การที่จะเลือกซื้อ PSU มาใช้งานสักรุ่นนั้น ต้องคำนึงถึงการใช้งานของตัวเองด้วย เพราะคอมพิวเตอร์ที่แต่ละคนใช้ใช้พลังงานนั้นแตกต่างกัน ทำให้ต้องเลือก PSU ให้เหมาะสมกับการใช้พลังงานของคอมตัวเอง ซึ่ง PSU ที่ดีนั้นต้องมีคุณสมบัติที่สามารถป้องกันส่วนประกอบต่าง ๆ ของคอมพิวเตอร์คุณจากกระแสไฟฟ้าที่ไม่เสถียรได้ ในบทความนี้จะแนะนำถึง PSU ระดับ Hi-end ที่แต่ละช่วง Watt ที่ดีที่สุดของช่วงนั้น ๆ
Corsair SF450 3,200 บาท
พาวเวอร์ซัพพลายรุ่นเล็กไฟรางเดียว 450W แต่มีประสิทธิภาพสูงด้วยมาตรฐานการจ่ายไฟแบบ 80 PLUS Gold ที่มีประสิทธิภาพการไฟเสถียรถึง 90% เมื่อมีอัตราการโหลด 50% ด้วย Capacitors คุณภาพสูงที่ผลิตจากประเทศญี่ปุ่น และพัดลมระบายความร้อนมีเสียงรบกวนต่ำถึงแม้จะมีการโหลดกระแสไฟเต็มที่ สายไฟสามารถแยกถอดได้ทุกเส้นแบบ Modular ทำให้ SF450 มีประสิทธิภาพสูงกว่า PSU 450W ทุกรุ่นในตลาด
SilverStone SX500-LG ราคา 3,580 บาท
PSU มีขนาดกะทัดรัดที่สามารถ จ่ายไฟได้ถึง 500W ทำงานได้แม้จะมีอุณหภูมิสูงมาก SX500-LG ต่างจก PSU ปกติที่ใช้พัดลมขนาด 80mm แต่กลับร้อนชนาดใหญ่ถึง 120mm ที่มีเสียงเงียบอย่างไม่น่าเชื่อ สายไฟเป็นแบบ Modular สามารถถอดได้ทุกเส้น มาตรฐานการจ่ายกระแสไฟ 80 PLUS Gold แบบรางเดี่ยว
Corsair RM550x ราคา 4,100 บาท
รุ่นเล็กสุดของ Series RMX ที่ถูกออกแบบมาให้เป็น PSU ระดับ HI-End ดังนั้น RM550x จึงมีประสิทธิภาพที่สูงมาก อีกทั้งยังสามารถจ่ายไฟได้เงียบ มีโหมด Zero RPM Fan Mode ปิดการทำงานของพัดลมเมื่อมีการโหลดกระแสไฟที่ต่ำ ทำให้ไม่มีเสียงรบกวน สายไฟแบบ Full Modular ถอดได้ทุกเส้น มาตรฐานการจ่ายไฟแบบ 80 PLUS Gold อีกทั้ง Corsair ยังรับประกันการใช้งานยาวนานถึง 10 ปี
Corsair RM650x ราคา 4,600 บาท
ประสิทธิภาพเฉกเช่นเดียวกับรุ่น RM550x แต่ในรุ่นนี้มาพร้อมกับปริมาณ Watt ที่มากกว่า ซึ่งในรุ่น 550 – 650 นั้นอาจจะไม่ได้ต่างกันมากสักเท่าไรนัก รวมถึงในเรื่องของราคา
Corsair RM750x ราคา 5,200 บาท
เรียกได้ว่า Series RMX ของ Corsair นั้นมีประสิทธิภาพสูงมาก ทำให้ด้รับการแนะนำให้เป็น PSU รุ่นที่ดีที่สุดใรช่วง 500-700Watt ซึ่งในรุ่น 750 Watt นี้ ก็เพียงพอต่อการใช้งานสำหรับคอมพิวเตอร์ที่ใช้การ์ดจอตัวเดัยวได้ทั้งหมดทุกรุ่นทุกยี่ห้อ ไม่ว่าจะเป็น Nvidia หรือ AMD ก็สามารถจายกระแสไฟให้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ หรือจะพ่วงฮาร์ดดิส 3-4 ลูก พัดลมอีก 6 ตัวก็สามารถรองรับได้อย่างสบาย ๆ
EVGA SuperNOVA 850 P2
PSU ที่ดีที่สุดในรุ่น 850W ที่มีความทนทานและการจ่ายไฟได้อย่างครบถ้วนเต็มวัตต์ และมีความสเถียรสูงมาก ด้วยมาตรฐานการจ่ายไฟ 80 PLUS Platnium และด้วย Capacitors คุณภาพสูงที่ผลิตจากประเทศญี่ปุ่น และเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับผู้ใช้งาน มีการรับประกันยาวนานถึง 10 ปี แต่ SuperNOVA 850 P2 ก็ยังมีซึ่งมีข้อเสียคือ วงจร 5VSB ค่อนข้างที่จะล้าสมัย และมีสาย Molex ที่สั้นไปสักหน่อย ซึ่งอาจจะเปลี่ยนไปใช้รุ่น EVGA SuperNOVA 850 T2 แต่จะมีราคาสูงมากเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพที่ไม่แตกต่างกับรุ่น P2 มากนัก
FSP Aurum PT 1000W
อีกแบรนด์ที่ได้รับความนิยมกันมาอย่างยาวนานซึ่งสามรถเชื่อถือได้ในเรื่องคุณภาพ ทั้งการประกอบที่ทันสมัยเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูง มีประสิทธิภาพในการควบคุมที่เชื่อถือได้ เมื่อทำงานในสภาวะ Full Load ในส่วนของ Capacitors เลือกใช้ที่ผลิตจากประเทศญี่ปุ่น ทำให้ PT 1000W เป็น PSU ในระดับ Hi-End ที่ดีที่สุด
Thermaltake TPG-1250-T ราคา 12,000 บาท
เป็นเรื่องที่น่าแปลกจากประสิทธิภาพ PSU ของ Thermaltake ที่ไม่ค่อยจะโดดเด่นมากนักในทุก ๆ รุ่นที่ผ่านมา ซึ่งในรุ่น TPG-1250-T กลับมีประสิทธิภาพที่เหนือกว่าPSU ระดับ Hi-end ทุกรุ่นทั้ง EVGA และ Corsair ซึ่งปัจจัยที่ทำให้ TPG-1250-T มีประสิทธิภาพที่สูงมากคือใช้แพลตฟอร์มกึ่งดิจิตอล (CWT) ที่ใช้เทคโนโลยี MCUs สำหรับควบคุมฟังก์ชันการทำงานต่าง ๆ ของ PSU เข้ากับระบทำให้ PSU มีความยืดหยุ่นในการทำงานสูง อีกทั้งยังสามารถควบคุมอุณหภูมิได้อย่างมีประสิทธิภาพ มาตรฐานการจายไฟแบบ 80 PLUS Titanium สายไฟแบบ Full Modular และพัดลมด้านในก็เป็นแบบ RGB Ring ที่ได้รับความนิยมกันอย่างมากในเรื่องของความสวยงามอีกด้วย
PSU ที่ได้ยกตัวอย่างมานี้อยู่ในระดับ Hi-End ที่มีประสิทธิภาพสูงมาก ซึ่งสามารถใช้งานได้ในระยะยาว เชื่อว่าการลงทุนซื้อ PSU แพง ๆ สักตัวหนึ่งนั้นค่อนข้างเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคาต่อจำนวนปีที่ใช้งานอีกทั้งยังดีต่อสุขภาพอุปกรณ์ต่างๆภายในเครื่อง ที่ได้รับกระแสไฟที่สะอาดและเสถียรช่วยให้อุปกรณ์ต่าง ๆ รวมถึงอาร์ดดิสก์ ใช้งานได้อย่างยาวนานขึ้นอีกด้วย ในบางรุ่นที่ได้นเสนอไปอาจจะไม่มีขายในประเทศไทยแต่ในบทความหน้าจะเป็น PSU รุ่นยอดนิยมของเมืองไทย ติดตามชมกันได้
ที่มา : tomshardware