หลายคนคงรู้จักกับ SoftBank ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทโทรคมนาคมรายใหญ่ของญี่ปุ่น ได้ทำการตกลงเข้าซื้อกิจการในส่วนของ ARM บริษัทสัญชาติอังกฤษผู้พัฒนาชิปโมบาย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยมูลค่ากว่า 31,000 ล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 1 ล้านล้านบาท จากการที่ SoftBank เล็งเห็นความสำคัญของอนาคตที่ตลาดไอทีในอนาคตที่จะขับเคลื่อนด้วย IoT (Internet of Things) และ AI (Artificial Intelligence)
เชื่อได้ว่าหลายคนคงมีความศรัทธาในตัวชิปประมวลผลจาก ARM เพราะผู้ที่พัฒนาเทคโนโลยีการประมวลผลพลังงานต่ำมาโดยตลอด ที่เห็นชัดๆ ก็เป็นพวกอุปกรณ์โมบายอย่าง มือถือ แท็บเล็ต และ Wearable ต่างๆ รวมไปถึงผลิตภัณฑ์อีกมากมาย ซึ่งมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง นั่นเองทำให้ตัวของ SoftBank ให้ความสนใจเข้ามาซื้อกิจการ เพื่อที่จะได้ผลักดันตลาดไอทีให้ก้าวไกลยิ่งขึ้นไปอีก
โดยหลังการเข้าซื้อ ARM ก็ยังคงดำเนินธุรกิจเป็นบริษัทแยกอยู่เช่นเดิมไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร อีกทั้งยังมีแผนที่จะเพิ่มจำนวนพนักงานขึ้นเป็น 2 เท่าจนมีจำนวน 5,000 – 6,000 คนด้วยกัน ท่ามกลางภาวะที่ผู้ผลิตไอทีรายอื่นๆ ที่พากันปลดพนักงานอย่างทั่วหน้า โดยออฟฟิศหลักของ ARM จะยังคงอยู่ที่เมือง Cambridge ประเทศอังกฤษอย่างเดิม เรียกได้ว่า SoftBank ไม่ได้เข้ามาก้าวก่ายแต่อย่างใด
เรียกได้ว่าทาง SoftBank เค้าคิดการไกลจริงๆ อีกทั้งที่มาซื้อกิจการของ ARM ในช่วงนี้เพราะค่าเงินยูโรค่อนข้างถูกกว่าปกติ (นี่ถูกแล้วนะ) จากปรากฏการณ์ Brexit ที่อังกฤษจะถอนตัวจากสหภาพยุโรป ซึ่งทำให้ SoftBank สามารถประหยัดเงินซื้อกิจการได้มากมายทีเดียว รวมถึงยังไงสดใสของอนาคต ARM ก็ทำกำไรได้มากขึ้นต่อเนื่องอยู่แล้ว จากการมาของอุปกรณ์ IoT (Internet of Things) และ AI (Artificial Intelligence)
ที่มา : venturebeat