ถึงแม้ว่าทาง Apple นั้นจะยืนยันอย่างหนักแน่นว่ายอดจำหน่ายของ Apple Watch ของตัวเองนั้นเป็นไปได้ด้วยดี ทว่ายอดการจำหน่ายของอุปกรณ์สวมใส่โดยรวมในช่วงที่ผ่านมานั้นคงต้องยอมรับแหละครับว่าอัตราการเพิ่มขึ้นของยอดขายไม่ได้สูงอย่างที่ใครๆ คาดการณ์เอาไว้ในช่วงแรก ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนมากที่สุดเลยนั้นก็คือการประเมินยอดการขายอุปกรณ์สวมใส่ของทาง eMarketer ที่ในช่วงแรกนั้นประเมินไว้ว่ายอดจำหน่ายแบบปีต่อปีจากปี 2015 มาเป็น 2016 นั้นอยู่ที่ 60% ล่าสุดก็ต้องเปลี่ยนมาอยู่ที่ 25% เท่านั้นครับ
ในรายงานการปรับประเมินยอดขายของ eMarketer นั้นรุบะไว้เลยครับว่า “สมาร์ทวอทช์” นั้นล้มเหลวในการสร้างความประทับใจในการใช้งานต่อผู้บริโภค ไม่เหมือนกับผลิตภัณฑ์ในกลุ่มอื่นๆ ที่ยังคงสามารถที่จะสร้างความน่าสนใจได้อยู่ตลอดเวลา ซึ่งนั่นทำให้อุปกรณ์สวมใส่โดยเฉพาะกับสมาร์ทวอทช์นั้นมียอดของการลดการใช้งานเร็วกว่าที่ควรจะเป็น ที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือสมาร์ทวอทช์นั้นไม่ได้สร้างเหตุผลในการซื้อให้กับผู้บริโภคเลยหล่ะครับ
ทาง eMarketer โดยนักวิเคราะห์นาม Nicole Perrin ได้ออกมาชี้ให้เก็นอีกด้วยครับว่าก่อนที่ Apple Watch จะวางจำหน่ายนั้นอปุกรณ์สำหรับการติดตามการออกกำลังกายเป็นอุปกรณ์ที่เริ่มเข้ามามีบทบาทอย่างมากในการทำให้อุปกรณ์สวมใส่นั้นมียอดจำหน่ายสูงมากขึ้น ทว่าหลังจากที่ Apple Watch ออกวางจำหน่ายแล้วนั้น อุปกรณ์ติดตามการออกกำลังกายและติดตามสุขภาพกลายเป็นส่วนย่อยๆ ที่กลายมาเป็นฟีเจอร์หนึ่งของสมาร์ทวอทช์ซึ่งถูกใช้นำมาเป็นจุดขายที่ไม่ได้เพิ่มยอดแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตามแต่ Apple Watch ก็ไม่ได้เป็นอุปกรณ์ที่เข้ามาสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคว่า “สมาร์ทวอทช์” คือสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการมากไปกว่าอุปกรณ์สำหรับสวมใส่เพื่อติดตามการออกกำลังกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งแล้วนั้นด้วยราคาที่แสนจะแพงมากๆ ของ Apple Watch ทำให้ผู้คนคิดว่าสมาร์ทวอทช์นั้นควรจะมีฟีเจอร์อะไรต่างๆ ให้ใช้งานมากกว่านี้ไม่ใช่ว่าเป็นเพียงอุปกรณ์สำหรับติดตามการออกกำลังกายที่มาพร้อมกับความนำแฟชั่นที่ไม่ได้มีความแตกต่างครับ
อีกประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับข้อมูลในรายงานฉบับนี้ก็คือปริมาณของผู้ใช้อุปกรณ์สวมใส่ในปี 2016 ครับ จากกราฟทางด้านบนนั้นจะเห็นได้ว่าสำหรับผู้ใช้อุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะนั้นจะมีวัยอยู่ในช่วงวัยรุ่นตอนปลายไปจนถึง วันทำงานตอนต้น ซึ่งแน่นอนว่าวัยดังกล่าวนี้นั้นเป็นวัยที่ติดตามเทคโนโลยีและค่อนข้างจะมีกำลังซื้อค่อนข้างมาก(จากกราฟนั้นเก็บข้อมูลจากผู้ใช้ที่อย่างน้อยเอาอุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะมาใช้งาน 1 ครั้งต่อเดือนขึ้นไป)
ดังนั้นแล้วเรื่องที่เราได้เห็น Apple กลับมาเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายของ Apple Watch Series 2 ให้เหมาะสำหรับคนในวัยรุ่นไปจนถึงวัยทำงานตอนต้นมากขึ้นทั้งในส่วนของฟีเจอร์และราคานั้นก็ไม่ใช่เรื่องที่แปลกมากเท่าไรครับ แน่นอนว่าการเปลี่ยนแปลงของ Apple อาจจะไม่ได้ทำให้เราได้เห็นจุดดึงดูดใหม่ๆ ของอุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะ แต่ทว่าจากรายงานของ IDC นั้นก็ทำให้เห็นว่าในช่วงวันหยุดคริตส์มาสยาวที่ผ่านมานั้น Apple Watch ก็มียอดจำหน่ายสูงขึ้นครับ(จากคำบอกเล่าของทาง Tim Cook เอง)
ที่มา : techcrunch