ถึงแม้ว่าเครื่องเล่น Nintendo Switch จะได้เสียงตอบรับที่ดีเมื่อตอนเปิดตัวครั้งแรกและการเผยรายละเอียดฮาร์ดแวร์เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาฟังดูอาจจะเป็นเรื่องที่ดีแก่ทาง Nintendo แต่เหมือนว่าการเปิดตัวเครื่องเล่นของปู่นินครั้งนี้อาจจะเป็นการเปิดตัวเครื่องเล่นคอนโซลครั้งสุดท้ายก็เป็นได้ครับ
จากการวิเคราะห์ของสื่อ Stuff ได้ให้ความเห็นว่าการมาของ Nintendo Switch มีแนวโน้มชะตากรรมเหมือนกับเครื่อง Wii U ที่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จนักเมื่อมันออกวางจำหน่ายพร้อมกับชี้ให้เห็นว่าเกมที่เครื่อง Switch รองรับนั้นมันก็มีอุปสรรคมากแม้ว่าจะมีเกมมากมายรองรับกับเครื่องเล่นนี้ก็ตาม
ซึ่งอุปสรรคที่ว่าก็คือการพอร์ตเกมของเครื่องเล่นคอนโซลอย่าง Xbox One กับ PlayStation 4 ไปยัง Switch จะไม่สามารถทำได้เนื่องจาก Nintendo Switch มีสเปคด้อยกว่าชัดเจนถ้าเทียบกับ Xbox One กับ PS4 ซึ่งทั้งสองมีสเปคที่ใกล้เคียงกันการพอร์ตเกมไปมาจึงสามารถทำได้นั่นก็หมายความว่าถ้าผู้พัฒนาอยากจะพอร์ตเกมจริงๆ ก็คงต้องลงทุนกันเยอะหน่อย
ซึ่งการลงทุนก็นำไปสู่ความเสี่ยงว่ามันจะคุ้มค่าหรือไม่และนั่นก็ทำให้เกมจากเครื่องคอนโซลทั้งสองไม่สามารถนำมาเล่นได้ใน Switch แต่ปัญหาเรื่องเกมก็ไม่ใช่แค่ปัญหาเดียวแต่สื่อเจ้าเดิมก็ชี้ให้เห็นว่าแบตเตอรี่ของ Switch นั้นมันค่อนข้างน้อยเล่นไม่กี่ชั่วโมงก็หมดแล้วจึงอาจจะเป็นปัญหาสำหรับบางเกมที่เล่นออนไลน์หรือนำไปเล่นข้างนอก
ในส่วนของแบตเตอรี่อาจจะเป็นปัญหาเล็กน้อยที่ไม่ส่งผลอะไรแต่การมาของ Switch มันก็ส่งผลต่อเครื่องเล่นอื่น ๆ ในเครืออย่าง 3DS เพราะ Nintendo Switch มีข้อดีคือการนำไปเล่นนอกบ้านพกพาได้ซึ่งมันมีคุณสมบัติเหมือนกับ 3DS แม้ว่าเราจะยังไม่รู้ข่าวคราวใหม่ของ 3DS แต่ก็อาจจะส่งผลต่อการผลิตเครื่องรุ่นใหม่ก็เป็นได้
นอกจากนี้เกมที่ลงบน Switch ก็อาจสร้างปัญหาใหญ่ตามมาได้ครับอย่างเช่น Legend of Zelda ที่เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดกับการที่ได้เล่นเกมนี้ที่ต้องจ่ายเป็นหมื่นบาทเพื่อได้เกมและเครื่องเล่นแต่กลับกันถ้าหากตัวเกมได้มีโอกาสลงในแพลตฟอร์มอื่นเช่น PS4 หรือ Xbox One มันย่อมมีราคาถูกกว่ากันมากแน่นอนซึ่งเทียบกันแล้วการเล่น Zelda บน Switch ดูจะไม่คุ้มนัก
อย่างไรก็ตามทั้งหมดนี้ก็เป็นแค่การวิเคราะห์ให้ความเห็นกันเท่านั้นซึ่งเราก็ต้องมาติดตามกันว่าในวันที่ 3 มีนาคม ชะตากรรมของ Nintendo Switch จะเป็นอย่างไรต่อไป
ที่มา: Stuff