ในแง่ของความบันเทิง ทั้งภาพและเสียง ถือว่ามีความสำคัญๆ ในอันดับต้นๆ ซึ่งยังไม่ต้องพูดถึงยุคอนาคต ที่มีระบบสัมผัสหรือเสมือนจริงในแบบ 4D หรือ 5D ก็ตาม เพราะฉะนั้นทุกวันนี้เราจึงได้เห็นความก้าวหน้าทั้งในด้านของภาพ ที่เป็นจอแสดงผลความละเอียดสูง จอ 4K และจอโค้ง มากขึ้น เช่นเดียวกับเรื่องของเสียง ที่ทุกวันนี้ก็รุดหน้าไปไกล ยิ่งเกมเมอร์ด้วยแล้ว นอกจากจะต้องมีหูฟังที่เสียงดังสะใจแล้ว ระบบเสียงรอบทิศทาง การเก็บรายละเอียดและหูฟังที่สวมใส่สบาย ย่อมเป็นที่ต้องการตั้งแต่เกมเมอร์กลุ่มเริ่มต้น ไปจนถึงมืออาชีพ
Razer Man O’ War เป็นอีกหนึ่งหูฟังเกมมิ่งที่เข้ามาโลดแล่น เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในท้องตลาดจากค่าย Razer ที่เรารู้จักกันดี ซึ่งเป็นเจ้าของไลน์โปรดักส์ในกลุ่มเกมเมอร์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในเวลานี้ ซึ่งหลายคนน่าจะคุ้นเคยกันดีสำหรับหูฟังท็อปฮิตติดชาร์ท ไม่ว่าจะเป็น Kraken หรือ Tiamat แม้กระทั่ง Blackshark ก็ตาม กับความลงตัวที่สามารถเรียกได้ว่า มาครบทั้งเรื่องรูปลักษณ์ การออกแบบและฟังก์ชั่นการใช้งาน เพราะไม่ใช่แค่เรื่องเสียงเท่านั้น Man O’ War ยังคงใส่ความเป็น Razer Chroma เข้ามาในหูฟังนี้ด้วย กับแสงสีที่เรืองรองมาจากครอบหูฟัง บนลวดลายสัญลักษณ์จาก Razer ได้อย่างสวยงาม ที่สำคัญยังเป็นหูฟังแบบไร้สาย ที่มีอัตรตอบสนองได้ไวมาก
Specification:
Headphones
- Frequency response: 20 Hz – 20 kHz
- Impedance: 32Ω at 1 kHz
- Sensitivity (@1 kHz): 112 ± 3 dB
- Input power: 30 mW (Max)
- Drivers: 50 mm, with Neodymium magnets
- Inner ear cup diameter: 60 mm / 2.36 in
- Connection type: Wireless USB Transceiver
- Wireless range: 12 m / 40 ft
- Wireless frequency: 2.4 Ghz
- Battery life: Up to 14 hours with Razer Chroma lighting / 20 hours without Razer Chroma lighting
- Approximate weight: 375 g / 0.83 lbs
Microphone
- Frequency response: 100 – 10 kHz
- Signal-to-noise ratio: > 60 dB
- Sensitivity (@1 kHz): -38 ± 3 dB
- Pick-up pattern: Unidirectional
SYSTEM REQUIREMENTS
- PC / Mac with USB port; PlayStation ® 4*
- Windows® 10 / Windows® 8 / Windows® 7 / Mac OS X (10.9 and higher)
- Internet connection for driver installation
- At least 100 MB of free hard disk space
* Only Spectrum cycling lighting effect and 2.0 stereo audio output is available
แกะกล่อง
ตัวกล่องยังคงเอกลักษณ์ของทาง Razer ไว้อย่างชัดเจน กับโทนสีเขียว-ดำ ย้ำชัดถึงความเป็นเกมเมอร์ได้เป็นอย่างดี กับดีไซน์รูปหูฟังเอาไว้ให้เห็นอย่างชัดเจน
เปิดขึ้นมาจะเห็นหูฟัง Razer Man O’ War วางไว้สวยงามอยู่ในกล่อง แพ็คไว้อย่างดี พร้อมกล่องสำหรับใส่คู่มือด้านข้าง
เปิดในกล่องออกมาจะมีทั้งคู่มือการใช้งานและสาย USB สำหรับชาร์จและต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ได้โดยตรง
อีกสิ่งหนึ่งที่มาพร้อมหูฟังก็คือ Receiver ที่ใช้สำหรับการเชื่อมสัญญาณไร้สายแบบ WiFi 2.4GHz เพื่อต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์และช่วยยืดระยะสัญญาณ ในกรณีที่ใช้งานห่างจากตัวเครื่อง
การออกแบบ
Razer Man O’ War แม้จะเป็นหูฟังในกลุ่มตลาดบน พูดง่ายๆ ก็คือ เน้นคุณภาพและฟังก์ชั่นการใช้งาน แต่ก็ไม่ได้ใช้ลุคที่ทำให้ดูหวือหวามากนัก ผิดกับในซีรีส์อื่นๆ ของทาง Razer ที่เน้นรูปทรงทันสมัยและดูล้ำไปมาก แต่กลับใช้ความเรียบง่ายในรูปทรง มาเป็นแบบสำหรับในรุ่นนี้ โดยเอาลูกเล่นเก๋ๆ มาแทรกไว้ในบางส่วนของหูฟัง ทำให้ภาพรวมดูไม่ล้ำเกินไป แต่ก็ไม่ดูจืดในสายตา ซึ่งมาพร้อมโทนสีดำ บนบอดี้ที่ดูค่อนข้างใหญ่ โดยเฉพาะกับ Ear cup ที่ครอบหู ซึ่งเป็นแบบ Full size ครอบได้ครบทั้งหูแบบเต็มใบ และมีความนุ่มนวล ข้อต่อปรับหมุนได้ เพื่อให้รับกับศีรษะได้หลายรูปแบบ เช่นเดียวกับที่รองศีรษะฟองน้ำหุ้มหนัง ทำให้กระจายน้ำหนักและมีความนุ่มนวล โดยมีช่องสำหรับต่อพอร์ต USB เพื่อชาร์จไฟและปุ่มปรับระดับเสียงแบบแยกหูฟังมาในตัว ซึ่งน่าจะเหมาะกับเกมเมอร์ที่เล่นจริงจังต่อเนื่อง หรือซีเรียสกับเรื่องของเสียงและความแม่นยำเพราะ Man O’ War รองรับระบบเสียง 7.1 Surround sound อีกด้วย
ลองใช้งานหูฟัง Razer Man O’ War
เริ่มจากสัมผัสแรกกันก่อน ตัวหูฟังแม้จะมีขนาดใหญ่ แต่ก็น้ำหนักเบา สวมสบายมากทีเดียว
ด้วยที่ครอบ Ear cup ที่ปรับองศาได้มาก ก็ทำให้การปรับสวมเข้ากับศีรษะได้สะดวกขึ้น เรื่องของความกระชับทำได้ดีในระดับหนึ่ง แต่ก็ขึ้นอยู่กับการปรับใช้ของเราด้วย
ระหว่างโครงสร้างหลักกับ Ear cup มีให้ปรับเลื่อนได้หลายระดับ ตรงจุดนี้ถือว่าเป็นรูปแบบที่ถูกนำมาใช้งานหูฟังหลายรุ่นในปัจจุบัน เช่นเดียวกับหูฟังจาก Razer รุ่นนี้
ส่วนตรงที่ครอบหูรุ่นนี้ ใครที่ชอบความนุ่มนวลและใส่สบาย น่าจะชื่นชอบ Man O’ War รุ่นนี้ เพราะใช้วัสดุที่มีสัมผัสได้น่าประทับใจ ซึ่งพื้นผิวแบบหนัง แต่กลับซัพพอร์ตใบหูได้อย่างนุ่ม ฟองน้ำที่ใช้ก็กระชับใบหูได้ดีอีกด้วย เล่นเกมกันได้แบบยาวๆ แม้จะมีอาการอุ่นหูอยู่บ้าง ก็เป็นเรื่องปกติ
สำหรับใครที่ใช้โน๊ตบุ๊คหรือไม่ได้เดินไปไหนมาไหน หูฟังมาพร้อมสาย USB สำหรับเชื่อมต่อเข้ากับพอร์ตบนโน๊ตบุ๊คโดยตรง และใช้สำหรับการชาร์จไฟไปในตัว
โดยที่สายต่อ Receiver มาพร้อมพอร์ต USB ที่ให้คุณยืดระยะจากพอร์ตด้านหลังเครื่องมาใช้ต่อด้านหน้าได้อีกด้วย หรือจะใช้ร่วมกับสาย USB ที่ให้ด้วยก็ตาม
อุปกรณ์ที่เป็น USB Receiver ซ่อนอยู่ในตัวหูฟัง แค่กดลงไปเบาๆ ตัว USB ก็จะเด้งขึ้นมา เป็นลูกเล่นที่ช่วยให้เราเก็บตัวรับสัญญาณไว้ ไม่ให้หล่นหายง่ายๆ
ไมโครโฟนอยู่บริเวณหูฟังด้านซ้าย สามารถปรับยาว สั้นหรือบิดซ้าย ขวาได้สบาย ให้เสียงที่คมชัดดีทีเดียว โดยเฉพาะกับเกมที่ต้องสื่อสารกัน ตัดเสียงรบกวนได้ดี
แต่ที่น่าสนใจก็คือ คุณสามารถปรับระดับเสียงได้จากหูฟัง ไม่ต้องไปปรับที่สายหรือซอฟต์แวร์ให้วุ่นวาย แถมยังแยกการปรับเสียงออกจากกันคนละข้าง เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเลือกความดังเบาได้ตามใจชอบ เพราะการรับฟังแต่ละคนไม่เท่ากัน
ที่เป็นไฮไลต์อีกอย่างหนึ่งบน Razer Man O’ War อยู่ที่ระบบไฟ Razer Chroma ซึ่งรองรับการปรับได้เช่นเดียวกับเมาส์และคีย์บอร์ด โดยใช้งานผ่านซอฟต์แวร์ Synapse ที่ทำให้สอดคล้องกันได้ทุกอุปกรณ์ ใครที่อยากให้ หูฟัง เมาส์และคีย์บอร์ด เรืองแสงพร้อมกันหรือต่อเนื่องกันเป็นจังหวะ ก็เลือกปรับได้ตามใจชอบ รับรองสนุกแน่
ตัวหูฟัง Razer Man O’ War ออกแบบมาได้น่าสนใจทีเดียว แว่บแรกที่เห็นคิดว่าจะหูฟังขนาดใหญ่แบบนี้ จะใส่สบายหรือเปล่า แต่กลายเป็นว่าพอได้ลองสัมผัส กลับมีน้ำหนักที่เบาและสวมง่าย ด้วยน้ำหนักที่ยังไม่ถึง 400 กรัมดี และข้อต่อที่ขยับได้ค่อนข้างมาก ก็ทำให้การบิดหมุนหรือเอียงศีรษะทำได้สบายกว่า อาจจะดูหลวมๆ อยู่บ้าง แต่เมื่อครอบหูได้เต็มใบ ก็กลายเป็นว่าเป็นจุดยึดที่ดี
จะมีในเรื่องการติดตั้งและใช้งาน ซึ่งถ้าใครไม่ค่อยคุ้นเคยแนะนำว่าให้เปิดอ่านคู่มือดูสักเล็กน้อย เพราะจะช่วยคุณให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะ Receiver ที่มีขนาดเล็ก ซึ่งซ่อนอยู่ตรงหูฟัง ต้องกดออกมาก่อน แล้วจึงนำไปต่อกับคอมพิวเตอร์อีกที หลังจากนั้นก็ง่ายแล้ว เพราะเมื่อมีการ Detect เจอ แค่กดปุ่มเบาๆ ที่หูฟัง ก็สามารถซิงก์กับ Receiver แล้วเสียงก็จะเข้ามาในทันที
Conclusion
ต้องยกความดีให้กับตัวขับแม่เหล็ก Neodymium 50mm การรองรับกับระบบเสียง 7.1-channel อีกด้วย น่าจะตอบโจทย์ สำหรับการใช้งาน ดูหนัง ฟังเพลงและเล่นเกมได้อย่างสนุกทีเดียว แต่ต้องบอกก่อนว่าอารมณ์ของเสียงที่ได้ จะเน้นทุ้ม ลึกและกลางที่กว้าง เป็นสไตล์ของหูฟังเล่นเกม และที่ได้อานิสงมาด้วยก็คือ สำหรับการดูหนัง ดังนั้นแล้วเรื่องของการฟังเพลงโทนแหลมใส คงไม่ได้ให้คุณได้มากนัก ซึ่งจากการใช้งาน ด้วยการเปิดฟีเจอร์ Surround sound บนไดรเวอร์ของ Sound และเปิด Volume ในระดับ 80% และมาปรับลดในวีดีโอ รวมถึงเกม ช่วยเพิ่มความสนุกได้ไม่น้อยทีเดียว โดยเฉพาะในการเล่นเกม ที่หูฟังรุ่นนี้เก็บรายละเอียดได้ดี ไม่ว่าจะเป็นการสาดกระสุนหรือระเบิดที่อยู่โดยรอบก็ตาม ในเกม FPS ที่คุณจะได้ลุ้นกับบรรยากาศรอบๆ ตัวได้มากยิ่งขึ้น มอนสเตอร์ที่เข้ามาใกล้ ทำเอาสะดุ้ง
เช่นเดียวกับในการดูหนัง เอฟเฟกต์ที่ตูมตาม บวกกับการแยกแชนแนลได้ดี ก็ทำให้ดูกันเพลินๆ และลุ้นระทึกไปด้วยกับความหลอน จนเล่นเอาตกใจได้เหมือนกัน ซึ่งถ้าใครที่ชอบความเป็นส่วนตัวไม่น่าจะพลาดกับหูฟังนี้ แต่ไม่ใช่ว่าจะเด่นไปทุกเรื่อง เพราะมีจุดสังเกตเล็กน้อยในการงานในแบบ WiFi เพราะจะมีเสียงรอบข้าง เช่น การเลื่อนสกอลล์เมาส์และเสียงจาม เล็ดลอดเข้ามาบ้าง ซึ่งเสียงจะค่อนข้างชัด แต่บอกไว้ก่อนว่า เฉพาะในช่วงที่เงียบๆ เท่านั้น แต่ถ้าระหว่างที่เรากำลังเล่นอยู่นั้น ก็อาจจะถูกกลืนหายไปกับเสียงภายในเกมแล้ว
ก็น่าจะครบครันสำหรับหูฟัง Razer Man O’ War รุ่นนี้ ที่ยกมาทั้งพลังเสียงสำหรับเกมเมอร์และลูกเล่นในการปรับแสงสีบน Chroma ด้วยโปรแกรม Synapse ซึ่งช่วยเพิ่มความสนุกสนานในการเล่นเกมได้ดีขึ้น อีกทั้งน้ำหนักที่เบา ที่ชอบเลยคือ ฟองน้ำที่หุ้มหนังมาอย่างดี ใส่แล้วสบายหู ใช้งานได้นานแบบเหงื่อไม่ออกมาให้รู้สึกไม่สบายหูอีกด้วย
จุดเด่น
- ปรับแสงสีและจังหวะได้ตามชอบด้วย Synapse
- ให้พลังเสียงที่หนักแน่น และมีรายละเอียด
- แยกทิศทางเสียงได้ดีพอสมควร
- น้ำหนักเบา สวมใส่สบาย
ข้อสังเกต
- มีเสียงแทรกอยู่บ้างเล็กน้อย
- มีขนาดที่ใหญ่พอสมควร
Contact : Razer
Price : ประมาณ 6,990 บาท