Connect with us

Hi, what are you looking for?

Notebook Review

[Review] iPhone 7 และ iPhone 7 Plus กับการรวมตัวของเทคโนโลยีในอนาคต – บทความแปล

เปิดตัวออกมาได้แล้วสักพักกับ iPhone 7 และ 7 Plus พร้อมทั้งมีวางจำหน่ายแล้วในบางประเทศ(และก็พบปัญหาหลายอย่างตามมาด้วยเหมือนกัน) วันนี้ทาง NBS ขอยกบทความของทาง TheVerge ที่ได้ทำการรีวิว iPhone 7 ร่วมกับ 7 Plus

เปิดตัวออกมาได้แล้วสักพักกับ iPhone 7 และ 7 Plus พร้อมทั้งมีวางจำหน่ายแล้วในบางประเทศ(และก็พบปัญหาหลายอย่างตามมาด้วยเหมือนกัน) วันนี้ทาง NBS ขอยกบทความของทาง TheVerge ที่ได้ทำการรีวิว iPhone 7 ร่วมกับ 7 Plus เอาไว้เพื่อที่ว่าเมื่อ iPhone 7 และ 7 Plus เข้าไทยเมื่อไร(ไม่ว่าจะรูปของเครื่องหิ้วหรือเครื่องศูนย์) ทุกท่านจะได้มีอีกข้อมูลหนึ่งที่เอาไว้ใช้ในการเป็นส่วนร่วมในการตัดสินใจว่าจะซื้อหรือไม่ซื้อ iPhone 7 หรือ 7 Plus ครับ ว่าแล้วก็ไปเริ่มกันเลยดีกว่าครับ

new-iphone-7-or-iphone-7-plus-600-01

Advertisement

ศูนย์รวมเทคโนโลยีแห่งอนาคต

ก่อนอื่นเลยคงต้องยอมรับกันแหละครับว่า iPhone 7 และ 7 Plus นั้นยังคงมาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ตามสไตล์ของ iPhone ที่มักจะมาพร้อมกับสิ่งใหม่ๆ เสมือน(ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง) สำหรับใน iPhone 7 / 7 Plus นี้นั้นที่เห็นได้เด่นชัดที่สุดเลยว่าเป็นของใหม่(ที่รับรองว่าไม่มีใครเคยทำอย่างแน่นอน) ก็คือการตัดช่องเชื่อมต่อแบบ 3.5 audio jack ทิ้งแล้วให้ผู้ใช้เลือกใช้ว่าจะใช้หูฟังแบบ Lightning หรือไร้สายอย่าง AirPods ที่ทาง Apple ภูมิใจนำเสนอซึ่งการตัดช่องเชื่อมต่อแบบ 3.5 audio jack ทิ้งไปนั้นอาจจะกลายเป็นการส่งผลกระทบให้วงการเทคโนโลยีเกิดการเปลี่ยนเแปลงก็เป็นได้ครับ

iphone7-price

ส่วนเทคโนโลยีอื่นๆ ของ iPhone 7 / 7 Plus นั้นดูๆ ไปแล้วอาจจะคุ้นกับผู้ผลิตรายอื่นมาก่อนแล้วไม่ว่าจะเป็นการใช้ปุ่ม Home รูปแบบใหม่ที่มาพร้อมกับ Taptic Engine, กล้องแบบคู่(บนรุ่น 7 Plus) ฯลฯ ที่ขาดไปไม่ได้เลยก็คือการเพิ่มในส่วนของสเปคซึ่งในปีนี้นั้น iPhone 7 ทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมกับชิปเซ็ท  A10 Fusion แบบ quad-core ซึ่งทาง Apple บอกว่ามีสมดุลทั้งในเรื่องของประสิทธิภาพในการใช้งานรวมไปถึงการประหยัดพลังงาน(ซึ่งตรงจุดนี้นั้นจากการแกะเครื่องของ iFixit นั้นพบว่าขนาดความจุของแบตเตอรี่ของ iPhone 7 เพิ่มขึ้นด้วยครับ)

ดีไซน์เครื่อง : เหมือนเดิมเพิ่มเติมในด้านของความกลมกลืน

iphone7-top

จุดที่เป็นทั้งจุดเด่นและจุดด้อยของ iPhone 7 ทั้ง 2 รุ่นหากมองจากภายนอกก็คือมันมีดีไซน์ที่ไม่ได้แตกต่างไปจาก iPhone 6s/6s Plus เลยแม้แต่น้อย จะเว้นก็แต่การเพิ่มสีใหม่และการนำเอาลายเส้นที่เคยเป็นเส้นแสดงตำแหน่งของเสาอากาศออกไปเท่านั้น ข้อดีของการมีดีไซน์เดิมนั่นก็คือผู้ใช้ iPhone 6 / 6s สามารถที่จะนำเครื่องไปใช้งานกับเคสตัวเก่าได้(เว้น iPhone 7 Plus ที่มาพร้อมกับระบบกล้องคู่) ซึ่งหากจะว่าจะไปแล้วก็ต้องยอมรับว่า iPhone 6/6s นั้นสวยอยู่แล้วเพียงแต่ว่าด้วยความที่เป็นรุ่นหมายเลขใหม่ทำให้ผู้ใช้(และสาวก) หลายๆ ท่านหวังจะได้เห็นดีไซน์ใหม่ครับ

หมายเหตุ – ถึงจะสามารถใช้ด้วยกันได้แต่ก็จะสวมไม่สนิทเพราะต้องไม่ลืมว่า iPhone 7 นั้นบางกว่าเดิมพอดูครับ

จุดด้อยของมันก็คือด้วยความที่มองทางด้านกายภาพแล้วไม่ได้มีความแตกต่างอะไรเลยทำให้ผู้ใช้งานอาจจะไม่เกิดความอยากได้และเป็นผลต่อเนื่องที่ยอดขอยของ iPhone 7 นั้นอาจจะไม่เปรี้ยงดั่งที่ Apple คาดเอาไว้(ที่สำคัญการใช้งานจริงนั้นแถบจะไม่เห็นความต่างระหว่าง iPhone 6s กับ 7 เท่าไรเลย) ตรงนี้นั้นในตลาดสมาร์ทโฟนเคยมีตัวอย่างออกมาแล้วครับที่ใช้ดีไซน์เดิมเช่น HTC และ Samsung แค่ทว่าในการรีวิวของหลายๆ สำนักนั้นมักจะบอกว่าสมาร์ทโฟนของทั้ง 2 บริษัทหลังสำหรับสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่ใช้ดีไซน์เดิมนั้นมีการปรับปรุงให้ดีขึ้นกว่าเดิมในการใช้งาน ทว่ากับ Apple นั้นต่างกันครับ

อย่างไรก็ตามแต่ข้อดีของการปรับดีไซน์โดยตัดเอาช่องเชื่อมต่อแบบ 3.5 audio jack ออกไปนั้นทำให้ในที่สุดทาง Apple ก็ทำให้ iPhone 7 / 7 Pus รองรับมาตรฐานการกันน้ำกันฝุ่นตามที่ควรจะเป็นมานานสักที(เพราะตรงนี้นั้นผู้ผลิตรายอื่นออกมารองรับก่อนหน้านานแล้วแถมยังมีช่องเชื่อมต่อแบบ 3.5 audio jack อยู่ด้วย)

หมายเหตุ – iPhone 7 / 7 Plus กันน้ำกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP67

ทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมานั้นถึงแม้ว่า iPhone 7 / 7 Plus จะไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงทางด้านดีไซน์มากเท่าไรนักทว่าก็ยังคงต้องยอมรับหล่ะครับว่า Apple ยังคงมีของดีอยู่กับตัวเพราะ iPhone 7 / 7 Plus นั้นยังคงมีความสวยงามดีอยู่เพียงแต่ว่าการไม่เปลี่ยนดีไซน์นี้ทำให้ความคาดหวังของหลายๆ คนต้องพังปลายไปก็เท่านั้นเองครับ

ปุ่ม Home, หน้าจอ และลำโพง

iphone-7-review-600-01

การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่หากมองจากภายนอกจะไม่ทราบเลยนั่นก็คือปุ่ม Home ที่มาพร้อมกับ Taptic Engine ที่บน iPhone 7 ทั้ง 2 รุ่นที่ไม่สามารถที่จะทำการกดลงไปได้เหมือนเดิมแต่จะใช้วิธีการสัมผัสโดย Taptic Engine จะทำหน้าที่ในการตรวจสอบแรงสัมผัสครับว่าอยู่ที่ระดับไหน ซึ่งการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้นั้นทำให้ผู้ใช้ iPhone 7/7 Plus คงจะต้องฝึกใช้งานสักนิดถึงจะคุ้น อย่างน้อยก็ยังดีครับที่ตัวปุ่มจะมีการสั่นเพื่อตอบสนองออกมาให้คุณได้รู้ว่าตัวคุณนั้นกำลังกดปุ่มอยู่(ซึ่งผู้ใช้ Android มาก่อนน่าจะชินกันเป็นอย่างดี)

หมายเหตุ – ระดับสั่นตอบรับที่ผู้ใช้สามารถกำหนดได้มีอยู่ 3 ระดับด้วยกันครับ … ส่วนความรู้สึกนั้นก็เหมือนกับคุณคลิ๊กบน Touch Pad ของ Mac นั่นแหละครับ

หมายเหตุ 2 – ระบบ Taptic Engine feedback นั้นจะสามารถใช้งานได้ดีขึ้นกับ iOS 10 แต่ทว่าก็มีข่าวออกมาแล้วครับว่าคุณไม่สามารถสวมถุงมือใช้งานได้ต้องใช้งานมันผ่านนิ้วของคุณจริงๆ เท่านั้นซึ่งตรงนี้ส่งผลไปสู่ระบบ 3D Touch ด้วยหล่ะตนัล

iphone-7-hk-13

สำหรับหน้าจอนั้นหากคุณคาดหวังว่าจะพบกับความละเอียดที่มากกว่าเดิมนั้นบอกได้เลยครับว่าคุณผิดหวังอย่างแน่นอนเพราะว่าหน้าจอของ iPhone 7 / 7 Plus ยังคงใช้ panel แบบ LCD เหมือนรุ่นเดิมอยู่ ที่หนักไปกว่านั้นก็คือความละเอียดของมันก็ยังคงเท่าเดิมอยู่ด้วยตรงนี้หากคุณไม่ได้ใช้ผู้ตาเทพก็คงจะไม่มีผลกับการใช้งานอะไรมากแต่ถ้าคุณมีตาเทพและแพ่งมองลงไปที่หน้าจอของ iPhone แล้วหล่ะก็คุณมีสิทธิ์ได้เห็นจุด pixel อย่างแน่นนอนครับ ทั้งนี้หน้าจอของ iPhone 7 ก็ยังมีข้อดีอยู่บ้างคือมันรองรับช่วงสีกว้างขึ้นกว่าเดิมทำให้แสดงสีสันได้ดีกว่าเก่าครับ

ส่วนลำโพงนั้นคุณจะยังคงมีแค่ลำโพงที่ให้เสียงแบบ stereo จากลำโพงจำนวน 1 ตัวที่อยู่ทางด้านล่างของตัวเครื่องซึ่งหากเทียบกับรุ่นก่อนหน้าแล้วลำโพงของ iPhone 7 ทั้ง 2 รุ่นนั้นจะให้เสียงที่ดีกว่าเดิมเป็นอย่างมาก(ดังกว่า) ตรงจุดนี้ถือว่าเป้นข้อดีที่ถ้าหากคุณอยู่ในสถานที่ส่วนตัวก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องเสียงหูฟังเพื่อใช้ในการฟังเพลงหรือ YouTube ฯลฯ และข้อดีอีกข้อในตอนนี้ก็คือลำโพงของ iPhone 7 ทั้ง 2 รุ่นนั้นไม่มีเสียงรบกวนออกมาให้กวนใจเวลาเปิดฟังอีกด้วยครับ

Lightning port ช่องเชื่อมต่อเดียวที่เหลือยู่

iphone-7-review-600-02

การตัดช่องเชื่อมต่อแบบ 3.5 audio jack ไปนั้นทำให้พอร์ตเชื่อมต่อเดียวที่เหลืออยู่บน iPhone 7 / 7 Plus ก็คือ Lightning ซึ่งจากเดิมที่เคยทำหน้าที่เป็นชื่องสำหรับเชื่อมสายส่งข้อมูลและชาร์จ มาในครั้งนี้หากคุณไม่คิดที่จะซื้อหูฟังแบบไร้สายรุ่นใหม่ของ Apple อย่าง AirPods มาด้วยคุณจะต้องใช้ช่องดังกล่าวในการเชื่อมหูฟังที่มาพร้อมกับพอร์ต 3.5 audio jack ซึ่งโชคยังดีที่ทาง Apple ยังแถม adapter มาให้ในกล่องจำหน่ายทำให้คุณยังคงสามารถใช้งานหูฟังเทพของคุณได้อยู่ต่อไปครับ

หมายเหตุ – adapter Lightning to 3.5 mm นั้นราคาถูกอยู่คืออยู่ที่ $9 หรือประมาณ 325 บาทเท่านั้นซึ่งถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่ถูกที่สุดของ Apple หล่ะครับ

แต่ก็นันแหละครับในข้อดีก็ยังมีข้อเสียอยู่เพราะถ้าคุณฟังเพลงไปเรื่อยๆ จนแบตหมดคุณจะต้องหยุดฟังเพลงทันทีเพราะต้องใช้พอร์ต Lightning ในการชาร์จ iPhone โดยคุณอาจจะฟังต่อผ่านลำโพงของตัวเครื่องหรือใช้หูฟัง Bluetooth ก็ได้อยู่ ตรงนี้เชื่อว่าหลายๆ ท่านอาจจะพิจารณาในการซื้อ AirPods มาใช้งานด้วยก็เป็นได้เพราะ AirPods นั้นไม่ได้จำกัดการใช้งานแค่กับ iPhone เท่านั้นแต่มันยังสามารถที่จะใช้งานร่วมกับผลิตภัทฑ์ระบบปฎิบัติการ iOS, macOS, และ watchOS ได้อีกด้วย แต่ราคาที่อยู่สูงถึงเกือบ 6,000 นั้นก็น่าคิดครับ

iphone-7-review-600-03

อย่างไรก็ดีครับการเปลี่ยนมาใช้ทั้งพอร์ต Lightning หรือ AirPods จะทำให้คุณได้เข้าสู่โลกของเสียงเพลงแบบดิจิทัลอย่างแท้จริง โดยหูฟังพอร์ต Lightning บางรุ่นนั้นยังรองรับการชาร์จไปใช้งานไปได้ด้วยอีกต่างหาก ถ้ามองกันตรงๆ แล้วนี่ก็ไม่แน่นะครับว่าอาจจะเป็นการเปลี่ยนเทคโนโลยี 100 ปีของทาง Apple จาก 3.5 audio jack เป็นรูปแบบอื่นได้สำเร็จก็เป็นได้ถ้าผู้ผลิตรายอื่นเห็นดีเห้นงามด้วยนะครับ

หมายเหตุ – อย่างไรก็ตามทาง Apple ผ่าน Beats เองก็ยังมีหูฟังเทพอย่าง Beats Solo3 ที่รองรับการเชื่อมต่อแบบ Bluetooth วางจำหน่ายอยู่ด้วยครับ

iphone-7-review-600-04

เนื่องจาก AirPods จะวางจำหน่ายในช่วงเดือนตุลานี้ดังนั้นเราจึงยังไม่สามารถพูดถึงรายละเอียดของมันมากได้ครับ ทว่าสิ่งหนึ่งที่เห็นจาตัว AirPods เลยและน่ากลัวมากๆ ว่าผู้ใช้หลายๆ คนอาจจะมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับตัวเองก็คือการลืมวาง AirPods ไว้ที่ไหนสักที่แล้วหาไม่เจอเพราะเจ้า AirPods นั้นเล็กเหลือเกินครับ

กล้อง : ระบบกล้องคู่จะแจ่มอย่างที่เขาบอกหรือไม่

iphone-7-review-600-05

สิ่งหนึ่งที่ใครหลายๆ คนอยากจะทราบมากที่สุดก็คือเรื่องของระบบกล้องคู่ที่อยู่บน iPhone 7 Plus ครับว่ามันจะดีอย่างที่ Apple ได้บอกเอาไว้หรือไม่ ซึ่งคงต้องบอกก่อนหล่ะครับว่าเรื่องของกล้องของภาพนั้นขึ้นอยู่กับผู้ใช้แต่ละบุคคลจริงๆ ว่าจะชื่นชอบแบบไหน อย่างไรก็ตามแต่ทาง TheVerge ได้ทำการทดสอบถ่ายภาพด้วยกล้องของ Samsung Galaxy Note 7, iPhone 6S Plus,  Fuji XT10 และ Canon 5D MkIII มาเปรียบเทียบกับ iPhone 7 Plus ครับว่ากันแล้วก็ไปรับชมกันเลยครับ

iphone-7-review-600-07

iphone-7-review-600-08

จากรูปภายนั้นจะเห็นได้ครับว่าระบบกล้องคู่ของ iPhone 7 Plus นั้นสามารถทำได้ตามที่โฆษณาเอาไว้จริงๆ ไม่ว่าจะเป็นการซูมภาพการเก็บรายละเอียด ฯลฯ ถือว่าครั้งนี้นั้นทาง Apple ทำการบ้านออกมาดีครับ ไม่เพียงแค่นั้นนะครับกล้องของ iPhone 7 เองก็มีการพัฒนาออกมาให้ดูดีมากขึ้นไปอีก แต่กระนั้นแล้วก็ยังคงไม่สามารถที่จะสู้กล้องจริงๆ แบบ DSLR ได้ทว่าเมื่อเทียบกับกล้องมือถือด้วยกันนั้นถือว่า Apple ส่งให้ iPhone 7 และ 7 Plus โดยเฉพาะรุ่นหลังนั้นมีประสิทธิภาพมากขึ้นจริงๆ ครับ

ประสิทธิภาพการใช้งาน

iphone-7-review-600-09

ประสิทธิภาพในการใช้งานของ iPhone 7 ทั้ง 2 รุ่นที่ใช้ชิปเซ็ท A10 Fusion แบบ quad-cores นั้นถือได้ว่ากินขาดครับเพราะมันสามารถทำได้ดีจริงๆ ทั้งทางด้านประสิทธิภาพความเร็วรวมไปถึงเรื่องของการประหยัดพลังงาน แต่ว่าหากเทียบกับรุ่นก่อนหน้าอย่าง iPhone 6s / 6s Plus แล้วนั้นก็ไม่ได้เห็นความเร็วต่างกันมากเท่าไรนักตรงนี้เป็นผลมาจากข้อจำกัดของ iOS ที่ขับเอาประสิทธิภาพของชิปเซ็ทออกมาใช้งานได้ดีอยู่แล้ว จุดเด่นสุดคงอยู่ที่เรื่องของการประหยัดพลังงานที่ iPhone 7 Plus นั้นสามารถใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนาน 12 โมงสบายๆ ส่วน iPhone 7  นั้นก็ใช้งานได้ยาวนานกว่า iPhone 6s 2 ชั่วโมงครับ

สรุป

iPhone 7 / 7 Plus นั้นถือว่าไม่ได้ดีจนต้องหามาเป็นเจ้าของให้ได้และก็ไม่ได้เลวร้ายถึงขั้นไม่น่าใช้ครับ อย่างไรก็ตามแต่ด้วยดีไซน์ที่คงเดิมเพิ่มเติมแค่เล็กน้อยนั้นมันทำให้เสียโอกาสในการเรียกคะแนนจาสาวกพอดี จะให้ดีแล้ว iPhone 7 / 7 Plus น่าจะทำงานได้ดีกับ iOS 10 มากกว่า(ซึ่งยังไม่ปล่อยให้โหลด) และทาง TheVerge ได้สรุปสั้นๆแบบแสบๆ เอาไว้ครับว่าพวกเขารู้สึกเหมือนกับ iPhone 7 / 7 Plus เป็นเครื่องต้นแบบที่ Apple กำลังทดลองอะไรสักอย่างอยู่มากกว่าที่จะเป็นเครื่องวางจำหน่ายจริงหล่ะครับ

ที่มา : theverge

Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

How to

ไอแพดชาร์จไม่เข้าไม่ต้องตกใจ มีวิธีแก้ไขง่ายๆ ทำได้ด้วยตัวเองไม่ต้องส่งช่างให้เปลืองเงินอีกด้วย!! ยุคนี้ไม่ว่าใครก็ยอมรับว่าไอแพดเป็นแท็บเล็ตที่ดี ใช้ทำงานได้ยอดเยี่ยมไม่แพ้คอมพิวเตอร์แต่บางคนก็อาจเจอปัญหาว่าใช้ไปสักพักแล้วไอแพดชาร์จไม่เข้าเสียอย่างนั้นจนต้องพาเข้าศูนย์ Apple หรือถ้าหมดประกันก็ต้องพึ่งร้านตู้เจ้าต่างๆ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะแก้ปัญหาได้ถูกจุดหรือก่อปัญหาอื่นเพิ่มแทนกันแน่? ซึ่งวิธีแก้ปัญหาไอแพดชาร์จไม่เข้านั้นง่ายกว่าที่คิดมากสามารถแก้เองก่อนได้ ถ้าเกินฝีมือแก้เองไม่ได้จะส่งช่างให้เช็คโดยละเอียดก็ไม่เสียดายภายหลังแน่นอน ปัญหาการชาร์จไม่เข้า หลักๆ คือพอร์ต USB-C หรือ Lightning อาจมาจากความสกปรกไม่ว่าจะหน้าคอนแท็คทองเหลืองเกิดคราบออกไซด์หรือมีฝุ่นจากกระเป๋าเข้าไปอุดตันเยอะจนดันหัวสายชาร์จไม่เข้า, สายชาร์จก็ไม่ได้มาตรฐานเลยชาร์จไม่ได้ ไปจนถึงเรื่องง่ายๆ อย่างการเสียบชาร์จเข้าพอร์ต USB ของพีซีหรือโน๊ตบุ๊คแล้วกระแสไฟไม่พอชาร์จก็อาจเกิดขึ้นได้เหมือนกัน ซึ่งปัจจัยต่างๆ ในตัวอย่างก็แก้ได้ไม่ยาก...

Tips & Tricks

แนะนำเทคนิค วิธีแต่งหน้าจอไอโฟน สวย เก๋ เท่ มีสไตล์เฉพาะตัว อัพเดต 2024 ตั้งแต่ iOS 14 เป็นต้นมา Apple ก็ได้เพิ่มฟีเจอร์ต่างๆ ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานได้ปรับแต่ง iPhone ได้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน iOS 17 ที่เปิดให้ผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งหน้าจอ ทั้งหน้าจอ Lock Screen...

Tips & Tricks

สอนติดตั้งฟอนต์ไอโฟน ฟรี พร้อมการใช้งาน เปลี่ยนฟอนต์ธรรมดา ให้สวยน่ารักขึ้นได้ง่ายๆ อัพเดท 2024 ใครที่ใช้งาน iPhone แล้วอยากได้ฟอนต์น่ารักๆ หรือฟอนต์สวยๆ ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการตั้งชื่อ ทำงาน หรือใช้บนโซเชียลมีเดีย เราสามารถติดตั้งฟอนต์ได้ง่ายๆ เลย ทีมงาน NotebookSPEC ก็ได้รวบรวมวิธีการตั้งตั้งฟอนต์ไอโฟน ฟรี ที่ทำได้ง่าย ทำตามได้แน่นอน รับรองว่าจากฟอนต์ธรรมดาๆ...

Buyer's Guide

สายชาร์จไอโฟนยุคนี้ มีเงินร้อยบาทนิดๆ ก็ซื้อมาต่อชาร์จได้แล้วนะ! เจ้าของไอโฟนย่อมมีสายชาร์จไอโฟนมากกว่าหนึ่งเส้นแน่นอน อย่างน้อยต้องมีติดโต๊ะที่บ้านและออฟฟิศอย่างละเส้นเป็นอย่างน้อยและอาจจะมีติดกระเป๋าคู๋กับพาวเวอร์แบงค์หรือต่อทิ้งเอาไว้กับรถยนต์เผื่อชาร์จเวลาขับรถไปไหนมาไหนจะได้ชาร์จมือถือไปดูแผนที่ไปได้ แถมยุคนี้สายชาร์จจากแบรนด์อื่นๆ ก็มีลูกเล่นร้อยแปด ไม่ว่าจะมีหัวชาร์จหลายแบบในตัว, มีหน้าจอบอกกำลังชาร์จติดมาตรงหัวชาร์จและมีกำลังชาร์จตั้งแต่หลักสิบวัตต์ไปจนร้อยวัตต์ ชาร์จได้ไม่ว่าจะ iPhone หรือ iPad ก็ได้ แม้ตอนนี้ทาง Apple จะเปลี่ยนพอร์ตไอโฟนจาก Lightning มาเป็น USB-C แล้ว แต่ผู้ใช้ที่ยังใช้ไอโฟนรุ่นเก่าที่ยังไม่พร้อมอัปเกรดมาเป็น iPhone 15...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก