เป็นที่ทราบกันดีครับว่าธุรกิจหลักของ Microsoft นั้นก็คือการเก็บไลเซนส์จากการจำหน่ายระบบปฎิบัติการ Windows ซึ่งผลลัพธ์นั้นก็เห็นๆ กันอยู่แล้วครับว่าค่าไลเซนส์ของระบบปฎิบัติการ Windows นั้นสามารถทำให้บริษัท Microsoft เติบโตได้มากขนาดไหน อย่างงไรก็ดีครับในปัจจุบันนี้นั้นทาง Microsoft มีคู่แข่งตัวฉกาจอย่าง Google ที่สร้างระบบปฎิบัติการที่ขึ้นชื่อว่าเอาใจผู้ใช้ระดับเริ่มต้นอย่าง Chrome OS ออกมาได้กีสุดๆ และที่สำคัญราคาเครื่องโน๊ตบุ๊คที่ใช้ Chrome OS นั้นก็ถูกแบบเหมือนจะให้ฟรีกันด้วยหล่ะครับ
นอกเหนือไปจาก Chrome OS เองแล้ว Microsoft ยังต้องคอยกังวลกับระบบปฎิบัติการที่อยู่คู่กับ Windows อย่างเงียบๆ มาโดยตลอด(แถมยังไม่ตายจากไปไหนสักที) อย่าง Linux ที่นอกจากมันจะฟรีแล้วนั้นในปัจจุบัน Linux เองก็มาพร้อมกับ GUI และความสามารในการใช้งานเบื้องต้นที่สะดวกสบายเอามากๆ ทั้งหมดนี้นั้นเลยทำให้ Microsoft ต้องประสบกับปัญญหาที่ว่าผู้ผลิตโน๊ตบุ๊คที่ผลิตโน๊ตบุ๊ครุ่นราคาต่ำมักจะยิยมหันไปใช้ระบบปฎิบัติการอย่าง Chrome OS, Linux หรือไม่ก็ Dos แทนครับ
ล่าสุดนั้นเพื่อยืนยันการเป็นผู้นำพร้อมแสดงความจริงใจต่อผู้ใช้ที่มีงบประมาณไม่มากนักแหล่งข่าวจากบริษัทผู้ผลิตในประเทศไต้หวันได้ออกมาเผยว่าตั้งแต่ในปี 2017 นี้เป็นต้นไปทาง Microsoft นั้นจะลดราคาค่าไลเซนซ์สำหรับระบบปฎิบัติการ Windows 10 บนเครื่องโน๊ตบุ๊คที่มีขนาดหน้าจอ 14.1 นิ้วลงไปและโน๊ตบุ๊ครุ่นดังกล่าวนั้นจะต้องเป็นโน๊ตบุ๊คที่เน้นตลาดราคาถูก(ดังนั้นโน๊ตบุ๊คขนาดจอ 13 นิ้วแบบพรีเมียมที่กำลังนิยมกันนั้นไม่ได้ลดนะครับ)
ถึงแม้ว่าแหล่งข้อมูลจะไม่ได้บอกเอาไว้ว่าทำไมทาง Microsoft ถึงได้ปรับลดราคาค่าไลเซนส์ในครั้งนี้ ทว่าเรื่องดังกล่าวก็สามารถคาดเดาได้ไม่ยากเย็นมากนักดังเหตุผลเรื่องของการโดนจู่โจมจากระบบปฎิบัติการของผู้พัฒนารายอื่นที่เรียกได้ว่าปล่อยให้ใช้ฟรีจนผู้ผลิตหลายเจ้าอย่าง Lenovo, Acer, Asustek Computer, Dell และ Samsung ต่างก็เริ่มที่จะบางจำหน่ายโน๊ตบุ๊คที่มีราคาต่ำและหน้าจอต่ำกว่า 14.1 นิ้วดังนั้นแล้วเพื่อไม่ให้ Chrome OS รุกตลาดและเข้าถึงมือผู้ใช้ได้มากกว่านี้ทาง Microsoft ก็เลยตัดไฟแต่ต้นลมเลยหล่ะครับ
ที่มา : digitimes