Connect with us

Hi, what are you looking for?

Notebook Review

[Review] Lenovo MiiX 310 แท็บเล็ต Windows 10 สุดคุ้ม สเปกพอดีตัว ราคาไม่ถึงหมื่น !!!

ในปัจจุบัน แท็บเล็ต ยังคงเป็นอุปกรณ์ที่ได้รับความนิยมอยู่อย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มที่จะมากขึ้นในทุกวัน ทำให้หลายแบรนด์ไอทีชั้นนำของโลกหันทำตลาดในอุปกรณ์เหล่านี้มากขึ้น Lenovo เองก็เป็นหนึ่งในนั้น

ในปัจจุบัน แท็บเล็ต ยังคงเป็นอุปกรณ์ที่ได้รับความนิยมอยู่อย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มที่จะมากขึ้นในทุกวัน ทำให้หลายแบรนด์ไอทีชั้นนำของโลกหันทำตลาดในอุปกรณ์เหล่านี้มากขึ้น Lenovo เองก็เป็นหนึ่งในนั้น ช่วงก่อนหน้าที่ผ่านมาเราจะเห็นได้ว่า Lenovo มีการส่งสินค้าไอทีสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง และผลิตภัณฑ์ที่เรียกเสียงฮือฮาจากผู้ใช้งานได้ทั่วโลกก็คงเป็นอุปกรณ์ประเภทแท็บเล็ตแบบ 2 in 1 ซึ่งมีอยู่ด้วยกันหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็นรุ่นใหญ่อย่าง MiiX 700 ที่มีราคาค่อนข้างสูง หรือในรุ่น MiiX 300 ซึ่งถือว่าเป็นรุ่นเล็กที่ผู้คนสามารถจับจองเป็นเจ้าของได้ด้วยเงินไม่ถึงหลักหมื่นบาท

และเมื่อเร็วๆนี้ Lenovo ได้ส่งผลิตภัณฑ์แท็บเล็ต 2 in 1 สู่ตลาดอีกครั้ง โดยในครั้งนี้เป็นรุ่น Lenovo MiiX 310 ซึ่งเป็นรุ่นที่ Lenovo ตั้งใจจะพัฒนาและต่อยอดจาก MiiX 300 นั่นเอง ซึ่งต้องบอกเลยครับว่าน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะในรุ่นนี้ยังคงไว้ซึ่งความคุ้มค่า และยังสามารถทำงานได้หลากหลายเหมือนเช่นเคย พร้อมทั้งยังคงชูจุดเด่นในการที่สามารถใช้เป็นทั้งโน๊ตบุ๊คหรือแท็บเล็ตได้ในเครื่องเดียวกัน  ซึ่งจะดีอย่างแน่นอนสำหรับคนที่ไม่ต้องการพกโน๊ตบุ๊คหรือแท็บเล็ตจำนวนหลายเครื่อง สำหรับใครที่ต้องการจับจองเป็นเจ้าของ Lenovo MiiX 310 ก็สามารถสอบถามไปยังตัวแทนจำหน่ายสินค้าไอทีชั้นนำได้ทั่วประเทศแล้ววันนี้  ในสนนราคาเริ่มต้นเพียง 8,990 บาท

Advertisement

Specification

เริ่มต้นกันที่ในส่วนของเรื่องสเปกของตัวเครื่อง Lenovo MiiX 310 กันก่อนเลยครับ  สำหรับ Lenovo MiiX 310 นั้นจะจัดอยู่ในกลุ่มแท็บเล็ต 2 in 1 ที่ทำงานบนระบบปฏิบัติการวินโดว์ ซึ่งอาจจะเรียกง่ายๆว่า วินโดว์แท็บเล็ต สำหรับเครื่องที่รีวิวนั้น ใช้ชิปประมวลผล Intel Atom X5 Z8350 ความเร็วเริ่มต้นอยู่ที่ 1.44 GHz และสามารถเร่งความเร็วการทำงานได้สูงสุดได้ที่ 1.92 GHz (Turbo Boost) โดยชิปประมวลผลนั้นเป็นแบบใช้พลังงานที่ต่ำมาก แต่ยังคงไว้ในเรื่องของประสิทธิภาพที่เต็มเปี่ยม โดยมีการทำงานเป็นแบบ 4 คอร์ 4 เธรด สำหรับแรมก็ติดตั้งมาให้ขนาด 2GB แบบ DDR3L ความเร็วบัสที่ 1600 MHz แน่นอนว่าเป็นแบบออนบอร์ดไม่สามารถเพิ่มได้  แต่ด้วยตัวเครื่องที่ออกแบบมามีขนาดเล็กซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานแน่นอน ในส่วนของกราฟิกการ์ดนั้นเป็นแบบออนบอร์ด Intel HD Graphics 515 ที่เรียกได้ว่าใหม่กว่ารุ่นก่อนหน้าอย่างแน่นอน นอกจากนี้ในส่วนของฮาร์ดดิสก์นั้นยังเลือกใช้เป็นแบบ eMMC มีความจุที่ 64 GB ที่มีความเร็วที่สูงพอสมควร ซึ่งสามารถเพิ่ม Micro SD Card ได้ภายหลัง  มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 10.1 นิ้ว ความละเอียดระดับ HD พาเนลคุณภาพสูงแบบ IPS ซึ่งให้สีสันที่ดูสมจริง และมุมมองที่กว้าง พร้อมกันนี้ยังมีการติดตั้งกล้องมาให้ในส่วนของแท็บเล็ต โดยกล้องหน้านั้นมีความละเอียดอยู่ที่ 2 ล้านพิกเซล และกล้องหลัง 5 ล้านพิกเซล และยังรองรับระบบ Wifi 2.4 GHz Bluetooth 4.0 พ่วงแบตเตอรี่มาให้ 2 เซลล์อีกด้วย

สามารถรับชมสเปคแบบเต็มของ Lenovo MiiX 310 ได้ที่นี่ครับ

Hardware / Design

HW1

ดีไซน์การออกแบบของตัวเครื่อง Lenovo MiiX 310 โดยรวมถือว่าดูดีเลยทีเดียว ซึ่งมีหลายจุดที่พัฒนาให้ดีขึ้นจากรุ่น MiiX 300 อย่างชัดเจน เมื่อมองดูในเบื้องต้นแล้วให้อารมณ์ถึงความพรีเมี่ยม อีกทั้งเมื่อได้สัมผัสยังรู้สึกได้ถึงความแข็งแรง เนื่องจากวัสดุของตัวเครื่องส่วนใหญ่นั้นใช้วัสดุที่เป็นโลหะนั่นเอง และด้วยความที่ตัวเครื่องเป็นแท็บเล็ตแบบ 2 in 1 ดังนั้นก็จะมีในบางส่วนที่ยังคงไว้จากรุ่นก่อนหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนที่ตัวเครื่องสามารถถอดออกจากตัวคีย์บอร์ดได้ ซึ่งในจุดนี้นับว่าเป็นส่วนที่ค่อนข้างสมบูรณ์อยู่แล้ว โดยส่วนที่เป็นแท็บเล็ตหรือหน้าจอนั้นสามารถเชื่อมต่อกับส่วนคีย์บอร์ดได้ด้วยแม่เหล็ก ซึ่งมีความไวที่สูงมาก เพราะจากการใช้งานเมื่อผู้ใช้นำตัวคีย์บอร์ดเข้าใกล้กับตัวแท็บเล็ตในจุดเชื่อมต่อ ตัวอุปกรณ์ทั้งสองอย่างก็จะเชื่อมต่อกันทันที  และสำหรับใครที่กังวลว่าตัวคีย์บอร์ดที่เชื่อมต่อนั้นจะหลุดง่าย บอกได้เลยครับว่าไม่ต้องกังวล เพราะในเวลาที่จะถอดคีย์บอร์ดออกนั้นต้องใช้แรงพอสมควรเลยทีเดียว เรียกได้ว่าถือฝั่งแท็บเล็ตแล้วปล่อยให้คีย์บอร์ดลอยยังไม่หลุดเลย

HW2

สำหรับคีย์บอร์ดก็เป็นแบบ Full-Size แต่จะมีขนาดที่เล็กเพื่อให้มีความพอดีกับเครื่องขนาด 10.1 นิ้วนั่นเอง โดยใสส่วนของคีย์บอร์ดนี้มีการการแบบโดยโลหะสีดำล้วน พร้อมทั้งมีการใช้ไดมอนคัตสีเงินตัดขอบเพื่อเพิ่มความสวยงามและความเรียบหรู ในส่วนของอะแดปเตอร์ที่ชาร์จก็มีขนาดที่เล็กเหมาะสมกับตัวเครื่อง และสามารถใช้งานได้เป็นอย่างดี  ด้านล่างของตัวเครื่องมีการติดยางทั้งสี่มุมสำหรับเวลาวางจะได้ช่วยยกระดับของตัวแท็บเล็ตให้สูงจากพื้นขึ้นมาเล็กน้อย และยังช่วยป้องกันการลื่นที่อาจจะมีสาเหตุมาจากพื้นผิว ซึ่งในจุดนี้ก็จะมีความคล้ายคลึงกับโน๊ตบุ๊คโดยทั่วๆไป ถือว่าเป็นจุดดีอีกจุดหนึ่งทีทาง Lenovo ก็ยังคงไว้และคาดว่าจะยังคงมีพัฒนาที่ดียิ่งขึ้นไป

Keyboard / Touchpad

KB1

คีย์บอร์ดยังคงเป็นจุดเด่นของ Lenovo มาอย่างต่อเนื่องและสำหรับบน Lenovo MIIX 310 นั้นจะพบว่ามีขนาดที่ค่อนข้างเล็กเพราะได้ทำการตัดส่วนที่เป็นปุ่มฟังก์ชันออกไป ทำให้คีย์บอร์ดนั้นมีเพียง 5 แถว ซึ่งตัวคีย์บอร์ดเองถึงแม้ว่าจะมีขนาดที่เล็กแต่ปุ่มกดก็ยังสามารถรองรับกับนิ้วมือได้เป็นอย่างดีตามแบบฉบับของ Lenovo สำหรับในส่วนของคีย์บอร์ดนี้ทาง Lenovo ได้มีการให้มาเป็นแพ็จเกตพร้อมตัวเครื่องเลย ไม่ต้องไปหาซื้อแยกเอง และสำหรับเครื่องในรุ่นที่วางจำหน่ายทั่วไปนั้นก็จะมาพร้อมกับคีย์บอร์ดภาษาไทย ซึ่งลดความกังวลไปได้ระดับนึงทีเดียวสำหรับใครที่ไม่ถนัดคีย์บอร์ดภาษาอังกฤษ อีกเรื่องที่ผมชอบเป็นการส่วนตัวและคิดว่าคงเป็นจุดเด่นเลยก็คือ ที่ส่วนของคีย์บอร์ดนี้ยังมีการติดพอร์ต USB 3.0 Type A แบบเต็มมาให้ถึง 2 พอร์ตเลยทีเดียว ซึ่งแน่นอนว่ามันจำเป็นมากสำหรับการถ่ายโอนข้อมูลในปัจจุบัน  แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นยังมีอีกหนึ่งจุดที่ผมแอบเสียดายคือ ตัวคีย์บอร์ดจะไม่มีไฟแสดงผล ซึ่งอาจทำให้เกิดความลำบากเมื่อต้องทำงานในบริเวณที่มีแสงสว่างน้อยหรือในที่มึด แต่เชื่อว่าด้วยความที่เป็นแท็บเล็ตราคาคุ้มค่า จึงได้ตัดฟีเจอร์บางอย่างออกไป แต่ถ้าถามว่าสามารถใช้งานในที่แสงน้อยได้หรือไม่ ผมตอบได้เลยครับว่า ได้อย่างแน่นอน เพียงแค่ปรับไปใช้งานในโหมดแท็บเล็ตเท่านั้นก็จะสามารถใช้งานได้อย่างสบายๆเลย

KB5

ทัชแพดมีการออกแบบมาค่อนข้างดี เพราะให้ขนาดมาใกล้เคียงกับโน๊ตบุ๊คโดยทั่วไปกันเลยทีเดียว ตัวทัชแพตนั้นเป็นชิ้นเดียวกันทั้งหมดไม่มีการแบ่งปุ่มซ้าย-ขวา (แต่มีเส้นแบ่งซ้ายขวา) ผิวสัมผัสเองก็เป็นโลหะแบบเดียวกันกับตัวเครื่อง นอกจากนี้ยังมีการเน้นให้เห็นชัดเจนด้วยการใช้ไดมอนคัตสีเงินตัดขอบรอบๆ อีกทั้งผมเองมองว่ายังเป็นการเพิ่มความหรูให้กับตัวทัชแพดอีกด้วย นอกจากนี้ตัวทัชเองยังรองรับการทำงานแบบมัลติทัชเหมือนเช่นเดิมในหลายรุ่นที่ผ่านมา ในด้านของการใช้งานจริงพบว่าสามารถใช้งานได้อย่างถนัดมือเลยทีเดียว ถึงแม้ว่าผู้ใช้บางคนจะเป็นคนที่มีนิ้วมือขนาดใหญ่ก็ตาม สำหรับในเรื่องของการตอบสนองนั้นก็ยังคงสามารถทำได้ดี ไม่ว่าจะเป็นการคลิก การดับเบิลคลิก หรือแม้แต่การเลื่อนสกอร์บาร์ต่างๆก็สามารถทำได้ลื่นไหลและไวในระดับที่ควรจะเป็น

Screen / Speaker

SC1

หน้าจอแสดงผลของเครื่อง Lenovo MiiX 310 เป็นหน้าหน้าขนาด 10.1 นิ้ว ที่ความละเอียด (1366×768) HD เป็นพาเนลแบบ IPS และเป็นจอทัชสกรีนแบบมัลติทัช ซึ่งสามารถให้การแสดงผลที่ดีเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการแสดงผลภาพ หรือการดูวีดีโอที่ระดับความละเอียดสูงๆก็แสดงอกมาได้สวยงามสมจริงแบบสุดๆ พร้อมทั้งยังให้มุมมองที่กว้างตามคุณสมบัติของจอ IPS และเนื่องด้วยตัวหน้าจอเป็นแบบทัชกรีน  จึงไม่ต้องกังวลเป็นรอยขีดข่วนได้ง่าย แต่การที่ตัวหน้าจอเป็นจอแบบกระจกในบางครั้งที่นำไปใช้งานในบริเวณพื้นที่ที่มีแสงสว่างมาก เช่น กลางแดด  อาจทำให้เกิดการสะท้อนได้ง่าย อาจจำเป็นต้องใช้วิธีการติดฟิล์มเข้ามาช่วย

SC5

สำหรับลำโพงนั้นจะติดตั้งอยู่ในส่วนที่เป็นแท็บเล็ต ทั้งด้านซ้ายและขวา ซึ่งลำโพงนั้นจะมีขนาดที่ค่อนข้างเล็กทีเดียว อาจเป็นเพราะตัวเครื่องที่มีขนาดเล็กทำให้พื้นที่ถูกจำกัด สำหรับในเรื่องของความดังของเสียงเรียกว่าทำออกมาได้ดีในระดับนึง ซึ่งถ้าใช้ในห้องหรือบริเวณที่ไม่มีเสียงรอบข้างรบกวนมากนักก็สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน แต่ถ้าต้องใช้ในบริเวณที่มีเสียงดังตลอดเวลาหรือในเวลาที่ต้องการคุณภาพของเสียงที่มากขึ้น อาจจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์เสริมเข้ามาช่วย ซึ่งอาจจะเป็นหูฟังหรือลำโพงที่สามารถต่อผ่านแท็บเล็ตได้โดยตรง ซึ่งถ้าหากว่าคุณเป็นผู้ใช้งานทั่วไป คุณภาพเสียงที่ได้นั้น ก็ถือว่าดีเพียงพอสบายๆแล้วครับ

Connector / Thin And Weight

P1

พอร์ตการเชื่อมต่อของเครื่อง Lenovo MIIX 310 ที่เป็นแท็บเล็ตแบบ 2 in 1 ที่ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ที่ถึงแม้ว่าตัวเครื่องจะมีการออกมาให้เป็นเครื่องที่มีขนาดเล็กเพียง 10.1 นิ้ว พร้อมกับการมีความบางและน้ำหนักที่เบา แต่ก็ยังให้พอร์ตมาเพียงพอต่อการใช้งาน โดยพอร์ตจะติดตั้งมาให้ทั้งสองส่วน โดยในส่วนที่เป็นคีย์บอร์ดจะให้พอร์ต USB 3.0 Type A แบบเต็มมาถึง 2 พอร์ต และในฝั่งของส่วนที่เป็นแท็บเล็ต จะมีพอร์ต Micro HDMI, Micro USB, MicroSD Card  (สำหรับในรุ่นที่รีวิวจะไม่รองรับ LTE) ซึ่งโดยรวมแล้วก็ถือว่าเพียงพอเลยทีเดียวสำหรับการใช้งานในปัจจุบัน ที่จะทำให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆได้โดยตรง ไม่ว่าจะเป็นแฟลชไดร์ฟ,  Micro SD Card ที่จะช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูลของเครื่องได้เป็นอย่างดี  หรือแม้กระทั่งการใช้งานจาก External Harddisk ด้วยก็ตาม  นอกจากนี้ยังมี Micro HDMI สำหรับเชื่อมต่อภายนอกที่สำหรับในบางครั้งต้องการแสดงผลด้วยหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น พร้อมกับแจ็คขนาด 3.5 แบบคอมโบ ที่สมารถใช้เสียบหูฟัง หรือต่อกับลำโพงภายนอกเพื่อให้ได้อรรถรสเสียงตามที่ผู้ใช้เองต้องการมากขึ้น

P5

ขนาดของตัวเครื่องนั้นถือว่ามีขนาดที่ค่อนข้างเล็กยิ่งเมื่อเทียบกับขนาดของ Ultrabook ทั่วๆไปถือว่ามีขนาดที่เล็กกว่ามากพอสมควร โดยขนาดของตัวเครื่องนั้นจะอยู่ที่ 9.68 x 6.81 x 0.71 นิ้ว และน้ำหนักของตัวเครื่องนั้นจะอยู่ที่ 1.1 กิโลกรัม จัดได้ว่ามีน้ำหนักที่ค่อนข้างเบา ซึ่งแน่นอนว่าสามารถตอบโจทย์ในเรื่องของการพกพาไปทำงานนอกสถานที่ได้อย่างสมบูรณ์เลยทีเดียว หรือถ้าใครจะใช้เป็นโน๊ตบุ๊คเครื่องที่สองก็เป็นตัวเลือกที่ดีไม่น้อยทีเดียว

Performance / Software

systemLenovo MIIX 310 เครื่องรีวิวนี้มาพร้อมกับชิปประมวลผล Intel Atom X5-Z8350 ซึ่งเป็นชิปประมวลผลใช้พลังงานไฟต่ำมาก มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 1.44 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 1.92 GHz มีการทำงานป็นแบบ 4 คอร์ 4 เธรด ที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป แต่ก็ต้องยอมรับว่าประสิทธิภาพอาจจะสู้ชิปในตระกูล Core M หรือ Core I  ซีรีย์ U ไม่ได้ แต่เรื่องประหยัดพลังงานนั้นเป็นจุดเด่นที่เหนือกว่าอยู่แล้ว มาพร้อมแรมภายในขนาด 2 GB แบบ DDR3L ที่เพียงพอจะขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้ได้อย่างสบาายๆ

cpu-z

กราฟิกการ์ดจะเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel HD Graphics 515 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้ในระดับนึง หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่ก็คงไม่ใด้ใช้งานมากถึงขนาดนั้น ซึ่งโดยรวมแล้วให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีกว่า Intel HD Graphics รุ่นก่อนหน้าอย่างแน่นอน

gpu-z

สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผลเป็นหลัก คะแนนก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลที่เป็น Intel Atom รุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลทั่วไป ได้อย่างสบายๆ ไม่น่าเป็นห่วงนัก

 

cine

 

 

Battery / Heat / Noise

Battery

batteryMon

แบตเตอรี่ของ Lenovo MiiX 310 เป็นแบตเตอรี่แบบฝังมากับตัวเครื่องเหมือนกับ Ultrabook สมัยใหม่โดยทั่วๆไป ตัวของแบตเตอรี่มีขนาดความจุที่  2 Cells ที่ทาง Lenovo เคลมไว้ว่าสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องถึง 10 ชั่วโมง ซึ่งเมื่อใช้งานจริงก็สามารถใช้งานได้อย่างยาวนานตามที่บอกไว้คือประมาณ 9-10 ชั่วโมงเลยทีเดียวโดยลักษณะของการใช้งานก็จะเป็นแค่การใช้งานเอกสาร เล่นอินเตอร์เน็ต แบบปกติธรรมเท่านั้น และอาจจะใช้งานได้น้อลงหรือมากขึ้น ก็คงจะขึ้นอยู่กับลกษณะการใช้งานของแต่ละบุคคล

hw-fulltest

อุณหภูมิต่ำสุดของเครื่องจะอยู่ที่ประมาณ 40-45  องศาเซลเซียส และเมื่อรีดประสิทธิภาพเต็มที่จะเห็นว่าเครื่องจะร้อนที่สุดประมาณ 70-80 องศาเซลเซียสซึ่งสูงพอสมควร อาจเป็นเพราะตัวบอดี้นั้นทำมาจากวัสดุที่เป็นโลหะ และตัวเครื่องไม่มีการใช้พัดลมระบายความร้อน แต่จากการทดลองใช้งานจริง ถึงแม้ว่าเมื่อเครื่องทำงานเต็มประสิทธิภาพจะมีอุณหภูมิที่ค่อนข้างสูง แต่ก็ไม่มีอาการค้าง หรือกระตุกเวลาทำงานแต่อย่างใด  และอุณหภูมิจะลดลงสู่สภาวะปกติได้อย่างรวดเร็วเมื่อเปลี่ยนลักษณะการใช้งาน แสดงให้เห็นว่าทาง  Lenovo  ได้ทำการออกแบบมาได้เป็นอย่างดีทีเดียวสำหรับเรื่องระบบระบายความร้อน  จึงไม่มีอะไรที่น่ากังวลสำหรับในเรื่องของอุณหภูมิของเครื่อง

Conclusion / Award

CON (1)

ถือว่าน่าสนใจไม่น้อยทีเดียวครับสำหรับ Lenovo MiiX 310 แท็บเล็ตที่ซึ่งทำงานบนระบบปฏิบัติการวินโดว์ จากการที่ได้สัมผัสและทดลองใช้งานตัวจริงในเบื้องต้นจะเห็นได้ว่ามีการพัฒนาที่มากขึ้นในหลายๆจุดจากรุ่น MiiX 300 ซึ่งเป็นรุ่นก่อนหน้าที่ประสบความสำเร็จมาพอสมควร  โดยจุดเด่นที่ชัดเจนสำหรับการพัฒนาในครั้งนี้คงเป็นในเรื่องของการใช้วัสดุที่เป็นโลหะในการทำตัวเครื่องทั้งหมด ส่งผลให้ตัวเครื่องนั้นมีความสวยงาม หรูหรา และพรีเมี่ยมขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย พร้อมทั้งเมื่อใช้งานจริงก็ยังสามารถให้ได้ถึงความแข็งแรงทนทานอีกด้วย

Lenovo MiiX 310 ถือเป็นแท็บเล็ตแบบ 2 in 1 ที่ต่อยอดความสำเร็จมาจากรุ่นก่อนหน้าอย่าชัดเจน และยังถือเป็นหนึ่งในแท็บเล็ตที่มีความคุ้มค่าอีกหนึ่งตัวเลยทีเดียว เพราะด้วยวัสดุของเครื่องที่เลือกใช้เป็นโลหะ แถมยังมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ด้วย เชื่อว่าการเป็นเจ้าของได้ในราคาไม่ถึงหมื่นบาท (ในรุ่นที่รีวิว) จะสามารถมอบประสบการณ์การใช้งานให้กับผู้ใช้อย่างคุ้มค่าแน่นอนครับ

จุดเด่น

  • ตัวเครื่องที่มีความบางและเบามาก
  • วัสดุของตัวเครื่องเป็นโลหะ ทำให้มีความแข็งแรง  และดูสวยหรู
  • พาเนลหน้าจอ IPS มีคุณภาพสูง มีความสวยงามสมจริง และให้มุมมองที่กว้าง
  • วัสดุแข็งแรงทนทาน ดูสสวยหรู
  • พอร์ตการเชื่อมต่อครบครัน อย่าง USB 3.0 ตัวเต็ม
  • มาพร้อม Windows 10 Home  ลิขสิทธิ์ ใช้งานได้ทันที
  • เป็นแท็บเล็ตหรือโน๊ตบุ๊คได้ในหนึ่งเดียว
  • แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานกว่า 9 ชั่วโมง
  • Docking Keyboard มาพร้อมกับตัวเครื่อง ไม่ต้องหาซื้อแยก

ข้อสังเกตุ

  • ตัวคีย์บอร์ด ไม่มีไฟแสดงผล

 

Specification

เริ่มต้นกันที่ในส่วนของเรื่องสเปกของตัวเครื่อง Lenovo MiiX 310 กันก่อนเลยครับ  สำหรับ Lenovo MiiX 310 นั้นจะจัดอยู่ในกลุ่มแท็บเล็ต 2 in 1 ที่ทำงานบนระบบปฏิบัติการวินโดว์ ซึ่งอาจจะเรียกง่ายๆว่า วินโดว์แท็บเล็ต สำหรับเครื่องที่รีวิวนั้น ใช้ชิปประมวลผล Intel Atom X5 Z8350 ความเร็วเริ่มต้นอยู่ที่ 1.44 GHz และสามารถเร่งความเร็วการทำงานได้สูงสุดได้ที่ 1.92 GHz (Turbo Boost) โดยชิปประมวลผลนั้นเป็นแบบใช้พลังงานที่ต่ำมาก แต่ยังคงไว้ในเรื่องของประสิทธิภาพที่เต็มเปี่ยม โดยมีการทำงานเป็นแบบ 4 คอร์ 4 เธรด สำหรับแรมก็ติดตั้งมาให้ขนาด 2GB แบบ DDR3L ความเร็วบัสที่ 1600 MHz แน่นอนว่าเป็นแบบออนบอร์ดไม่สามารถเพิ่มได้  แต่ด้วยตัวเครื่องที่ออกแบบมามีขนาดเล็กซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานแน่นอน ในส่วนของกราฟิกการ์ดนั้นเป็นแบบออนบอร์ด Intel HD Graphics 515 ที่เรียกได้ว่าใหม่กว่ารุ่นก่อนหน้าอย่างแน่นอน นอกจากนี้ในส่วนของฮาร์ดดิสก์นั้นยังเลือกใช้เป็นแบบ eMMC มีความจุที่ 64 GB ที่มีความเร็วที่สูงพอสมควร ซึ่งสามารถเพิ่ม Micro SD Card ได้ภายหลัง  มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 10.1 นิ้ว ความละเอียดระดับ HD พาเนลคุณภาพสูงแบบ IPS ซึ่งให้สีสันที่ดูสมจริง และมุมมองที่กว้าง พร้อมกันนี้ยังมีการติดตั้งกล้องมาให้ในส่วนของแท็บเล็ต โดยกล้องหน้านั้นมีความละเอียดอยู่ที่ 2 ล้านพิกเซล และกล้องหลัง 5 ล้านพิกเซล และยังรองรับระบบ Wifi 2.4 GHz Bluetooth 4.0 พ่วงแบตเตอรี่มาให้ 2 เซลล์อีกด้วย

สามารถรับชมสเปคแบบเต็มของ Lenovo MiiX 310 ได้ที่นี่ครับ

Hardware / Design

HW1

ดีไซน์การออกแบบของตัวเครื่อง Lenovo MiiX 310 โดยรวมถือว่าดูดีเลยทีเดียว ซึ่งมีหลายจุดที่พัฒนาให้ดีขึ้นจากรุ่น MiiX 300 อย่างชัดเจน เมื่อมองดูในเบื้องต้นแล้วให้อารมณ์ถึงความพรีเมี่ยม อีกทั้งเมื่อได้สัมผัสยังรู้สึกได้ถึงความแข็งแรง เนื่องจากวัสดุของตัวเครื่องส่วนใหญ่นั้นใช้วัสดุที่เป็นโลหะนั่นเอง และด้วยความที่ตัวเครื่องเป็นแท็บเล็ตแบบ 2 in 1 ดังนั้นก็จะมีในบางส่วนที่ยังคงไว้จากรุ่นก่อนหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนที่ตัวเครื่องสามารถถอดออกจากตัวคีย์บอร์ดได้ ซึ่งในจุดนี้นับว่าเป็นส่วนที่ค่อนข้างสมบูรณ์อยู่แล้ว โดยส่วนที่เป็นแท็บเล็ตหรือหน้าจอนั้นสามารถเชื่อมต่อกับส่วนคีย์บอร์ดได้ด้วยแม่เหล็ก ซึ่งมีความไวที่สูงมาก เพราะจากการใช้งานเมื่อผู้ใช้นำตัวคีย์บอร์ดเข้าใกล้กับตัวแท็บเล็ตในจุดเชื่อมต่อ ตัวอุปกรณ์ทั้งสองอย่างก็จะเชื่อมต่อกันทันที  และสำหรับใครที่กังวลว่าตัวคีย์บอร์ดที่เชื่อมต่อนั้นจะหลุดง่าย บอกได้เลยครับว่าไม่ต้องกังวล เพราะในเวลาที่จะถอดคีย์บอร์ดออกนั้นต้องใช้แรงพอสมควรเลยทีเดียว เรียกได้ว่าถือฝั่งแท็บเล็ตแล้วปล่อยให้คีย์บอร์ดลอยยังไม่หลุดเลย

HW2

สำหรับคีย์บอร์ดก็เป็นแบบ Full-Size แต่จะมีขนาดที่เล็กเพื่อให้มีความพอดีกับเครื่องขนาด 10.1 นิ้วนั่นเอง โดยใสส่วนของคีย์บอร์ดนี้มีการการแบบโดยโลหะสีดำล้วน พร้อมทั้งมีการใช้ไดมอนคัตสีเงินตัดขอบเพื่อเพิ่มความสวยงามและความเรียบหรู ในส่วนของอะแดปเตอร์ที่ชาร์จก็มีขนาดที่เล็กเหมาะสมกับตัวเครื่อง และสามารถใช้งานได้เป็นอย่างดี  ด้านล่างของตัวเครื่องมีการติดยางทั้งสี่มุมสำหรับเวลาวางจะได้ช่วยยกระดับของตัวแท็บเล็ตให้สูงจากพื้นขึ้นมาเล็กน้อย และยังช่วยป้องกันการลื่นที่อาจจะมีสาเหตุมาจากพื้นผิว ซึ่งในจุดนี้ก็จะมีความคล้ายคลึงกับโน๊ตบุ๊คโดยทั่วๆไป ถือว่าเป็นจุดดีอีกจุดหนึ่งทีทาง Lenovo ก็ยังคงไว้และคาดว่าจะยังคงมีพัฒนาที่ดียิ่งขึ้นไป

Keyboard / Touchpad

KB1

คีย์บอร์ดยังคงเป็นจุดเด่นของ Lenovo มาอย่างต่อเนื่องและสำหรับบน Lenovo MIIX 310 นั้นจะพบว่ามีขนาดที่ค่อนข้างเล็กเพราะได้ทำการตัดส่วนที่เป็นปุ่มฟังก์ชันออกไป ทำให้คีย์บอร์ดนั้นมีเพียง 5 แถว ซึ่งตัวคีย์บอร์ดเองถึงแม้ว่าจะมีขนาดที่เล็กแต่ปุ่มกดก็ยังสามารถรองรับกับนิ้วมือได้เป็นอย่างดีตามแบบฉบับของ Lenovo สำหรับในส่วนของคีย์บอร์ดนี้ทาง Lenovo ได้มีการให้มาเป็นแพ็จเกตพร้อมตัวเครื่องเลย ไม่ต้องไปหาซื้อแยกเอง และสำหรับเครื่องในรุ่นที่วางจำหน่ายทั่วไปนั้นก็จะมาพร้อมกับคีย์บอร์ดภาษาไทย ซึ่งลดความกังวลไปได้ระดับนึงทีเดียวสำหรับใครที่ไม่ถนัดคีย์บอร์ดภาษาอังกฤษ อีกเรื่องที่ผมชอบเป็นการส่วนตัวและคิดว่าคงเป็นจุดเด่นเลยก็คือ ที่ส่วนของคีย์บอร์ดนี้ยังมีการติดพอร์ต USB 3.0 Type A แบบเต็มมาให้ถึง 2 พอร์ตเลยทีเดียว ซึ่งแน่นอนว่ามันจำเป็นมากสำหรับการถ่ายโอนข้อมูลในปัจจุบัน  แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นยังมีอีกหนึ่งจุดที่ผมแอบเสียดายคือ ตัวคีย์บอร์ดจะไม่มีไฟแสดงผล ซึ่งอาจทำให้เกิดความลำบากเมื่อต้องทำงานในบริเวณที่มีแสงสว่างน้อยหรือในที่มึด แต่เชื่อว่าด้วยความที่เป็นแท็บเล็ตราคาคุ้มค่า จึงได้ตัดฟีเจอร์บางอย่างออกไป แต่ถ้าถามว่าสามารถใช้งานในที่แสงน้อยได้หรือไม่ ผมตอบได้เลยครับว่า ได้อย่างแน่นอน เพียงแค่ปรับไปใช้งานในโหมดแท็บเล็ตเท่านั้นก็จะสามารถใช้งานได้อย่างสบายๆเลย

KB5

ทัชแพดมีการออกแบบมาค่อนข้างดี เพราะให้ขนาดมาใกล้เคียงกับโน๊ตบุ๊คโดยทั่วไปกันเลยทีเดียว ตัวทัชแพตนั้นเป็นชิ้นเดียวกันทั้งหมดไม่มีการแบ่งปุ่มซ้าย-ขวา (แต่มีเส้นแบ่งซ้ายขวา) ผิวสัมผัสเองก็เป็นโลหะแบบเดียวกันกับตัวเครื่อง นอกจากนี้ยังมีการเน้นให้เห็นชัดเจนด้วยการใช้ไดมอนคัตสีเงินตัดขอบรอบๆ อีกทั้งผมเองมองว่ายังเป็นการเพิ่มความหรูให้กับตัวทัชแพดอีกด้วย นอกจากนี้ตัวทัชเองยังรองรับการทำงานแบบมัลติทัชเหมือนเช่นเดิมในหลายรุ่นที่ผ่านมา ในด้านของการใช้งานจริงพบว่าสามารถใช้งานได้อย่างถนัดมือเลยทีเดียว ถึงแม้ว่าผู้ใช้บางคนจะเป็นคนที่มีนิ้วมือขนาดใหญ่ก็ตาม สำหรับในเรื่องของการตอบสนองนั้นก็ยังคงสามารถทำได้ดี ไม่ว่าจะเป็นการคลิก การดับเบิลคลิก หรือแม้แต่การเลื่อนสกอร์บาร์ต่างๆก็สามารถทำได้ลื่นไหลและไวในระดับที่ควรจะเป็น

Screen / Speaker

SC1

หน้าจอแสดงผลของเครื่อง Lenovo MiiX 310 เป็นหน้าหน้าขนาด 10.1 นิ้ว ที่ความละเอียด (1366×768) HD เป็นพาเนลแบบ IPS และเป็นจอทัชสกรีนแบบมัลติทัช ซึ่งสามารถให้การแสดงผลที่ดีเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการแสดงผลภาพ หรือการดูวีดีโอที่ระดับความละเอียดสูงๆก็แสดงอกมาได้สวยงามสมจริงแบบสุดๆ พร้อมทั้งยังให้มุมมองที่กว้างตามคุณสมบัติของจอ IPS และเนื่องด้วยตัวหน้าจอเป็นแบบทัชกรีน  จึงไม่ต้องกังวลเป็นรอยขีดข่วนได้ง่าย แต่การที่ตัวหน้าจอเป็นจอแบบกระจกในบางครั้งที่นำไปใช้งานในบริเวณพื้นที่ที่มีแสงสว่างมาก เช่น กลางแดด  อาจทำให้เกิดการสะท้อนได้ง่าย อาจจำเป็นต้องใช้วิธีการติดฟิล์มเข้ามาช่วย

SC5

สำหรับลำโพงนั้นจะติดตั้งอยู่ในส่วนที่เป็นแท็บเล็ต ทั้งด้านซ้ายและขวา ซึ่งลำโพงนั้นจะมีขนาดที่ค่อนข้างเล็กทีเดียว อาจเป็นเพราะตัวเครื่องที่มีขนาดเล็กทำให้พื้นที่ถูกจำกัด สำหรับในเรื่องของความดังของเสียงเรียกว่าทำออกมาได้ดีในระดับนึง ซึ่งถ้าใช้ในห้องหรือบริเวณที่ไม่มีเสียงรอบข้างรบกวนมากนักก็สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน แต่ถ้าต้องใช้ในบริเวณที่มีเสียงดังตลอดเวลาหรือในเวลาที่ต้องการคุณภาพของเสียงที่มากขึ้น อาจจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์เสริมเข้ามาช่วย ซึ่งอาจจะเป็นหูฟังหรือลำโพงที่สามารถต่อผ่านแท็บเล็ตได้โดยตรง ซึ่งถ้าหากว่าคุณเป็นผู้ใช้งานทั่วไป คุณภาพเสียงที่ได้นั้น ก็ถือว่าดีเพียงพอสบายๆแล้วครับ

Connector / Thin And Weight

P1

พอร์ตการเชื่อมต่อของเครื่อง Lenovo MIIX 310 ที่เป็นแท็บเล็ตแบบ 2 in 1 ที่ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ที่ถึงแม้ว่าตัวเครื่องจะมีการออกมาให้เป็นเครื่องที่มีขนาดเล็กเพียง 10.1 นิ้ว พร้อมกับการมีความบางและน้ำหนักที่เบา แต่ก็ยังให้พอร์ตมาเพียงพอต่อการใช้งาน โดยพอร์ตจะติดตั้งมาให้ทั้งสองส่วน โดยในส่วนที่เป็นคีย์บอร์ดจะให้พอร์ต USB 3.0 Type A แบบเต็มมาถึง 2 พอร์ต และในฝั่งของส่วนที่เป็นแท็บเล็ต จะมีพอร์ต Micro HDMI, Micro USB, MicroSD Card  (สำหรับในรุ่นที่รีวิวจะไม่รองรับ LTE) ซึ่งโดยรวมแล้วก็ถือว่าเพียงพอเลยทีเดียวสำหรับการใช้งานในปัจจุบัน ที่จะทำให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆได้โดยตรง ไม่ว่าจะเป็นแฟลชไดร์ฟ,  Micro SD Card ที่จะช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูลของเครื่องได้เป็นอย่างดี  หรือแม้กระทั่งการใช้งานจาก External Harddisk ด้วยก็ตาม  นอกจากนี้ยังมี Micro HDMI สำหรับเชื่อมต่อภายนอกที่สำหรับในบางครั้งต้องการแสดงผลด้วยหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น พร้อมกับแจ็คขนาด 3.5 แบบคอมโบ ที่สมารถใช้เสียบหูฟัง หรือต่อกับลำโพงภายนอกเพื่อให้ได้อรรถรสเสียงตามที่ผู้ใช้เองต้องการมากขึ้น

P5

ขนาดของตัวเครื่องนั้นถือว่ามีขนาดที่ค่อนข้างเล็กยิ่งเมื่อเทียบกับขนาดของ Ultrabook ทั่วๆไปถือว่ามีขนาดที่เล็กกว่ามากพอสมควร โดยขนาดของตัวเครื่องนั้นจะอยู่ที่ 9.68 x 6.81 x 0.71 นิ้ว และน้ำหนักของตัวเครื่องนั้นจะอยู่ที่ 1.1 กิโลกรัม จัดได้ว่ามีน้ำหนักที่ค่อนข้างเบา ซึ่งแน่นอนว่าสามารถตอบโจทย์ในเรื่องของการพกพาไปทำงานนอกสถานที่ได้อย่างสมบูรณ์เลยทีเดียว หรือถ้าใครจะใช้เป็นโน๊ตบุ๊คเครื่องที่สองก็เป็นตัวเลือกที่ดีไม่น้อยทีเดียว

Performance / Software

systemLenovo MIIX 310 เครื่องรีวิวนี้มาพร้อมกับชิปประมวลผล Intel Atom X5-Z8350 ซึ่งเป็นชิปประมวลผลใช้พลังงานไฟต่ำมาก มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 1.44 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 1.92 GHz มีการทำงานป็นแบบ 4 คอร์ 4 เธรด ที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป แต่ก็ต้องยอมรับว่าประสิทธิภาพอาจจะสู้ชิปในตระกูล Core M หรือ Core I  ซีรีย์ U ไม่ได้ แต่เรื่องประหยัดพลังงานนั้นเป็นจุดเด่นที่เหนือกว่าอยู่แล้ว มาพร้อมแรมภายในขนาด 2 GB แบบ DDR3L ที่เพียงพอจะขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้ได้อย่างสบาายๆ

cpu-z

กราฟิกการ์ดจะเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel HD Graphics 515 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้ในระดับนึง หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่ก็คงไม่ใด้ใช้งานมากถึงขนาดนั้น ซึ่งโดยรวมแล้วให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีกว่า Intel HD Graphics รุ่นก่อนหน้าอย่างแน่นอน

gpu-z

สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผลเป็นหลัก คะแนนก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลที่เป็น Intel Atom รุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลทั่วไป ได้อย่างสบายๆ ไม่น่าเป็นห่วงนัก

 

cine

 

 

Battery / Heat / Noise

Battery

batteryMon

แบตเตอรี่ของ Lenovo MiiX 310 เป็นแบตเตอรี่แบบฝังมากับตัวเครื่องเหมือนกับ Ultrabook สมัยใหม่โดยทั่วๆไป ตัวของแบตเตอรี่มีขนาดความจุที่  2 Cells ที่ทาง Lenovo เคลมไว้ว่าสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องถึง 10 ชั่วโมง ซึ่งเมื่อใช้งานจริงก็สามารถใช้งานได้อย่างยาวนานตามที่บอกไว้คือประมาณ 9-10 ชั่วโมงเลยทีเดียวโดยลักษณะของการใช้งานก็จะเป็นแค่การใช้งานเอกสาร เล่นอินเตอร์เน็ต แบบปกติธรรมเท่านั้น และอาจจะใช้งานได้น้อลงหรือมากขึ้น ก็คงจะขึ้นอยู่กับลกษณะการใช้งานของแต่ละบุคคล

hw-fulltest

อุณหภูมิต่ำสุดของเครื่องจะอยู่ที่ประมาณ 40-45  องศาเซลเซียส และเมื่อรีดประสิทธิภาพเต็มที่จะเห็นว่าเครื่องจะร้อนที่สุดประมาณ 70-80 องศาเซลเซียสซึ่งสูงพอสมควร อาจเป็นเพราะตัวบอดี้นั้นทำมาจากวัสดุที่เป็นโลหะ และตัวเครื่องไม่มีการใช้พัดลมระบายความร้อน แต่จากการทดลองใช้งานจริง ถึงแม้ว่าเมื่อเครื่องทำงานเต็มประสิทธิภาพจะมีอุณหภูมิที่ค่อนข้างสูง แต่ก็ไม่มีอาการค้าง หรือกระตุกเวลาทำงานแต่อย่างใด  และอุณหภูมิจะลดลงสู่สภาวะปกติได้อย่างรวดเร็วเมื่อเปลี่ยนลักษณะการใช้งาน แสดงให้เห็นว่าทาง  Lenovo  ได้ทำการออกแบบมาได้เป็นอย่างดีทีเดียวสำหรับเรื่องระบบระบายความร้อน  จึงไม่มีอะไรที่น่ากังวลสำหรับในเรื่องของอุณหภูมิของเครื่อง

Conclusion / Award

CON (1)

ถือว่าน่าสนใจไม่น้อยทีเดียวครับสำหรับ Lenovo MiiX 310 แท็บเล็ตที่ซึ่งทำงานบนระบบปฏิบัติการวินโดว์ จากการที่ได้สัมผัสและทดลองใช้งานตัวจริงในเบื้องต้นจะเห็นได้ว่ามีการพัฒนาที่มากขึ้นในหลายๆจุดจากรุ่น MiiX 300 ซึ่งเป็นรุ่นก่อนหน้าที่ประสบความสำเร็จมาพอสมควร  โดยจุดเด่นที่ชัดเจนสำหรับการพัฒนาในครั้งนี้คงเป็นในเรื่องของการใช้วัสดุที่เป็นโลหะในการทำตัวเครื่องทั้งหมด ส่งผลให้ตัวเครื่องนั้นมีความสวยงาม หรูหรา และพรีเมี่ยมขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย พร้อมทั้งเมื่อใช้งานจริงก็ยังสามารถให้ได้ถึงความแข็งแรงทนทานอีกด้วย

Lenovo MiiX 310 ถือเป็นแท็บเล็ตแบบ 2 in 1 ที่ต่อยอดความสำเร็จมาจากรุ่นก่อนหน้าอย่าชัดเจน และยังถือเป็นหนึ่งในแท็บเล็ตที่มีความคุ้มค่าอีกหนึ่งตัวเลยทีเดียว เพราะด้วยวัสดุของเครื่องที่เลือกใช้เป็นโลหะ แถมยังมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ด้วย เชื่อว่าการเป็นเจ้าของได้ในราคาไม่ถึงหมื่นบาท (ในรุ่นที่รีวิว) จะสามารถมอบประสบการณ์การใช้งานให้กับผู้ใช้อย่างคุ้มค่าแน่นอนครับ

จุดเด่น

  • ตัวเครื่องที่มีความบางและเบามาก
  • วัสดุของตัวเครื่องเป็นโลหะ ทำให้มีความแข็งแรง  และดูสวยหรู
  • พาเนลหน้าจอ IPS มีคุณภาพสูง มีความสวยงามสมจริง และให้มุมมองที่กว้าง
  • วัสดุแข็งแรงทนทาน ดูสสวยหรู
  • พอร์ตการเชื่อมต่อครบครัน อย่าง USB 3.0 ตัวเต็ม
  • มาพร้อม Windows 10 Home  ลิขสิทธิ์ ใช้งานได้ทันที
  • เป็นแท็บเล็ตหรือโน๊ตบุ๊คได้ในหนึ่งเดียว
  • แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานกว่า 9 ชั่วโมง
  • Docking Keyboard มาพร้อมกับตัวเครื่อง ไม่ต้องหาซื้อแยก

ข้อสังเกตุ

  • ตัวคีย์บอร์ด ไม่มีไฟแสดงผล

 

Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

Buyer's Guide

7 โน๊ตบุ๊ค 2-in-1 ทัชสกรีน พับจอได้ สเปคดี พกพาสะดวก ไม่เกิน 30000 7 โน๊ตบุ๊ค 2-in-1 พับจอได้ มีทัชสกรีน พร้อมปากกาสไตลัส เขียนจดบันทึกวาดได้บนหน้าจอ ในราคาไม่เกิน 30000 บาทปลายปี 2024 กับซีพียูระดับ Intel Core i5,...

CONTENT

ในปัจจุบัน นอกเหนือจากโน้ตบุ๊กที่เป็นดีไซน์แบบฝาพับอย่างที่คุ้นเคยกันมาอย่างยาวนานแล้ว ตัวเครื่องยังมีการพัฒนารูปทรงเพื่อเพิ่มความคล่องตัวให้กับการพกพา และอรรถประโยชน์ในการใช้งานให้สูงขึ้นไปอีก ซึ่งหนึ่งในรูปแบบที่ได้รับความนิยมก็คือการทำออกมาเป็นโน้ตบุ๊ก 2-in-1 โดยใช้หน้าจอสัมผัสที่สามารถพลิกจอได้ 360 องศา ทำให้สามารถใช้เป็นได้ทั้งโน้ตบุ๊กและแท็บเล็ตในเครื่องเดียว ในบทความนี้ก็เลยจะมาแนะนำโน้ตบุ๊กจอพับ AMD ในรูปแบบ 2-in-1 ที่น่าใช้กันครับ ตอบโจทย์ทั้งใช้ทำงาน ไปจนถึงการเล่นเกมได้เลยในบางรุ่น

REVIEW

Lenovo Yoga 9i โน๊ตบุ๊ค 2-in-1 ไลฟ์สไตล์Intel® Core™ Ultra 7 แบตอึด จอสัมผัสพับได้ 360 องศา Lenovo Yoga 9i โน๊ตบุ๊คทำงานในสไตล์ 2-in-1 แบบพกพาได้ หน้าจอสัมผัส 14″ ความละเอียดสูง OLED PureSight...

Buyer's Guide

7 โน๊ตบุ๊ค 2-in-1 พับจอได้ จอสัมผัส ใช้งานได้หลายแบบ วาดเขียน จดบันทึกเริ่ม 20,000 บาท โน๊ตบุ๊ค 2-in-1 ที่มีความพิเศษที่ต่างจากโน๊ตบุ๊คทั่วไป เพราะสามารถพับจอ เพื่อปรับโหมดใช้งานได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นแท็ปเล็ต, Stand หรือ Tent ก็ตาม เพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้ที่ชื่นชอบความหลากหลาย และมีไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวันที่มีกิจกรรมหลายอย่างต้องทำ รวมถึงจุดเด่นในการพกพา เรียกว่านำไปใช้งานในที่ต่างๆ...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก