ภายในงานนอกเหนือจาก iPhone 7 และ Apple Watch Series 2 คงจะเป็นในส่วนของหูฟังมาตรฐานใหม่ของ Apple ที่ต้องบอกว่าหลายคนอาจจะชอบหรือหลายนอาจจะเกลียดไปเลย (ฮา) กับ Apple AirPods ที่เป็นหูฟังไร้สายซึ่งไม่ใช่การเชื่อมต่อแบบ Bluetooth มาพร้อมดีไซน์คล้ายกับหูฟังมีสายอย่าง Apple EarPods แต่ฟีเจอร์เหนือกว่าเยอะ สนนราคาในไทยแล้วก็เคาะอยู่ที่ 6,900 บาท
จากการมาของ iPhone 7 ที่ไม่มีช่องเชื่อมต่อหูฟังมาตรฐาน 3.5 มิลลิเมตรอีกต่อไป ทำให้หูฟังมีสาย Apple EarPods ได้มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น โดยพอร์ตการเชื่อมต่อก็ได้เปลี่ยนเป็นพอร์ต Lightning ไปเลย แต่มาในราคาที่เท่ากับ Apple EarPods ปกติที่ 1,200 บาท เรียกได้ว่าเป็นการโยกสัญญาณเป็นแบบดิจิตอลโดยสมบูรณ์แบบ สามารถใช้งานร่วมกับ iPhone, iPad ที่มีพอร์ท Lightning ได้ แต่ในส่วนของคุณภาพคาดว่าเสียงอาจจะแตกต่างกันไม่มากเมื่อเทียบกับรุ่นพอร์ต 3.5 มิลลิเมตร ที่ต้องมารีวิวกันอีกที
กลับมาที่ AirPods กับหูฟังไร้สายที่ไม่ใช่หูฟัง Bluetooth ธรรมดา เพราะจะมาพลิกโฉมรูปแบบการใช้งานหูฟังของเราไปตลอดกาล เพราะไม่ว่าเมื่อไหร่การหยิบออกจากกล่องชาร์จ AirPods จะเปิดและเชื่อมต่อเข้ากับ iPhone, Apple Watch, iPad หรือ Mac ของเราโดยทันที โดยเสียงจะเริ่มเล่นโดยอัตโนมัติทันทีที่คุณใส่หูฟัง และจะหยุดเล่นเมื่อคุณถอดออก หรือหากต้องการปรับระดับเสียง เปลี่ยนเพลง โทรออก หรือดูเส้นทาง ก็ทำได้ง่ายๆ เพียงแค่แตะสองครั้งเพื่อเปิดใช้งาน Siri
AirPods มาพร้อมกับขุมพลังจากชิปประมวลผล W1 ที่ Apple ออกแบบขึ้นเอง โดยเซ็นเซอร์ออปติคอลและอุปกรณ์ตรวจจับการเคลื่อนไหวนั้นจะสามารถรับรู้ได้ทันทีเมื่ออยู่ในหู ดังนั้นไม่ว่าจะใช้หูฟังทั้งสองข้างหรือเพียงข้างเดียว ชิป W1 ก็จะส่งสัญญาณเสียงให้ออกมาที่หูฟังพร้อมเปิดใช้งานไมโครโฟนโดยอัตโนมัติ และเมื่อเรากำลังโทรหรือพูดกับ Siri อุปกรณ์ตรวจจับการเคลื่อนไหวอีกตัวจะทำงานร่วมกับไมโครโฟนแบบบีมฟอร์มมิ่ง เพื่อกรองเสียงรบกวนรอบข้างและให้ความสำคัญกับเสียงของเราเป็นหลัก
ซึ่งนอกจากจะใช้พลังงานน้อยเป็นพิเศษแล้ว ชิพ W1 ยังจัดการกับระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ได้อย่างดีเยี่ยม ทำให้ AirPods เป็นหูฟังระดับแนวหน้าของวงการ ที่ให้คุณฟังได้นานถึง 5 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง อีกทั้งยังออกแบบมาให้พร้อมไปกับเราได้ทุกที่ เพราะมีกล่องชาร์จที่สามารถชาร์จได้อีกหลายครั้ง รวมใช้งานได้นานกว่า 24 ชั่วโมง หรือถ้าต้องรีบใช้ก็ไม่มีปัญหา เพราะใส่ในกล่องแค่ 15 นาทีก็สามารถฟังได้นานถึง 3 ชั่วโมงเลยทีเดียว
สรุปคุณสมบัติที่น่าสนใจของ Apple AirPods
- ออกแบบโดย Apple
- เปิดอัตโนมัติ เชื่อมต่ออัตโนมัติ
- ตั้งค่ากับอุปกรณ์ Apple ของคุณทั้งหมดได้ด้วยการแตะเพียงครั้งเดียว(1)
- เข้าใช้งาน Siri อย่างรวดเร็วด้วยการแตะสองครั้ง
- แบตเตอรี่ใช้งานได้นานกว่า 24 ชม. เมื่อใช้ร่วมกับกล่องชาร์จ(3)
- ชาร์จได้อย่างรวดเร็วในกล่องชาร์จ
- ให้เสียงเต็มอิ่มคุณภาพสูง ทั้งเสียงที่ได้ยินและเสียงพูด
- สลับเปลี่ยนระหว่างอุปกรณ์ได้อย่างลื่นไหล
- เชื่อมต่อแบบไร้สายที่ไม่ใช่ Bluetooth ธรรมดา (คาดจะทำงานเหมือน AirDrop ที่ใช้ Wi-Fi ร่วมด้วย)
จะว่าไปแล้วไม่ต้องสืบว่า AirPods จะใช้ได้กับอุปกรณ์อื่นๆ ที่ไม่ใช่ Apple หรือเปล่า ตอบได้เลยว่า ใช้ได้กับผลิตภัฑณ์ Apple เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของ iPhone, Apple Watch, iPad หรือ Mac เพราะเป็นการเชื่อมต่อรูปแบบที่เฉพาะ รวมไปถึงยังใช้ iCloud ในการทำงานร่วมด้วย จัดว่าเป็นอุปกรณ์ IoT รูปแบบหนึ่งทีเดียว ส่วนการชาร์จไฟจริงๆ แล้วก็ให้อารมณ์หูฟังไร้สาย Bluetooth แบรนด์อื่นๆ เหมือนกัน ที่ต้องอาศัยกล่องชาร์จไฟ เพราะตัวมันเองนั้นมีขนาดที่เล็กเกินกว่าอะไรจะเชื่อมต่อได้ ซึ่งจะไปว่าก็ง่ายดีเหมือนกัน แถมมีที่เก็บที่ดีด้วย
สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่สนใจหูฟัง EarPods เวอร์ชัน Lightning กับ AirPods หูฟังไร้สาย ก็เก็บเงินรอไว้ได้เลย สำหรับกำหนดการวางจำหน่ายในประเทศไทยจะขายประมาณปลายเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ ส่วนรีวิวหูฟัง EarPods เวอร์ชัน Lightning กับหูฟัง AirPods ก็ติดตามได้จาก NotebookSPEC ได้เลย ในส่วนของแอดมินโป้ง ถ้าเข้าไทยเมื่อไหร่ (หรือบินไปซื้อ) ก็จะรีบไปสอยมารีวิวให้อ่านกันอย่างแน่นอน
ที่มา: apple