ในงาน CES 2017 นั้นทาง Qualcomm ได้ออกมาเปิดตัวชิปเซ็ทรุ่นท๊อปตัวถัดไปอย่าง Snapdragon 835 ครับ แน่นอนว่าหลายๆ คนนั้นคงจะคิดว่าชิปเซ็ทดังกล่าวนั้นจะเป็นชิปเซ็ทสำหรับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตรุ่นท๊อปในปี 2017 นี้อย่างแน่นอน ทว่าอุปกรณ์ที่เปิดตัวว่ามาพร้อมกับชิปเซ็ท Snapdragon 835 ก่อนใครเพื่อนนั้นกลับเป็นอุปกรณ์สวมใส่อย่างแว่นตาเสริมความเสมือนจริง(AR) จากทาง ODG ในรุ่น R-8 และ R-9 ซึ่งในงาน CES 2017 นี้นั้นได้มีการนำมาโชว์ตัวกันด้วยครับ
จุดที่น่าสนใจนอกจากเรื่องของดีไซน์สุกเท่ห์แล้วนั้นก็คือเรื่องของความแรงของชิปเซ็ทที่ R-8 และ R-9 ใช้นี่แหละครับ เพราะ Snapdragon 835 นั้นเป็นชิปเซ็ทแบบ Octa-core ที่ใช้แกนหน่วยประมวลผลรุ่นใหม่อย่าง Kyro 280 พร้อมด้วยชิปกราฟิกรุ่น Adreno 540 บนกระบวนการผลิตที่ระบดับ 10 nm ซึ่งทำให้มันมีขนาดเล็กมากจนสามารถที่จะจับมาใส่ไว้บนแว่นตาได้
แต่ก็อย่าพึ่งคิดว่ามันจะดีไปหมดทุกอย่างนะครับเพราะถ้า Snapdragon 835 ไปอยู่บนสมาร์ทโปนและแท็บเล็ตแล้วหล่ะก็มันน่าจะทำให้มีพื้นที่ในการเพิ่มฮาร์ดแวร์อย่างอื่นเข้าไปได้ กลับกันแล้วเมื่อมาอยู่บนแว่นนี้นั้น ด้วยขนาดที่ไม่ได้เล็กมากเท่าไรเมื่อเทียบกับชิปเซ็ทสำหรับอุปกรณ์สวมใส่จริงๆ ทำให้ R-8 และ R-9 นั้นดูใหญ่เทอะทะโดยรุ่นท๊อปอย่าง R-9 นั้นมีน้ำหนักอยู่ที่ 184 g ซึ่งพอๆ กับสมาร์ทโฟนระดับบนเลยครับ(ลองคิดดูครับว่าถ้าต้องใส่แว่นที่หนักขนาดนี้นานๆ มันจะทำให้เราเมื่อยขนาดไหน
ผ่านเรื่องของดีไซน์และน้ำหนักกับสเปคไปครับ จุดที่น่าหนักใจเป็นอย่างยิ่งโดยเฉพาะกับการโชว์ตัวในงานระดับโลกอย่าง CES 2017 นั้นก็คือตัวเครื่องที่โชว์ในบูธ Qualcomm นั้นไม่สามารถที่จะทำงานได้ครับ ซึ่งด้วเหตุผลดังกล่าวนี้นั้นก็เลยไม่สามารถที่จะอธิบายการเสริมความเสมือนจริงของเครื่องรุ่น R-9 ออกมาได้ครับ(จากผู้เขียนของ The Verge)
เอาเป็นว่าเรื่องดังกล่าวนั้นเราอาจจะเข้าใจได้ว่ามันเป็นปัญหาทางด้านเทคนิคที่ทาง ODG หรือ Osterhout Design Group จะต้องแก้ไขปัญหาให้ทันก่อนที่จะวางจำหน่ายเครื่องรุ่นดังเกล่า ทว่าสิ่งหนึ่งที่เราได้รับจากเครื่องที่นำมาโชว์ให้เห็นในง่นนี้ก็คือสัญญาณที่บ่งบอกให้เราได้รับรู้ครับว่าอุปกรณ์เสริมความเสมือนจริง(AR) นั้นมีความแตกต่างและน่าใช้งานมากกว่าอุปกรณ์สร้างภาพเสมือนจริงแบบสวมศรีษะ(VR) ที่มีวางจำหน่ายในปัจจุบันเป็นอย่างมากจากดีไซน์ที่แตกต่างของมัน แถมในด้านของสเปคนั้นก็เรียกได้ว่าดีกว่าจริงๆ ครับ
ทั้งนี้ตามข้อมูลนั้นทั้ง R-8 และ R-9 จะมาพร้อมกับระบบปฎิบัติการ Reticle OS ซึ่งเป็นระบบปฎิบัติการที่มีพื้นฐานมากจาก Android 7.0 โดยรุ่น R-9 นั้นจะมาพร้อมกับมุมมองที่สูงกว่าคือ 50 องศาตามด้วยหน้าจอความละเอียด 1080p พร้อมกล้องด้านหน้าความละเอียด 13 MP โดยสามารถที่จะบันทึกวีดีโอความละเอียด 4K ได้ ส่วน R-8 จะมีสเปคต่ำมาหน่อยคือมีมุมมองอยู่ที่ 40 องศา ความละเอียดหน้าจออยู่ที่ 720p ไม่มีกล้องแต่น้ำหนักก็เบากว่าคืออยู่ที่ 127 g ราคาแตกต่างกันไปตามรุ่นและสเปคทว่ารุ่นที่จะวางจำหน่ายในปี 2017 นี้ก็เป็นรุ่นสำหรับนักพัฒนาครับ
ที่มา : theverge 1, 2