ยังมาพร้อมระบบระบายความร้อนที่แตกต่าง ซึ่งถึงแม้จะติดตั้งสเปกที่ใช้ชิปประมวลผล Intel Core i3/i5/i7 แต่ได้ใช้การระบายความร้อนแบบพัดลมเหมือนกับ 2-in-1 Notebook อื่นๆ โดยทาง Acer ได้ใช้งานเป็น Acer LiquidLoop กับระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ หลักกการทำงานก็คือเมื่อของเหลวภายในร้อน ก็จะกลายเป็นก๊าซ และเมื่อเย็นตัวลงก็จะกลายเป็นของเหลวอีกครั้ง ซึ่งทำให้การทำงานนั้นมีความเงียบและตัวเครื่องยังสามารถออกแบบได้บางเบาลงไปอีก
นอกจากนี้การเป็น Windows Tablet เลยติดตั้งในส่วนของกล้องด้านหลังความละเอียด 5 ล้านพิเซลไว้ให้ใช้งานด้วย เรียกได้ว่า Acer Switch Alpha 12 แท็บเล็ตที่ตอบโจทย์รูปแบบการใช้งานอย่างครบครัน เต็มเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพในแบบโน๊ตบุ๊คและความสะดวกสบายอีกขั้นในแบบแท็บเล็ตที่ออกแบบมาเพื่อคนทำงานที่ต้องการความคล่องตัว รองรับทุกๆ การทำงาน และความบันเทิงในเครื่องเดียวอย่างน่าประทับใจ
Keyboard / Touchpad
ความโดดเด่นสุดๆ ของ Acer Switch Alpha 12 ที่สำคัญก็คือ เป็นแท็บเล็ตระบบปฏิบัติการ Windows 10 ซึ่งมีความคล่องตัวที่สูง ไม่ว่าเพื่อความบันเทิงหรือการทำงานก็ตอบสนองได้เป็นอย่างดี อีกทั้งถ้าเชื่อมต่อผ่านชุดคีย์บอร์ด Acer Type Cover เมื่อไหร่ ก็เป็นรูปแบบการทำงานโน๊ตบุ๊ค ได้ไม่แพ้ที่เป็นส่วนของโน๊ตบุ๊คจริงๆ เลย เรียกได้ว่าเป็นแท็บเล็ตที่แปลงร่างเป็นโน๊ตบุ๊คที่สมบูรณ์รุ่นนึงในตลาดทีเดียว ทั้งจากความแน่หนาจากการประกอบกับเครื่อง แต่ก็น่าเสียดายเล็กน้อยที่ไม่มีไฟ Backlit แต่อย่างใด
ส่วนประสบการณ์ใช้งานของชุดคีย์บอร์ดก็มีความน่าประทับใจไม่น้อย จากการมีขนาด Full Size ให้ความรู้สึกในการพิมพ์ค่อนข้างดีจากแป้นคีย์บอร์ดที่มีความนุ่มนวลแต่ตอบสนองได้อย่างถูกใจ เรียกได้ว่าดีกว่าแป้นคีย์บอร์ดโน๊ตบุ๊คปกติทั่วไป อีกทั้งยังมีแถบแม่เหล็กไว้ติดกับด้านล่างหน้าจอเพื่อยกระดับความเอียงให้ได้องศามากขึ้นอีกด้วย รวมไปถึงในส่วนของทัชแพดก็สัมผัสได้ถึงการควบคุมที่ทันใจ แม้ว่าอาจจะยังไม่สุดยอดซักทีเดียว แต่ก็เหนือกว่าทัชแพดของโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่นแล้ว รวมไปถึงยังรองรับการติดตั้ง Acer Active Pen ด้วย
Screen / Speaker
ในส่วนของหน้าจอแสดงผลของ Acer Switch Alpha 12 ที่ต้องบอกว่ามีความสวยงามสมจริงแบบสุด บนขนาดหน้าจอ 12 นิ้ว ซึ่งจัดว่ามีขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป ที่ความละเอียด 2160 x 1440 พิกเซล พิกเซล ทำให้มีความเรียบเนียนตากว่าหน้าจอโน๊ตบุ๊คทั่วไป กับสัดส่วนที่ไม่เหมือนใครที่ 3:2 โดยเหมาะกับการทำงานแน่นอนที่สุด อีกทั้งหน้าจอทัชกรีนก็รองรับ 10 จุดพร้อมกัน ทำให้เราใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้น รวมไปถึงยังรองรับปากกาสไตลัส Acer Active Pen ตามสไตลของ 2-in-1 Notebook แนวๆ นี้ด้วย ทำให้เราใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้น ตรงข้อนี้จะเห็นได้ว่า โดดเด่นและเหนือกว่าพวก Ultrabook ทั่วไปรวมไปถึง MacBook จริงๆ
ด้านของลำโพงสเตอรีโอนั้นอยู่บริเวณด้านซ้ายขวาขอบบนของตัวเครื่อง ในเรื่องของความดังของเสียงเรียกว่าทำออกมาได้อย่างน่าประทับใจทีเดียว ส่วนในเรื่องคุณภาพเสียงต้องบอกว่าไว้ใจได้ อาจจะไม่ถึงขั้นสุดยอดด้วยการที่ตัวเครื่องทีขนาดบางเฉียบ แต่ถ้าหากว่าคุณเป็นผู้ใช้งานทั่วไป คุณภาพเสียงที่ได้นั้น ก็ถือว่าดีเพียงพอแบบสบายๆ แล้ว
Acer Active Pen
สืบเนื่องมาจากการที่ Acer Switch Alpha 12 เป็นหน้าจอแสดงผลแบบทัชสกรีน ทำให้นอกเหนือจากที่เราใช้นิ้วในการสั่งงานได้แล้ว ตัว 2-in-1 Notebook รุ่นนี้ยังรองรับ Acer Active Pen ที่เป็นปากกาสไตลัสอีกด้วย ซึ่งต้องบอกว่าเป็นปากกาสไตลัสที่เหนือชั้นกว่าแท็บเล็ตทั่วไปจริงๆ ด้วยคุณสมบัติรับรู้ต่อแรงกดที่ 256 ระดับ พร้อมการตอบสนองที่รวดเร็วทันใจ ทำให้เรารู้สึกว่าใช้ปากกาหรือดินสอจริงๆ ที่เขียนลงบนกระดาษ อันนี้การันตีได้จากผู้ใช้งานนักวาดการ์ตูนหลายคนทีเดียว หรือจะใช้ไว้จดงานเขียนหนังสือก็สามารถทำได้สบายๆ ส่วนท้ายด้ามของ Acer Active Pen ก็ใช้งานเป็นยางลบเสมือนจริงได้อีกด้วย เรียกได้ว่าจะลืมการใช้กระดาษแบบเดิมๆ ไปเลย
Acer Active Pen มีอายุแบตเตอรี่ที่นานกว่า 1 ปี (ใช้ถ่าน AAAA หนึ่งก้อน) ที่น่าสนใจก็คือ Acer Switch Alpha 12 มีที่เก็บปากกาสไตลัสโดยเฉพาะ ซึ่งอยู่บริเวณขอบของชุดคีย์บอร์ดด้านซ้าย ซึ่งเป็นแบบสอดทำให้สามารถหยิบจับมาใช้ได้อย่างสะดวก รวมไปถึงไม่ตกหล่นง่ายๆ หรือถ้ากรณีที่เราไม่ได้พกชุดคีย์บอร์ดออกไป ก็สามารถใช้ปากกาสไตลัสกลับมาเก็บข้างขอบตัวเครื่องด้านล่างได้เหมือนกัน
Connector / Thin And Weight
พอร์ตการเชื่อมต่อตัวเครื่อง Acer Switch Alpha 12 นี้จัดว่าเป็นแท็บเล็ตระบบปฏิบัติการ Windows 10 ที่มีความครบครับที่สุดรุ่นนึง แม้ว่าจะเป็นเครื่องที่มีการออกแบบมาให้เป็นเครื่องที่มีขนาดความบางและน้ำหนักเบาแต่เรื่องพอร์ตการเชื่อมต่อต่างๆ นั้น ก็มีมาให้มากพอทีเดียว ด้วยพอร์ต USB 3.0 แบบเต็ม ทำให้เราสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ ได้โดนตรง ไม่ว่าจะเป็น External Harddisk หรือแฟลชไดร์ฟ รวมไปถึงเมาส์ (จริงๆ แนะนำให้ใช้เป็นแบบไร้สาย Bluetooth จะดีกว่า)
อีกทั้งยังมี USB 3.1 Type-C ไว้เชื่อมต่อกับจอแสดงผลภายนอกรองรับถึง 4K หรือ Docking ก็ทำได้ แน่นอนว่าทาง Acer ใส่ใจกว่านั้นด้วยการให้บันเดิลสายแปลง USB 3.1 Type-C to HDMI มาให้เลย โดยไม่ต้องไปหาซื้อเพิ่มเติมเองแต่อย่างใด พร้อมช่องต่อหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร แน่นอนว่ามี micro SD Card Reader เป็นมาตรฐานไว้อ่านข้อมูล หรือเพิ่มความจุของตัวเครื่องก็สามารถทำได้ ขนาดของตัวเครื่องและสายชาร์จ เมื่อเทียบกับขนาดของ Ultrabook ทั่วไปถือได้ว่ามีมิติที่เล็กกว่าพอสมควร
Performance / Software
Acer Switch Alpha 12 เครื่องรีวิวนี้มาพร้อมกับชิปประมวลผลจาก Intel Core i5-6200U ซึ่งเป็นชิปประมวลผลใช้พลังงานไฟต่ำมาก มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.3 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 2.8 GHz เป็นซีพียูแบบ 2 Core 4 Threads ที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลหนักก็รองรับได้อย่างสบายๆ แม้ก็ต้องยอมรับว่าอาจจะสูงกว่าพวก Core i7 ตัวซีรีย์ U ไม่ได้ แต่เรื่องประหยัดพลังงานนั้นไม่เป็นรองใครอย่างแน่นอน มาพร้อมแรมภายในขนาด 8GB ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้แบบสบายๆ
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel HD Graphics 520 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน ที่โดยรวมแล้วให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีกว่า Intel HD Graphics รุ่นก่อนหน้าแน่นอน เพราะอย่างน้อยๆ ก็รองรับการทำงานกับหน้าจอความละเอียดสูงได้แบบไม่มีปัญหา
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลที่เป็นรหัส U รุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ ไม่น่าเป็นห่วงนัก
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 256GB ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดไดร์ฟแบบจานหมุนหรือแบบลูกผสมอย่าง SSHD แล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊ม
โดยส่วนตัวเล่นเป็นประจำอย่างเกม DOTA 2 ก็จัดการทดสอบให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ 1680 x 1050 พิกเซล สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าปิดบางส่วน ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับ พูดตรงๆ ก็คือพอจะเล่นได้สำหรับเกมออนไลนท์เกมนี้ ส่วนเกมอื่นๆ ที่ไม่เกินทรัพยากรเท่าอย่าง CS:GO หรือ Point Blank รวมไปถึง Ragnarok Online ก็น่าจะเล่นได้ลื่นๆ อย่างแน่นอน
นอกจากนี้ทาง Acer เองเองก็ยังมีในส่วนของซอต์ฟแวร์ที่จะเป็นตัวช่วยในการใช้งานของเราอีกด้วยอย่าง Acer Care Center ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสเปกภายใน หรือเช็คสถานะการทำงานส่วนต่างๆ ของเครื่อง รวมไปถึงยังสามารถ ตรวจเช็คสถานะเครื่องกับข้อมูลแคชต่างๆ ก็ทำการลบทิ้งได้ตรงนี้เลย หรือเช็คอัพเดทซอฟ์ตแวร์และไดร์เวอร์ต่างๆ ของเครื่องก็สามารถทำผ่านตรงนี้ได้เช่นกัน ที่สำคัญถ้าใครต้องการ Backup หรือ Recovery ข้อมูลภายในก็จัดการได้เลย
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ของ Acer Switch Alpha 12 เป็นแบบฝังไว้ในเครื่องความจุ 4870mAh ทำงานต่อเนื่องยาวนานได้ราว 5-6 ชั่วโมงต่อเนื่องในการใช้งานแบบปกติ (ดูภาพยนตร์และเล่นอินเตอร์เน็ต) และคาดว่าจะทำได้นานยิ่งกว่านั้นปรับเปลี่ยนตามการใช้งานของแต่ละคน ว่าเปิดโปรแกรมอะไร อย่างถ้าใช้ Microsoft Edge ก็จะใช้งานได้ยาวนานกว่า Chrome ส่วนระบบระบายความร้อนเป็นแบบน้ำอย่าง Acer LiquidLoop เรียกได้เป็นเอกสิทธิ์ของ Acer โดยออกแบบให้ซ่อนตัวเอาไว้อย่างลงตัวสวยงาม พร้อมทั้งยังมีสมรรถนะการนำพาความร้อนที่ถือว่าทำได้ดี
อุณหภูมิต่ำสุดของเครื่องจะอยู่ที่ 35 องศาเซลเซียส แต่พอรีดประสิทธิภาพเต็มที่จะเห็นว่าเครื่องจะร้อนที่สุดเพียง 66 องศาเซลเซียสเท่านั้น จากการใช้โปรแกรมรีดประสิทธิภาพ (ซึ่งถึงจุดนี้ชิปประมวลผลจะลดความเร็วลงมาเองอัตโนมัติประมาณครึ่งนึง) นับว่าระบบระบายความร้อนของ Acer Switch Alpha 12 เครื่องนี้ทำออกมาได้ดีกว่า Ultrabook ที่มีสเปกใกลีเคียงกัน ที่เคยทำการรีวิวมาพอควร เพราะความร้อนทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 40 องศาเซลเซียส นับว่าAcer Switch Alpha 12 เครื่องนี้จัดการระบบระบายความร้อนออกมาได้ดีทีเดียว แต่ข้อสังเกตุคือจุดเดือดค่อนข้างต่ำกว่าพวกที่ใช้พัดลมในการระบายความร้อนนั่นเอง ซึ่งถ้าปกติเราใช้งานในห้องแอร์ก็ไม่มีปัญหาตรงจุดนี้แต่อย่างใดครับ (ยกเว้นเอาไปประมวลผลต่อเนื่องยาวๆ)
Conclusion / Award
Acer Switch Alpha 12 มาในรูปลักษณ์ที่มีความบางเบามากกว่า 2-in-1 Notebook ทั่วไป ซึ่งมีความบางเบามากๆ รวมถึงมีลักษณะการใช้งานในสไตล์ของ Microsoft Surface ที่ทำเป็นแบบแท็บเล็ตที่มีขาตั้งด้านหลังในตัว พร้อมคีย์บอร์ดมาให้ รวมถึงเพิ่มสไตลัสมาในตัว พร้อมพลังในการทำงานระดับเดียวกับ Ultrabook ด้วยหน่วยประมวลผล Intel Core i Gen 6 และหน้าจอขนาด 12 นิ้ว ให้ความละเอียด 2160 x 1440 พิกเซล พาเนลคุณภาพสูง IPS รองรับการทัชสกรีน 10 จุดและปากกาสไตลัส Acer Active Pen
ปากกาสไตลัส Acer Active Pen มีความสามารถเหมือนกันกับสไตลัสของ Surface ทุกอย่าง เช่นจะมาพร้อมกับความสามารถในการใช้งานแบบ N-Trig, มีปุ่มบนตัวสไตลัสจำนวน 2 ปุ่มทางด้านข้างและทางด้านบน (ซึ่งปุ่มทางด้านบนจะเอาไว้ใช้สำหรับการรันโปรแกรม OneNote) ฐานตั้งหน้าจอของ Acer Switch Alpha 12 นั้นสามารถที่จะทำการตั้งหน้าจอให้ทำมุมได้มากสุดถึง 165 องศา โดยการตั้งหน้าจอที่มุม 165 องศานี้ เรียกได้ว่ากางได้มากกว่า 2-in-1 Notebook รุ่นอื่นๆ อีกด้วย
สำหรับใครที่สนใจ Ultrabook หรือแท็บเล็ต Windows ที่แปลงร่างเป็นโน๊ตบุ๊คได้ล่ะก็ Acer Switch Alpha 12 ก็สามารถตอบโจทย์ได้ใกล้เคียงกับ Microsoft Surface Pro 4 ซึ่งมีจุดเด่นที่เหนือกว่าหลายๆ ส่วน ไม่ว่าจะเป็น
- ติดตั้งพอร์ต USB Type-C มาในตัว รองรับการใช้งานหลากหลาย
- มาพร้อมระบบระบายความร้อนแบบ Acer LiquidLoop ทำงานเงียบ
- ดีไซน์สวยงามตามสไตล์ผลิตภัณฑ์ Acer ระดับพรีเมียม
- มีการรับประกันระยะถึง 3 ปี แบบ On-Site Service ปีแรกซ่อมฟรีถึงบ้าน
- ราคาคุ้มค่าสุดๆ ให้ชุดคีย์บอร์ดมาเลย พร้อมใช้งานทันที
แต่ก็มีหลายสิ่งที่เป็นรองอย่างชุดคีย์บอร์ดไม่มีไฟ หน้าจอเล็กและความละเอียดต่ำกว่าเล็กน้อย ปากกาสไตลัสรองรับที่ 256 ระดับ หรืออะไรที่เล็กๆ น้อยๆ อาทิ อแดปเตอร์ไม่มีพอร์ต USB มาให้ รวมไปถึงที่เก็บปากกาสไตลัสอาจจะดูธรรมดาไปหน่อย เอาเป็นตรงจุดนี้คงต้องแล้วแต่คน ว่าเราจำเป็นต้องใช้งานหรือไม่ต้องใช้งานสิ่งใดบ้างแล้วล่ะ เอาว่าใครสนใจก็ไปลองชมตัวจริงของ Acer Switch Alpha 12 ก่อนตัดสินใจซื้อกันดูได้ ผ่านทางร้านค้าห้างไอทีต่างๆ
ราคาจำหน่ายและสเปกเต็มๆ ของ Acer Switch Alpha 12 รุ่นต่างๆ
- Core i3-6100U / 256GB / แรม 4GB อยู่ที่ 25,900 บาท
- Core i5-6200U / 256GB / แรม 8GB อยู่ที่ 35,900 บาท
- Core i7-6500U / 512GB / แรม 8 GB อยู่ที่ 45,900 บาท
จุดเด่น
- ตัวเครื่องที่มีความบางและเบาแบบสุดๆ รวมคีย์บอร์ดแล้วเพียง 1.29 กิโลกรัม
- วัสดุแข็งแรงทนทาน ดูสวยหรู ด้วยอลูมิเนียมทั้งชิ้น ขาตั้งมียางรองขนาดใหญ่
- หน้าจอมีความละเอียด 2160 x 1440 พิกเซล บนขนาด 12 นิ้ว
- พาเนลหน้าจอ IPS มีคุณภาพสูง มีความสวยงามสมจริงแบบสุดๆ
- ประสิทธิภาพดีด้วยชิปประมวลผล Intel รุ่นล่าสุด และ SSD ความเร็วสูง
- พอร์ตการเชื่อมต่อครบครัน อย่าง USB 3.0 ตัวเต็ม และ USB Type-C
- มาพร้อม Windows 10 ลิขสิทธิ์ ใช้งานได้ทันที
- เป็นแท็บเล็ตหรือโน๊ตบุ๊คก็ได้ในหนึ่งเดียว
- มีปากกาสไตลัส, ชุดคีย์บอร์ดและสายแปลง USB 3.1 Type-C to HDM มาให้พร้อมใช้งาน
- ประกัน 3 ปี ปีแรกแบบ On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน
- ราคาค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับ Microsoft Surface Pro 4
ข้อสังเกตุ
- ปากกาสไตลัสรองรับที่ 256 ระดับเท่านั้น
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานเพียง 5 ชั่วโมง
- เมื่อมีความร้อน ณ จุดๆ หนึ่ง ตัวฮาร์แวร์จะลดประสิทธิภาพลง
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 12 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง Acer Switch Alpha 12 ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Design
เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียมของทาง Acer มาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดเจนใน Acer Switch Alpha 12 ที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ ดูแล้วเรียบหรูตามสไตล์คนที่ต้องการผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียม ซึ่งในจุดของรูปร่างหน้าตาก็เป็นสิ่งที่หลายๆ คนยอมรับกันอยู่ในระดับหนึ่งอยู่แล้ว
Best Mobility
ส่วนของความสามารถในการพกพาก็ยังคงอยู่ในระดับที่ดีตามสไตล์ของ 2-in-1 Notebook ทั้งในความบางเฉียบและน้ำหนักเบา ที่ทำให้สามารถหิ้วไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก แถมไม่ต้องกลัวว่าเครื่องจะมีปัญหาอีกด้วย เพราะระบบไม่ได้ใช้ฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุน ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องการจับถือมากนัก สามารถพับฝาจอลงแล้วเก็บเครื่องได้ทันที อแดปเตอร์ก็ทำออกมาให้มีขนาดที่ไม่ใหญ่มากนัก พกพาสะดวก เหมาะมากๆ กับคนที่ทำงานนอกสถานที่บ่อยๆ
Best Value
ในกลุ่ม 2-in-1 Notebook แบบที่มีความสามารถใกล้เคียง Microsoft Surface Pro 4 ที่รองรับการทำงานรอบด้านและมาพร้อมความแท็บเล็ตและโน๊ตบุ๊คในเครื่องเดียว แต่สำหรับAcer Switch Alpha 12 นั้นตอบโจทย์การใช้งานได้หลากหลายทีเดียว ด้วยฟีเจอร์ที่กล่าวไปแล้ว ดังนั้นถ้าใครมองหาคอมพิวเตอร์พกพาที่แตกต่างแต่ราคาคุ้มค่ากับดีไซน์ดีเยี่ยม ถือว่า Acer Switch Alpha 12 เครื่องนี้ น่าจะเป็นตัวเลือกแรกๆ ของโน๊ตบุ๊คราคาคุ้มค่าเลยล่ะ
VDO Review
Specification
ในเรื่องของสเปก Acer Switch Alpha 12 นั้น เครื่องที่เราได้มารีวิวเป็นเครื่องที่ใช้ CPU เป็น Intel Core i5-6200U ที่มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.3 GHz และเร่งความเร็วด้วย TurboBoost ได้เป็น 2.8 GHz ส่วนการ์ดจอก็แน่นอนว่าต้องเป็น Intel HD Graphics 520 ที่ติดมาใน CPU จาก Intel ตระกูล Skylake แรมก็ให้มา 8GB เป็นแบบฝังติดบอร์ดมาเช่นเดียวกับ Ultrabook โดยเลือกใช้ SSD ความจุที่ 256GB
ส่วนหน้าจอมีขนาด 12 นิ้ว แบบสัดส่วน 3:2 พาเนล IPS ความละเอียด 2160 x 1440 พิกเซล แบบสัมผัสรองรับกับปากกาสไตลัส Ace Active Pen ที่รับรู้แรงกดได้ถึง 256 ระดับ ที่สำคัญยังบางเฉียบและเบาเพียง 1.29 กิโลกรัมเท่านั้น (รวมชุดคีย์บอร์ดแล้ว) เรียกได้ว่าเป็นแท็บเล็ตระบบปฏิบัติการ Windows 10 ที่มาพร้อมคุณสมบัติครบครันจริงๆ
ส่วนเรื่องของพอร์ตเชื่อมต่อนั้นก็ยังมีพอร์ตมาตรฐานใกล้เคียง 2-in-1 Notebook รุ่นอื่นๆ ที่จัดว่าให้ค่อนข้างครบ เช่น USB 3.0 ตัวเต็ม และ USB 3.1 Type-C สำหรับเชื่อมต่อรูปแบบอื่นๆ (ในบันเดิลมีสายแปลง USB 3.1 Type-C to HDMI มาให้เลย) และ micro SD Card Reader มาให้ด้วย กรณีไว้อ่านหรือเพิ่มความจุ อีกอย่างที่ขาดไม่ได้เลยก็คือระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home ลิขสิทธิ์
ราคาจำหน่ายและสเปกเต็มๆ ของ Acer Switch Alpha 12 รุ่นต่างๆ
- Core i3-6100U / 256GB / แรม 4GB อยู่ที่ 25,900 บาท
- Core i5-6200U / 256GB / แรม 8GB อยู่ที่ 35,900 บาท
- Core i7-6500U / 512GB / แรม 8 GB อยู่ที่ 45,900 บาท
Hardware / Design
Acer Switch Alpha 12 มาในรูปลักษณ์ที่มีความบางเบามากกว่า 2-in-1 Notebook ทั่วไป ซึ่งมีความบางของตัวเครื่องที่บางมากๆ เรียกว่าพอๆ กับพอร์ต USB เลยล่ะ และหนักไม่ถึงหนึ่งกิโลกรัมสำหรับตัวเครื่องไม่รวมชุดคีย์บอร์ด รวมถึงมีลักษณะการใช้งานในสไตล์ของ Microsoft Surface Pro 4 ที่ทำเป็นแบบแท็ปเล็ตและมีขาตั้งด้านหลัง พร้อมคีย์บอร์ดมาให้และมีสไตลัสมาในตัว ดีไซน์การออกแบบโดยรวมมีความพรีเมียมตามสไตล์ของผลิตภัณฑ์ระดับสูงจากทาง Acer ด้วยความหรูหราที่เรียบง่าย ผลิตขึ้นมาจากวัสดุอลูมิเนียมเป็นองค์ประกอบในส่วนของฐานตั้งหน้าจอและส่วนอื่นๆ
โดยฐานตั้งหน้าจอ (Kickstand) ของ Acer Switch Alpha 12 นั้นมีความแข็งแรงและทนทาน โดยสามารถที่จะทำการตั้งหน้าจอให้ทำมุมได้มากสุดถึง 165 องศา โดยการตั้งหน้าจอที่มุม 165 องศานี้ เหมาะสมเป็นอย่างมากกับการใช้งานด้วยสไตลัสในการทำงานต่างๆ ใช้เป็นแท็บเล็ตก็ได้หรือต่อกับคีย์บอร์ดเป็นโน๊ตบุ๊คก็ดี โดดเด่นด้วยยางรองที่กันลื่นแบบสุดๆ
ที่สำคัญ Acer Switch Alpha 12 ยังมาพร้อมระบบระบายความร้อนที่แตกต่าง ซึ่งถึงแม้จะติดตั้งสเปกที่ใช้ชิปประมวลผล Intel Core i3/i5/i7 แต่ได้ใช้การระบายความร้อนแบบพัดลมเหมือนกับ 2-in-1 Notebook อื่นๆ โดยทาง Acer ได้ใช้งานเป็น Acer LiquidLoop กับระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ หลักกการทำงานก็คือเมื่อของเหลวภายในร้อน ก็จะกลายเป็นก๊าซ และเมื่อเย็นตัวลงก็จะกลายเป็นของเหลวอีกครั้ง ซึ่งทำให้การทำงานนั้นมีความเงียบและตัวเครื่องยังสามารถออกแบบได้บางเบาลงไปอีก
นอกจากนี้การเป็น Windows Tablet เลยติดตั้งในส่วนของกล้องด้านหลังความละเอียด 5 ล้านพิเซลไว้ให้ใช้งานด้วย เรียกได้ว่า Acer Switch Alpha 12 แท็บเล็ตที่ตอบโจทย์รูปแบบการใช้งานอย่างครบครัน เต็มเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพในแบบโน๊ตบุ๊คและความสะดวกสบายอีกขั้นในแบบแท็บเล็ตที่ออกแบบมาเพื่อคนทำงานที่ต้องการความคล่องตัว รองรับทุกๆ การทำงาน และความบันเทิงในเครื่องเดียวอย่างน่าประทับใจ
Keyboard / Touchpad
ความโดดเด่นสุดๆ ของ Acer Switch Alpha 12 ที่สำคัญก็คือ เป็นแท็บเล็ตระบบปฏิบัติการ Windows 10 ซึ่งมีความคล่องตัวที่สูง ไม่ว่าเพื่อความบันเทิงหรือการทำงานก็ตอบสนองได้เป็นอย่างดี อีกทั้งถ้าเชื่อมต่อผ่านชุดคีย์บอร์ด Acer Type Cover เมื่อไหร่ ก็เป็นรูปแบบการทำงานโน๊ตบุ๊ค ได้ไม่แพ้ที่เป็นส่วนของโน๊ตบุ๊คจริงๆ เลย เรียกได้ว่าเป็นแท็บเล็ตที่แปลงร่างเป็นโน๊ตบุ๊คที่สมบูรณ์รุ่นนึงในตลาดทีเดียว ทั้งจากความแน่หนาจากการประกอบกับเครื่อง แต่ก็น่าเสียดายเล็กน้อยที่ไม่มีไฟ Backlit แต่อย่างใด
ส่วนประสบการณ์ใช้งานของชุดคีย์บอร์ดก็มีความน่าประทับใจไม่น้อย จากการมีขนาด Full Size ให้ความรู้สึกในการพิมพ์ค่อนข้างดีจากแป้นคีย์บอร์ดที่มีความนุ่มนวลแต่ตอบสนองได้อย่างถูกใจ เรียกได้ว่าดีกว่าแป้นคีย์บอร์ดโน๊ตบุ๊คปกติทั่วไป อีกทั้งยังมีแถบแม่เหล็กไว้ติดกับด้านล่างหน้าจอเพื่อยกระดับความเอียงให้ได้องศามากขึ้นอีกด้วย รวมไปถึงในส่วนของทัชแพดก็สัมผัสได้ถึงการควบคุมที่ทันใจ แม้ว่าอาจจะยังไม่สุดยอดซักทีเดียว แต่ก็เหนือกว่าทัชแพดของโน๊ตบุ๊คหลายๆ รุ่นแล้ว รวมไปถึงยังรองรับการติดตั้ง Acer Active Pen ด้วย
Screen / Speaker
ในส่วนของหน้าจอแสดงผลของ Acer Switch Alpha 12 ที่ต้องบอกว่ามีความสวยงามสมจริงแบบสุด บนขนาดหน้าจอ 12 นิ้ว ซึ่งจัดว่ามีขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป ที่ความละเอียด 2160 x 1440 พิกเซล พิกเซล ทำให้มีความเรียบเนียนตากว่าหน้าจอโน๊ตบุ๊คทั่วไป กับสัดส่วนที่ไม่เหมือนใครที่ 3:2 โดยเหมาะกับการทำงานแน่นอนที่สุด อีกทั้งหน้าจอทัชกรีนก็รองรับ 10 จุดพร้อมกัน ทำให้เราใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้น รวมไปถึงยังรองรับปากกาสไตลัส Acer Active Pen ตามสไตลของ 2-in-1 Notebook แนวๆ นี้ด้วย ทำให้เราใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้น ตรงข้อนี้จะเห็นได้ว่า โดดเด่นและเหนือกว่าพวก Ultrabook ทั่วไปรวมไปถึง MacBook จริงๆ
ด้านของลำโพงสเตอรีโอนั้นอยู่บริเวณด้านซ้ายขวาขอบบนของตัวเครื่อง ในเรื่องของความดังของเสียงเรียกว่าทำออกมาได้อย่างน่าประทับใจทีเดียว ส่วนในเรื่องคุณภาพเสียงต้องบอกว่าไว้ใจได้ อาจจะไม่ถึงขั้นสุดยอดด้วยการที่ตัวเครื่องทีขนาดบางเฉียบ แต่ถ้าหากว่าคุณเป็นผู้ใช้งานทั่วไป คุณภาพเสียงที่ได้นั้น ก็ถือว่าดีเพียงพอแบบสบายๆ แล้ว
Acer Active Pen
สืบเนื่องมาจากการที่ Acer Switch Alpha 12 เป็นหน้าจอแสดงผลแบบทัชสกรีน ทำให้นอกเหนือจากที่เราใช้นิ้วในการสั่งงานได้แล้ว ตัว 2-in-1 Notebook รุ่นนี้ยังรองรับ Acer Active Pen ที่เป็นปากกาสไตลัสอีกด้วย ซึ่งต้องบอกว่าเป็นปากกาสไตลัสที่เหนือชั้นกว่าแท็บเล็ตทั่วไปจริงๆ ด้วยคุณสมบัติรับรู้ต่อแรงกดที่ 256 ระดับ พร้อมการตอบสนองที่รวดเร็วทันใจ ทำให้เรารู้สึกว่าใช้ปากกาหรือดินสอจริงๆ ที่เขียนลงบนกระดาษ อันนี้การันตีได้จากผู้ใช้งานนักวาดการ์ตูนหลายคนทีเดียว หรือจะใช้ไว้จดงานเขียนหนังสือก็สามารถทำได้สบายๆ ส่วนท้ายด้ามของ Acer Active Pen ก็ใช้งานเป็นยางลบเสมือนจริงได้อีกด้วย เรียกได้ว่าจะลืมการใช้กระดาษแบบเดิมๆ ไปเลย
Acer Active Pen มีอายุแบตเตอรี่ที่นานกว่า 1 ปี (ใช้ถ่าน AAAA หนึ่งก้อน) ที่น่าสนใจก็คือ Acer Switch Alpha 12 มีที่เก็บปากกาสไตลัสโดยเฉพาะ ซึ่งอยู่บริเวณขอบของชุดคีย์บอร์ดด้านซ้าย ซึ่งเป็นแบบสอดทำให้สามารถหยิบจับมาใช้ได้อย่างสะดวก รวมไปถึงไม่ตกหล่นง่ายๆ หรือถ้ากรณีที่เราไม่ได้พกชุดคีย์บอร์ดออกไป ก็สามารถใช้ปากกาสไตลัสกลับมาเก็บข้างขอบตัวเครื่องด้านล่างได้เหมือนกัน
Connector / Thin And Weight
พอร์ตการเชื่อมต่อตัวเครื่อง Acer Switch Alpha 12 นี้จัดว่าเป็นแท็บเล็ตระบบปฏิบัติการ Windows 10 ที่มีความครบครับที่สุดรุ่นนึง แม้ว่าจะเป็นเครื่องที่มีการออกแบบมาให้เป็นเครื่องที่มีขนาดความบางและน้ำหนักเบาแต่เรื่องพอร์ตการเชื่อมต่อต่างๆ นั้น ก็มีมาให้มากพอทีเดียว ด้วยพอร์ต USB 3.0 แบบเต็ม ทำให้เราสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ ได้โดนตรง ไม่ว่าจะเป็น External Harddisk หรือแฟลชไดร์ฟ รวมไปถึงเมาส์ (จริงๆ แนะนำให้ใช้เป็นแบบไร้สาย Bluetooth จะดีกว่า)
อีกทั้งยังมี USB 3.1 Type-C ไว้เชื่อมต่อกับจอแสดงผลภายนอกรองรับถึง 4K หรือ Docking ก็ทำได้ แน่นอนว่าทาง Acer ใส่ใจกว่านั้นด้วยการให้บันเดิลสายแปลง USB 3.1 Type-C to HDMI มาให้เลย โดยไม่ต้องไปหาซื้อเพิ่มเติมเองแต่อย่างใด พร้อมช่องต่อหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร แน่นอนว่ามี micro SD Card Reader เป็นมาตรฐานไว้อ่านข้อมูล หรือเพิ่มความจุของตัวเครื่องก็สามารถทำได้ ขนาดของตัวเครื่องและสายชาร์จ เมื่อเทียบกับขนาดของ Ultrabook ทั่วไปถือได้ว่ามีมิติที่เล็กกว่าพอสมควร
Performance / Software
Acer Switch Alpha 12 เครื่องรีวิวนี้มาพร้อมกับชิปประมวลผลจาก Intel Core i5-6200U ซึ่งเป็นชิปประมวลผลใช้พลังงานไฟต่ำมาก มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.3 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 2.8 GHz เป็นซีพียูแบบ 2 Core 4 Threads ที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลหนักก็รองรับได้อย่างสบายๆ แม้ก็ต้องยอมรับว่าอาจจะสูงกว่าพวก Core i7 ตัวซีรีย์ U ไม่ได้ แต่เรื่องประหยัดพลังงานนั้นไม่เป็นรองใครอย่างแน่นอน มาพร้อมแรมภายในขนาด 8GB ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้แบบสบายๆ
กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel HD Graphics 520 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน ที่โดยรวมแล้วให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีกว่า Intel HD Graphics รุ่นก่อนหน้าแน่นอน เพราะอย่างน้อยๆ ก็รองรับการทำงานกับหน้าจอความละเอียดสูงได้แบบไม่มีปัญหา
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลที่เป็นรหัส U รุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ ไม่น่าเป็นห่วงนัก
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 256GB ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดไดร์ฟแบบจานหมุนหรือแบบลูกผสมอย่าง SSHD แล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊ม
โดยส่วนตัวเล่นเป็นประจำอย่างเกม DOTA 2 ก็จัดการทดสอบให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ 1680 x 1050 พิกเซล สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าปิดบางส่วน ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่นในระดับ พูดตรงๆ ก็คือพอจะเล่นได้สำหรับเกมออนไลนท์เกมนี้ ส่วนเกมอื่นๆ ที่ไม่เกินทรัพยากรเท่าอย่าง CS:GO หรือ Point Blank รวมไปถึง Ragnarok Online ก็น่าจะเล่นได้ลื่นๆ อย่างแน่นอน
นอกจากนี้ทาง Acer เองเองก็ยังมีในส่วนของซอต์ฟแวร์ที่จะเป็นตัวช่วยในการใช้งานของเราอีกด้วยอย่าง Acer Care Center ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสเปกภายใน หรือเช็คสถานะการทำงานส่วนต่างๆ ของเครื่อง รวมไปถึงยังสามารถ ตรวจเช็คสถานะเครื่องกับข้อมูลแคชต่างๆ ก็ทำการลบทิ้งได้ตรงนี้เลย หรือเช็คอัพเดทซอฟ์ตแวร์และไดร์เวอร์ต่างๆ ของเครื่องก็สามารถทำผ่านตรงนี้ได้เช่นกัน ที่สำคัญถ้าใครต้องการ Backup หรือ Recovery ข้อมูลภายในก็จัดการได้เลย
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ของ Acer Switch Alpha 12 เป็นแบบฝังไว้ในเครื่องความจุ 4870mAh ทำงานต่อเนื่องยาวนานได้ราว 5-6 ชั่วโมงต่อเนื่องในการใช้งานแบบปกติ (ดูภาพยนตร์และเล่นอินเตอร์เน็ต) และคาดว่าจะทำได้นานยิ่งกว่านั้นปรับเปลี่ยนตามการใช้งานของแต่ละคน ว่าเปิดโปรแกรมอะไร อย่างถ้าใช้ Microsoft Edge ก็จะใช้งานได้ยาวนานกว่า Chrome ส่วนระบบระบายความร้อนเป็นแบบน้ำอย่าง Acer LiquidLoop เรียกได้เป็นเอกสิทธิ์ของ Acer โดยออกแบบให้ซ่อนตัวเอาไว้อย่างลงตัวสวยงาม พร้อมทั้งยังมีสมรรถนะการนำพาความร้อนที่ถือว่าทำได้ดี
อุณหภูมิต่ำสุดของเครื่องจะอยู่ที่ 35 องศาเซลเซียส แต่พอรีดประสิทธิภาพเต็มที่จะเห็นว่าเครื่องจะร้อนที่สุดเพียง 66 องศาเซลเซียสเท่านั้น จากการใช้โปรแกรมรีดประสิทธิภาพ (ซึ่งถึงจุดนี้ชิปประมวลผลจะลดความเร็วลงมาเองอัตโนมัติประมาณครึ่งนึง) นับว่าระบบระบายความร้อนของ Acer Switch Alpha 12 เครื่องนี้ทำออกมาได้ดีกว่า Ultrabook ที่มีสเปกใกลีเคียงกัน ที่เคยทำการรีวิวมาพอควร เพราะความร้อนทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 40 องศาเซลเซียส นับว่าAcer Switch Alpha 12 เครื่องนี้จัดการระบบระบายความร้อนออกมาได้ดีทีเดียว แต่ข้อสังเกตุคือจุดเดือดค่อนข้างต่ำกว่าพวกที่ใช้พัดลมในการระบายความร้อนนั่นเอง ซึ่งถ้าปกติเราใช้งานในห้องแอร์ก็ไม่มีปัญหาตรงจุดนี้แต่อย่างใดครับ (ยกเว้นเอาไปประมวลผลต่อเนื่องยาวๆ)
Conclusion / Award
Acer Switch Alpha 12 มาในรูปลักษณ์ที่มีความบางเบามากกว่า 2-in-1 Notebook ทั่วไป ซึ่งมีความบางเบามากๆ รวมถึงมีลักษณะการใช้งานในสไตล์ของ Microsoft Surface ที่ทำเป็นแบบแท็บเล็ตที่มีขาตั้งด้านหลังในตัว พร้อมคีย์บอร์ดมาให้ รวมถึงเพิ่มสไตลัสมาในตัว พร้อมพลังในการทำงานระดับเดียวกับ Ultrabook ด้วยหน่วยประมวลผล Intel Core i Gen 6 และหน้าจอขนาด 12 นิ้ว ให้ความละเอียด 2160 x 1440 พิกเซล พาเนลคุณภาพสูง IPS รองรับการทัชสกรีน 10 จุดและปากกาสไตลัส Acer Active Pen
ปากกาสไตลัส Acer Active Pen มีความสามารถเหมือนกันกับสไตลัสของ Surface ทุกอย่าง เช่นจะมาพร้อมกับความสามารถในการใช้งานแบบ N-Trig, มีปุ่มบนตัวสไตลัสจำนวน 2 ปุ่มทางด้านข้างและทางด้านบน (ซึ่งปุ่มทางด้านบนจะเอาไว้ใช้สำหรับการรันโปรแกรม OneNote) ฐานตั้งหน้าจอของ Acer Switch Alpha 12 นั้นสามารถที่จะทำการตั้งหน้าจอให้ทำมุมได้มากสุดถึง 165 องศา โดยการตั้งหน้าจอที่มุม 165 องศานี้ เรียกได้ว่ากางได้มากกว่า 2-in-1 Notebook รุ่นอื่นๆ อีกด้วย
สำหรับใครที่สนใจ Ultrabook หรือแท็บเล็ต Windows ที่แปลงร่างเป็นโน๊ตบุ๊คได้ล่ะก็ Acer Switch Alpha 12 ก็สามารถตอบโจทย์ได้ใกล้เคียงกับ Microsoft Surface Pro 4 ซึ่งมีจุดเด่นที่เหนือกว่าหลายๆ ส่วน ไม่ว่าจะเป็น
- ติดตั้งพอร์ต USB Type-C มาในตัว รองรับการใช้งานหลากหลาย
- มาพร้อมระบบระบายความร้อนแบบ Acer LiquidLoop ทำงานเงียบ
- ดีไซน์สวยงามตามสไตล์ผลิตภัณฑ์ Acer ระดับพรีเมียม
- มีการรับประกันระยะถึง 3 ปี แบบ On-Site Service ปีแรกซ่อมฟรีถึงบ้าน
- ราคาคุ้มค่าสุดๆ ให้ชุดคีย์บอร์ดมาเลย พร้อมใช้งานทันที
แต่ก็มีหลายสิ่งที่เป็นรองอย่างชุดคีย์บอร์ดไม่มีไฟ หน้าจอเล็กและความละเอียดต่ำกว่าเล็กน้อย ปากกาสไตลัสรองรับที่ 256 ระดับ หรืออะไรที่เล็กๆ น้อยๆ อาทิ อแดปเตอร์ไม่มีพอร์ต USB มาให้ รวมไปถึงที่เก็บปากกาสไตลัสอาจจะดูธรรมดาไปหน่อย เอาเป็นตรงจุดนี้คงต้องแล้วแต่คน ว่าเราจำเป็นต้องใช้งานหรือไม่ต้องใช้งานสิ่งใดบ้างแล้วล่ะ เอาว่าใครสนใจก็ไปลองชมตัวจริงของ Acer Switch Alpha 12 ก่อนตัดสินใจซื้อกันดูได้ ผ่านทางร้านค้าห้างไอทีต่างๆ
ราคาจำหน่ายและสเปกเต็มๆ ของ Acer Switch Alpha 12 รุ่นต่างๆ
- Core i3-6100U / 256GB / แรม 4GB อยู่ที่ 25,900 บาท
- Core i5-6200U / 256GB / แรม 8GB อยู่ที่ 35,900 บาท
- Core i7-6500U / 512GB / แรม 8 GB อยู่ที่ 45,900 บาท
จุดเด่น
- ตัวเครื่องที่มีความบางและเบาแบบสุดๆ รวมคีย์บอร์ดแล้วเพียง 1.29 กิโลกรัม
- วัสดุแข็งแรงทนทาน ดูสวยหรู ด้วยอลูมิเนียมทั้งชิ้น ขาตั้งมียางรองขนาดใหญ่
- หน้าจอมีความละเอียด 2160 x 1440 พิกเซล บนขนาด 12 นิ้ว
- พาเนลหน้าจอ IPS มีคุณภาพสูง มีความสวยงามสมจริงแบบสุดๆ
- ประสิทธิภาพดีด้วยชิปประมวลผล Intel รุ่นล่าสุด และ SSD ความเร็วสูง
- พอร์ตการเชื่อมต่อครบครัน อย่าง USB 3.0 ตัวเต็ม และ USB Type-C
- มาพร้อม Windows 10 ลิขสิทธิ์ ใช้งานได้ทันที
- เป็นแท็บเล็ตหรือโน๊ตบุ๊คก็ได้ในหนึ่งเดียว
- มีปากกาสไตลัส, ชุดคีย์บอร์ดและสายแปลง USB 3.1 Type-C to HDM มาให้พร้อมใช้งาน
- ประกัน 3 ปี ปีแรกแบบ On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน
- ราคาค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับ Microsoft Surface Pro 4
ข้อสังเกตุ
- ปากกาสไตลัสรองรับที่ 256 ระดับเท่านั้น
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานเพียง 5 ชั่วโมง
- เมื่อมีความร้อน ณ จุดๆ หนึ่ง ตัวฮาร์แวร์จะลดประสิทธิภาพลง
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 12 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง Acer Switch Alpha 12 ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Design
เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียมของทาง Acer มาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดเจนใน Acer Switch Alpha 12 ที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ ดูแล้วเรียบหรูตามสไตล์คนที่ต้องการผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียม ซึ่งในจุดของรูปร่างหน้าตาก็เป็นสิ่งที่หลายๆ คนยอมรับกันอยู่ในระดับหนึ่งอยู่แล้ว
Best Mobility
ส่วนของความสามารถในการพกพาก็ยังคงอยู่ในระดับที่ดีตามสไตล์ของ 2-in-1 Notebook ทั้งในความบางเฉียบและน้ำหนักเบา ที่ทำให้สามารถหิ้วไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก แถมไม่ต้องกลัวว่าเครื่องจะมีปัญหาอีกด้วย เพราะระบบไม่ได้ใช้ฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุน ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องการจับถือมากนัก สามารถพับฝาจอลงแล้วเก็บเครื่องได้ทันที อแดปเตอร์ก็ทำออกมาให้มีขนาดที่ไม่ใหญ่มากนัก พกพาสะดวก เหมาะมากๆ กับคนที่ทำงานนอกสถานที่บ่อยๆ
Best Value
ในกลุ่ม 2-in-1 Notebook แบบที่มีความสามารถใกล้เคียง Microsoft Surface Pro 4 ที่รองรับการทำงานรอบด้านและมาพร้อมความแท็บเล็ตและโน๊ตบุ๊คในเครื่องเดียว แต่สำหรับAcer Switch Alpha 12 นั้นตอบโจทย์การใช้งานได้หลากหลายทีเดียว ด้วยฟีเจอร์ที่กล่าวไปแล้ว ดังนั้นถ้าใครมองหาคอมพิวเตอร์พกพาที่แตกต่างแต่ราคาคุ้มค่ากับดีไซน์ดีเยี่ยม ถือว่า Acer Switch Alpha 12 เครื่องนี้ น่าจะเป็นตัวเลือกแรกๆ ของโน๊ตบุ๊คราคาคุ้มค่าเลยล่ะ