คนที่เล่นเกมเป็นชีวจิตหรือหายใจเข้าออกเป็นเกมจะต้องมีเกมมิ่งเกียร์ติดตัวไว้อย่างน้อย 1 ชิ้นแน่นอนโดยเฉพาะคีย์บอร์ดที่คนเล่นเกมในแบบจริงจังต้องใช้คีย์บอร์ดแบบพิเศษที่เรียกกันว่า Mechanical Keyboard ซึ่งความพิเศษของมันนั้นจะแตกต่างจากคีย์บอร์ดธรรมดาก็ตรงที่สวิตช์ภายในที่ให้คุณสมบัติต่าง ๆ ตามความเหมาะสมของนักเล่นเกมแต่ละประเภทนั่นเอง
โดยสวิทช์เหล่านั้นจะทำหน้าที่ให้สัมผัสการกดแตกต่างกันไปและถ้าใครยังไม่ทราบว่าสวิตชฺ์แต่ละแบบนั้นมันทำอะไรได้บ้างในวันนี้เราก็ขอแนะนำให้รู้จักกับ Mechanical Switch กันครับว่ามันมีกี่รุ่นกี่แบบทำอะไรได้บ้างเพื่อเป็นแนวทางต่อการเลือกซื้อคีย์บอร์ดประเภทนี้จะได้ไม่หงายเงิบซื้อผิดประเภทมาครับ
ก่อนอื่นเลยก็ต้องบอกกันก่อนว่าเจ้า Mechanical Switch จะมีผู้ผลิตหลักอยู่ 7 เจ้าด้วยกันซึ่งแต่ละเจ้าก็จะมีจุดเด่นต่างกันไปและถ้าพร้อมกันแล้วก็มาดูกันเลยครับ
Cherry
Cherry เป็นผู้ผลิตสวิทช์คีย์บอร์ดเกมมิ่งที่มีชื่อเสียงมานานมากมีคีย์บอร์ดหลาย ๆ ยี่ห้อใช้บริการสวิทช์ตัวนี้เยอะพอสมควรทีเดียวจนเรียกว่าประสบผลสำเร็จมากที่สุดเลยล่ะครับและสวิทช์ของเจ้านี้ก็จะแบ่งย่อยตามสีได้ 5 สีได้แก่
Cherry-MX Red
สวิตช์สีแดงสดใสนี้จะเป็นสวิตช์แบบ Linear คือมีแรงต้านคงที่ในการกดแต่ละครั้งมีจุดเด่นคือใช้น้ำหนักการกดน้อยเพียงแค่ 45g เท่านั้นทำให้มีผลในการใช้งานระยะนาน ๆ จะทำให้ผู้ใช้ไม่รู้สึกเกร็งนิ้วมือบวกกับเสียงการกดที่ให้ความเงียบสูงเหมาะมากสำหรับเล่นกับเพื่อนไม่รบกวนคนอื่นและมีความคงทนสูงรองรับการกดได้มากกว่า 50 ล้านครั้ง
Cherry MX Black
สวิตช์สีดำสุดเท่จะมีความสามารถเหมือนกับ MX Red ครับแต่มีข้อแตกต่างตรงที่ใช้น้ำหนักการกดจะสูงกว่ามากที่ 60g ซึ่งแรงกดที่มากนี้จะทำให้ลดการกดผิดปุ่มเหมาะแก่นักเล่นเกมเพราะมีความหนักแน่นสูงแต่จะไม่เหมาะกับการพิมพ์งานเท่าไหร่เพราะจะทำให้เมื่อยล้ามากแต่ทั้งนี้ในเรื่องของเสียงรบกวนก็จะมีน้อยเหมือนกับ MX Red ครับ
Cherry MX Blue
สวิตช์สีฟ้าจะแตกต่างอย่างสิ้นเชิงเพราะมันเป็นสวิตช์แบบ Tactile เมื่อเวลากดปุ่นจะมีเสียงดัง “คลิก” ใช้สัมผัสการกดแบบ 2 จังหวะใช้แรงกดเพียง 50g แต่ถ้าจะให้ปุ่มกดทำงานต้องใช้แรงกดที่ 60g ทำให้การกดปุ่มนี้ทำได้เร็วจึงเหมาะสำหรับนำไปใช้พิมพ์งานแต่มีข้อเสียคือเสียงรบกวนที่ดังมากและไม่เหมาะกับเกมบางประเภท
Cherry MX Brown
สำหรับสวิตช์สีน้ำตาลจะเป็นสวิตช์ Tactile กด 2 จังหวะเหมือนกับ MX Blue แต่ได้ถูกปรับปรุงแก้ไขให้มีเสียงกดเงียบลงและใช้แรงกดที่น้อย 45g และในจุดที่ปุ่มเริ่มทำงานที่ 50g จึงมีความสมดุลมากที่สุดเหมาะกับนักเล่นเกมที่ต้องการความพอดีใช้แรงกดปานกลางมีเสียงเงียบกว่า MX Blue ใช้พิมพ์งานก็ได้หรือเล่นเกมก็ดี
Cherry MX Speed
มาถึงสวิตช์สีขาวหรือ MX Speed ก็จะมีคุณสมบัติตามชื่อคือเป็นสวิตช์ที่กดได้เร็วมากที่สุดด้วยแรงกดที่น้อยนิดเพียง 45g เป็นสวิตช์ Linear มีแรงกดคงที่นอกจากนี้คุณสมบัติของมันก็เหมือนกับ MX Brown บางอย่างนั่นคือความเงียบของการกดฉะนั้นมันจึงเหมาะแก่การเล่นเกมและพิมพ์งานเป็นที่สุด
Kailh/Kaihua
สำหรับสวิตช์ของ Kailh/Kaihua ก็เป็นสวิตช์จากแดนมังกรของบริษัท Kaihua Electronics ที่ก่อตั้งในปี 1990 และเป็นคู่ปรับของ Cherry MX เลยทีเดียวและการที่มันเป็นคู่แข่งดังนั้นสินค้าและความสามารถของสวิตช์ก็มีความเหมือนกันมากชนิดที่ว่าถอดแบบกันเลยทีเดียว
ฉะนั้นในเรื่องคุณสมบัติจะไม่ขอเอ่ยถึงเพราะเหมือนกันกับ Cherry MX แต่เราจะมาดูกันว่า Kailh มีสีอะไรให้เลือกใช้บ้างดังนี้ครับ
- Kailh Red
- Kailh Brown
- Kailh Black
- Kailh Blue
จะเห็นได้ว่าแม้กระทั่งสีก็ยังเหมือนกันแต่จะขาด MX Speed ไปหนึ่งอย่างแต่ยังไงก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งยี่ห้อทางเลือกสำหรับใครที่หาสวิตช์ Cherry ไม่ได้ก็ใช้ Kailh ไปแทนก่อนก็ได้ผลลัพธ์เหมือนกันครับ
Razer
ชื่อนี้เป็นที่รู้จักกันดีในวงการเกมมิ่งเกียร์ซึ่งล่าสุดนอกจากเม้าส์หรือคีย์บอร์ดแล้วพวกเขาก็ยังผลิตสวิตช์เป็นของตัวเองอีกด้วยโดยได้เริ่มการผลิตในปี 2014 พร้อมกับการร่วมมือกันของ Kaihua บริษัทผู้ผลิตจากจีนโดยสวิตช์นี้จะถูกติดตั้งบนคีย์บอร์ดตระกูล Razer BlackWidow ครับและประเภทสวิตช์ของ Razer จะมี 3 แบบดังนี้
Razer Green
สำหรับ Razer Green จะเป็นสวิตช์สีเขียวที่ออกแบบเพื่อเล่นเกมโดยเฉพาะกับน้ำหนักการกดที่มากถึง 55g สูงกว่าสวิตช์ของ Cherry MX กับ Kailh เสียอีกการกดจะให้เสียง “คลิก” และเสียงดังเหมือนกับ MX Blue แต่มีระยะที่ปุ่มจะทำงานสั้นกว่าที่ 0.4mm และรองรับการกดได้สูงถึง 80 ล้านครั้งด้วย
Razer Orange
สวิตช์สีส้มจะถูกออกแบบมาเพื่อเกมเมอร์ที่ชอบเล่นเกมไปด้วยและทำงานไปด้วยครับกับการผสมผสานน้ำหนักการกดที่ 55g เหมือนกันแต่เสียงการกดจะเงียบกว่าและเป็นสวิตช์แบบ Tactile ด้วยทำให้การกดแต่ละครั้งมีความมั่นคงไปในตัวหรือจะเรียกง่าย ๆ ว่าเป็น MX Brown เวอร์ชั่น Razer ก็ได้ครับ
Razer Mecha-Membrane
นี่ก็เป็นสวิตช์น้องใหม่ป้ายแดงที่เพิ่งถูกผลิตออกมาไม่นานนี้กับการผสมผสานสวิตช์ Mechanical และ Membrane เข้าด้วยกันที่จะให้ความรู้สึกการกดที่นุ่มนวลแต่ก็มีความหนักแน่นไปด้วยและแม้ว่าข้อมูลของมันยังไม่ถูกเปิดเผยมากนักแต่มันก็เป็นสวิตช์คีย์บอร์ดที่ถูกผลิตขึ้นมาเป็นครั้งแรกของโลกโดย Razer เลยทีเดียวโดยมันจะถูกติดตั้งลงในคีย์บอร์ด Razer Ornata ครับ
Logitech
ในส่วนของ Logitech นั้นก็มีการผลิตสวิตช์ออกมาเหมือนกันโดยความร่วมมือของ Omron จากญี่ปุ่นโดยจะได้สวิตช์ในนามว่า Romer-G ครับซึ่งจุดเด่นของมันจะอยู่ที่การทำงานของมันจะเร็วกว่าสวิตช์ของเจ้าอื่นถึง 25% เลยทีเดียว
Romer-G
สวิตช์เพียงหนึ่งเดียวของ Logitech ที่มาพร้อมกับน้ำหนักกดที่ 45g ซึ่งจัดว่าไม่มากไม่น้อยไปแต่ด้วยระยะที่ทำให้ปุ่มกดทำงานสั้นเพียง 1.5mm ก็ทำให้การกดปุ่มแต่ละปุ่มเร็วแม่นยำและให้เสียงที่เงียบเชียบบวกกับการรองรับการกดได้ถึง 70 ล้านครั้งก็ทำให้สวิตช์ตัวนี้มีความทนทานสูงสร้างมาเพื่อเล่นเกมอย่างแท้จริง
SteelSeries
ส่วนค่าย SteelSeries ก็มีสวิตช์ตัวเก่งอย่าง QS1 เป็นตัวชูโรงครับซึ่งมันจะถูกติดตั้งลงในคีย์บอร์ด SteelSeries Apex M800 เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะดังนั้นใครที่ซื้อคีย์บอร์ดตัวนี้ก็จะได้สัมผัสพลังของ QS1 กันครับและเรามาดูกันว่าสวิตช์ของ SteelSeries มันทำอะไรได้บ้าง
QS1
สำหรับสวิตช์ QS1 นี้จะมีน้ำหนักกดที่ 45g ระยะที่ปุ่มจะทำงานที่ 1.5mm ให้สัมผัสการกดที่นุ่มนวลดีดกลับไวและรวดเร็วเหมาะกับเกมที่ต้อง Spam ได้ดีมากเหมือนกับ Romer-G ของ Logitech ไม่มีผิด นอกจากนี้ยังมีไฟ LED ด้านล่างส่องสว่างมาให้ด้วยจึงเป็นสวิตช์ที่ตอบโจทย์เรื่องความเร็วมากที่สุดครับ
Topre
อีกหนึ่งสวิตช์ของ SteelSeries ที่อาจจะไม่เร็วเท่า QS1 แต่ก็ให้สัมผัสการกดที่นุ่มนวลมีน้ำหนักการกดจากเบาไปหาหนักจึงเหมาะแก่การพิมพ์งานด้วยไม่ใช่แค่เล่นเกมเพียงอย่างเดียวสำหรับเกมเมอร์ที่มองหาสวิตช์ที่มีคุณสมบัติปานกลางไม่เด่นไปทางใดทางหนึ่งนักครับ
Cooler Master
คีย์บอร์ดของ Cooler Master จะใช้สวิตช์ของ Cherry MX ทั้งหมดแต่ต้องยกเว้น Novatouch TKL ไว้หนึ่งชิ้นเพราะมันใช้สวิตช์สุดเจ๋งเฉพาะตัวของ Cooler Master ได้แก่สวิตช์ Hybrid Capacitive ที่จะให้คุณสมบัติดีกว่า Cherry MX หลายขุม
Hybrid Capacitive
เป็นสวิตช์ที่ให้น้ำหนักกดเพียง 45g และระยะที่ปุ่มทำงานเพียง 1mm เท่านั้นผู้ใช้จะกดเพียงแค่นิดเดียวปุ่มก็จะทำงานได้ทันทีเพิ่มความเร็วได้มากกว่า Cherry MX สองถึงสามเท่าเลยทีเดียว ไม่เพียงแค่นั้นจากคุณสมบัติที่ว่ามาก็ยังทำให้ผู้ใช้สามารถพิมพ์งานได้เร็วคล่องตัวขึ้นอีกด้วยใครที่เข้าสู่วัยทำงานแต่หัวใจยังเป็นเกมเมอร์การมองหาสวิตช์ตัวนี้มาใช้ก็เป็นเรื่องที่ไม่เลวเลยครับ
Matias
Matias เป็นผู้ผลิตจากแคนาดาเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของผู้ใช้โดยคุณภาพของสวิตช์ Matias จะเทียบเท่ากับ Cherry MX ที่เป็นที่นิยมอยู่ตอนนี้เลยทีเดียวส่วนสวิตช์ที่ขึ้นชื่อนั้นก็จะมีอยู่สองแบบด้วยกันครับ
Matias Quiet Click
เป็นสวิตช์ที่ได้ต้นแบบมาจาก Cherry MX Brown กับเสียงที่เงียบเชียบแต่ว่าน้ำหนักการกดจะสูงกว่าที่ 60g และระยะที่ปุ่มจะทำงานอยู่ที่ 2.2mm ดังนั้นเราก็จะได้สวิตช์ที่มีความเงียบไม่รบกวนคนอื่นและใช้น้ำหนักการกดที่สูงตอบรับการเล่นเกมที่ต้องการแรงกดหนัก ๆ ไปด้วย
Matias Linear
สวิตช์ประเภท Linear ที่มีส่วนผสมของ Cherry MX Red กับ Black รวมกันแต่ว่าน้ำหนักการกดจะน้อยมากแค่ 35g เท่านั้นแถมเสียงการกดก็เงียบไม่รบกวนชาวบ้านเหมาะสำหรับการพิมพ์งานหรือพิมพ์คำสั่งต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วและลดความเมื่อยล้าของนิ้วมือได้ดีเยี่ยม
สวิตช์แบบ Membrane/Rubber Dome
มาถึงตรงนี้นอกจากสวิตช์ Mechanical แล้วเราก็อยากจะให้เพื่อน ๆ ได้รู้จักกับสวิตช์ประเภทอื่นบ้างอย่าง Membrane หรือ Rubber Dome ครับโดยสวิตช์แบบนี้จะเป็นยางสามารถพบได้ทั่วไปตามคีย์บอร์ดมาตรฐาน มีโครงสร้างที่เรียบง่ายไม่ซับซ้อนเท่า Mechanical มีราคาไม่แพงนักมีน้ำหนักกดสูงหน่อยที่ 50-60g และรองรับการกดปุ่มเพียง 1 ล้านครั้งโดยประมาณ
ถึงแม้ว่าคุณสมบัติอาจจะสู้สวิตช์ Mechanical ไม่ได้แต่มันก็สามารถนำไปเล่นเกมได้ไหวอยู่สำหรับคนที่ไม่คิดมากหรือจะใช้พิมพ์งานก็ดูจะเหมาะสมกันดีและสวิตช์แบบนี้ในคีย์บอร์ดโน็ตบุ๊คก็มีเช่นกันครับ
สวิตช์แบบ Scissor
มาถึงสวิตช์อีกแบบที่พัฒนาต่อจากสวิตช์ Membrane จะมีลักษณะพลาสติกด้านใต้ปุ่มเป็นรูปกรรไกรซึ่งมีข้อดีตรงที่ให้เสียงการกดที่เงียบกว่า Membrane รวมถึงลดระยะการกดลงพอสมควรจึงทำให้สวิตช์ประเภทนี้กดได้เร็วใช้น้ำหนักไม่มากนักก็เหมาะสำหรับเกมเมอร์ทุนต่ำครับ
Gateron
Gateron เป็นผู้ผลิตสวิตช์จากจีนอีกเจ้าที่ตัวสวิตช์ของพวกเขามีคุณสมบัติเหมือนกันกับ Cherry MX ทุกประการรวมไปถึงสีของสวิตช์แต่ละตัวด้วยครับดังนั้นถ้าหากอยากจะทราบว่าสวิตช์ของ Gateron สีต่าง ๆ ทำอะไรได้บ้างก็เปิดดูข้อมูลสวิตช์ Cherry MX เทียบกันได้เลยครับ
SKCL/SKCM
เป็นสวิตช์จาก Alps Electric Corporation ที่มีการออกแบบสวิตช์โดยใช้ Cherry MX กับ Matias เป็นต้นแบบหลักอย่างรูปร่างของสวิตช์ที่เป็นสี่เหลี่ยมจตุรัสแต่ความสามารถของมันก็ใช่ย่อยเพราะสวิตช์ของเจ้านี้เน้นน้ำหนักในการกดที่สูงมากเหมาะกับการเล่นเกมหรือคนที่ชอบความหนักแน่นซึ่งสวิตช์ตัวนี้จะพบได้ตามคีย์บอร์ดรุ่นเก่าหรือแนววินเทจครับ
คุณสมบัติของสวิตช์ทุกประเภทที่กล่าวมานี้แม้ว่าบางอันจะดูเพอร์เฟคแต่ก็อย่าลืมว่าการเลือกซื้อควรเหมาะกับนิ้วมือของผู้ใช้งานจริงด้วยนะครับและคาดว่าข้อมูลทั้งหมดนี้จะช่วยประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อคีย์บอร์ดไม่มากก็น้อยนะครับ
ที่มา: PCGAMER