ตอนนี้นั้นคงปฎิเสธไม่ได้แล้วหล่ะครับว่าอากาศยานไร้คนขับขนาดเล็กหรือ Drone ได้เข้ามาเป็นอุปกรณ์ไฮเทคที่เป็นที่นิยมกันมากขึ้นในหมู่ผู้ชื่นชอบเล่นอุปกรณ์วิทยุบังคับไปจนกระทั่งผู้ที่ใช้อากาศยานไร้คนขับขนาดเล็กเพื่อการบันทึกภาพจากบนอากาศ
ล่าสุดนั้นทาง PowerVision ได้เปิดตัวอากาศยานไร้คนขับขนาดเล็กนาม “Power Egg” ออกมาเพื่อตีตลาดโดยความโดดเด่นของมันนั้นนอกจากการมาพร้อมกับใบพัดจำนวน 4 ใบและความสามารถในการบันทึกภาพได้แล้ว สิ่งที่สำให้ “Power Egg” ดูน่าสนใจมากกว่าอากาศยานไร้คนขับขนาดเล็กอื่นๆ ก็คือรูปทรงแบบไข่ขนาดใหญ่ของมันนี่แหละครับ
สำหรับสเปคคร่าวๆ ของ “Power Egg” นั้นมีดังต่อไปนี้ครับ
- น้ำหนักรวมอยู่ที่ 2.086 kg
- ขนาดของมันเมื่อไม่กางฐานและใบพัดออกมานั้นจะมีขนาดพอๆ กับลูกรักบี้
- วัสดุที่ใช้ในการผลิตส่วนลำดัวเป็นพลาสติกที่มีความหนาแน่นสูง(ซึ่งแข็งแรงมากกว่ารูปลักษณ์ที่เห็นเป็นอย่างมาก)
- ทั้งสวนของฐานตั้งและส่วนของใบพัดสามารถที่จะพับเก็บเข้าไปได้เมื่อไม่ใช่ใช้(ซึ่งตอนที่พับเก็บจะมีรูปทรงคล้ายลูกรักบี้ตามที่กล่าวไปในตอนต้น)
- ทางด้านล่างของ “Power Egg” จะเป็นส่วนที่ใช้ในการติดตั้งกล้องซึ่งเป็นกล้องมฃที่สามารถถ่ายวีดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดที่ระดับ 4K UHD โดยส่วนของกล้องนี้สามารถที่จะทำการปรับหมุนได้ 360 องศา(ผ่านทางคอนโทรลเลอร์)
- ภายในส่วนของปลายด้านบนเป็นส่วนที่บรรจุแบตเตอรี่ซึ่งมีความจุอยู่ที่ 6,400 mAh(ซึ่งสามารถที่จะเปิดออกเพื่อถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่ก้อนใหม่ได้)
- สามารถใช้งานได้ทั้งภายในอาคารและนอกอาคาร โดยเมื่อใช้ภายในอาคารตัว “Power Egg” จะเปิดใช้งานฌซ็นเซอร์ Sonar เพื่อป้องกันการชนกับวัตถุอื่นๆ และเมื่อใช้ภายนอกสถานที่ “Power Egg” จะปรับไปใช้เซ็นเซอร์ GPS ที่อยู่ภายในตัวเพื่อการติดตามการเคลื่อนที่
- การความคุมการเคลื่อนที่สามารถทำได้ 2 วิธีคือผ่านตัวคอนโทรลเลอร์ของ “Power Egg” หรือใช้คอนโทรเลอร์ที่มีลักษณะการควบคุมคล้ายคอนโทรลเลอร์ของ Nintendo Wii ก็ได้ ทั้งนี้ทางบริษัทบอกว่าตัวคอนโทรลเลอร์ที่คล้ายกับคอนโทรเลอร์ของ Wii นั้นถูกทำให้รองรับสำหรับผู้ที่ใช้งานอากาศยานไร้คนขับขนาดเล็กเป็นครั้งแรกเพราะจะสามารถบังคับได้ง่ายกว่า
- บนคอนโทรลเลอร์ทั้ง 2 มาพร้อมกับปุ่มอำนวยความสะดวกในการนำเอา “Power Egg” ลงจอด
- คอนโทรลเลอร์ทั้ง 2 แบบสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนทั้งระบบ iOS และ Android เพื่อการใช้งานที่สะดวกมากขึ้นเช่นการเปิดดูแผนที่พร้อมการบังคับเป็นต้น
- คอนโทรลเลอร์ทั้ง 2 และตัว “Power Egg” มาพร้อมกับเสาอากาศความถี่ 2.4 GHz เพื่อใช้ในการเชื่อมต่อ(ซึ่งเสาอากาศสำหรับตัวคอนโทรลเลอร์นั้นค่อนข้างมีขนาดใหญ่)
- “Power Egg” สามารถเคลื่อนที่ได้ไกลสุดจากคอนโทรลเลอร์ที่ระยะ 5 km
- “Power Egg” สามารถที่จะขึ้นบินได้จากขนาดแบตเตอรี่มาตรฐานที่ระยะเวลามากสุด 23 นาที
- ความเร็วสูงสุดที่ “Power Egg” สามารถทำได้อยู่ที่ 13 m/s
- คุณสามารถกำหนดให้ “Power Egg” บินไปตามเส้นทางที่กำหนดไว้ในตอนแรกได้เพื่อที่จะทำการให้ความสนใจในเรื่องของการควบคุมภาพวีดีโอที่อัดจากกล้องแทน(ทั้งนี้ตัว “Power Egg” ยังมีโหมด Selfie มาให้เพื่อที่ตัวกล้องจะอัดภาพโดยอัตโนมัติแล้วคุณสนใจในการบังคับทิศทางแทน)
ทั้งนี้ “Power Egg” ยังมีฟีเจอร์อื่นๆ อีกมากมายให้คุณได้ลองใช้งานครับ ทว่าสิ่งหนึ่งที่อาจจะทำให้เจ้า “Power Egg” นั้นไม่เปรี้ยงสักเท่าไรนั่นก็คือราคาค่าตัวของมันที่อยู่ที่ $1,288 หรือประมาณ 46,370 บาท ซึ่งงานนี้ก็ต้องแล้วแต่คนชอบแล้วหล่ะครับว่าจะเลือก “Power Egg” จากบริษัทสัญชาติจีนอย่าง PowerVision มาใช้งานหรือไม่
หมายเหตุ – ตอนนี้ทาง PowerVision ได้เปิด pre-order “Power Egg” อยู่ซึ่งตามที่ระบุเอาไว้นั้นคุณจะได้รับ “Power Egg” มาเล่นในช่วง 8 – 10 อาทิตย์ต่อจากสิ้นเดือนนี้ซึ่งก็อยู่ที่ 2 เดือนกว่าๆ เลยหล่ะครับ
ที่มา : engadget, YouTube Tom’s Guide