ช่วงนี้ต้องเรียกว่าออกมาถี่ๆ สำหรับหูฟังเกมมิ่งจากทาง HyperX ที่เวลานี้มีให้ได้ลองกันเกือบ 10 รุ่นแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Cloud, Cloud Core, Cloud II, Revolver แล้วที่กำลังตามมาอีกหลายรุ่น ซึ่งในแต่ละรุ่นก็มีความโดดเด่นที่ต่างกันออกไป โดยเฉพาะในกลุ่มของเกมมิ่ง ก็ถือว่าเป็นอีกหูฟังหนึ่งที่น่าสนใจไม่น้อย ทั้งในเรื่องรูปทรงและคุณภาพเสียง ที่ออกมาเพื่อคอเกมโดยเฉพาะ
HyperX CloudX Revolver Gear of War เป็นหูฟังในซีรีส์ของ Cloud Revolver แต่เน้นไปที่การใช้งานบน Xbox เป็นหลัก ที่ถือว่าเป็นเกมคอนโซลที่หลายๆ คนชื่นชอบ และมีเกมมากมายหลายแนวให้ได้เล่นกันอย่างเต็มอิ่ม ซึ่งทาง HyperX เองได้มองถึงตลาดกลุ่มผู้เล่นเหล่านี้ และพัฒนาหูฟังเพื่อนำมาใช้งานเฉพาะ จนมาเป็นหูฟังในกลุ่มของ CloudX ที่ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างลงตัว แต่อย่างไรก็ดี ยังคงสนับสนุนการทำงานร่วมกับคอมพิวเตอร์ปกติสำหรับเกมเมอร์ทั่วไปได้เช่นเดียวกัน เหมือนกับหูฟังในรุ่นนี้ ที่เป็นการออกแบบร่วมกันระหว่าง HyperX และทีมผู้พัฒนาเกม Gear of War จนได้มาเป็น HyperX CloudX Revolver รุ่นนี้ กับรูปแบบที่เน้นความดุดันมากยิ่งขึ้น ด้วยการนำ Revolver มาผสานกับสีแดงอันโดดเด่น พร้อมด้วยไดเวอร์ขนาดใหญ่ ทำให้กลายเป็นหูฟังเกมมิ่งตัวเจ็บที่คอเกมไม่ควรพลาดเลยทีเดียว
HyperX CloudX Revolver Gears of War Specifications:
Headphone:
- Driver: Dynamic, 50mm with neodymium magnets
- Type: Circumaural, Closed back
- Frequency response:12Hz–28,000 Hz
- Impedance: 33 Ω
- Sound Pressure Level: 104.5dBSPL/mW at 1kHz
- T.H.D.: < 2%
- Input Power: Rated 30mW, Maximum 500mW
- Weight: 364g
- Weight w/ mic and cable: 380g
- Cable length and type: Headset (1.3m) + Audio Control Box (2m)
- Connection: Headset – 3.5mm plug (4 pole) + Audio Control Box – 3.5mm stereo and mic plugs
Microphone:
- Element: Electret condenser microphone
- Polar pattern: Uni-directional, Noise-canceling
- Frequency response: 50Hz–18,000 Hz
- Sensitivity: -40dBV (0dB=1V/Pa,1kHz)
แกะกล่อง
สำหรับหน้ากล่องแพ็คเกจของ CloudX Revolver Gear of War นี้ ใช้ธีมของเกมเป็นตัวนำ และใส่รูปหูฟังแบบตัวจริงมาให้เห็นกันอย่างชัดเจน พร้อมการคาดสีเขียวด้านบนอันเป็นเอกลักษณ์ของ Xbox อีกด้วย ทำให้ดูสะดุดตา
ด้านหลังกับรายละเอียดต่างๆ ทั้งในส่วนของสเปกเบื้องต้นและข้อมูลพื้นฐานทั่วไป
ด้านข้างกับภาพของตัวเกม Gear of War ดูแล้วทำให้อยากลองเล่นกันเลยทีเดียว
กล่องด้านในจะเป็นกล่องกระดาษแข็งอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งช่วยป้องกันตัวหูฟังภายในได้เป็นอย่างดี น่าจะเหมาะสำหรับใช้ในการเก็บรักษา
เปิดมาด้านในจะเห็นฟองน้ำกันกระแทกและคู่มือการใช้งานใส่มาให้ครบครัน
นอกจากคู่มือแล้ว ทาง HyperX ยังได้ให้ Gear pack ของเกม สำหรับดาวน์โหลดชุดเสริมสำหรับใช้ในเกมมาให้อีกด้วย โดยเอา Serial number ที่มีให้ไปลงทะเบียนอีกครั้งหนึ่ง
ของที่ขาดไม่ได้ สำหรับผู้ใช้ที่อาจมีข้อสงสัยในการเชื่อมต่อหูฟังกับอุปกรณ์อื่นๆ คู่มือนี้ช่วยให้คุณใช้งานได้ง่ายขึ้น เพราะบอกทั้งการเชื่อมต่อบน Xbox Drive และบนคอมพิวเตอร์
มาถึงตัวอุปกรณ์กันบ้าง เมื่อเปิดฟองน้ำที่ปิดอยู่ด้านบนออก จะเห็นตัวหูฟัง CloudX Revolver Gear of War วางอยู่อย่างสวยงามในกล่อง
ลองใช้งานหูฟัง CloudX Revolver Gear of War
อุปกรณ์ภายในมีในส่วนที่เป็นหูฟัง สายต่อพ่วง ไมโครโฟน ที่พร้อมสำหรับการใช้งาน
ในส่วนของไมโครโฟนเป็นแบบถอดประกอบได้ ด้วยการต่อเข้าช่อง Mic. ทางด้านซ่ายของหูฟัง ก้านปรับได้ยืดหยุ่นทีเดียว หุ้มด้วยยาง ดีไซน์ก็เรียกว่าค่อนข้างเข้ากับตัวหูฟังได้ลงตัว แต่ถ้าไม่ได้ใช้ก็ถอดเก็บดีกว่า ส่วนคอเกมที่เล่นกันเป็นกลุ่ม ถือว่าเป็นไฮไลต์ เพราะตัดเสียงรบกวนได้ดีทีเดียว และมีความคมชัด ให้คุณตอบโต้กับทีมได้อย่างสนุกแน่นอน
โครงสร้างหลักของตัวครอบศีรษะเรียกว่าถอดแบบจาก Revolver มาเกือบทุกอย่าง เพียงแต่ไม่ได้เป็นแบบหนังหรือพลาสติกเงาๆ แต่กลายเป็นแบบหุ้มหนังสีน้ำตาลให้เข้ากับแนวของสีของเครื่องแบบในสงครามอะไรประมาณนั้น ซึ่งให้สัมผัสที่ดีไปอีกแบบ และยังนุ่มนวลอีกด้วย
โครงสร้างทำเป็นสองชั้นเช่นเดียวกัน โดยเป็นโครงหลักสำหรับยึดส่วนต่างๆ เอาไว้ และมีครอบศีรษะที่เป็นฟองน้ำนุ่มๆ วางลงมาอีกชั้นหนึ่ง มีความยืดหยุ่น เรียกว่าถ้าไม่ศีรษะที่โตเกินไป ก็ใส่ได้สบายๆ น้ำหนักเพียงเล็กน้อย และการกระจายน้ำหนักที่ดี ก็ทำให้ใส่สบายยิ่งขึ้น
ด้านข้างที่บริเวณครอบหูภายนอก สกรีนเป็นโลโก้ของเกม ทำให้ดูดุดันยิ่งขึ้น โดยสีดำตัดแดงเข้มๆ บวกกับดีไซน์ดูน่าใช้มากทีเดียว แต่ใครที่ชอบเรื่องแสงสี ต้องทำใจหน่อย เพราะเน้นความดิบเป็นหลัก
ครอบหูฟังด้านในปรับระดับได้เล็กน้อย เพื่อให้เข้ากับหูและศีรษะของแต่ละบุคคล แต่เรื่องความแนบกับหูให้ 9/10 เพราะฟองน้ำกับโครงสร้างค่อนข้างกระชับและใส่สบาย ไม่รั้งศีรษะจนน่ารำคาญ
ตัวปรับระดับยืดหดของโครงสร้าง ยังคงสไตล์ของ Cloud ในหลายๆ รุ่น ระยะสั้นสุดและยืดสุดส่วนต่างประมาณ 3-5cm ก็ถือว่าอยู่ในระยะที่ดี ทำให้ปรับใช้ได้ง่ายขึ้น
ระยะยืดสุดมากพอสำหรับคนที่มีศีรษะใหญ่หรือช่วงระหว่างดึงออก ช่วยให้ไม่รั้งหูจนเกินไป ที่สำคัญไม่ดึงผมให้ติดมากับตัวหูฟัง จึงใส่สบายมากขึ้น
สายสัญญาณเป็นแบบสายถักอ่อนยาวประมาณ 1.3 เมตร พร้อมตัวควบคุม เพิ่มลดเสียงและเปิด-ปิดไมโครโฟน หรือถ้าต้องการใช้งานที่มากขึ้น ยังมีสายต่อยาว 2 เมตรมาให้ต่อเพิ่มขึ้นอีกด้วย
ไมโครโฟนแบบถอดแยกได้ถ้าไม้ได้ใช่ ต่อเข้าหูฟังผ่านช่อง 3.5mm ได้ทันที เรื่องเสียงไมโครโฟน ต้องบอกว่า HyperX ทำมาได้ดี โดยเฉพาะเรื่องเสียงที่คมชัดในการสนทนาภายในเกม ช่วยให้การเล่นเกมแบบเป็นหมู่คณะสนุกขึ้นเยอะ
ในช่วงแรกรอลุ้นอยู่ว่าจะมี Xbox ส่งมาให้ทันหรือไม่ แต่ก็พลาดไปจน เลยเลือกใช้กับโน๊ตบุ๊คไปก่อน ซึงเอาเรื่องของการสวมใส่มาพูดกันก่อน โครงสร้างอย่างที่บอกคือ น้ำหนักไม่ถึง 4 ขีดดี ทำให้ได้เปรียบกว่า Cloud รุ่นอื่นๆ จึงใส่ได้สบาย ฉะนั้นวางใจได้ แม้จะเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ ก็ยังใส่ได้ไม่รำคาญ ความยืดหยุ่นจัดอยู่ในเกณฑ์ที่พอใช้ เพราะชุดปรับระดับมีให้ปรับได้บ้าง แต่ไม่สุดถึงขนาดเลื่อนขยายได้ทั้งหมด แต่ข้อดีก็คือ ทำให้กระชับมากขึ้น ไม่หลุดเลื่อนง่าย อีกทั้งครอบหูฟังเป็นฟองน้ำที่มีความนุ่มแน่น จึงครอบได้สุดและใส่สบายเข้ากับสรีระ เพียงแต่อารมณ์ของหุ้มด้วยหนังสังเคราะห์ ก็อาจจะไม่ได้ถูกใจกับทุกคน โดยเฉพาะรายที่เหงื่อออกง่าย ก็อาจจะรู้สึกต้องถอดใส่เป็นระยะ แต่ถ้าถามว่าตัดเสียงรบกวนได้มากมั้ย ตอบเลยว่า “มาก” ใครที่ชอบความเป็นส่วนตัว คุณได้สิทธิ์นั้นเดี๋ยวนี้ แต่จะติดตรงที่ถ้าเอาไปเล่นกันในกลุ่มที่ชอบสื่อสารด้วยการตะโกนคุยกันในกลุ่มผู้เล่น อาจจะต้องออกเสียงมากกว่าเดิม อย่างไรก็ดีถ้าเล่นเกมแนวแอคชั่น FPS อย่างใน Gear of War หรือแนวหลอนอย่าง Dead on Daylight จะกระตุกต่อมให้คุณได้สยองตลอดเกมแน่ๆ เหยียบกระจก เปิดประตูตู้หรือเสียงเวลาโดนอะไรแหลมๆ เสียบที่ตัวเหยื่อได้ละเอียดทีเดียว
อย่างที่ได้กล่าวไปคือ ด้วย Sound Stage ที่กว้างจึงทำให้เก็บรายละเอียดเสียงเล็กน้อยรอบข้างได้ดี แต่สิ่งที่ขัดใจบ้างเล็กน้อยก็คือ ความแน่นหรือเสียงเบสหนัก สำหรับเอฟเฟกต์ต่างๆ อาจไม่ได้ลึกดังใจนัก ตามสไตล์ของหูฟังในซีรีส์นี้ จึงทำให้เอฟเฟกต์เสียงไม่ตูมตามเท่าที่ควร แต่เรื่องของความสนุกหรืออินเข้าไปในเกม ยังตอบโจทย์ได้สำหรับในหลายๆ เกม ชนิดที่อาจทำให้คุณใช้เวลาในการเล่นเกมที่ชอบได้นานยิ่งขึ้น สำหรับใครที่ชอบแนวเสียงกว้างๆ ให้ความใส สำหรับดูหนังฟังเพลงบ้างเป็นบางโอกาส ลองปรับแต่งเสียงตามที่ชอบเล็กๆ น้อยๆ ก็น่าจะช่วยให้เพลิดเพลินไปกับ CloudX รุ่นนี้ได้ไม่ยาก
Conclusion
สำหรับภาพรวมของ CloudX Revolver Gear of War นี้ ภาพลักษณ์ของ HyperX ยังเป็นสิ่งที่ยืนยันความเป็นเกมมิ่งของหูฟังรุ่นนี้ได้เป็นอย่างดี แม้จะมุ่งเน้นไปที่การใช้งานบน Xbox เป็นหลัก แต่ในภาคของ Windows ก็ยังคงตอบสนองได้น่าประทับใจ ทั้งในด้านของความสบายในการสวมใส่และคุณภาพเสียง แม้ว่าจะไม่ได้เน้นที่โครงสร้างและลูกเล่นที่หวือหวา แบบเดียวกับหูฟังเกมมิ่งหลายรุ่นในท้องตลาดก็ตาม แต่ก็คงคอนเซปต์ของแนวเกม FPS ได้ดีทีเดียว แม้ว่าในเรื่องของเสียงจะไม่ได้ตอบรับกับความชอบในทุกแนวก็ตาม ก็เชื่อว่าคอเกมที่ชื่นชอบความเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่ต้องเน้นความหรูหรา และให้คุณภาพเสียงที่ตรงใจในแนวทางของตัวเองแล้ว ไม่น่าจะมองข้าม CloudX Revolver Gear of War รุ่นนี้ได้เลย
จุดเด่น
- ดีไซน์สวยลงตัว เน้นความดิบให้เข้ากับเอกลักษณ์ของเกม
- สวมใส่สบาย น้ำหนักเบา ไม่รำคาญเวลาสวมใส่
- Sound stage ค่อนข้างกว้าง ให้เสียง
- ครอบหูฟังนุ่มนวล ไม่เจ็บหูเวลาใช้งานนานๆ
ข้อสังเกต
- ไม่ได้เน้นแสงสี ที่ดูล้ำสมัย
- เสียงเบสไม่หนักมาก ให้เสียงเอฟเฟกต์ระดับกลาง
