[Review] Dell Inspiron 7566 – Gaming Notebook สเปก Core i7 + GTX 960M เล่นเกมลื่นไหล ประกันสบายใจ On-site ถึงบ้าน 3 ปี

Dell Inspiron 7566 ที่จัดได้ว่าเป็น Gaming Notebook รุ่นใหม่ล่าสุด ที่มาพร้อมดีไซน์ใหม่โดนใจเกมเมอร์ยิ่งกว่าเดิม ถือว่าเป็นรุ่นที่พัฒนามาจาก Dell Inspiron 7559 ก็ว่าได้ แน่นอนว่านั่นก็มาจากการที่ Dell มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ พร้อมทั้งต่อยอดความเร็จที่มีอยู่อย่างตลอดเวลา ที่สำคัญด้วยบริการ Dell Premium Support ซ่อมตรงถึงที่ ทุกที่ ในอีก 1 วันทำการ (On-site Sevice)ะยะเวลา 3 ปีเต็มด้วย ทำให้มั่นใจได้เลย บริการหลังการขายของ Dell นั้นยอดเยี่ยมอย่างแน่นอน 

Dell Inspiron 7566 ใช้ชิประมวลผลรุ่นล่าสุดจากทาง Intel อย่าง Core i7 ที่เป็นตระกูล HQ (เน้นประสิทธิภาพ) และการ์ดจอระดับสูงอย่าง NVIDIA GeForce GTX 960M  แรมมาตรฐานเป็น DDR4 พร้อม Windows 10 รวมไปถึงรุ่นท๊อปยังมีหน้าจอความละเอียดสูงระดับ 3840 x 2160 พิกเซล Ultra HD 4K  พาเนล IPS แบบด้าน ส่งผลให้เราได้พบประสบการณ์ใช้งานที่เหนือชั้นกว่าโน๊ตบุ๊คที่เน้นประสิทธิภาพทั่วๆ ไปในตลาดทีเดียว ใครจะเอาไปทำงานหรือเล่นเกมอันนี้ไม่ว่ากัน สนนราคาเริ่มต้นที่ 33,900 บาท ไปจนถึง 44,900 บาท

VDO Review

Specification

Dell Inspiron 7566 จะมีจำหน่ายด้วยกัน 3 รุ่นย่อย แต่ตัวที่ NotebookSPEC ได้ซื้อมาทดสอบ เป็นตัวรุ่นท๊อปสุด ใช้ชิปประมวลผลเป็นIntel Core i7-6700HQ (2.60 – 3.50 GHz) ทำงานแบบ 4 คอร์ 8 เธร์ด ประสิทธิภาพไว้ใจได้ พร้อมกราฟฟิการ์ดตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce GTX 960M (4GB GDDR5) มีที่เก็บข้อมูล 1 TB 5400 RPM พร้อมติดตั้ง SSD แบบ M.2 ความจุ 256GB ไว้ด้วย ในส่วนของแรมเองมีมาให้ 8GB แบบ DDR4 อัพเกรดได้สูงสุด 16GB แถมมี Windows 10 ลิขสิทธิ์ติดตั้งมาให้ใช้งานได้ทันที

นอกจากนี้ Dell Inspiron 7566 มาพร้อมจอแสดงผลแบบด้าน 15.6 นิ้ว ที่ความละเอียด 3840 x 2160 พิกเซล Ultra HD 4K ที่โดดเด่นมากในเรื่องของความคมชัดและความเที่ยงตรงของภาพและสี พร้อมด้วยกล้องเว็บแคม HD (720p) และมีไมค์ดิจิตอลในตัว ส่วนการเชื่อมต่อก็มีมาอย่างครบถ้วน ทั้ง HDMI, 3 x USB 3.0 including (1) with PowerShare , Kensington lock slot , 2-in-1 SD (UHS50)/MMC , RJ-45 , Headset พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 4.0 และ Wi-Fi มาตรฐาน 802.11a/b/g/n/ac

สนนราคา Dell Inspiron 7566 เริ่มจะอยู่ที่ 33,900 บาท ซึ่งมีอยู่ 3 สเปก 3 ราคาด้วยกัน พร้อมการรับประกัน Dell Premium Support แบบ On-site Service เป็นเวลา 3 ปี จาก Dell Thailand

• สเปก Dell Inspiron 7566 ราคา 33,900 บาท 
• สเปก Dell Inspiron 7566 ราคา 41,900 บาท
• สเปก Dell Inspiron 7566 ราคา 44,900 บาท

Hardware / Design

การออกแบบต่างๆ ของ Dell Inspiron 7566 ดูแปลกตาไปมากกว่า Inspiron รุ่นอื่นๆ และ Gaming Notebook รุ่นก่อนอย่าง Dell Inspiron 7559 ที่เคยมีมา ถึงแม้จะมีโครงร่างที่ค่อนข้างจะคล้ายๆ กัน แต่การออกแบบเชิงลึกกับต่างกันแบบเห็นได้ชัดเจน ทั้งในแง่ของดีไซน์โดยรวม และช่องระบายความร้อน ที่แฝงความดุดันมาอย่างโดดเด่นไม่ซ้ำใคร รวมไปถึงงานประกอบที่ต้องบอกว่าแน่น !!! ตามมาตรฐาน Dell เค้า

ซึ่งหลักๆ แล้วตัวเครื่องจะเป็นสีดำด้านตัดกับสีแดง (หรืออีกสีจะเน้นโทนแดงไปเลย) วัสดุก็จะเป็นพลาสติกคุณภาพสูงผสานกับฝาหลังแบบซอฟต์ทัชที่จับให้แล้วให้ความรู้สึกที่ดี แต่ก็ต้องระวังในเรื่องการเป็นรอยชีดขวน รวมถึงโลโก้สีแดงสดที่บ่งบอกความเป็น Gaming Notebook บนตัวของ Dell Inspiron 7566 ได้เป็นอย่างดี

หน้าจอของ Dell Inspiron 7566 จะเป็นแบบบานพับเดียว ที่ดูดอากาศเย็นเข้าไปแล้วปล่อยออกด้านหลังด้วยช่องระบายความร้อนแบบคู่สองพัดลม ครีบฟินที่แดงที่ดูแล้วร้อนแรงแบบสุดๆ โดยสามารถทำหน้าที่ช่วยลดความอุณหภูมิจากชิปประมวลผลและกราฟิการ์ดได้อย่างน่าประทับใจ ส่งผลให้ไม่มีความร้อนสะสม เรียกได้ว่าเป็น Gaming Notebook ในช่วงราคา 40,000 บาท ที่เน้นหนักไปที่ชุดระบายความร้อนมากกว่าแบรนด์อื่นๆ

ส่วนด้านฐานของตัวเครื่องมียางรองกันลื่นสองเส้นพาดยาวยกตัวเครื่องให้สูงขึ้น ยกตัวเครื่องให้อากาศเย็นผ่าน โดยมีช่องระบายอากาศอีก 2 ช่องด้านล่างด้วย พร้อมลำโพงซับวูฟเฟอร์ใต้เครื่อง ส่วนถ้าจะอัพเกรดก็ทำได้ง่ายๆ เพียงแค่ขันน็อตตัวเดียว รวมๆ แล้วต้องยอมรับว่าทาง Dell นั้นใส่ใจในการออกแบบมาจริงๆ

สรุปโดยรวมการออกแบบดีไซน์ภายนอกและวัสดุนั้น ทำได้ดีตามมารตรฐานของ Dell ที่ทุกคนไว้ใจและมั่นใจจริงๆ ที่ถึงแม้จะไม่ได้ออกเป็นแนว Gaming Notebook ที่ดูเยอะๆ ซักทีเดียว แต่ก็ตอบโจทย์ของคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คเพื่อการเล่นเกมในดีไซน์เรียบๆ แต่แอบแฝงความเข้มและดุดันเอาไว้ เพราะอย่างไรก็ตาม Dell Inspiron 7566 ก็ยังอยู่บนพื้นฐานการออกแบบของ Dell Inspiron Series อยู่ดี

Keyboard / Touchpad

ส่วนของคีย์บอร์ดนั้นตัวปุ่มเป็นพลาสติกสีดำสกรีนตัวอักษรสีขาว มีการออกแบบคล้ายกับซีรีส์ Inspiron ทั่วไป ทำให้สามารถพิมพ์ได้ง่ายขึ้น ก็ถือว่าทำไว้ดีอยู่แล้วเช่นกันตามสไตล์ของ Dell กับคีย์บอร์ด 4 แถวขนาด Full Size พร้อม Numpad อีกทั้งด้านการใช้งานในการพิมพ์ ก็ยังตอบสนองได้เป็นอย่างดีทั้งขนาดแป้นพิมพ์ที่รับกันนิ้วและช่องว่างระหว่างแป้นที่ทำให้มีความแม่นยำในการกด รวมทั้งแป้นก็เด้งกับนิ้วเมื่อกดลงไปอย่างพอดี ในส่วนของไฟ LED Backlit ก็สามารถใช้งานได้ดีทีเดียว ส่วนปุ่มเปิดเครื่องจะไปอยู่ที่มุมขวาบน สีกลืนไปกับเครื่อง ซึ่งข้อดีก็คือมั่นใจได้ว่าจะไม่ไปเผลอกดระหว่างการใช้งานแน่นอน พร้อมมีไฟส่องสว่างให้เห็นสถานะ

ทัชแพดมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับขนาดตัวเครื่อง ส่วนดีไซน์นั้นก็ใช้เป็นแบบไม่มีปุ่มแยกออกมาเช่นเดียวกับโน๊ตบุ๊คปัจจุบันหลายๆ รุ่น การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ตัวซอฟต์แวร์ควบคุมก็ช่วยจัดการได้ดี โดยมีการจับความเคลื่อนไหวว่าผู้ใช้กำลังพิมพ์ข้อความอยู่หรือไม่ ซึ่งจะช่วยให้เคอร์เซอร์ไม่เลื่อนไปจากตำแหน่งเก่า ถ้าผู้ใช้เผลอนำมือไปโดนทัชแพดเข้า

Screen / Speaker

หน้าจอของ Dell Inspiron 7566 นอกเหนือจากเรื่องความบางเฉียบแล้ว จุดเด่นที่สุดที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ Dell เลือกใส่หน้าจอที่มีความละเอียดสูงมากถึง 3840 x 2160 พิกเซล Ultra HD 4K ที่สำคัญยังเป็นพาเนล IPS ที่มีคุณภาพระดับมืออาชีพ (สำหรับรุ่นท๊อป) ส่งผลให้มีสีสันสวยสมจริง คมชัดในทุกมุมมอง แถมยังเรียบเนียนตาแบบที่โน๊ตบุ๊ครุ่นทั่วไปไม่สามารถให้ได้ ซึ่งในการแสดงผลจริงๆ นั้นจะไม่ได้เป็น Native ที่ Ultra HD 4K จริงๆ เพราะอัตราส่วนของภาพจะมีขนาดที่เล็กมาก ไม่ว่าจะเป็นตัวอักษรหรือรูปภาพต่างๆ โดยตรงจุดนี้ตัว Windows 10 เองจะมีการสเกลภาพให้เทียบเท่ากับ 1920 x 1080 พิกเซลแทน ส่งผลให้เราใช้งานได้ตามปกติ แต่จะปรับเป็น Native ก็ได้นะ ในกรณีที่ต้องใช้พื้นที่ในการทำงานที่เยอะๆ เรียกได้ว่ารองรับทุกการทำงานหรือความบันเทิงแบบเต็มประสบการณ์อย่างสุดๆ

จุดที่น่าชื่นชมอีกอย่างหนึ่งก็คือ Dell Inspiron 7566 เครื่องนี้ ก็คือมีการใส่ยางขอบจอมาตลอดแนวของจอเลย ต่างจากโน๊ตบุ๊คอื่นๆ ที่มักจะติดตั้งมาเป็นจุดๆ ในบางตำแหน่งเท่านั้น ซึ่งยางนี้จะมีประโยชน์ก็ในการซับแรงกระแทกที่เกิดในเวลาที่จอพับอยู่ได้

ตัวเครื่องมีช่องลำโพงคู่หน้า (Waves MaxxAudio Pro) ระบบเสียง Waves MaxxAudio Pro ให้เสียงคมชัดดังกระหึ่ม เพิ่มอรรถรสในการเล่นเกมให้ถึงใจยิ่งขึ้น ด้วยความที่เป็น 2.1 ชาแนล มีลำโพง Subwoofer อยู่ข้างใต้ตัวเครื่องด้วย ในเรื่องของความดังของเสียงเรียกว่าทำออกมาได้อย่างน่าประทับใจทีเดียว ส่วนในเรื่องคุณภาพเสียงนั้น อาจจะไม่ได้ยิ่งใหญ่อลังการงานสร้างสักเท่าไหร่ แต่ถ้าหากว่าคุณเป็นผู้ใช้งานทั่วไป คุณภาพเสียงที่ได้นั้น ก็ถือว่าดีเพียงพอแบบสบายๆ แล้ว ส่วนใครจะเอาไปต่อกับหูฟังหรือลำโพงเพิ่ม ก็สามารถทำได้หากว่าต้องการคุณภาพเสียงที่ดีมากยิ่งขึ้นไปอีก

Connector / Thin And Weight

ส่วนในการเชื่อมต่อและการบันทึกข้อมูลต่างๆ Dell Inspiron 7566 รองรับการเชื่อมต่อที่ครบถ้วน HDMI v1.4a with 4K Display support , 3 x USB 3.0 including (1) with PowerShare , Kensington lock slot , 2-in-1 SD(UHS50)/MMC , RJ-45 , Headset พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 4.0 และอินเตอร์เน็ตไวเลสผ่าน 802.11a/b/g/n/ac ถือว่ารองรับได้ดีตามมาตรฐาน

แต่ได้ตัดในส่วนของ DVD Drive ออกไปจากการที่ทุกคนใช้น้อยลงอีกทั้งยังเป็นการลดน้ำหนักและเพิ่มพื้นที่การระบายความร้อนไปในตัว อย่างไรก็ตามหน้าเสียดายที่ยังไม่ได้ติดตั้ง USB 3.1 Type-C มาให้ แต่จะว่าไปแล้ว Gaming Notebook ราคาประมาณนี้ส่วนมากก็ยังไม่มีมาให้เช่นกัน

สุดท้ายกับการพกพาเองก็ถือว่า Dell Inspiron 7566 มีน้ำหนักตัวค่อนข้างมากถึง 2.6 กิโลกรัม เมื่อเทียบกับโน๊ตบุ๊ค 15.6 นิ้วตัวอื่นๆ สเปกใกล้เคียงกัน ที่ถึงแม้ว่าจะหนักซักหน่อย แต่ได้ชุดระบายความร้อนที่ยอดเยี่ยม ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ แม้ว่าถ้ารวมอแดปเตอร์แล้วจะมีน้ำหนักประมาณ 3 กิโลกรัมทีเดียว แต่เชื่อว่าไม่น่าจะเป็นปัญหาของบรรดาเกมเมอร์เท่าไรนัก

Performance / Software

โดยมาพร้อมกับชิปประมวลผลจาก Intel Core i7-6700HQ (รุ่นยอดนิยม) ซึ่งเป็นชิปประมวลผลที่เน้นการใช้งานหนักๆ ไม่จะเป็นการโปรเซสหรือเล่นเกม มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.60 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 3.50 GHz นะครับ เป็นซีพียูแบบ 4 Core 8 Threads ที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลจริงจังก็รองรับได้อย่างสบายๆ เรียกได้ว่าแรงกว่าพวกซีรีส์ U หลายเท่า มาพร้อมแรมภายในขนาด 8GB DDR4 ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้แบบสบายๆ

กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel HD Graphics 620 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน ที่โดยรวมแล้วให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีกว่า Intel HD Graphics รุ่นก่อนหน้าแน่นอน เพราะอย่างน้อยๆ ก็รองรับการทำงานกับหน้าจอความละเอียดสูงได้แบบไม่มีปัญหา อีกทั้งยังมีกราฟิกการ์ดจอแยกระดับกลางค่อนสูงอย่าง NVIDIA GeForce GTX 960M ซะด้วย เรียกได้ยิ่งตอบสนองในส่วนของการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ 3 มิติ หรือเกมที่กินทรพยากรได้เป็นอย่างดีทีเดียว

สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูงสุดๆ ที่น่าประทับใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบน ที่เน้นการทำงานเป็นหลัก

ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 256GB แบบ M.2 (สามารถอัพเกรดเป็นแบบ NVMe ได้) ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ 550MB/s และเขียนที่ 258MB/s

ทดสอบการทำงานฮาร์ดดิสก์ความจุอยู่ที่ 1TB ที่ติดตั้งมาให้ด้วยโปรแกรม HD Tune แล้วพบว่าอัตราการถ่ายโอนข้อมูลน้อยสุดที่ 50.2 MB/s และสูงสุดที่ 103.9 MB/s ทำให้ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 82.2 MB/s ด้วยกัน มีอัตราการเข้าถึงข้อมูลที่ 18.6 ms ซึ่งนับได้ว่าผลทดสอบที่ออกมานั้นมีความน่าประทับใจทีเดียว เรียกได้ว่าจัดอยู่มาตรฐานของฮาร์ดดิสก์

การตั้งค่า : Battlefield 1 FHD – High / GTA 5 FHD – High / Overwatch FHD – High / DOTA 2 FHD – Best looking / CS:GO FHD – High

คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของ FPS จากทั้ง 5 เกมที่ได้ทดสอบมีค่ามากกว่า 30FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-6700HQ ที่สามารถรีดพลัง NVIDIA GeForce GTX 960M ออกมาได้อย่างเต็มที่ ประกอบกับยังใช้แรม  8GB DDR4 และ SSD ความเร็วสูง

ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง Battlefield 1 และ GTA V ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับค่อนข้างสูง  ภาพก็สวยจนน่าประทับใจแล้ว ซึ่งดูจากเฟรมเรทแล้วไม่ต่ำไปกว่า 30FPS อย่างไรก็ตามอาจจะไม่ถึงขั้นดีมากกับเกมที่กินสเปกหนักๆ แต่ก็พอจะตอบสนองความต้องการได้บางส่วน

อีก 2 เกมออนไลน์ ที่โดยส่วนตัวเล่นเป็นประจำอย่าง Overwatch, DOTA 2 ก็จัดการทดสอบให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน  ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่น ระดับเฟรมเรทที่สูงสุด แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็สบายๆ ค่าเฟรมเรทอยู่ที่ราวๆ 60 ขึ้นไปตลอด ส่วน CS:GO เฟรมเรทไปไกลมากทีเดียว สรุปโดยรวมแล้วคือเล่นได้สบายๆ ทำได้อย่างน่าประทับใจ ทั้งจากความลื่นไหลและหน้าจอที่สวยงามสมจริง อย่างไรก็ตามก็ไม่ขนาดไหวที่จะปรับเป็น 4K Ultra HD ตาม Native ของหน้าจอได้

Battery / Heat / Noise

แบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาให้ใน Dell Inspiron 7566 เครื่องนี้เป็นแบบ 6 Cell แต่ด้วยที่เป็นชิปประมวลผลแบบประหยัดพลังงานจึงมีการใช้พลังงานค่อนข้างน้อย ส่วนของการทดสอบระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่โดยตั้งค่าความสว่างหน้าจอและเสียงให้ระดับต่ำที่สุดแล้วเล่นเว็บสลับกับดู Youtube แล้ว โปรแกรม BatteryMon แจ้งระยะเวลาใช้งานต่อเนื่องในเงื่อนไขดังกล่าวราว 6 ชั่วโมงโดยประมาณ ดังนั้นเวลาใช้งานจริงโดยปรับความสว่างหน้าจอและเสียงให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมจะทำให้แบตเตอรี่มีระยะเวลาใช้งานยาวนานกว่านี้แน่นอน (หรือใช้งานหนักๆ ก็ลดลงไปอีก)

สำหรับอุณหภูมิเมื่อใช้งานแบบปกติจะอยู่ที่ประมาณ 40 องศาเซลเซียส ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิประมาณ 28 องศาเซลเซียส จากนั้นทำการทดสอบเบิร์นให้เครื่องทำงาน 100% ด้วยการเล่นเกมกราฟิก 3 มิติ เพื่อให้เห็นถึงระบบระบายความร้อนและเสียงรบกวนที่จะเกิดขึ้นเมื่อพัดลมหมุนรอบจัด ที่ดูจากภาพแล้วจะเห็นได้ว่าอุณหภูมิสูงสุดของตัวเครื่องอยู่ที่ไม่เกิน 82 องศาเซลเซียส ส่วนเสียงพัดลมก็ดังพอสมควร แต่ก็ไม่ถือว่ารบกวนอะไรมากมายสำหรับคนที่เล่นเกม

 

Conclusion / Award

เรียกได้ว่ามีความน่าสนใจจริงๆ สำหรับ Dell Inspiron 7566 ที่เป็น Gaming Notebook สุดพรีเมียมจากทาง Dell ที่ต่อยอดความสำเร็จจากรุ่นก่อนหน้าได้เป็นอย่างดี เพราะมาพร้อมความสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของดีไซน์การออกแบบ ภาพลักษณ์ วัสดุ งานประกอบ รวมไปถึงประสิทธิภาพและประสบการณ์ใช้งาน ที่แม้ว่าอาจจะข้อสังเกตุในเรื่องของราคาค่าตัวที่สูงซักหน่อย รวมไปถึงมีน้ำหนักมาก เมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นๆ และสเปกใกล้เคียงกัน

สำหรับรุ่น Core i5 ความละเอียดหน้าจอ Full HD แรม 4GB ฮาร์ดดิสก์ 1TB พร้อม Windows 10 สนนราคาที่ 33,900 บาท ซึ่งเทียบกับแบรนด์อื่นๆ อาจจะได้เป็น Core i7 ไปแล้ว แต่สิ่งที่ Dell เหนือกว่าก็คือดีไซน์การออกแบบ งานประกอบ ระบบระบายร้อน และการรับประกันนั่นเอง

Dell Inspiron 7566 เป็นโน๊ตบุ๊คที่จัดได้ว่ามีความครบครันในการใช้งานหลายๆ ด้าน ตรงกับความต้องการของผู้ใช้งานทั้งในกลุ่มที่เป็นผู้ใช้งานทั่วๆ ไปหรือผู้ที่รักความบันเทิงทั้งในส่วนของเกมและมัลติมีเดีย ด้วยสเปคภายในที่แรงตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น แถมยังให้การรับประกันถึง 3  ปีอีกด้วย ที่สำคัญคือ Dell Premium Support คือมารับมาส่งถึงบ้านเลย อันนี้เจ๋งกว่าแบบเหนือชั้นจริงๆ ยังไงก็จัดได้ว่ามีความน่าซื้ออยู่ไม่น้อยเช่นกัน สำหรับการโน๊ตบุ๊คเพื่อการเล่นเกมจาก Dell

เอาเป็นว่าใครกำลังมองหาโน๊ตบุ๊คที่เน้นความแรง งานประกอบ ดีไซน์ที่ดุดัน และการรับประกันเทพๆ แล้วล่ะก็ Dell Inspiron 7566 น่าจะตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดีทีเดียว ส่วนข้อมูล Dell รุ่นอื่นๆ สามารถตามดูต่อได้ที่ https://www.facebook.com/DellThailand ได้เลย ซึ่งถ้าใครเน้นเล่นเกมและต้องการประสบการณ์ใช้งานที่เยี่ยมยอดแบบสุดๆ ล่ะก็ แนะนำให้ดูเป็น Alienware ไปเลยก็ได้ครับ

จุดเด่น

• เป็น Gaming Notebook ดีไซน์สวย งานประกอบแน่นๆ
• หน้าจอมีความละเอียดสูงระดับ Ultra HD 4K พาเนล IPS (สำหรับรุ่นท็อป)
• ประสิทธิภาพสูงด้วย Core i7 และการ์ดจอ GTX 960M (สำหรับรุ่นท็อป)
• ติดตั้ง SSD M.2 และฮาร์ดดิสก์ปกติได้พร้อมกัน
• การอัพเกรดทำได้ง่ายมากๆ ด้วยฝาใต้เครื่องมีน็อตตัวเดียว
• ระบบระบายความร้อนทำได้ดีน่าประทับใจ
• มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 10 ใช้งานได้ทันที
• ประกันถึง 3 ปี มาพร้อม Dell Premium Support ซ่อมตรงถึงที่ ในอีก 1 วันทำการ (On-site Sevice)

ข้อสังเกตุ

• ราคาสูงกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปในสเปกใกล้เคียงกัน
• ตัวเครื่องค่อนข้างหนัก ถ้าเทียบกับโน๊ตบุ๊ครุ่นใกล้เคียงกัน
• ไม่มีพอร์ต USB 3.1 Type-C (Thunderbolt 3)
• เล่นเกมเน้นลื่นๆ ควรปรับเป็นแค่ความละเอียด Full HD

Award

โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง Dell Inspiron 7566 ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้

Best Design

เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ Dell Inspiron ตระกูล Gaming มาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดเจนใน Dell Inspiron 7566 ที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ ดูแล้วเรียบหรูตามสไตล์คนรุ่นใหม่ที่ชอบเล่นเกม ซึ่งในจุดของรูปร่างหน้าตาก็เป็นสิ่งที่หลายๆ คนยอมรับกัน ในระดับหนึ่งอยู่แล้ว

Best Performance

ด้วยสเปกชิปประมวลผล Intel Core i7 ตัวล่าสุด ที่มาพร้อมกับแรมขนาด 16GB (ตัวท๊อป) แบบ DDR4 และกราฟิกการ์ดยอดนิยมอย่าง NVIDIA GeForce GTX 960M ขนาด 4GB DDR5 รวมไปถึง SSD ความเร็วสูงก็ทำให้ประสิทธิภาพโดยรวมของตัวเครื่องนี้มีความน่าประทับใจ ทั้งจากในการใช้ทำงานจริงๆ รวมไปถึงการทดสอบด้วยโปรแกรมต่างๆ ซึ่งจะเห็นได้ว่าในสเปกโน๊ตบุ๊คเครื่องอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกัน ผลคะแนนที่ออกมานั้นทำได้อยู่ในช่วงเดียวกัน หรือบางจุดก็มากกว่าซะด้วย

Best Graphic

เรื่องของหน้าจอและความละเอียดจอก็มาในระดับที่สูงยังมาเป็นแบบ Ultra HD 4K ที่เป็นพาเนลจอคุณภาพสูงระดับมืออาชีพอย่าง IPS กับความละเอียด 3840 x 2160 พิกเซล ส่งผลให้มีสีสันสวยสมจริง คมชัดในทุกมุมมอง แถมยังเรียบเนียนตาแบบที่โน๊ตบุ๊ครุ่นทั่วไปไม่สามารถให้ได้ ซึ่งในการแสดงผลจริงๆ ทำให้รองรับงานกราฟิก วีดีโอ หรือโปรเซสภาพได้อย่างดีเยี่ยม อีกทั้งยังขับเคลื่อนด้วยการ์ดจอระดับสูงอย่าง NVIDIA GeForce GTX 960M ทำให้เล่นเกมก็ลื่นไหล (แต่ต้องลดความละเอียดเป็น Full HD นะ)

VDO Review

Specification

Dell Inspiron 7566 จะมีจำหน่ายด้วยกัน 3 รุ่นย่อย แต่ตัวที่ NotebookSPEC ได้ซื้อมาทดสอบ เป็นตัวรุ่นท๊อปสุด ใช้ชิปประมวลผลเป็นIntel Core i7-6700HQ (2.60 – 3.50 GHz) ทำงานแบบ 4 คอร์ 8 เธร์ด ประสิทธิภาพไว้ใจได้ พร้อมกราฟฟิการ์ดตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce GTX 960M (4GB GDDR5) มีที่เก็บข้อมูล 1 TB 5400 RPM พร้อมติดตั้ง SSD แบบ M.2 ความจุ 256GB ไว้ด้วย ในส่วนของแรมเองมีมาให้ 8GB แบบ DDR4 อัพเกรดได้สูงสุด 16GB แถมมี Windows 10 ลิขสิทธิ์ติดตั้งมาให้ใช้งานได้ทันที

นอกจากนี้ Dell Inspiron 7566 มาพร้อมจอแสดงผลแบบด้าน 15.6 นิ้ว ที่ความละเอียด 3840 x 2160 พิกเซล Ultra HD 4K ที่โดดเด่นมากในเรื่องของความคมชัดและความเที่ยงตรงของภาพและสี พร้อมด้วยกล้องเว็บแคม HD (720p) และมีไมค์ดิจิตอลในตัว ส่วนการเชื่อมต่อก็มีมาอย่างครบถ้วน ทั้ง HDMI, 3 x USB 3.0 including (1) with PowerShare , Kensington lock slot , 2-in-1 SD (UHS50)/MMC , RJ-45 , Headset พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 4.0 และ Wi-Fi มาตรฐาน 802.11a/b/g/n/ac

สนนราคา Dell Inspiron 7566 เริ่มจะอยู่ที่ 33,900 บาท ซึ่งมีอยู่ 3 สเปก 3 ราคาด้วยกัน พร้อมการรับประกัน Dell Premium Support แบบ On-site Service เป็นเวลา 3 ปี จาก Dell Thailand

• สเปก Dell Inspiron 7566 ราคา 33,900 บาท 
• สเปก Dell Inspiron 7566 ราคา 41,900 บาท
• สเปก Dell Inspiron 7566 ราคา 44,900 บาท

Hardware / Design

การออกแบบต่างๆ ของ Dell Inspiron 7566 ดูแปลกตาไปมากกว่า Inspiron รุ่นอื่นๆ และ Gaming Notebook รุ่นก่อนอย่าง Dell Inspiron 7559 ที่เคยมีมา ถึงแม้จะมีโครงร่างที่ค่อนข้างจะคล้ายๆ กัน แต่การออกแบบเชิงลึกกับต่างกันแบบเห็นได้ชัดเจน ทั้งในแง่ของดีไซน์โดยรวม และช่องระบายความร้อน ที่แฝงความดุดันมาอย่างโดดเด่นไม่ซ้ำใคร รวมไปถึงงานประกอบที่ต้องบอกว่าแน่น !!! ตามมาตรฐาน Dell เค้า

ซึ่งหลักๆ แล้วตัวเครื่องจะเป็นสีดำด้านตัดกับสีแดง (หรืออีกสีจะเน้นโทนแดงไปเลย) วัสดุก็จะเป็นพลาสติกคุณภาพสูงผสานกับฝาหลังแบบซอฟต์ทัชที่จับให้แล้วให้ความรู้สึกที่ดี แต่ก็ต้องระวังในเรื่องการเป็นรอยชีดขวน รวมถึงโลโก้สีแดงสดที่บ่งบอกความเป็น Gaming Notebook บนตัวของ Dell Inspiron 7566 ได้เป็นอย่างดี

หน้าจอของ Dell Inspiron 7566 จะเป็นแบบบานพับเดียว ที่ดูดอากาศเย็นเข้าไปแล้วปล่อยออกด้านหลังด้วยช่องระบายความร้อนแบบคู่สองพัดลม ครีบฟินที่แดงที่ดูแล้วร้อนแรงแบบสุดๆ โดยสามารถทำหน้าที่ช่วยลดความอุณหภูมิจากชิปประมวลผลและกราฟิการ์ดได้อย่างน่าประทับใจ ส่งผลให้ไม่มีความร้อนสะสม เรียกได้ว่าเป็น Gaming Notebook ในช่วงราคา 40,000 บาท ที่เน้นหนักไปที่ชุดระบายความร้อนมากกว่าแบรนด์อื่นๆ

ส่วนด้านฐานของตัวเครื่องมียางรองกันลื่นสองเส้นพาดยาวยกตัวเครื่องให้สูงขึ้น ยกตัวเครื่องให้อากาศเย็นผ่าน โดยมีช่องระบายอากาศอีก 2 ช่องด้านล่างด้วย พร้อมลำโพงซับวูฟเฟอร์ใต้เครื่อง ส่วนถ้าจะอัพเกรดก็ทำได้ง่ายๆ เพียงแค่ขันน็อตตัวเดียว รวมๆ แล้วต้องยอมรับว่าทาง Dell นั้นใส่ใจในการออกแบบมาจริงๆ

สรุปโดยรวมการออกแบบดีไซน์ภายนอกและวัสดุนั้น ทำได้ดีตามมารตรฐานของ Dell ที่ทุกคนไว้ใจและมั่นใจจริงๆ ที่ถึงแม้จะไม่ได้ออกเป็นแนว Gaming Notebook ที่ดูเยอะๆ ซักทีเดียว แต่ก็ตอบโจทย์ของคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คเพื่อการเล่นเกมในดีไซน์เรียบๆ แต่แอบแฝงความเข้มและดุดันเอาไว้ เพราะอย่างไรก็ตาม Dell Inspiron 7566 ก็ยังอยู่บนพื้นฐานการออกแบบของ Dell Inspiron Series อยู่ดี

Keyboard / Touchpad

ส่วนของคีย์บอร์ดนั้นตัวปุ่มเป็นพลาสติกสีดำสกรีนตัวอักษรสีขาว มีการออกแบบคล้ายกับซีรีส์ Inspiron ทั่วไป ทำให้สามารถพิมพ์ได้ง่ายขึ้น ก็ถือว่าทำไว้ดีอยู่แล้วเช่นกันตามสไตล์ของ Dell กับคีย์บอร์ด 4 แถวขนาด Full Size พร้อม Numpad อีกทั้งด้านการใช้งานในการพิมพ์ ก็ยังตอบสนองได้เป็นอย่างดีทั้งขนาดแป้นพิมพ์ที่รับกันนิ้วและช่องว่างระหว่างแป้นที่ทำให้มีความแม่นยำในการกด รวมทั้งแป้นก็เด้งกับนิ้วเมื่อกดลงไปอย่างพอดี ในส่วนของไฟ LED Backlit ก็สามารถใช้งานได้ดีทีเดียว ส่วนปุ่มเปิดเครื่องจะไปอยู่ที่มุมขวาบน สีกลืนไปกับเครื่อง ซึ่งข้อดีก็คือมั่นใจได้ว่าจะไม่ไปเผลอกดระหว่างการใช้งานแน่นอน พร้อมมีไฟส่องสว่างให้เห็นสถานะ

ทัชแพดมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับขนาดตัวเครื่อง ส่วนดีไซน์นั้นก็ใช้เป็นแบบไม่มีปุ่มแยกออกมาเช่นเดียวกับโน๊ตบุ๊คปัจจุบันหลายๆ รุ่น การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ตัวซอฟต์แวร์ควบคุมก็ช่วยจัดการได้ดี โดยมีการจับความเคลื่อนไหวว่าผู้ใช้กำลังพิมพ์ข้อความอยู่หรือไม่ ซึ่งจะช่วยให้เคอร์เซอร์ไม่เลื่อนไปจากตำแหน่งเก่า ถ้าผู้ใช้เผลอนำมือไปโดนทัชแพดเข้า

Screen / Speaker

หน้าจอของ Dell Inspiron 7566 นอกเหนือจากเรื่องความบางเฉียบแล้ว จุดเด่นที่สุดที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ Dell เลือกใส่หน้าจอที่มีความละเอียดสูงมากถึง 3840 x 2160 พิกเซล Ultra HD 4K ที่สำคัญยังเป็นพาเนล IPS ที่มีคุณภาพระดับมืออาชีพ (สำหรับรุ่นท๊อป) ส่งผลให้มีสีสันสวยสมจริง คมชัดในทุกมุมมอง แถมยังเรียบเนียนตาแบบที่โน๊ตบุ๊ครุ่นทั่วไปไม่สามารถให้ได้ ซึ่งในการแสดงผลจริงๆ นั้นจะไม่ได้เป็น Native ที่ Ultra HD 4K จริงๆ เพราะอัตราส่วนของภาพจะมีขนาดที่เล็กมาก ไม่ว่าจะเป็นตัวอักษรหรือรูปภาพต่างๆ โดยตรงจุดนี้ตัว Windows 10 เองจะมีการสเกลภาพให้เทียบเท่ากับ 1920 x 1080 พิกเซลแทน ส่งผลให้เราใช้งานได้ตามปกติ แต่จะปรับเป็น Native ก็ได้นะ ในกรณีที่ต้องใช้พื้นที่ในการทำงานที่เยอะๆ เรียกได้ว่ารองรับทุกการทำงานหรือความบันเทิงแบบเต็มประสบการณ์อย่างสุดๆ

จุดที่น่าชื่นชมอีกอย่างหนึ่งก็คือ Dell Inspiron 7566 เครื่องนี้ ก็คือมีการใส่ยางขอบจอมาตลอดแนวของจอเลย ต่างจากโน๊ตบุ๊คอื่นๆ ที่มักจะติดตั้งมาเป็นจุดๆ ในบางตำแหน่งเท่านั้น ซึ่งยางนี้จะมีประโยชน์ก็ในการซับแรงกระแทกที่เกิดในเวลาที่จอพับอยู่ได้

ตัวเครื่องมีช่องลำโพงคู่หน้า (Waves MaxxAudio Pro) ระบบเสียง Waves MaxxAudio Pro ให้เสียงคมชัดดังกระหึ่ม เพิ่มอรรถรสในการเล่นเกมให้ถึงใจยิ่งขึ้น ด้วยความที่เป็น 2.1 ชาแนล มีลำโพง Subwoofer อยู่ข้างใต้ตัวเครื่องด้วย ในเรื่องของความดังของเสียงเรียกว่าทำออกมาได้อย่างน่าประทับใจทีเดียว ส่วนในเรื่องคุณภาพเสียงนั้น อาจจะไม่ได้ยิ่งใหญ่อลังการงานสร้างสักเท่าไหร่ แต่ถ้าหากว่าคุณเป็นผู้ใช้งานทั่วไป คุณภาพเสียงที่ได้นั้น ก็ถือว่าดีเพียงพอแบบสบายๆ แล้ว ส่วนใครจะเอาไปต่อกับหูฟังหรือลำโพงเพิ่ม ก็สามารถทำได้หากว่าต้องการคุณภาพเสียงที่ดีมากยิ่งขึ้นไปอีก

Connector / Thin And Weight

ส่วนในการเชื่อมต่อและการบันทึกข้อมูลต่างๆ Dell Inspiron 7566 รองรับการเชื่อมต่อที่ครบถ้วน HDMI v1.4a with 4K Display support , 3 x USB 3.0 including (1) with PowerShare , Kensington lock slot , 2-in-1 SD(UHS50)/MMC , RJ-45 , Headset พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 4.0 และอินเตอร์เน็ตไวเลสผ่าน 802.11a/b/g/n/ac ถือว่ารองรับได้ดีตามมาตรฐาน

แต่ได้ตัดในส่วนของ DVD Drive ออกไปจากการที่ทุกคนใช้น้อยลงอีกทั้งยังเป็นการลดน้ำหนักและเพิ่มพื้นที่การระบายความร้อนไปในตัว อย่างไรก็ตามหน้าเสียดายที่ยังไม่ได้ติดตั้ง USB 3.1 Type-C มาให้ แต่จะว่าไปแล้ว Gaming Notebook ราคาประมาณนี้ส่วนมากก็ยังไม่มีมาให้เช่นกัน

สุดท้ายกับการพกพาเองก็ถือว่า Dell Inspiron 7566 มีน้ำหนักตัวค่อนข้างมากถึง 2.6 กิโลกรัม เมื่อเทียบกับโน๊ตบุ๊ค 15.6 นิ้วตัวอื่นๆ สเปกใกล้เคียงกัน ที่ถึงแม้ว่าจะหนักซักหน่อย แต่ได้ชุดระบายความร้อนที่ยอดเยี่ยม ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ แม้ว่าถ้ารวมอแดปเตอร์แล้วจะมีน้ำหนักประมาณ 3 กิโลกรัมทีเดียว แต่เชื่อว่าไม่น่าจะเป็นปัญหาของบรรดาเกมเมอร์เท่าไรนัก

Performance / Software

โดยมาพร้อมกับชิปประมวลผลจาก Intel Core i7-6700HQ (รุ่นยอดนิยม) ซึ่งเป็นชิปประมวลผลที่เน้นการใช้งานหนักๆ ไม่จะเป็นการโปรเซสหรือเล่นเกม มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.60 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 3.50 GHz นะครับ เป็นซีพียูแบบ 4 Core 8 Threads ที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลจริงจังก็รองรับได้อย่างสบายๆ เรียกได้ว่าแรงกว่าพวกซีรีส์ U หลายเท่า มาพร้อมแรมภายในขนาด 8GB DDR4 ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้แบบสบายๆ

กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel HD Graphics 620 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน ที่โดยรวมแล้วให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีกว่า Intel HD Graphics รุ่นก่อนหน้าแน่นอน เพราะอย่างน้อยๆ ก็รองรับการทำงานกับหน้าจอความละเอียดสูงได้แบบไม่มีปัญหา อีกทั้งยังมีกราฟิกการ์ดจอแยกระดับกลางค่อนสูงอย่าง NVIDIA GeForce GTX 960M ซะด้วย เรียกได้ยิ่งตอบสนองในส่วนของการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ 3 มิติ หรือเกมที่กินทรพยากรได้เป็นอย่างดีทีเดียว

สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูงสุดๆ ที่น่าประทับใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบน ที่เน้นการทำงานเป็นหลัก

ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ก็ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 256GB แบบ M.2 (สามารถอัพเกรดเป็นแบบ NVMe ได้) ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ 550MB/s และเขียนที่ 258MB/s

ทดสอบการทำงานฮาร์ดดิสก์ความจุอยู่ที่ 1TB ที่ติดตั้งมาให้ด้วยโปรแกรม HD Tune แล้วพบว่าอัตราการถ่ายโอนข้อมูลน้อยสุดที่ 50.2 MB/s และสูงสุดที่ 103.9 MB/s ทำให้ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 82.2 MB/s ด้วยกัน มีอัตราการเข้าถึงข้อมูลที่ 18.6 ms ซึ่งนับได้ว่าผลทดสอบที่ออกมานั้นมีความน่าประทับใจทีเดียว เรียกได้ว่าจัดอยู่มาตรฐานของฮาร์ดดิสก์

การตั้งค่า : Battlefield 1 FHD – High / GTA 5 FHD – High / Overwatch FHD – High / DOTA 2 FHD – Best looking / CS:GO FHD – High

คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมทำออกมาน่าสนใจมากๆ โดยเฉลี่ยของ FPS จากทั้ง 5 เกมที่ได้ทดสอบมีค่ามากกว่า 30FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-6700HQ ที่สามารถรีดพลัง NVIDIA GeForce GTX 960M ออกมาได้อย่างเต็มที่ ประกอบกับยังใช้แรม  8GB DDR4 และ SSD ความเร็วสูง

ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง Battlefield 1 และ GTA V ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับค่อนข้างสูง  ภาพก็สวยจนน่าประทับใจแล้ว ซึ่งดูจากเฟรมเรทแล้วไม่ต่ำไปกว่า 30FPS อย่างไรก็ตามอาจจะไม่ถึงขั้นดีมากกับเกมที่กินสเปกหนักๆ แต่ก็พอจะตอบสนองความต้องการได้บางส่วน

อีก 2 เกมออนไลน์ ที่โดยส่วนตัวเล่นเป็นประจำอย่าง Overwatch, DOTA 2 ก็จัดการทดสอบให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน  ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่น ระดับเฟรมเรทที่สูงสุด แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็สบายๆ ค่าเฟรมเรทอยู่ที่ราวๆ 60 ขึ้นไปตลอด ส่วน CS:GO เฟรมเรทไปไกลมากทีเดียว สรุปโดยรวมแล้วคือเล่นได้สบายๆ ทำได้อย่างน่าประทับใจ ทั้งจากความลื่นไหลและหน้าจอที่สวยงามสมจริง อย่างไรก็ตามก็ไม่ขนาดไหวที่จะปรับเป็น 4K Ultra HD ตาม Native ของหน้าจอได้

Battery / Heat / Noise

แบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาให้ใน Dell Inspiron 7566 เครื่องนี้เป็นแบบ 6 Cell แต่ด้วยที่เป็นชิปประมวลผลแบบประหยัดพลังงานจึงมีการใช้พลังงานค่อนข้างน้อย ส่วนของการทดสอบระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่โดยตั้งค่าความสว่างหน้าจอและเสียงให้ระดับต่ำที่สุดแล้วเล่นเว็บสลับกับดู Youtube แล้ว โปรแกรม BatteryMon แจ้งระยะเวลาใช้งานต่อเนื่องในเงื่อนไขดังกล่าวราว 6 ชั่วโมงโดยประมาณ ดังนั้นเวลาใช้งานจริงโดยปรับความสว่างหน้าจอและเสียงให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมจะทำให้แบตเตอรี่มีระยะเวลาใช้งานยาวนานกว่านี้แน่นอน (หรือใช้งานหนักๆ ก็ลดลงไปอีก)

สำหรับอุณหภูมิเมื่อใช้งานแบบปกติจะอยู่ที่ประมาณ 40 องศาเซลเซียส ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิประมาณ 28 องศาเซลเซียส จากนั้นทำการทดสอบเบิร์นให้เครื่องทำงาน 100% ด้วยการเล่นเกมกราฟิก 3 มิติ เพื่อให้เห็นถึงระบบระบายความร้อนและเสียงรบกวนที่จะเกิดขึ้นเมื่อพัดลมหมุนรอบจัด ที่ดูจากภาพแล้วจะเห็นได้ว่าอุณหภูมิสูงสุดของตัวเครื่องอยู่ที่ไม่เกิน 82 องศาเซลเซียส ส่วนเสียงพัดลมก็ดังพอสมควร แต่ก็ไม่ถือว่ารบกวนอะไรมากมายสำหรับคนที่เล่นเกม

 

Conclusion / Award

เรียกได้ว่ามีความน่าสนใจจริงๆ สำหรับ Dell Inspiron 7566 ที่เป็น Gaming Notebook สุดพรีเมียมจากทาง Dell ที่ต่อยอดความสำเร็จจากรุ่นก่อนหน้าได้เป็นอย่างดี เพราะมาพร้อมความสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของดีไซน์การออกแบบ ภาพลักษณ์ วัสดุ งานประกอบ รวมไปถึงประสิทธิภาพและประสบการณ์ใช้งาน ที่แม้ว่าอาจจะข้อสังเกตุในเรื่องของราคาค่าตัวที่สูงซักหน่อย รวมไปถึงมีน้ำหนักมาก เมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นๆ และสเปกใกล้เคียงกัน

สำหรับรุ่น Core i5 ความละเอียดหน้าจอ Full HD แรม 4GB ฮาร์ดดิสก์ 1TB พร้อม Windows 10 สนนราคาที่ 33,900 บาท ซึ่งเทียบกับแบรนด์อื่นๆ อาจจะได้เป็น Core i7 ไปแล้ว แต่สิ่งที่ Dell เหนือกว่าก็คือดีไซน์การออกแบบ งานประกอบ ระบบระบายร้อน และการรับประกันนั่นเอง

Dell Inspiron 7566 เป็นโน๊ตบุ๊คที่จัดได้ว่ามีความครบครันในการใช้งานหลายๆ ด้าน ตรงกับความต้องการของผู้ใช้งานทั้งในกลุ่มที่เป็นผู้ใช้งานทั่วๆ ไปหรือผู้ที่รักความบันเทิงทั้งในส่วนของเกมและมัลติมีเดีย ด้วยสเปคภายในที่แรงตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น แถมยังให้การรับประกันถึง 3  ปีอีกด้วย ที่สำคัญคือ Dell Premium Support คือมารับมาส่งถึงบ้านเลย อันนี้เจ๋งกว่าแบบเหนือชั้นจริงๆ ยังไงก็จัดได้ว่ามีความน่าซื้ออยู่ไม่น้อยเช่นกัน สำหรับการโน๊ตบุ๊คเพื่อการเล่นเกมจาก Dell

เอาเป็นว่าใครกำลังมองหาโน๊ตบุ๊คที่เน้นความแรง งานประกอบ ดีไซน์ที่ดุดัน และการรับประกันเทพๆ แล้วล่ะก็ Dell Inspiron 7566 น่าจะตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดีทีเดียว ส่วนข้อมูล Dell รุ่นอื่นๆ สามารถตามดูต่อได้ที่ https://www.facebook.com/DellThailand ได้เลย ซึ่งถ้าใครเน้นเล่นเกมและต้องการประสบการณ์ใช้งานที่เยี่ยมยอดแบบสุดๆ ล่ะก็ แนะนำให้ดูเป็น Alienware ไปเลยก็ได้ครับ

จุดเด่น

• เป็น Gaming Notebook ดีไซน์สวย งานประกอบแน่นๆ
• หน้าจอมีความละเอียดสูงระดับ Ultra HD 4K พาเนล IPS (สำหรับรุ่นท็อป)
• ประสิทธิภาพสูงด้วย Core i7 และการ์ดจอ GTX 960M (สำหรับรุ่นท็อป)
• ติดตั้ง SSD M.2 และฮาร์ดดิสก์ปกติได้พร้อมกัน
• การอัพเกรดทำได้ง่ายมากๆ ด้วยฝาใต้เครื่องมีน็อตตัวเดียว
• ระบบระบายความร้อนทำได้ดีน่าประทับใจ
• มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 10 ใช้งานได้ทันที
• ประกันถึง 3 ปี มาพร้อม Dell Premium Support ซ่อมตรงถึงที่ ในอีก 1 วันทำการ (On-site Sevice)

ข้อสังเกตุ

• ราคาสูงกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไปในสเปกใกล้เคียงกัน
• ตัวเครื่องค่อนข้างหนัก ถ้าเทียบกับโน๊ตบุ๊ครุ่นใกล้เคียงกัน
• ไม่มีพอร์ต USB 3.1 Type-C (Thunderbolt 3)
• เล่นเกมเน้นลื่นๆ ควรปรับเป็นแค่ความละเอียด Full HD

Award

โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง Dell Inspiron 7566 ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้

Best Design

เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ Dell Inspiron ตระกูล Gaming มาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ก็เห็นได้ชัดเจนใน Dell Inspiron 7566 ที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ ดูแล้วเรียบหรูตามสไตล์คนรุ่นใหม่ที่ชอบเล่นเกม ซึ่งในจุดของรูปร่างหน้าตาก็เป็นสิ่งที่หลายๆ คนยอมรับกัน ในระดับหนึ่งอยู่แล้ว

Best Performance

ด้วยสเปกชิปประมวลผล Intel Core i7 ตัวล่าสุด ที่มาพร้อมกับแรมขนาด 16GB (ตัวท๊อป) แบบ DDR4 และกราฟิกการ์ดยอดนิยมอย่าง NVIDIA GeForce GTX 960M ขนาด 4GB DDR5 รวมไปถึง SSD ความเร็วสูงก็ทำให้ประสิทธิภาพโดยรวมของตัวเครื่องนี้มีความน่าประทับใจ ทั้งจากในการใช้ทำงานจริงๆ รวมไปถึงการทดสอบด้วยโปรแกรมต่างๆ ซึ่งจะเห็นได้ว่าในสเปกโน๊ตบุ๊คเครื่องอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกัน ผลคะแนนที่ออกมานั้นทำได้อยู่ในช่วงเดียวกัน หรือบางจุดก็มากกว่าซะด้วย

Best Graphic

เรื่องของหน้าจอและความละเอียดจอก็มาในระดับที่สูงยังมาเป็นแบบ Ultra HD 4K ที่เป็นพาเนลจอคุณภาพสูงระดับมืออาชีพอย่าง IPS กับความละเอียด 3840 x 2160 พิกเซล ส่งผลให้มีสีสันสวยสมจริง คมชัดในทุกมุมมอง แถมยังเรียบเนียนตาแบบที่โน๊ตบุ๊ครุ่นทั่วไปไม่สามารถให้ได้ ซึ่งในการแสดงผลจริงๆ ทำให้รองรับงานกราฟิก วีดีโอ หรือโปรเซสภาพได้อย่างดีเยี่ยม อีกทั้งยังขับเคลื่อนด้วยการ์ดจอระดับสูงอย่าง NVIDIA GeForce GTX 960M ทำให้เล่นเกมก็ลื่นไหล (แต่ต้องลดความละเอียดเป็น Full HD นะ)