หลังจากที่เห็นเป็นข่าวคราวกันมานาน ต้นปี 2017 นี้ ก็ถือว่าเป็นฤกษ์งามยามดี สำหรับเมนบอร์ดรุ่นใหม่ของทาง ASRock ที่ใช้ชิปเซ็ต Intel 200 series ซึ่งเวลานี้ผู้ผลิตเมนบอร์ดแต่ละค่ายก็ทะยอยวางโมเดลใหม่นี้ไปเกือบครบทุกค่ายแล้ว สำหรับสิ่งที่น่าสนใจของเมนบอร์ด Intel 200 series มีด้วยกันหลายสิ่ง เรียกว่าขยับฟีเจอร์มาจาก 100 series ค่อนข้างเยอะเหมือนกัน
โดยการเปลี่ยนแปลงส่วนใหญ่จะว่ากันที่การสนับสนุนอุปกรณ์และการเชื่อมต่อความเร็วสูง เช่น Intel Optane technology, High Speed Lanes, PCI Express 3.0 เป็นต้น เช่นเดียวกับเมนบอร์ด ASRock Z270 Gaming K6 ที่ยกฟีเจอร์พิเศษต่างๆ มาให้กับผู้ใช้เรียกว่าชุดใหญ่กันเลยทีเดียว โดยไฮไลต์เด่นยังอยู่ที่ลูกเล่นสำหรับเกมเมอร์ ด้วยการสนับสนุนอุปกรณ์ความเร็วสูง เช่น แรม DDR4 3866+ รองรับโอเวอร์คล็อกได้ สล็อต Ultra M.2 สำหรับ SSD M.2 หรือจะเป็น PCIe จำนวน 3 สล็อตสำหรับ SLI และ QuadFire รวมถึง USB 3.1 Type-C และลูกเล่นที่สำคัญเลยก็คือ ASRock AURA RGB LED ที่เป็นไฟ LED สวยๆ ที่จะสว่างขึ้นรอบๆ ซิงก์บนชืปเซ็ตและแถบด้านบนของภาคจ่ายไฟ ซึ่งผู้ใช้สามารถปรับแต่งเองได้ผ่านทางซอฟต์แวร์อีกด้วย
Specifications:
- ASRock Super Alloy
- Supports 7th and 6th Generation Intel® Core™ i7/i5/i3/Pentium®/Celeron® Processors (Socket 1151)
- Supports DDR4 3866+(OC)
- 3x PCIe 3.0 x 16, 3 PCIe 3.0 x1, 1 M.2 Socket (Key E)
- NVIDIA® Quad SLI™, AMD 3-Way CrossFireX™
- Graphics Output Options: HDMI, DVI-D, D-Sub
- Supports Triple Monitor
- 7.1 CH HD Audio (Realtek ALC1220 Audio Codec), Supports Creative SoundBlaster Cinema3
- 8x SATA3, 2 Ultra M.2 (PCIe Gen3 x4 & SATA3)
- 2x USB 3.1 10Gb/s (1 Type-A + 1 Type-C), 8 USB 3.0 (4 Front, 3 Rear, 1 Fatal1ty Mouse Port)
- ASRock AURA RGB LED
Feature
นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้ดีขึ้น อาทิเช่น Digi Power, Water Pump Header, Triple Monitor, 3 Graphics Outputs และ Gold Audio Jack / Gold Audio Connector เป็นต้น
แกะกล่อง
ในส่วนของบรรจุภัณฑ์ ตัวกล่องออกแบบให้ฉีกไปจาก ASRock 100 series เดิมอยู่มาก โดยเฉพาะการดีไซน์ในโทนสีและการวางฟีเจอร์ต่างๆ ลงไป ให้ดูเข้ากับเกมเมอร์มากขึ้น ด้านหน้าเป็นโลโก้ G หรือ Gamer ส่วนด้านหลังมาพร้อมรายละเอียดคุณสมบัติต่างๆ ที่เรียกว่าอัดแน่นมาบนกล่อง
ส่วนของที่อยู่ด้านในดูเยอะแยะเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นคู่มือ แผ่นไดรเวอร์ บริดจ์ SLI ฝาหลังและน็อตยึดขนาดเล็กสำหรับ M.2
SLI HB Bridge เป็นอุปกรณ์พิเศษ ที่ช่วยเพิ่มความสามารถให้กับการ SLI ได้ดีขึ้น เหมาะกับการใช้งานตั้งแต่ Intel 100 series ขึ้นไป
อีกสิ่งสำคัญก็คือ น็อตยึดอุปกรณ์ M.2 บนเมนบอร์ด ซึ่งทาง ASRock ให้มา 3 ชุดเท่ากับจำนวนของ M.2 ที่มีในรุ่นนี้ ต้องเก็บรักษาไว้ให้ดี
รูปลักษณ์และการออกแบบ
ภาพรวมของเมนบอร์ด ASRock Z270 Gaming K6 ดูค่อนข้างต่างจาก Gaming series ในรุ่นที่ผ่านมาอย่างสิ้นเชิง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของซิงก์หรือเลย์เอาท์ต่างๆ ที่ดูหนักแน่นสมกับเป็นเมนบอร์ดในกลุ่มไฮเอนด์ ซึ่งสร้างความโดดเด่นไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นซิงก์ที่มาขนาดใหญ่หรือการวางชิ้นส่วนสำคัญต่างๆ ได้อย่างลงตัว
ชุดซิงก์และครอบปิดพาแนลด้านหลัง จากเดิมขนาดจะเล็ก ครั้งนี้นอกจากซิงก์ใหญ่ที่ครอบภาคจ่ายไฟแล้ว ยังมีครอบปิดพาแนลที่ดูแข็งแรงทับไว้อีกชั้นหนึ่ง สีดำตัดแดงดูลงตัว
ซิงก์ระบายความร้อนให้กับชิปเซ็ตขนาดใหญ่ ในส่วนด้านใต้ซิงก์จะมีไฟ LED ปรากฏ เรืองแสงสวยงามเลยทีเดียว
สล็อตแรม สนับสนุน DDR4 2400 เป็นพื้นฐาน และสามารถ OC เพิ่มเติมได้มากกว่า 3866MHz+ เลยทีเดียว ขึ้นอยู่กับโมดูลแรมและการปรับแต่ง
มาพร้อมสล็อต PCI-Express จำนวนถึง 3 สล็อตสำหรับการ SLI หรือ CrossFire โดยทำในแบบ Steel slot ที่ออกแบบให้มีความแข็งแกร่ง สำหรับป้องกันแรงดึงจากการ์ดจอตัวใหญ่ๆ ได้เป็นอย่างดี ใครชอบใช้การ์ดจอเทพๆ น่าจะชื่นชอบ
ชิปสังเคราะห์เสียงจาก Realtek พร้อมระบบเสียง Purity Sound 4 รุ่นใหม่ ให้เสียงได้จัดจ้าน รองรับเสียงแบบ Surround sound 7.1-channel และ Sound Blaster Cinema 3 ที่ออกแบบมาเพื่อความบันเทิงโดยเฉพาะ
LED Debug ยังเป็นสิ่งที่เมนบอร์ด ASRock มอบให้ผู้ใช้ที่ต้องการตรวจสอบสถานะในการใช้งานระบบ ด้วยการบอกตัวเลขเป็นรหัสในการตรวจเช็ค ซึ่งเมนบอร์ดในกลุ่มเกมมิ่งหรือโอเวอร์คล็อกยังคงชื่นชอบ
ช่องต่อ SATA จัดมาให้ถึง 8 ช่องด้วยกัน เพื่อให้รองรับกับผู้ใช้ที่ต้องการพื้นที่สำหรับจัดเก็บข้อมูลกับฮาร์ดดิสก์หรือ SSD จำนวนมากๆ ได้ นอกจากนี้ยังมาพร้อมสล็อต Ultra M.2 ที่มีให้ถึง 3 ช่อง สำหรับ SSD ความเร็วสูง ที่เรียกว่ามีให้ใช้เหลือเฟือ
สวิทช์สำหรับ Power on/ off และ Reset สำหรับคนที่ชอบปรับแต่งหรือโอเวอร์คล็อกบนเมนบอร์ดโดยตรง หรือยังไม่ได้ประกอบลงเคส สามารถใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้น
ภาคจ่ายไฟแบบ 10-phase จัดมาเต็มเพื่อคอเกมและโอเวอร์คล็อก เพื่อการจ่ายไฟที่นิ่งและมีประสิทธิภาพ โดยมีซิงก์ขนาดใหญ่สีแดงอยู่โดยรอบ
พอร์ตต่อพ่วงด้านหลังจัดมาเต็ม ทั้งพอร์ตการแสดงผลที่มีทั้ง D-Sub, DVI และ HDMI รวมถึง USB type-C และ Dual LAN
ที่ครอบปิดด้านบนพอร์ต เพิ่มความแข็งแรงและลดการกระแทกกับเคสโดยตรง ก็ช่วยให้เมนบอร์ดดูหรูขึ้นไม่น้อย
พื้นที่โดยรอบของซ็อกเก็ตซีพียู ค่อนข้างกว้างขวาง สามารถติดตั้งซิงก์ขนาดใหญ่ได้สบาย ไม่ต้องกลัวชิดแรมมากเกินไปนัก
Conclusion
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเมนบอร์ดที่ออกแบบมาเพื่อคอเกมและนักโอเวอร์คล็อกโดยเฉพาะ ด้วยลูกเล่นหลายสิ่งที่ตอบโจทย์การใช้งานในหลายด้าน อาทิเช่น สล็อต M.2 ที่เป็นเหมือนอุปกรณ์ยุคใหม่ ซึ่งควรจะมีอยู่ในเมนบอร์ดในทุกวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผู้ใช้ซอฟต์แวร์มืออาชีพหรือเกมเมอร์ก็ตาม จะได้รับประโยชน์จากการโอนถ่ายไฟล์ขนาดใหญ่ได้รวดเร็ว นอกจากนี้ในแง่ของเกมเมอร์ที่ใช้กราฟฟิกรุ่นใหญ่ การได้สล็อตการ์ดจอที่แข็งแรง น่าจะเป็นสิ่งที่ช่วยให้ใช้งานได้อุ่นใจมากขึ้น เช่นเดียวกับการใส่ฟังก์ชั่นเล็กๆ ที่มีบทบาทสำคัญเข้ามา ก็ยิ่งช่วยเสริมการทำงานให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น อย่างเช่น SuperAlloy หรือ Gaming Armor รวมถึง LED Debug เป็นต้น
นอกจากนี้ลูกเล่นที่เป็นแสงไฟ AURA RGB น่าจะเป็นสิ่งที่ช่วยเสริมเมนบอร์ดให้เป็นไปตามกระแสนิยมในปัจจุบัน จึงไม่ใช่แค่นักแต่งเคสเท่านั้น แต่เกมเมอร์ที่ใช้เกมมิ่งเกียร์สาย RGB ก็ยังได้อานิสงดังนี้กล่าวนี้ด้วย แต่คงไม่ได้เป็นไฮไลต์สำคัญเท่ากับฟีเจอร์ต่างๆ ที่ใส่มาบนเมนบอร์ดรุ่นใหม่นี้ เพราะดูแล้วสอดคล้องกับการทำงานร่วมกับซีพียูรุ่นใหม่ Intel Gen 7 ได้ดีทีเดียว อย่างไรก็ดีสนนราคาของเมนบอร์ดยังไม่ออกมาอย่างเป็นทางการ ซึ่งประเมินแล้วน่าคาดว่าอาจจะสูงกว่าซีรีส์ Gaming เดียวกันในรุ่นเดิมอยู่เล็กน้อย ซึ่งถ้ามองในแง่ของลูกเล่นและฟีเจอร์ใหม่ที่ใส่มานั้นเรียกว่าคุ้มค่ากว่าเยอะ
จุดเด่น
- รองรับซีพียูรุ่นใหม่ Intel Gen7
- รองรับแรมความเร็วสูงและการโอเวอร์คล็อก
- มีไฟ LED แสดงผลปรับแต่งเองได้บริเวณชิปเซ็ต
- รองรับ Ultra M.2 ได้มากถึง 3 โมดูลด้วยกัน
ข้อสังเกต
- ฟีเจอร์ในหลายส่วนยังไม่ต่างไปจาก Intel 100 series มากนัก
- น่าจะมีสวิทช์สำหรับการโอเวอร์คล็อกมาให้ด้วย
Contact : บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)