สตูดิโอ Blizzard ชื่อนี้คงจะเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางแน่นอนครับสำหรับเกมเมอร์ทั้งหลายทั้งปวงที่คงจะเคยเล่นเกมในสังกัดของพวกเขามาหรือต่อให้ไม่เคยเล่นก็คงจะเคยได้ยินชื่อกันมาบ้างซึ่งชื่อบริษัทก้องโลกนี้ทราบกันหรือไม่ครับว่าแต่แรกเริ่มเดิมทีมันไม่ได้มีชื่อ Blizzard ตั้งแต่แรกแต่มันเคยถูกเปลี่ยนชื่อไปมาถึง 3 ครั้งด้วยกัน
ซึ่ง 3 ครั้งที่ว่านี้ก็จะเริ่มต้นจากปี 1991 กับสตูดิโอพัฒนาเกมที่ชื่อว่า Silicon & Synapse แต่หลังจากนั้น 2 ปีถัดมาก็ได้ถูกเปลี่ยนเป็น Chaos Studios จนกระทั่ง 6 เดือนให้หลังสตูดิโอก็ได้เปลี่ยนชื่ออีกครั้งเป็น Orge Studios และสุดท้ายก็มาลงเอยที่ Blizzard และใช้มาถึงปัจจุบันนี้โดยไม่มีการเปลี่ยนอีกเลย
แน่นอนครับว่าเกริ่นมาถึงขนาดนี้แล้วเราจะมาเจาะลึกเบื้องหลังที่มาของชื่อนี้กันว่าได้มาอย่างไรและประวัติการเปลี่ยนชื่อสตูดิโอแต่ละครั้งมันมีสาเหตุมาจากไหนกันบ้างซึ่งข้อมูลประวัติการเปลี่ยนชื่อก็ต้องมาจากคนในสตูดิโอ Blizzard อยู่แล้วล่ะครับโดยเราจะได้คุณ Frank Pearce กับคุณ Mike Morhaime สองผู้ก่อตั้งมาให้ข้อมูลในครั้งนี้กันครับ
ไม่รอช้าคุณ Morhaime ได้เริ่มต้นขึ้นว่าแรกเริ่มเดิมทีในปี 1991 พวกเราใช้ชื่อสตูดิโอว่า Silicon & Synapse ครับซึ่งชื่อนี้ก็เหมือนจะดูดีดูทันสมัยแต่แล้วเรื่องก็เกิดขึ้นเมื่อคุณ Allen Adham อีกหนึ่งผู้ก่อตั้งร่วมได้พูดขึ้นมาว่าชื่อนี้มันทำให้สับสนน้อยคนนักที่จะรู้ว่าความหมายแท้จริงมันเป็นยังไงแถมคนทั่วไปชอบสะกดชื่อสตูดิโอผิดบ่อยครั้งด้วย
“มันทำให้สับสนทีเดียวนะเพราะน้อยคนนักที่จะรู้ว่าความหมายมันคืออะไร ยังไม่พอชื่อนี้มันเขียนยากด้วยทำให้คนทั่วไปสะกดผิดหลายรอบ” – Allen Adham กล่าว
การสะกดชื่อผิดอาจจะดูเป็นเรื่องเล็กน้อยแต่ถ้ามองให้ดี ๆ การสะกดผิดความหมายอาจเปลี่ยนเลยก็ได้ซึ่งคุณ Morhaime ได้อธิบายอย่างคำว่า Silicon มักจะมีคนเขียนผิดเป็น Silicone ซึ่งความหมายออกไปในทางเสริมซิลิโคนหน้าอกจนทำให้ผู้คนคิดว่านี่เป็นสตูดิโอเกมหรือคลินิกเสริมหน้าอกกันแน่
อีกทั้งคำว่า Synapse มันแปลได้อีกทางคือระบบประสาทของมนุษย์และเมื่อรวมคำว่า Silicon ที่เป็นส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์แล้วมันดูขัดแย้งกันอย่างสิ้นเชิงนั่นจึงเป็นสาเหตุที่ชื่อ Silicon & Synapse อยู่ได้เพียง 2 ปีเท่านั้น
พอมาถึงปี 1993 สตูดิโอก็ได้ชื่อใหม่เอี่ยมอ่องว่า Chaos Studios แทนแต่เหมือนโชคไม่เข้าข้างหรือเปล่าไม่ทราบได้เพราะหลังจากการตั้งชื่อใหม่เพียงแค่ 6เดือนก็มีโทรศัพท์ปริศนาโทรมาหาพวกเขาทันทีและเสียงที่มาตามสายนั้นก็ทำให้พวกเขาเริ่มรู้ตัวแล้วว่ามันควรจะเปลี่ยนเป็นชื่ออื่นอีกครั้ง
“โลโก้ Chaos Studios พร้อมกับคุณ Mike Morhaime ในวัยหนุ่ม”
สาเหตุที่เป็นอย่างนั้นก็เพราะว่ามีบริษัทที่ชื่อเหมือนกันได้โทรมาหาคือ Chaos Technologies โดยบริษัทดังกล่าวได้โทรมาชี้แจงเรื่องชื่อที่เหมือนกันพร้อมกับยื่นข้อเสนอที่แสนแพงถ้าหากพวกเขาอยากจะใช้ชื่อนี้ต่อ
“พวกเราได้รับโทรศัพท์จาก Chaos Technologies ดูเหมือนพวกเขาจะไม่ค่อยพอใจนักที่มีชื่อบริษัทเหมือนกัน”
“พวกเขาเป็นบริษัทจาก Florida มาพร้อมกับข้อเสนอง่าย ๆ เฮ้! พวกเรามีชื่อ Chaos เหมือนกันนะแต่คุณจะใช้ชื่อนี้ต่อก็ได้ถ้าหากยอมจ่ายเงินจำนวน 100,000 ดอลล่าร์เพื่อขอใช้ชื่อจากบริษัทของเรา”
แน่ล่ะครับว่าจำนวนเงินที่มากขนาดนั้นกับสตูดิโอเกมที่มีเกมปล่อยออกมาแค่ 3-4 เกมคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ถ้ายอมจ่าย อีกทั้งสาเหตุที่เปลี่ยนก็มีมากกว่านั้นเมื่อคุณ Jan Davidson ประธานบริษัท Davidson & Associate ซึ่งเป็นเจ้าของสตูดิโอเกมก็ได้บอกให้เปลี่ยนชื่อเพราะคำว่า Chaos มันฟังดูน่ากลัวเกินไปสำหรับเด็ก ๆ
ฉะนั้นพวกเขาจึงต้องยอมเปลี่ยนชื่อสตูดิโอใหม่กันอีกรอบโดยคราวนี้มาในชื่อว่า Orge Studios แทนแต่เหมือนเคราะห์ยังซ้ำกรรมยังซัดเมื่อเสนอชื่อนี้ไปให้คุณ Jan เจ้าตัวก็บอกว่าไม่ชอบชื่อนี้เลยพร้อมกับไล่ไปหาชื่อมาใหม่จนสุดท้ายก็มาลงเอยที่ชื่อ Blizzard ครับ
แต่เมื่อถามว่าชื่อ Blizzard นั้นมาจากไหนก็ได้คำตอบง่าย ๆ จากคุณ Pearce ว่ามันมาจาก “ดิกชันนารี” นั่นเอง
สำหรับการนำคำว่า Blizzard มาใช้เป็นชื่อสตูดิโอเกมคุณ Pearce ได้อธิบายเพิ่มเติมว่ามันเป็นชื่อที่อ่านออกเสียงง่าย การสะกดคำไม่ยากมาก เป็นคำที่ถูกหลักกฎหมายแถมยังไม่ซ้ำกับใครอีกด้วยโดยเขาและทีมงานใช้เวลาทั้งคืนเพื่อค้นหาคำพร้อมกับบ่นอุบเล็กน้อยว่าการเลือกใช้ชื่อมันเป็นอะไรที่ยากลำบากทีเดียว
แต่จนแล้วจนรอดชื่อ Blizzard ก็ถูกนำมาใช้จนได้ซึ่งทีมงานก็เห็นพ้องต้องกันว่าชื่อ Blizzard นี่แหละว่าเป็นคำเหมาะสมที่สุดแล้วและจากวันนั้นจนมาถึงวันนี้เป็นเวลาทั้งสิ้น 20 กว่าปีพวกเขาก็ไม่เคยเปลี่ยนชื่อใหม่อีกเลยครับ
จะเห็นได้ว่ากว่าจะได้เป็นชื่อ Blizzard มาถึงทุกวันนี้ได้ผ่านอะไรมากมายแถมยังทำให้ทราบว่าการตั้งชื่อสตูดิโอหรือชื่อบริษัทนั้นมันอาจดูเหมือนง่ายแต่จริง ๆ แล้วมันเป็นอะไรที่ลึกซึ้งต้องใช้ความคิดมากเลยทีเดียวครับ
ปิดท้ายเมื่อถามความเห็นของทีมงานอีกคนคุณ Samwise Didier ฝ่ายศิลป์ของ Blizzard เกี่ยวกับชื่อของสตูดิโอว่าชื่อไหนดีที่สุดเขาก็ได้บอกทิ้งท้ายว่า
“ชื่ออะไรก็ได้ก็ดีทั้งนั้นยกเว้น Silicon & Synapse นะ”
แล้วเพื่อน ๆ ชาว Notebookspec ล่ะครับชอบชื่อไหนมากกว่ากันแน่ ?
ที่มา: PCGAMER