หลังจากที่มีผลการรีวิว nVIDIA Quadro P6000 ออกมาจากทาง Hothardware ในส่วนของการทดสอบเกม ผลที่ได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถของกราฟฟิกการ์ด Worksatation รุ่นนี้ที่มีพลังมากพอสำหรับรีดเฟรมเรตจากเกมที่ใช้ทรัพยากรสูงๆ ได้ไม่ยาก
โดยที่ทาง nVIDIA ได้เผยโฉมกราฟฟิกการ์ดในแบบ Workstation สำหรับกลุ่มผู้ใช้มืออาชีพในเดือน ตุลาคม 2016 ที่ผ่านมา ไล่เลี่ยกับ Quadro P5000 ซึ่งการ์ดทั้งคู่มีพื้นฐานมาจาก Pascal สำหรับ P6000 มาพร้อมแกนหลัก GP102 ในขณะที่ P5000 ยังใช้แกนหลัก GP104 การ์ดทั้งสองรุ่นถือว่าการ์ดสำหรับมืออาชีพที่เป็นเรือธงในกลุ่ม Quadro ที่น่าสนใจก็คือ ในแกนหลัก GP102 จะมาพร้อม CUDA core มาถึง 3840 ชุด, 240 TMUs และ 96 ROPs ให้สัญญาณนาฬิกาที่ 1417MHz และ Boost clock ได้ถึง 1530MHz และการ์ดรุ่นนี้ให้การประมวลผลได้ถึง 12TFLOPs ซึ่งสูงกว่าประสิทธิภาพที่ได้บน Tesla P100 อีกด้วย
ด้วยคุณสมบัติส่วนอื่นๆ ที่น่าสนใจบนการ์ดรุ่นนี้ ยังประกอบไปด้วย GDDR5X 24GB VRAM ให้แบนด์วิทธ์ได้ถึง 9.0GB/s บนบัส 384-bit พร้อมแบนด์วิทธ์ในภาพรวมที่มากถึง 432GB/s บนการทำงาน GDDR5X นี้ ตัวการ์ดมีค่า TDP 250W เท่านั้น ซึ่งน้อย Tesla P100 ที่สูงถึง 300W ด้วยซ้ำ จะสังเกตได้ชัดว่า การ์ด Quadro รุ่นใหม่นี้ ให้ประสิทธิภาพในการประมวลผลได้ดีกว่า ในขณะที่ใช้พลังงานน้อยลง
แต่สิ่งที่ต้องให้ความสนใจก็คือ ราคาของการ์ด Quadro เหล่านี้ค่อนข้างจะแรงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ตามความสามารถ เมื่อเทียบกับการ์ด GTX 1080 ที่ราคาประมาณ 599USD (21000 บาท) เมื่อดูที่การ์ด Quadro 5000 ราคาจะสูงถึง 1900USD ประมาณ 66,000 บาท เลยทีเดียว ซึ่งพื้นฐานของการ์ดในรุ่น P5000 และ P6000 ต่างกันเพียงสัญญาณนาฬิกาเพียงเท่านั้น สนนราคาจึงอาจจะสูงกว่ากันไม่มากนัก เมื่อประเมินจาก P5000 เป็นพื้นฐาน
และตารางนี้ เป็นผลทดสอบที่ได้จาก nVIDIA Quadro P6000 และ P5000 เมื่อเทียบกับการ์ด GeForce GTX Titan X และการ์ดรุ่นใกล้เคียงอื่นๆ
ที่มา : wccftech