อย่างที่ทราบกันเป็นอย่างดีว่าตอนนี้ตามร้าน Apple Shop ขายกันอยู่ที่เท่าไหร่ รวมไปถึงพวกร้านหิ้วต่างๆ ที่เอาเข้ามา จะเห็นว่ามีราคาทางการอยู่ที่ประมาณ 26,000 บาท สำหรับ iPhone 7 และประมาณ 31,000 บาท สำหรับ iPhone 7 Plus ซึ่งถ้าไปเป็นราคาเครื่องหิ้วจะโดดราคาไปราวๆ ประมาณ 45,000 – 69,000 บาทเลยทีเดียว
แต่ล่าสุดในส่วนของทาง IHS Markit และ CNN Money ได้เผยถึงราคาต้นทุนค่าเครื่องของ iPhone 7 เป็นที่เรียบร้อยแล้วล่ะ โดยพบว่าต้นทุนของชิ้นส่วนประกอบต่างๆ ภายในตัวเครื่องรวมไปส่วนอื่นๆ พบว่ามีราคาต้นทุนที่สูงกว่ารุ่นปีก่อนๆ ซึ่งคาดการเอาไว้ว่าจะมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 8,000 – 10,000 บาทเมื่อเทียบเป็นเงินไทย ซึ่งแจกแจงคร่าวๆ ได้ดังต่อไปนี้
- หน้าจอ ราคาประมาณ 1,300 บาท
- แบตเตอรี่ ราคาประมาณ 140 บาท
- กล้อง ราคาประมาณ 910 บาท
- ลอจิกบอร์ด (แผงวงจรหลัก) ราคาประมาณ 2,600 บาท
- ลำโพงราคาประมาณ 420 บาท
- ตัวเครื่องประมาณ 770 บาท
- ส่วนประกอบอื่นๆ ประมาณ 4,100 บาท
โดยการที่ต้นทุนของ iPhone 7 มีราคาเพิ่มขึ้นนั้น เป็นเพราะหน่วยความจุของตัวเครื่องมีขนาดที่เพิ่มมากยิ่งขึ้น จากปกติจะเป็น 16/64/128 GB เป็น 32/128/256 GB รวมไปถึงยังใช้หน้าจอใหม่ แบตใหญ่กว่าเดิม กันน้ำได้ รวมไปถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ อีกด้วย ส่งผลให้มีต้นทุนที่มากยิ่งขึ้น แต่ตรงนี้ทาง Apple ก็ยังคงขายราคา iPhone 7 เท่าๆ กับ iPhone 6s เดิม ตรงนี้ถ้าไม่นับรวมราคาของส่วนประกอบอื่นๆ (ซึ่งรวมถึงเซ็นเซอร์ชิ้นเล็กๆด้วย) ก็จะเห็นได้ว่า ลอจิกบอร์ดกับหน้าจอ คือส่วนประกอบของ iPhone 7 ที่มีราคาแพงที่สุด
รวมไปถึงอีกกรณีหนึ่งอย่างสีใหม่ Jet Black เพิ่มเข้ามา ก็ทำให้ต้นทุนสูงขึ้นเช่นกัน เพราะความยากในการพัฒนาและผลิตออกมาได้ช้ากว่ารุ่นอื่นๆ แต่ทาง Apple ก็ขาย iPhone 7 สี Jet Black ในราคาเท่าๆ กับสีอื่นๆ ทั้งนี้และทั้งนั้นราคาต้นทุนการผลิต iPhone 7 ยังไม่ได้รวมค่าคิดวิจัยพัฒนา ค่าโฆษณา ค่าสิทธิบัตร ค่าการสร้างแบรนด์ ค่าซอฟต์แวร์ รวมไปถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีกมากมาย ที่ต้องใช้งบมากมายมหาศาล…
แต่กำไรของ Apple ก็ยังเยอะอยู่ดี เมื่อเทียกับผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายอื่นๆ
ที่มา : phonearena