เกือบจะเป็นปีที่ดีของทาง Samsung แล้วครับเมื่อในช่วงครึ่งปีแรกนั้นสมาร์ทโฟนเรือธงอย่าง Galaxy S7 และ S7 Edge มาแรงแบบสุดๆ หลังจากที่ในรุ่นที่ 5 และ 6 นั้นผลการส่งออกแย่ไปพอสมควร อย่างไรก็ตามในช่วงครึ่งปีหลังนั้นทาง Samsung ก็คาดหวังไว้กับเรือธงรุ่นใหญ่อย่าง Galaxy Note 7 เอาไว้มากและจากงานเปิดตัวนั้นได้เสียงตอบรับดีพอสมควร ทว่าพอเริ่มจำหน่ายเท่านั้นแหละครับปัญหาก็บังเกิดเพราะผู้ใช้ในหลายๆ ประเทศแรกที่มีการจำหน่าย Note 7 ก่อนนั้นเจอกับปัญหาตัวเครื่องระเบิดเพราะแบตเตอรี่ครับ
หลังจากที่ทาง Samsung เรียกตัวเครื่องทั้งหมดกลับเพื่อนำไปแก้ปัญหาแล้วนั้น ทว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับ Samsung ก็คือผู้ใช้ยังคงพบปัญหาแบตเตอรี่ระเบิดอยู่ครับ งานนี้ทาง Samsung ต้องออกมาเรียกเก็บรอบ 2 กันแบบเร่งด่วนแต่ทว่าดูเหมือนการเรียกเก็บในรอบ 2 นี้จะตามมาพร้อมกับความเจ็บปวดให้กับ Samsung เพราะไม่เพียงแต่จะต้องสูญเสียความเชื่อมมั่นจากลูกค้าไปแล้ว หุ้นของ Samsung เองก็ตก ยอดจำหน่ายของรุ่นอื่นๆ ก็ลดลงซึ่งกลายเป็นว่าเมื่อไม่นานมานี้นั้นทาง Samsung เองก็ต้องออกมาประกาศลดการประมาณการผลกำไรลดลงจากเดิม 1 ใน 3 ครับ
ยอดประมาณการที่ทาง Samsung ออกมาปรับลดนั้นเป็นของเดือนกรกฎาคม – กันยายน โดยตอนแรกที่คาดการณ์ไว้นั้นอยู่ที่ 7.8 trillion won หรือประมาณ 2.431 แสนล้านบาท ลดลงเหลือ 5.2 trillion won หรือประมาณ 1.692 แสนล้านบาทครับ และแน่นอนครับว่า Samsung ยอมรับอย่างตรงไปตรงมาเลยครับว่ายอดที่หายไป 2.6 trillion won หรือประมาณ 8.104 หมื่นล้านบาทบาทนั้นเป็นกำไรจากยอดขายของ Note 7 โดยเฉพาะ ซึ่งหากเป็นไปตามการประเมิณของทาง Samsung จริงๆ นั้นถือว่า Samsung สถานการณ์แย่มากเนื่องจากหากเทียบกับปี 2015 แล้วนั้นพบว่ากำไรในช่วงเดียวกันลดลงถึง 30% เลยครับ
หลังจากออกมาประกาศนั้นพบว่าหุ่นของทาง Samsung ลดลงอีก 0.7% จากที่ก่อนหน้านี้ที่เริ่มมีปัญหา Note 7 จึงถึงจุดสูงสุดนั้นหุ้นของ Samsung ลดไปแล้วถึง 10% ทว่านี่ก็ยังไม่สามารถเทียบเท่ากับสถานการณ์ของทาง Samung ในปี 2012 ช่วงเดือนพฤษภาคมที่หุ้นล่วงหนักกว่านี้ได้ครับ(ทว่าช่วงหลังจากมีข่าวนี้ออกมาจนถึงช่วงปัจจุบันหุ้นของ Samsung ก็สามารถกลับเพิ่มมูลค่าขึ้นได้ 5.56% ครับ) งานนี้จะเป็นอย่างไรนั้นคงต้องคอยดูกันหล่ะครับว่าทาง Samsung ในท้ายที่สุดแล้วจะแก้ปัญหา Note 7 นี้อย่างไร
หมายเหตุ – ตามข่าวลือนั้นบอกว่าทาง Samsung อาจจะเรียกเก็บ Note 7 ไปเลยและเร่งให้ Galaxy S รุ่นถัดไปเปิดตัวเร็วขึ้นครับ
ที่มา : fortune