เป็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการพร้อมกันทั่วโลกในสำหรับการ์ดจอที่หลาย ๆ คนต่างเฝ้ารอคอย Nvidia Geforce GTX 1050 และ 1050 Ti ซึ่งในงานเปิดตัวครั้งนี้ได้มีมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ที่ผ่านมา แต่มีการรอเปิดตัวพร้อมกันทั่วโลกในวันที่ 18 ตุลาคมนี้
ภายในงานเปิดตัว GTX 1050 และ 1050 Ti ทาง Nvidia ได้มีการเชิญสื่อ IT เกือบทั้งหมดในประเทศไทย ได้มาเข้าร่วมการ Presentation ที่จัดขึ้นในครั้งนี้ บรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างเรียบง่าย โดยทุกสื่อต่างให้ความสนใจเกี่ยวกับรายละเอียดต่าง ๆ ที่จะถูกเปิดเผยขึ้นในงานครั้งนี้ เป็นที่แรกในประเทศไทย
ทาง Nvidia ได้มีการเปิดโอกาสให้สื่อได้มีการทดสอบประสิทธิภาพของการ์ดจอทั้ง 2 รุ่น โดยจะเป็นการทดสอบประสิทธิภาพในการ Benchmark กับโปรแกรม 3D Mark เพื่อวัดผลการทำงานของการ์ดจอ ทั้งการทดสอบ Fire Strike และ Time Spy ซึ่งก็ได้รับความสนใจจากสื่อกันอย่างมากมาย โดยการทดสอบอาจจะดูไม่โอเคมากนักเนื่องจากมีการกระตุกอย่างเห็นได้ชัดแต่ก็สามารถทำคะแนนได้ในระดับโอเคกับ CPU Core i5 ซึ่งผลเทสจะมีการเปิดเผยออกมาเร็ว ๆ นี้
ส่วนอีกฝั่งจะเป็นการทดสอบประสิทธิภาพการเล่นเกม ทั้งเกม DotA 2, Overwatch และ CSGO ซึ่งเปิดโอกาสให้สื่อได้โชว์ฝีมือการเล่นเกมกันอย่างเต็มที่ เพื่อเป็นการทดสอบประสิทธิภาพการเล่นเกมที่ไหลลื่นของการ์ดจอ GTX 1050 อีกด้วย ซึ่งสามารถทำประสิทธิภาพในการประมวลผลได้อย่างดีเยี่ยมกับเกมยอดนิยมทั้ง 3 เกม ที่เป็นเกมไม่กินสเปคสูงมากนั้น ถ้าตั้งค่าเสปคเปิด V-Sync สามารถเล่นได้ในระดับ 60FPS ลื่น ๆ ได้อย่างแน่นอน
เหล่าสื่อต่างให้ความสนใจกันอย่างมากมายในการทดสอบประสิทธิภาพในครั้งนี้ รอคอยผลการทดสอบ Benchmark ที่กำลังจะออกมากันอย่างใจจดใจจ่อ
สำหรับในส่วนของการ์ดจอ GTX 1050 และ 1050 Ti ที่ถูกผลิตโดยค่ายต่าง ๆ ได้ถูกนำมาให้ชมตัวเป็น ๆ ครบทุกค่าย ได้ภายในงานนี้ ซึ่งหน้าตาของตัวการ์ดการผลิต การออกแบบประกอบชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่มีเอกลักษณ์ความแตกต่างกันไปในแต่ละค่าย
สำหรับรายละเอียดในการเปิดตัวครั้งนี้ก็จะเน้นในส่วนของประสิทธิภาพของการ์ดจอเป็นหลัก โดยจะมีการพูดถึงการ์ดจอตั้งแต่ช่วงหลังปี 2013 เป็นต้นไป ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นแบบก้าวกระโดดถึง 3 เท่าตัว เป็นผลมาจากเทคโนโลยีการผลิตขนาด 16 nm ในชิป GPU สถาปัตยกรรม Pascal ส่งผลให้ประหยัดพลังงานมากขึ้นและมีประสิทธิภาพที่สูงขึ้น
จากเดิมในรุ่น GTX 950 นั้นไม่แตกต่างกับ GTX 750 กันสักเท่าไร จะเห็นได้ชัดเลยว่าการ์ดจอ GTX 1050 มีประสิทธิภาพที่สูงกว่าการ์ดจอตัวเทพในตำนานอย่าง GTX 750 Ti ถึง 3 เท่าตัว
สำหรับค่ายต่าง ๆ ที่ผลิตการ์ดจอออกมาก็มีให้เลือกซื้อได้อย่างมากมายครบถ้วนทุกแบรนด์ในตลาดเมืองไทย รวมถึงอาจจะได้เห็นการ์ดจอแรนด์ใหม่ที่ไม่คุ้นหน้าคุ้นตาในตลาดเมืองไทยอีกด้วย
ถือว่าเป็นบทความเรียกน้ำย่อยสำหรับ GTX 1050 และ 1050 Ti ที่หลาย ๆ คนต่างเฝ้ารอคอย ซึ่งทาง Nvidia ได้กล่าวไว้ว่า “เป็นการ์ดจอที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้” ด้วยราคาที่ไม่แพงมากนักเพียงแค่ 4,000-6,000 บาท และประสิทธิภาพที่คุ้มค่าเกินตัว ทำให้เป็นการ์ดจอในระดับเริ่มต้นที่น่าจับตามองมากที่สุด แต่สำหรับผลการเทสประสิทธิภาพและเฟรมเรทต่าง ๆ จะมีการเปิดเผอยออกมาในเร็ว ๆ นี้ต้องอดใจรอกันสักนิดสำหรับผู้ที่กำลังสนใจการ์ดจอทั้ง 2 รุ่นนี้