จะว่าไปแล้วถ้าช่วงนี้ใครสังเกตุกันเรื่องของราคาชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ก็จะเห็นว่าราคาแรม (RAM) มีราคาที่สูงขึ้น มาคราวนี้ก็เป็นทีของ SSD (Solid State Drive) แล้ว ที่เป็นฮาร์ดดิสก์ความเร็วสูงในรูปแบบต่างๆ โดยราคาที่แพงยิ่งขึ้นเป็นหลักร้อยบาทสำหรับตัวความจุ 120GB หรือก็จะแพงกว่านั้นขึ้นไปตามแต่ละความจุที่ใหญ่ยิ่งขึ้น ซึ่งทางสื่อต่างประเทศได้ออกมาให้ข้อมูลว่าการที่ SSD ช่วงนี้มีราคาที่แพงยิ่งขึ้นและจะแพงยิ่งขึ้นไปอีก เป็นเพราะมีต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นนั่นเอง
จากที่การชิป NAND ซึ่งเป็นส่วนประกอบของหน่วยความจำประเภท SSD มีแนวโน้มจะขาดตลาด ด้วยเหตุผลที่ฝั่งผู้ผลิตสมาร์ทโฟนต้องการชิปเหล่านี้ (อย่างก่อนหน้านี้ก็จะเป็นเม็ดแรม DRAM ทำให้แรมคอมพิวเตอร์มีราคาที่สูงขึ้นไปด้วย) ไปเพิ่มกำลังการผลิตสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ มากขึ้นนั่นเอง ส่งผลให้บรรดาผู้ผลิตต่างๆ นั้นไม่สามารถผลิตชิป NAND เข้าสู่กระบวนการผลิตได้ทัน ก็เลยสาเหตุง่ายๆ ที่ทำให้ต้นทุนการผลิต SSD เลยสูงขึ้น จนกระทบกับบรรดาผู้ซื้อทั่วไปอย่างเราๆ รวมไปถึงเหล่าผู้ผลิตคอมพิวเตอร์เพื่อการจำหน่าย
อย่างไรก็ตามถ้าดูจากสถิติที่ผ่านมาช่วงไตรมาสที่สองของปี 2016 จะเห็นว่ามีความต้องการ SSD ซึ่งสูงขึ้นจากเดิม 41.2% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว หรือคิดเป็น 9.5% จากไตรมาสแรก แน่นอนว่าการเพิ่มขึ้นอย่างมากมายนี้ทำให้กำลังการผลิตไม่เพียงพอ ซึ่งตอนนี้ Toshiba และ WD (เจ้าของใหม่ของ SanDisk) กำลังมุ่งผลิตชิปแบบ 3D NAND อยู่ด้วย ทำให้อาจผลิตได้ไม่ทันความต้องการ
เห็นได้ชัดเลย ไม่ว่าจะเป็นราคาของแรมหรือ SSD นั้นเป็นเพราะกลไกเลยส่งผลให้ราคาสูงขึ้น ซึ่งยังมีข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า ในไตรมาสนี้ SSD ทั้งชิปแบบ MLC (Multi-Level-Cell chip) และ TLC (Three-Level-Cell chip) ราคาขึ้นไปแล้วราวๆ 6-10% และที่สำคัญเตรียมตัวให้ดีอีกครั้ง เพราะ SSD ราคาจะเพิ่มจากปกติไปประมาณ 20-25% ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ซึ่งคาดว่ากว่าจะกลับมาเป็นราคาสภาวะปกติที่ควรจะเป็น คงต้องรอจนถึงปี 2018 เลยทีเดียวเชียว…ฉะนั้น ใครมีแผนจะซื้อ SSD ให้รีบจัดเลยครับ ไม่งั้นเดี๋ยวจะจ่ายแพงน้า
เช็คราคา SSD ที่ร้าน Advice กันก่อนได้ ถ้าถูกใจก็กดซื้อกันไป
[onlineicon type=”advice-icon-dark”]
ที่มา : techpowerup