Connect with us

Hi, what are you looking for?

AMD

[Graphic Card] AMD Radeon Pro WX กราฟิกการ์ดซีรีส์สำหรับใช้งานทางด้านกราฟิก 3 มิติโดยเฉพาะ

ถึงแม้ว่ากราฟิกการ์ดสถาปัตยกรรม Polaris สำหรับตลาดคอมพิวเตอร์ PC Desktop ของทาง AMD จะสู้กับทาง NVIDIA ไม่ได้เท่าไรนัก แต่ทว่ากราฟิกการ์ดสถาปัตยกรรม Polaris นั้นก็สามารถที่จะจำหน่ายได้เรื่อยๆ ครับ

ถึงแม้ว่ากราฟิกการ์ดสถาปัตยกรรม Polaris สำหรับตลาดคอมพิวเตอร์ PC Desktop ของทาง AMD จะสู้กับทาง NVIDIA ไม่ได้เท่าไรนัก แต่ทว่ากราฟิกการ์ดสถาปัตยกรรม Polaris นั้นก็สามารถที่จะจำหน่ายได้เรื่อยๆ ครับ ล่าสุดเพื่อตอกย้ำกับความสามารถที่ทุกคนสามารถจับต้องได้ทาง AMD จึงได้ทำการประกาศเริ่มวางจำหน่ายกราฟิกการ์ดสถาปัตยกรรม Polaris สำหรับการทำงานทางด้าน 3 มิติโดยเฉพาะออกมาในชื่อซีรีย์ว่า Radeon Pro WX ครับ

amd-radeon-pro-wx-series-600-01

Advertisement

จริงๆ แล้วก่อนหน้านี้นั้นทาง AMD เคยเปิดตัวซีรีส์ Radeon Pro WX มาก่อนแล้วในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาครับ ทว่าตอนนั้นข้อมูลที่เผยออกมายังไม่แน่ชัดมากเท่าไรนักในเรื่องของสเปคของ Radeon Pro WX ในแต่ละรุ่นนอกเหนือไปจากเรื่องของการใช้สถาปัตยกรรม Polaris ที่กระบวนการผลิต 14 nm FinFET พร้อมกับการพูดถึงเรื่องของความสามารถในการประมวลผลกราฟิกที่มากกว่าเดิมแต่ใช้พลังงานน้อยลงก็ไม่ค่อยมีข้อมูลอื่นๆ เท่าไร อย่างไรก็ตามในการประกาศครั้งนี้นั้นทาง AMD ปล่อสเปคออกมาหมดทั้ง 3 รุ่นดังต่อไปนี้ครับ

amd-radeon-pro-wx-series-600-02

จุดที่เด่นที่สุดเลยคงไม่ใช่เรื่องของสเปคต่างๆ หล่ะครับ แต่ซีรีส์ Radeon Pro WX นั้นไม่ว่าจะรุ่นใดก็ตามมันจะมีขนาดของตัวการ์ดที่บางมาก บางในระดับที่ว่าใช้พื้นที่ติดตั้งในเคสแค่ Slot เดียวเท่านั้น(ความกว้างของตัวการ์ดเท่ากับ PCIe 1 slot) และจากสเปคนั้นถือว่าทาง AMD ทำได้ดีในเรื่องของอัตรการใช้พลังงานที่ถือว่าต่ำลงมากอย่างเช่นในรุ่นน้องเล็กนั้นจะมีอัตราการใช้พลังงานอยู่ที่ 50 W เท่านั้นเองครับ

หมายเหตุ – ด้วยเหตุผลดังกล่าวแล้วหากเป็นดังสเปคที่ทาง AMD เปิดตัวมาจริงดังนั้นการ์ดรุ่น WX 5100 ที่ใช้พลังงาน 75 W และการ์ดรุ่น WX 4100 ที่ใช้พลังงาน 50 W จึงไม่จำเป็นที่จะต้องเชื่อมต่อสายไฟจาก PSU เพิ่มเนื่องจาก slot PCIe สามารถจ่ายไฟได้อย่างเพียงพอแล้วครับ

amd-radeon-pro-wx-series-600-03

การ์ดในซีรีส์ Radeon Pro WX ทั้ง 3 รุ่นนั้นจะรองรับการแสดงผลสีที่ระดับความลึก 10- bit และมาพร้อมกับเทคโนโลยี AMD CrossFire Pro และ AMD FreeSync สามารถใช้งานได้ทั้งกับระบบปฎิบัติการ Windows ตั้งแต่เวอร์ชัน 7 ขึ้นไปและระบบปฎิบัตการ Linux นักออกแบบสามารถที่จะใช้งานการ์ดในซีรีส์ Radeon Pro WX กับซอฟต์แวร์ที่รองรับ API ชื่อดังอย่าง DirectX 12, OpenGL 4.5, OpenCL 2.0 และ Vulkan 1.0 ครับ

amd-radeon-pro-wx-series-600-04

การ์ด Radeon Pro WX ทั้ง 3 รุ่นนั้นรองรับการใช้งาน VR-Ready อย่างเป็นทางการ โดยแต่ละนุ่ยยั้ยสามารถที่จะแสดงผลหน้าจอที่ความละเอียดสูงสุดได้ต่างกันไป โดย WX 7100 และ WX5100 สามารถแสดงผลได้ 2 หน้าจอที่ความละเอียดระดับ 5K@60 Hz พร้อมๆ กันส่วน WX4100 นั้นจะรองรับการแสดงผลหน้าจอที่ความละเอียดระดับ 5K@60 Hz เพียงแค่หน้าจอเดียวเท่านั้นครับ

จุดเด่นที่สุดของ Radeon Pro WX นั้นก็คือมันรองรับ Radeon ProRender rendering engine ที่ทาง AMD เป็นเจ้าของและปล่อยออกมาในลักษณะของ Open source plugin ทำให้ผู้ใช้สามารถที่จะนำไปดัดแปลงใช้งานกับซอฟต์แวร์ออกแบบ 3 มิติดังๆ อย่าง Autodesk 3ds Max และ Maya

amd-radeon-pro-wx-series-600-05

ทั้งนี้ทาง AMD ได้เริ่มต้นวางจำหน่ายซีรีส์ Radeon Pro WX แล้วในวันที่ 10 พฤศจิกายนนี้สำหรับรุ่น Radeon Pro WX 7100 ที่ราคา $799 หรือประมาณ 28,330 บาทกับรุ่น WX 4100 ที่ราคา $399 หรือประมาณ 14,150 บาท สำหรับรุ่น WX 5100 จะจำหน่ายในวันที่ 18 พฤศจิกายนนี้ที่ราคา $499 หรือประมาณ 17,700 บาท ทั้งนี้การ์ดทั้ง 3 รุ่นจะมาพร้อมกับประกันเป็นระยะเวลา 3 ปีทว่าผู้ใช้สามารถที่จะซื้อประกันเพิ่มได้เป็น 7 ปีครับ

หมายเหตุ – ราคาและวันวางจำหน่ายข้างต้นนั้นเฉพาะที่สหรัฐอเมริกาและบางประเทศครับ

ที่มา : notebookcheck

Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

Special Story

ปีนี้นับเป็นปีที่ซีพียูโน้ตบุ๊กของ AMD มีการเปลี่ยนแปลงแบบเห็นได้ชัด และมีความน่าสนใจในด้านประสิทธิภาพที่สูงขึ้นโดยที่ยังคุมการใช้พลังงานและความร้อนได้ดี ทำให้เราได้เห็นการนำซีพียู AMD ไปใช้ทั้งในโน้ตบุ๊กทำงานทั่วไป เกมมิ่งโน้ตบุ๊กตั้งแต่สเปคระดับเริ่มต้นไปจนถึงระดับท็อป รวมถึงในกลุ่มเครื่องเกมพีซีพกพาด้วย แต่ที่จะเด่นชัดสุดคงหนีไม่พ้นชิปรุ่นใหม่ล่าสุดที่มีโค้ดเนมว่า AMD Strix Point หรือในชื่อที่ใช้จริงนั่นคือ AMD Ryzen AI 300 series นั่นเอง

Special Story

สำหรับการเล่นเกม แน่นอนว่าพลังประมวลผลกราฟิกจาก GPU คือหนึ่งในปัจจัยสำคัญ เพราะจะเป็นสิ่งที่ชี้วัดถึงระดับประสิทธิภาพว่าจะสามารถเรนเดอร์ภาพออกมาได้สวย เฟรมเรตสูง ความหน่วงต่ำขนาดไหน ทำงานร่วมกับ CPU และฮาร์ดแวร์อื่น ๆ ในเครื่อง ซึ่งถ้าทั้งระบบสามารถทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี ก็จะช่วยยกระดับประสบการณ์การเล่นเกมให้ดีขึ้นไปด้วย นอกจากนี้เหล่าผู้ผลิตเองก็มีเทคโนโลยีที่จะมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับพลังกราฟิก โดยที่ยังลดภาระของฮาร์ดแวร์ลงด้วย หนึ่งในนั้นก็คือ AFMF 2 เทคโนโลยีล่าสุดจาก AMD นั่นเอง

Special Story

หากจะพูดถึงซีพียูรุ่นใหม่ล่าสุดปี 2024 สำหรับโน้ตบุ๊กของ AMD ก็จะต้องเป็น AMD Ryzen AI 300 series ที่เน้นเพิ่มประสิทธิภาพทั้งในด้านพลังประมวลผล พลังกราฟิก และที่เด่นชัดสุดคือความสามารถในการทำงานด้าน AI โดยที่ผ่านมาก็จะมีรุ่นที่ออกมาทำตลาดคือ AMD Ryzen AI 9 HX 370 ที่เป็นชิปรุ่นกลาง แต่ล่าสุดเราเริ่มเห็นโน้ตบุ๊กที่ใช้ AMD...

CONTENT

ในปัจจุบัน นอกเหนือจากโน้ตบุ๊กที่เป็นดีไซน์แบบฝาพับอย่างที่คุ้นเคยกันมาอย่างยาวนานแล้ว ตัวเครื่องยังมีการพัฒนารูปทรงเพื่อเพิ่มความคล่องตัวให้กับการพกพา และอรรถประโยชน์ในการใช้งานให้สูงขึ้นไปอีก ซึ่งหนึ่งในรูปแบบที่ได้รับความนิยมก็คือการทำออกมาเป็นโน้ตบุ๊ก 2-in-1 โดยใช้หน้าจอสัมผัสที่สามารถพลิกจอได้ 360 องศา ทำให้สามารถใช้เป็นได้ทั้งโน้ตบุ๊กและแท็บเล็ตในเครื่องเดียว ในบทความนี้ก็เลยจะมาแนะนำโน้ตบุ๊กจอพับ AMD ในรูปแบบ 2-in-1 ที่น่าใช้กันครับ ตอบโจทย์ทั้งใช้ทำงาน ไปจนถึงการเล่นเกมได้เลยในบางรุ่น

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก