สำหรับผู้ที่จะจัดสเปคคอมหรือจะซื้อการ์ดจอใหม่ในช่วงเวลานี้ คงจะต้องคิดหนักกันเลยทีเดียว เพราะว่าค่ายการ์ดจอทั้งหลายต่างแข่งกันกันปล่อยการ์ดจอหลากหลายรุ่นออกมาเต็มตลาดไปหมด ทำให้หลายๆ คนถึงกับเลือกไม่ถูกกันเลยว่าจะซื้อการ์ดจอรุ่นไหน ยี่ห้อไหน ถึงจะตรงกับความต้องการของตัวเองมากที่สุด
วันนี้ทาง NotebookSPEC ก็เลยมาแนะนำ 5 วิธีการเลือกการ์ดจอค่าย NVIDIA ซีรีย์ 1000 ที่กำลังได้รับความสนใจอย่างมากในเวลานี้ โดยการ์ดจอซีรีย์ 1000 ตอนนี้จะมีอยู่ 3 รุ่นย่อยนั่นก็คือ GTX1060 , GTX1070 และ GTX1080 หลายๆคนคงจะสงสัยว่าทั้ง 3 รุ่นต่างกันอย่างไร จะเลือกอย่างไรให้ตรงตามการต้องการของเรา
- ราคา
แน่นอนก่อนที่เราจะมีการ์ดจอได้ เราต้องมีเงินก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งเงินในกระเป๋าของแต่ละคนก็มีเงินไม่เท่ากัน เราจึงต้องมาลองเทียบราคาการ์ดจอแต่ละรุ่นก่อนว่ามีช่วงราคาไหนบ้าง และแต่ละค่ายก็มีราคาที่ต่างกันออกไป
- GTX1060 9,900 บาท – 14,000 บาท
- GTX1070 17,900 บาท – 21,00 บาท
- GTX1080 25,590 บาท – 35,000 บาท
เมื่อเราลองเทียบราคาแต่ละรุ่นแล้วก็จะเห็นชัดเจนเลยว่าการ์ดจอรุ่นไหนเหมาะกับเงินในกระเป๋าเรามากที่สุดเมื่อเทียบจากราคา
- ประสิทธิภาพ
การ์ดจอในแต่แต่ละรุ่นยังสามารถแบ่งระดับได้อีกจากความแรง โดยการ์ดจอแต่ละค่ายก็จะมี การ Overclock ความแรงมาจากโรงงานทำให้มีความแรงมากกว่าการ์ดเดิมๆและมีราคาสูงขึ้นตามไปด้วย ความแรงของการ์ดสามารถดูได้จาก Boost Clock และ Memory Speed เป็นที่แน่นอนว่าGTX 1080 มีความแรงมากที่สุด รองลงมาจะเป็น GTX 1070 และ GTX1060 ตามลำดับ
- ความสวยงาม
ความสวยงามของตัวการ์ดก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งในการตัดสินใจเลือกซื้อ ซึ่งแต่ละค่ายก็มีเอกลักษณ์การออกแบบรูปทรงตัวการ์ดที่แตกต่างกัน หรือ การ์ดแบบ Founders Edition คือการ์ด Design แบบดั้งเดิมที่ออกแบบมาโดย Nvidia ซึ่งถ้าใครชอบการ์ด Design ของค่ายไหนก็ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัว
- คุณภาพ
ตัวการ์ดจอแต่ละรุ่นถ้าไม่ใช่การ์ดแบบดั้งเดิมจาก Nvidia หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ Founders Edition ทางผู้ผลิตแต่ละค่ายจะออกแบบตัวการ์ดใหม่ทั้งหมด โดยใช้วัสดุที่แตกต่างกัน ซึ่งมีผลต่อประสิทธิภาพของตัวการ์ด ระบบระบายความร้อน และความแรง
- ขนาด
ไม่ใช่ว่ามีเงินมากแล้วจะซื้อการ์ดจอราคาแพงแค่ไหนก็ได้ ขนาดและความยาวของการ์ดก็มีส่วนสำคัญ มีหลายกรณีเกิดขึ้นจริงเมื่อซื้อการ์ดจอไปแล้ว แต่ดันใส่ไม่ได้ เคสที่ใช้อยู่มีขนาดเล็กเกินไป ใส่การ์ดแล้วติดเคส ทำให้ต้องไปหาซื้อเคสใหม่ และต้องย้ายอุปกรณ์ทั้งหมดลงเคสใหม่ ซึ่งทั้งเสียเวลาลาและเสียเงินเพิ่มโดยไม่จำเป็น
เพราะผู้ใช้ส่วนมากจะเน้นไปที่การจัดเสปคแรงๆโดยไม่สนใจเคส ยิ่งการ์ดจอรุ่นสูงมีราคาแพง ส่วนมากจะยิ่งมีความยาวมาก ควรศึกษาขนาดของการ์ดและเคสก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ