Dishonored 2 เป็นเกมภาคต่อที่มีอายุพอควรเพราะระยะห่างจากภาคแรกถึงภาคสองก็เล่นไปเกือบ 5 ปีเลยทีเดียวแต่ก็เป็นเรื่องดีที่ภาคที่ 2 นี้ก็จะออกวางจำหน่ายมาให้เล่นกันในอีกไม่กี่เดือนนี้แล้ว (พฤศจิกายน) และก็เหมือนเป็นธรรมเนียมที่ว่าก่อนเกมวางขายจะต้องมีการปล่อยให้ทดลองเล่นกันก่อนและในวันนี้ก็เป็นโอกาสอันดีที่ได้ทดสอบเกม Dishonored 2 กัน
สำหรับการลองจับเกม Dishonored 2 ในครั้งนี้ก็จะขอพรีวิวเกี่ยวกับความสามารถของตัวละครเอกกันว่าสามารถทำอะไรได้บ้างโดยการทดสอบกับภารกิจแรกที่ผู้เล่นจะรับหน้าที่สังหาร Kirin Jindosh พร้อมกับช่วยเหลือตัวประกัน Anton Sokolov ในแมนชั่นเริ่มเกมมาเราก็จะได้เห็นทิวทัศน์บนถนน Aventa พร้อมกับมีรถรางที่จะพาไปยังที่หมาย
เมื่อมาถึงที่หมายก็ได้เวลาเริ่มทำภารกิจกันโดยตัวเกมจะสามารถให้เราเล่นตัวละครได้ 2 ตัวครับนั่นคือ Corvo Attano กับ Emily Kaldwin โดยทักษะความสามารถทั้งสองคนก็จะไม่เหมือนกันแต่ก่อนอื่นเรามาลองเล่น Emily กันก่อนดีกว่าว่าเธอมีความสามารถอะไรเจ๋ง ๆ บ้าง
พลังพิเศษเหนือธรรมชาติ
ก็อย่างที่บอกไปว่าสามารถเล่นได้ 2 ตัวละครโดย Emily จะมีพลังเหนือธรรมชาติที่ชื่อ Shadow Walk เป็นการเปลี่ยนร่างเป็นเงามืดเอาไว้สำหรับการหลบหนีหรือลอบเร้นไม่ให้ศัตรูมองเห็นและมีพลังชื่อ Domino ที่ทำให้ศัตรูสองคนล้มทับแบบโดมิโน่สามารถทำให้ตายได้ทันทีและท่า Blink เคลื่อนย้ายในพริบตาส่วนพลังหน่วงเวลาก็ยังอยู่เหมือนเดิม
ส่วนทางด้าน Corvo จะมีพลังเหมือนกับภาคแรกแต่จะมีพลังพิเศษเพิ่มมากอีกคือ Far Reach เป็นท่าใช้ปืนตะขอยิงยึดเกาะเพื่อพาตนเองไปยังจุดนั้นได้โดยจะเหมือนกับท่า Blink ของ Emily และท่านี้จากการทดสอบแล้วถือว่าเล่นสนุกใช้ได้บ่อยครั้งเลยทีเดียวครับ
จากการใช้งานจริงท่า Blink เองค่อนข้างมีอุปสรรคมากเพราะพื้นที่ที่เราต้องการไปมักจะเต็มไปด้วยทหารหรือพวกยามถือปืนพร้อมยิงเราทุกเมื่อแต่เมื่อใช้ท่า Shadow Walk แล้วก็ทำให้การเดินทางสะดวกขึ้นมากเพราะศัตรูจะตรวจจับได้ยากแถมยังเหมาะกับพื้นที่แคบอย่างในตึกมากจึงทำให้ตามหาตัว Sokolov ได้ง่ายขึ้น
แต่ทั้งนี้การเดินทางไปหาก็ยังลำบากอยู่เพราะพื้นที่และช่องทางการเดินออกแบบได้ค่อนข้างสับสนทำให้ไม่สามารถถึงที่หมายและโดนจัดการกลางทางไปเสียก่อนจึงทำให้ในด่านนี้ต้องใช้เวลาเล่นกว่า 3 รอบเลยทีเดียว
สภาพแวดล้อมในเกมที่ซับซ้อนขึ้น
นอกจากทักษะความสามารถแล้วในส่วนที่ต้องพูดถึงอีกก็คือบรรยากาศหรือสิ่งแวดล้อมในเกมที่เหมือนหลุดมาจากจินตนาการผสมผสานด้วยเทคโนโลยีจักรกลไอน้ำก็ทำให้รู้สึกว่าเป็นความไฮเทคที่จับต้องได้ นอกจากนี้ตัวเกมก็ยังใช้สิ่งแวดล้อมรอบตัวให้เป็นประโยชน์กับภารกิจหลักด้วยอย่างการลงไปชั้นใต้ดินเพื่อปิดบาเรียของ Jindosh
นอกเหนือจากนี้ก็มีในเรื่องของ AI การตอบโต้ของเหล่าทหารจักรกลที่จัดว่าฉลาดทีเดียวเพราะถ้าหากมีเสียงผิดปกติอะไรเกิดขึ้นมันจะรีบวิ่งมาทันที ส่วนการประยุกต์ใช้ความสามารถกับศัตรูก็ทำได้เจ๋งเป้งทีเดียวครับเราสามารถเลือกได้ว่าจะสังหารศัตรูแบบไหนจะใช้อาวุธอะไรต่อกรอันนี้ก็แล้วแต่ตัวคนเล่นเลยแต่ผลลัพธ์ที่ได้จะออกมาดีหรือเปล่านั่นก็อีกเรื่องนะครับ
รวม ๆ แล้ว Dishonored 2 ก็ยังเป็นเกมที่เล่นได้เพลิดเพลินเหมือนกับภาคแรกแต่อาจจะด้วยเวลาทดสอบเพียง 3 ชั่วโมงเท่านั้นเลยยังไม่เห็นข้อเสียมากแต่ที่พอจะสังเกตได้ก็คือเส้นทางการผ่านด่านค่อนข้างมึนงงสักหน่อยต้องเล่นมากกว่า 1 รอบถึงจะเข้าใจ พลังพิเศษของ Emily กับ Corvo จัดว่าล้ำมากและใช้ประโยชน์ได้จริงครับ
ก็คงต้องอดใจรอกันสักหน่อยละครับโดย Dishonored 2 จะพร้อมวางจำหน่ายในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2016 บน PlayStation 4 , Xbox One และ PC
ที่มา: PCGAMER