แบรนด์ Aukey เป็นแบนรด์ที่ไม่ค่อยคุ้นหูนักซึ่งแบรนด์นี้มาจากเมืองเบียร์ประเทศเยอรมันโดยสินค้าส่วนใหญ่จะเป็นอุปกรณ์ชาร์จไฟ/สายชาร์จไฟเป็นหลักซึ่งในไทยก็มีสินค้าที่ว่าวางจำหน่ายเหมือนกันแต่ล่าสุด Aukey ได้เผยโฉมสินค้าใหม่ที่เป็นคีย์บอร์ดสำหรับเล่นเกมออกมาในชื่อรุ่น KM-G3 เรียบร้อยแล้ว
สำหรับคีย์บอร์ด KM-G3 ก็จะเป็นคีย์บอร์ดแบบ Mechanical ออกแบบมาเพื่อเล่นเกมเป็นหลักโดยทาง Aukey ได้บอกว่ามันมีจุดเด่นตรงที่ราคาถูกมีฟังก์ชั่นการใช้งานง่ายเป็นหลักพร้อมกับมีไฟ RGB เน้นความสวยงามด้วย ดังนั้นในวันนี้เราจะมาดูกันว่าคีย์บอร์ดจากเยอรมันตัวนี้จะมีประสิทธิภาพดีเหมือนกับที่ว่าไว้หรือไม่
กล่องแพจเกจ
มาเริ่มกันที่ตัวกล่องบรรจุกันเลยที่มาในกล่องสีขาวดูสะอาดตา ด้านหน้าจะเผยโลโก้หน้าตาและชื่อรุ่นของสินค้า
ส่วนด้านหลังก็จะมีรายละเอียดอีกเล็กน้อยอยู่ตรงกลางซึ่งโดยรวมแล้วตัวกล่องดูเรียบแต่มีสไตล์ดูดีมากทีเดียวครับ
เมื่อแกะกล่องออกมาก็จะพบกับตัวคีย์บอร์ด+สายไฟพร้อมกับหนังสือคู่มือการใช้งานและใบประกันสินค้าสามอย่างเน้น ๆ
ภายนอก
มาดูที่ตัวคีย์บอร์ดกันเริ่มด้วยฟ้อนท์ตัวอักษรที่ออกแบบมาค่อนข้างล้ำสมัยและเป็นเอกลักณ์เฉพาะตัวมากแต่ถึงอย่างนั้นมันก็มีปัญหาเล็กน้อยในการอ่านตัวอักษรหรือตัวเลขบางตัวจะอ่านยากสักหน่อยแม้โดยรวมจะดูสะอาดตาเป็นระเบียบก็ตาม
พอมาดูด้านบนก็จะพบว่ามีการจัดแบ่งกลุ่มของปุ่ม F1-F12 เป็นหมวดหมู่ชัดเจนโดยที่ F1-F4 จะเป็นปุ่มปรับแต่งเกี่ยวกับเสียงได้แก่ F1 เปิด Optical Drive , F2 ลดเสียง , F3 เร่งเสียง และ F4 ปิดเสียง แต่ต้องกดปุ่ม Fn ร่วมด้วยและถ้าเป็นโหมด Gaming ปุ่มทั้ง 4 จะเป็นการปรับสีปุ่มของคีย์บอร์ดครับซึ่งต้องกดปุ่ม Fn ร่วมด้วยเหมือนกัน
ปุ่ม F5-F8 จะเกี่ยวกับมัลติมีเดียโดยที่ปุ่ม F5 จะเล่นย้อนกลับ , F6 เล่นไปข้างหน้า , F7 หยุดชั่วคราว (Pause) และ F8 หยุด (Stop) ใช้ปุ่ม Fn ร่วมด้วย
ส่วนปุ่ม F9-F12 จะเป็นทางลัดเข้าโปรแกรมต่าง ๆ ได้แก่ F9 เข้า E-Mail ของเรา , F10 ไปที่ Homepage , F11 ไปที่ My Computer และ F12 เรียกโปรแกรมเครื่องคิดเลขครับและเหมือนเดิมทั้งหมดจะต้องกดปุ่ม Fn ร่วมด้วยครับ
ส่วนแผงปุ่มตัวเลขด้านขวามือก็จะปกติตามมาตรฐานที่สังเกตว่าด้านบนจะมีแถบไฟแสดงสถานะเวลาเปิด Num Lock / Caps Lock
และเมื่อย้ายมาดูฝั่งซ้ายมือด้านล่างเราก็จะเห็นปุ่ม Windows Lock ให้ด้วยครับซึ่งต้องใช้ปุ่ม Fn กดช่วย
ส่วนแผงปุ่มตรงนี้จะมีฟังค์ชั่นย่อย MR จะหมายความว่าเป็นปุ่ม Macro Record ครับและปุ่ม M1 กับ M2 ก็จะเป็นชื่อมาโคร ส่วนปุ่มอื่น ๆ ที่ต้องใช้ปุ่ม Fn ช่วยก็จะมีปุ่ม Print Screen (PS)+Fn จะเปิด/ปิดไฟ LED , INS+Fn จะแสดงโหมด LED 8 แบบ และ Del+Fn จะแสดงสีต่าง ๆ ของปุ่ม
ถ้ากด Fn+HM จะเป็นการกำหนดสีของปุ่มแต่ละปุ่มได้ว่าต้องการให้เป็นสีอะไรบ้างเช่นในรูปที่กำหนดปุ่ม T , U , P เป็นสีแดง , น้ำเงิน , เขียว ตามลำดับ
มาถึงส่วนสำคัญที่สุดกันบ้างกับสวิทช์ปุ่มที่ใช้บริการของ Outemu Blue สีฟ้าสดใสเป็นสวิทช์ที่ผลิตโดย Gaote Corp. หรือเป็นร่างโคลนของ Cherry MX แต่ว่าคุณสมบัติของมันกลับแตกต่างกันครับโดยมันจะเป็นสวิทช์ 2 จังหวะมีเสียง “คลิก” เมื่อกดแต่ให้น้ำหนักการกดน้อยกว่าของ Cherry MX พอสมควร
ถึงอย่างนั้นด้วยวัสดุปุ่มที่เป็นพลาสติกเวลากดจึงให้เสียงที่ดังนิดหน่อยแต่ก็เงียบกว่า MX Green เมื่อนำไปใช้งานจริงก็พบว่ามันอยู่ในเกณฑ์พอรับได้ไม่ดีเลิศแต่ก็ไม่แย่เกินไปและคีย์บอร์ดตัวนี้จุดเด่นของมันจะอยู่ที่แสงไฟมากกว่าตัวสวิทช์ดังนั้นการที่มันมีประสิทธิภาพเช่นนี้ก็ถือว่าโอเคแล้วครับ
หัวเชื่อมต่อ USB บริเวณที่จับจะออกแบบได้สวยงามปลอดภัยหรือจะเป็นสายไฟที่ทำจากยางผสมพลาสติกมีขนาดผอมบางเล็กน้อยแต่ก็ไม่มากจนรู้สึกว่ามันจะขาดได้ง่าย ๆ มองดูแล้วปลอดภัยหายห่วง
การออกแบบแต่ละแถวก็จะเป็นมาตรฐานเหมือนกับคีย์บอร์ด Mechanical ทั่วไปที่เน้นความสบายของนิ้วมือในการกดปุ่มหรือการวางมือบนคีย์บอร์ดและช่วยให้พิมพ์เร็วกว่าคีย์บอร์ดปกติ
เมื่อจับมันพลิกด้านหลังก็จะพบกับแผ่นกันลื่นด้านล่างทั้งซ้ายขวาแต่เมื่อดูด้านบนก็จะเจอกับแผ่นขาตั้งพับเปิด-ปิดได้แม้มันจะมีขนาดใหญ่ไปสักหน่อยแต่ก็ให้ความรู้สึกมั่นใจได้ดีทีเดียว
ไดรเวอร์และประสิทธิภาพ
เป็นความสะดวกสบายง่าย ๆ ของ Aukey เพราะคีย์บอร์ดตัวนี้จะไม่มีไดรเวอร์หรือซอฟต์แวร์เสริมเข้ามาครับแต่เราจะได้พบกับฟีเจอร์ไฟ RGB ที่เป็นของยอดฮิตที่ติดมากับคีย์บอร์ดเกมมิ่งแทบทุกตัวและเรามาดูกันครับว่าใน Aukey KM-G3 มันจะสำแดงประสิทธิภาพไฟแบบไหนมาบ้าง
เริ่มต้นกันด้วยเอฟเฟ็กต์ที่ไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนักครับกับเอฟเฟ็กต์สไตล์เหมือนงูเลื้อยไปมาพร้อมกับสีสันของปุ่มแต่ละปุ่มที่แต่ละสีเจ็บ ๆ ทั้งนั้น
ความเจ๋งของคีย์บอร์ดตัวนี้ก็คือโหมด Reactive โดยที่ปุ่มมันจะแสดงสีตอบโต้กับมือที่เรากดด้วยดังรูปด้านล่างถ้าหากเราเอามือไปกดปุ่มไหนสีสันก็จะกระจายออกไปเป็นแรงกระเพื่อม
หรืออีกแบบถ้าหากเรารูดปุ่มไปมาสีสันของปุ่มกดก็จะวิ่งไล่ตามดังนี้
เมื่อเปิดไฟห้องให้สว่างพร้อมกับเปิดไฟคีย์บอร์ดด้วยก็จะพบว่าสีสันที่ออกมาไม่แสบตามากเท่าไหร่
จัดว่าดีต่อสุขภาพสายตาของผู้ใช้มากทีเดียวครับ
สรุป
รวมแล้ว KM-G3 อาจจะไม่ใช่คีย์บอร์ดที่ดีเลิศมากที่สุดแต่มันก็ช่วยตอบสนองอะไรหลายอย่างได้ดีมีฟังค์ชั่นการใช้งานที่ครบเครื่องสะดวกสบาย สวิทช์ปุ่มกดที่ออกแบบมาทั้งเล่นเกมก็ได้ใช้พิมพ์งานก็ไม่เลวร้าย การออกแบบที่ดูเรียบง่ายแต่เรียบหรูมีไฟ RGB พร้อมลูกเล่นแพราวพราวแถมราคาของมันเพียงแค่ $60 หรือ 2,140 บาทซึ่งถือว่าถูกมากทีเดียว (ซื้อทาง Amazon)
อย่างไรก็ตมข้อเสียของมันก็จะอยู่ที่การไม่มีโปรแกรมเสริมเพื่อเพิ่มลูกเล่นกับปุ่มมาโครที่น้อยไปแต่ถ้าไม่แคร์ในจุดนี้ Aukey KM-G3 เป็นคีย์บอร์ดจากเยอรมันที่ดีมากตัวหนึ่งเลยล่ะครับ
Specifications
Score: 8.5/10
ที่มา: Techpowerup