ไม่รู้ว่านี่เป็นข่าวดีหรือข่าวร้ายนะครับเพราะล่าสุดเมื่อไม่นานมานี้นั้นทาง Seagate ได้ทำการเปิดตัวแหล่งเก็บข้อมูลภายนอกแบบฮาร์ดดิสความจุ 1TB ที่ทาง Seagate ร่วมมือกับ Amazon ในการพัฒนาออกมาในชื่อ Seagate Duet Cloud-Syncing แน่นอนว่าหากมันแค่สามารถทำการบันทึกข้อมูลได้เฉยๆ นั้นก็คงจะไม่มีความโดดเด่นอะไรทว่า Seagate Duet Cloud-Syncing นั้นมาพร้อมกับจุดเด่นที่มันสามารถจะทำการสำรองข้อมูลที่บันทึกลงไปขึ้นไปเก็บไว้ยัง Amazon Drive หรือแหล่งเก็บข้อมูล Cloud ของทาง Amazon ได้ทันทีครับ
ในการใช้งานเพื่อที่จะทำให้ข้อมูลของคุณสามารถที่จะทำการบันทึกขึ้นไปยัง Amazon Drive แบบอัตโนมัตินั้นก็ไม่มีอะไรมากครับแต่คุณต่อ Seagate Duet Cloud-Syncing เข้ากับคอมพิวเตอร์แล้วก็ทำการ log in ไปยัง Amazon Drive(ผ่านทางโปรแกรมที่อยู่บน Seagate Duet Cloud-Syncing) เพียงแค่นี้ทุกครั้งที่คุณทำการบันทึกข้อมูลใดๆ ลงบน Seagate Duet Cloud-Syncing ข้อมูลนั้นๆ ก็จะได้รับการอัพโหลดไปที่ Amazon Drive อัตโนมัติครับ
แต่ช้าก่อนครับก่อนที่เราจะซื้อ Seagate Duet Cloud-Syncing นั้นจะมีข้อกำหนดการใช้งานดังต่อไปนี้ครับ
- ราคา $99.99 หรือประมาณ 3,600 บาท
- ผู้ที่ซื้อ Seagate Duet Cloud-Syncing จะได้รับพื้นที่การเก็บข้อมูลบน Amazon Drive แบบไม่จำกัดขนาดฟรีเป็นระยะเวลา 1 ปี
- ผู้ที่ทำการใช้งาน Amazon Drive แบบจ่ายค่าสมัครสมาชิกสำหรับโปรแกรมการเก็บข้อมูลแบบไม่จำกัดขนาดนั้นจะไม่สามารถใช้งานร่วมกับ Seagate Duet Cloud-Syncing ได้
- หากคุณใช้งาน Seagate Duet Cloud-Syncing ร่วมกับ Amazon Drive ไปแล้วเป้นระยะเวลา 1 ปี คุณจะต้องทำการต่ออายุสมาชิกกับ Amazon Drive ในการเก็บข้อมูลต่อเนื่องภายใน 2 เดือน โดยหาก 2 เดือนไปแล้วคุณไม่จ่ายค่าสมัครสมาชิกของ Amazon Drive ข้อมูลที่ถูกสำรองไว้จะถูกลบ
- ถ้าคุณคืน Seagate Duet Cloud-Syncing ไปยัง Amazon ก่อนระยะเวลา 12 เดือน ทาง Amazon จะลดระยะการใช้งาน Amazon Drive ให้เหลืออยู่ที่ 3 เดือนเท่านั้น
- ใช้งานได้เฉพาะผู้ใช้ในสหรัฐอเมริกา(เพราะมีวางจำหน่ายเฉพาะผ่าน Amazon ด้วยอยู่แล้ว
อย่างที่บอกครับว่า Seagate Duet Cloud-Syncing มีทั้งข้อดีและข้อเสีย โดยข้อดีนั้นก็อยู่ตรงที่มันจะทำการสำรองข้อมูลให้เราโดยอัตโนมัติซึ่งน่าจะเหมาะกับผู้ที่ต้องการให้ข้อมูลนั้นไม่สูญหาย แต่นั่นก็กลายเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัวของข้อมูลเพราะเมื่อข้อมูลขึ้นไปอยู่บนระบบ Cloud แล้วนั้นมีความเสี่ยงที่ข้อมูลจะหลุดได้ ทั้งนี้คนไทยอย่างเราๆ ท่านๆ ก็คงจะไม่มีปัญหาสักเท่าไรเพราะใช้ไม่ได้ แต่กับคนที่อยู่ในสหรัฐอเมริกานั้นต้องคิดดูแล้วครับว่าจะยอมรับความเสี่ยงในเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลได้หรือไม่
ที่มา : theverge