สืบเนื่องความสำเร็จกันต่อในปี 2016 กับในส่วนของ HP Pavilion 14 รุ่นล่าสุดประจำปี 2016 ที่ต้องบอกว่าจะออกไปทางโน๊ตบุ๊คประเภท Ultrabook ที่บางและเบามากกว่าตัวเดิม ด้วยความบางของตัวเครื่องเพียงที่ 19.5 ม.ม. กับน้ำหนักที่ 1.58 กิโลกรัม เหมาะกับสายการทำงานและบันเทิงที่เน้นการพกพาไปนอกสถานที่ อาจจะใช้งานตามออฟฟิศหรือร้านกาแฟแบบชิคๆ

โดย HP Pavilion 14 ปี 2016 เป็นการดีไซน์แบบใหม่ทั้งหมดแบบ All New ไล่ไปตั้งแต่ตัวเครื่องที่นอกจากบางเบาแล้ว ยังมีสีสันโดดเด่น อีกทั้งมีการนำแบตเตอรี่ไปไว้ในตัวเครื่องด้านล่าง ส่วนที่พักมือทำให้บางลงอย่างชัดเจน คีย์บอร์ดมีไฟ แถมประหยัดเนื้อที่มากขึ้นทำให้ตัวเครื่องเล็กลงแต่ยังอัดแน่นไปด้วยความสามารถเช่นเดิม และที่สำคัญพัดลมระบายความร้อนอยู่ด้านหลัง สนนราคาเริ่มต้นที่ 24,990 – 31,990 บาท ตามแต่สเปก

VDO Review

Specification

สำหรับสเปคโดยรวมของ HP Pavilion 14 ปี 2016 รุ่นที่ทีมงาน NotebookSPEC ได้รับมารีวิวนี้ ได้ใช้ชิปประมวลผลเป็น Inter Core i7-6500U ซึ่งถือได้ว่าเป็นซีพียูรุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงทั้งการทำงานทั่วไปและการเล่นเกม ตามมาด้วยกราฟิกการ์ดแยก NVIDIA GeForce 940MX รุ่นกลางๆ ซึ่งสามารถการเล่นเกมได้ครบครัน ทั้ง Offline และ Online ได้อย่างไม่มีปัญหา แรมเดิมๆ เป็น 4GB แบบ DDR4 บัส 2133 MHz (สามารถอัพเกรดได้ 16GB) และฮาร์ดดิกส์ 1TB พร้อมติดตั้งอัพเกรด SSD แบบ M.2 ได้ในอนาคต ซึ่งเพียงพอสำหรับการทำงานครบครันเลยทีเดียว

หน้าจอขนาด 14″ ความละเอียด Full HD 1920×1080 พิกเซล พาเนล IPS สีสันสดใส และเป็นแบบด้านทัชกรีน ส่วนพอร์ตที่ติดตั้งมาให้จะใช้ USB 3.0, USB 2.0, SD Card Reader, HDMI สำหรับต่อหน้าจอเสริม, Ethernet LAN, Audio Jack แน่นอนว่ารองรับการเชื่อมต่อไร้สายด้วย Wi-Fi กับ Bluetooth ในส่วนของรุ่นนี้จะมี Windows 10 ลิขสิทธิ์ติดมาด้วย น้ำหนักอยู่ที่ 1.58 กิโลกรัม รับประกัน 2 ปี และได้รับบริการ HP SmartFriend จำนวน 1 ปี สนนราคาจะอยู่ที่ 31,990 บาท

สเปกเต็มๆ ของ HP Pavilion 14-AL007TX <<<

Hardware / Design

ลักษณะการออกแบบ HP Pavilion 14 ปี 2016 ที่ทำได้น่าสนใจ จากวัสดุที่ดีอย่างพลาสติกเกรดสูง งานประกอบก็มีความเรียบร้อยแบบสุดๆ โดยรวมถือว่าเรียบหรูไล่จากด้านนอกตัวเครื่องสีเงิน ตัดด้วยโลโก้ HP โครเมี่ยมด้านหลัง ส่วนใต้เครื่องจะเป็นสีเดียวกันกับด้านนอกที่ดูแล้วก็สวยงามดี ซึ่ง HP Pavilion 14 ปี 2016 ที่มีจำหน่ายในไทยจะมีอยู่ 2 สีด้วยกัน คือสีเทาและสีทอง

ส่วนด้านในตัวเครื่องบริเวณที่พักข้อมือมาแบบแถบสีเทา Racing พาดกลาง รวมถึงตัดด้วยไฟสีขาวจากแป้นคีย์บอร์ดเสริมความสวยงามได้ดี และจุดเด่นที่สุดเลยก็คือบานพับใหม่ ที่ให้ลุคสวยแลดูแข็งแรงทนทานเข้ากับเครื่อง ทำให้ภาพรวมการดีไซน์ HP Pavilion 14 ปี 2016 ทำออกมาได้น่าดึงดูด และได้ยกเครื่องลบจุดสังเกตจาก HP Pavilion 14 ปี 2015 ได้ทั้งหมด แถมยังบางเบาพกพาง่ายกว่าเดิมมาก ด้วยน้ำหนักเพียง 1.58 กิโลกรัม และด้วยความบางของตัวเครื่องเพียงที่ 19.5 ม.ม. จากแบตเตอรี่ที่นำไปไว้ในตัวเครื่อง

HP Pavilion 14 ปี 2016 ต้องบอกว่งานดีจริงๆ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คเพื่อใช้งานทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นงานเอกสารหรือเล่นอินเตอร์เน็ตเว็บไซต์ รวมไปถึงงานหนักๆ หรือเล่นเกมก็สามารถรองรับได้อย่างสบายๆ ที่สำคัญดีไซน์การออกแบบยังก้าวล้ำด้วยความบางเบากว่าคู่แข่งในสเปกและราคาที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งตรงนี้ก็ต้องยอมรับว่ามีการตัดไดร์ฟออฟติคอล DVD ที่คนที่ไม่ค่อยได้ใช้ออกไปด้วย

ส่วนระบบระบายความร้อนก็ได้ถูกย้ายจากทางด้านข้างทางขวา ที่ปกติแล้วในรุ่นก่อนีคนบ่นว่าทำให้ร้อนมือ แต่ใน HP Pavilion 14 ปี 2016 ได้ถูกพัฒนาขึ้นไป โดยได้ย้ายไปด้านหลังแล้ว ทำให้หมดกังวลเรื่องปัญหาที่จะทำให้ร้อนมือ จนหัวร้อนอีกต่อไป เรียกได้ว่า HP ยินดีรับฟังและแก้ไขตามใจผู้ใช้งานจริงๆ แต่อย่างไรก็ตามระบบระบายความร้อนภายในนั้นจะมีพัดลมเพียงตัวเดียว ซึ่งนั่นเป็นเพราะชิปประมวลผลและกราฟิกการ์ดนั้นไม่ได้แรงจนทำให้ร้อนมากมายนัก แต่ต่างจากรุ่นพี่อย่าง HP Pavilion 15 ปี 2016 ที่มีสองตัว ด้วยกัน

Keyboard / Touchpad

ส่วนของคีย์บอร์ดนั้นตัวปุ่มเป็นพลาสติกสีดำเข้ากับตัวเครื่อง โดยสกรีนตัวอักษรเป็นขาว อีกทั้งได้รับการปรับดีไซน์ใหม่แบบ Island Style ทำให้สามารถพิมพ์ได้ง่ายขึ้น แต่สำหรับคนที่นิ้วเล็กนิ้วใหญ่สามารถใช้งานได้สะดวกทั้งหมด

ในส่วนของไฟ LED Backlit ก็สามารถใช้งานได้ดีทีเดียว โดยมีระบบการปรับระดับความสว่างได้สองระดับ ส่วนปุ่มเปิดเครื่องจะไปอยู่ที่มุมซ้ายบนสีกลืนไปกับเครื่อง ซึ่งข้อดีก็คือมั่นใจได้ว่าจะไม่ไปเผลอกดระหว่างการใช้งานแน่นอน พร้อมมีไฟส่องสว่างให้เห็นสถานะ

ทัชแพดมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับขนาดตัวเครื่อง ส่วนดีไซน์นั้นก็ใช้เป็นแบบไม่มีปุ่มแยกออกมาเช่นเดียวกับ HP Pavilion 14 และ HP Pavilion 15 ปี 2016 หลายๆ รุ่น การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ตัวซอฟต์แวร์ควบคุมก็ช่วยจัดการได้ดี โดยมีการจับความเคลื่อนไหวว่าผู้ใช้กำลังพิมพ์ข้อความอยู่หรือไม่ ซึ่งจะช่วยให้เคอร์เซอร์ไม่เลื่อนไปจากตำแหน่งเก่า ถ้าผู้ใช้เผลอนำมือไปโดนทัชแพดเข้า

Screen / Speaker

ในส่วนของหน้าจอด้านขนาด 14″ บนความละเอียดในระดับ Full HD หรือ 1920 x 1080 พิกเซล  ถือว่าเป็นไปตามมาตรฐานของโน๊ตบุ๊คหน้าจอขนาด 14″ ในปัจจุบัน ซึ่งต้องบอกว่าเป็นไม่กี่แบรนด์ที่ให้หน้าจอระดับ Full HD มาในราคานี้ กับความสามารถทัชกรีนได้ ที่สำคัญพาเนลเป็น IPS คุณภาพสูง ให้การแสดงผลที่สมจริงแบบสุดๆ มุมมองกว้างที่ 178 องศส ทำให้สีสันแทบไม่เพี้ยนเลย เมื่อลองใช้งานจริงแล้วให้ประสบการณ์ใช้งานระดับที่น่าพึงพอใจ ทั้งการเล่นเกม ดูหนัง ฟังเอ็มวีผ่าน Youtube ก็สามารถมอบประสบการณ์ความบันเทิงให้อย่างดี จากความเรียบเนียนของพิกเซลและพื้นที่ในการใช้งานที่เหนือกว่า 1366 x 768 พิกเซลเดิมๆ

จุดที่โดดเด่นก็ยังหนีไม่พ้นระบบและการออกแบบลำโพงที่เป็นจุดเด่นของรุ่นอย่างแท้จริง เนื่องจากด้านบนเป็นลำโพงขนาดใหญ่เป็นแผงยาวตลอดคีย์บอร์ดจำนวน 2 ตัว  โดยใช้ระบบเสียงด้วย B&O Play ซึ่งได้ให้การแบ่งทิศทางเสียงด้านซ้ายขวา อีกทั้งมีเทคโนโลยี HP Audio Boost ทำให้ได้พลังของเสียงที่มีคุณภาพ และความหนักแน่น สร้างประสบการณ์ที่ดูดีกว่าเสียงจากโน๊ตบุ๊คทั่วไปเลยทีเดียว

Connector / Thin And Weight

พอร์ตการเชื่อมต่อตัวเครื่อง HP Pavilion 14 ปี 2016 นี้จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่มีความครบครับอย่างมาก แม้ว่าจะเป็นเครื่องที่มีการออกแบบมาให้เป็นเครื่องที่มีขนาดความบางและน้ำหนักเบาแต่เรื่องพอร์ตการเชื่อมต่อต่างๆ นั้น ก็มีมาให้มากพอทีเดียว

ไม่ว่าจะเป็น USB 3.0 จำนวน 2 พอร์ต, USB 2.0 อีก 1 พอร์ต และ HDMI พร้อมช่องต่อหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร แน่นอนว่ามี SD Card Reader เป็นมาตรฐาน พร้อมพอร์ต LAN ตัวเต็ม แต่ก็น่าเสียดายที่ไม่มีพอร์ตอนาคตอย่าง USB 3.1 Type-C มาให้ใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ใหม่ๆ แต่อย่างใด

ขนาดของตัวเครื่องและสายชาร์จ เมื่อเทียบกับขนาดของโน๊ตบุ๊ค 14″ ทั่วไปถือได้ว่ามีมิติที่เล็กกว่าพอสมควร ส่วนน้ำหนักตัวเครื่องเปล่านั้น อยู่ที่ 1.58 กิโลกรัม และเมื่อรวมกับตัวอแด็ปเตอร์เข้าไปด้วย ก็จะมีหนักไม่เกิน 2 กิโลกรัมเท่านั้น ก็จัดว่ามีน้ำหนักที่มีความไม่หนักจนเกินไปนัก แน่นอนว่าตอบสนองในเรื่องของการพกพาไปนอกสถานที่ได้อย่างเต็มรูปแบบ สมกับเป็นโน๊ตบุ๊คในยุคปัจจุบันทีเดียว

Performance / Software

HP Pavilion 14 ปี 2016 เครื่องรีวิวนี้มาพร้อมกับชิปประมวลผลจาก Intel Core i7-6500U ซึ่งเป็นชิปประมวลผลใช้พลังงานไฟต่ำมาก มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.50 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 3.1 GHz นะครับ เป็นซีพียูแบบ 2 Core 4 Threads ที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลหนักก็รองรับได้อย่างสบายๆ

แม้ก็ต้องยอมรับว่าอาจจะสูงกว่าพวก Core i7 ตัวรหัส HQ ไม่ได้ แต่เรื่องประหยัดพลังงานนั้นไม่เป็นรองใครอย่างแน่นอน มาพร้อมแรมภายในขนาด 4GB ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้แบบสบายๆ

กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel HD Graphics 520 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน

ที่โดยรวมแล้วให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีกว่า Intel HD Graphics รุ่นก่อนหน้าแน่นอน เพราะอย่างน้อยๆ ก็รองรับการทำงานกับหน้าจอความละเอียดสูงได้แบบไม่มีปัญหา อีกทั้งยังมีกราฟิกการ์ดจอแยกระดับกลางอย่าง NVIDIA GeForce 940MX ซะด้วย เรียกได้ยิ่งตอบสนองในส่วนของการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ 3 มิติ หรือเกมบางเกมได้เป็นอย่างดีทีเดียว

สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลที่เป็นรหัส U รุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ ไม่น่าเป็นห่วงนัก

ทดสอบการทำงานฮาร์ดดิสก์ความจุอยู่ที่ 1TB ที่ติดตั้งมาให้ด้วยโปรแกรม HD Tune แล้วพบว่าอัตราการถ่ายโอนข้อมูลน้อยสุดที่ 50.2 MB/s และสูงสุดที่ 103.9 MB/s ทำให้ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 82.2 MB/s ด้วยกัน มีอัตราการเข้าถึงข้อมูลที่ 18.6 ms ซึ่งนับได้ว่าผลทดสอบที่ออกมานั้นมีความน่าประทับใจทีเดียว เรียกได้ว่าจัดอยู่มาตรฐานของฮาร์ดดิสก์

สำหรับ Street Fighter 4 เกมที่ค่อนข้างเป็นมาตรฐาน (จะได้วัดกับเครื่องรุ่นอื่นๆ ได้ง่าย) ที่ตั้งค่าเป็น Default บนความละเอียด 1280 x 720 พิกเซล ผลคะแนนก็ได้มากกว่ารุ่นก่อนๆ โดยได้คะแนนอยู่ที่ 17695 คะแนนด้วยกัน มีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยอยู่ที่ 153.43 FPS ด้วยกัน ทำให้ได้ระดับ Rank A ทีเดียว ซึ่งสำหรับเกมที่ไม่ได้กินทรัพยากรมากมายอะไร ถือได้ว่าพอจะเล่นได้แบบสบายๆ HP Pavilion 14 ปี 2016 เครื่องนี้ก็พร้อมตอบสนองความสุขของทุกคนได้เป็นอย่างดี

ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง Resident Evil 6 ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับกลางๆ  ภาพก็สวยจนน่าประทับใจแล้ว อยู่ในระดับ Rank C นับว่าใช้ได้ทีเดียว ซึ่งดูจากเฟรมเรทแล้วรองรับสูงสุดที่  30FPS อย่างไรก็ตามอาจจะไม่ถึงขั้นดีมากกับเกมที่กินสเปกหนักๆ แต่ก็พอจะตอบสนองความต้องการได้บางส่วน ยังไงอย่าลืมว่า HP Pavilion 14 ปี 20160 ไม่ได้ถูกออกแบบให้เล่นเกมหนักๆ อยู่แล้ว

อีกเกมหนึ่งที่โดยส่วนตัวเล่นเป็นประจำอย่าง DOTA 2 ก็จัดการทดสอบให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน  ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่น ระดับเฟรมเรทอยู่ที่ประมาณ 30-40 แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็สบายๆ ค่าเฟรมเรทอยู่ที่ราวๆ 30 ขึ้นไปตลอด สรุปโดยรวมแล้วคือเล่นได้สบายๆ  ซึ่งในการทดลองเล่นเกม DOTA 2 ทำได้อย่างน่าประทับใจ ทั้งจากความลื่นไหลและหน้าจอที่สวยงามสมจริง

อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจของ HP Pavilion 14 ปี 2016 ก็คือมาพร้อมซอฟต์แวร์บันเดิลอย่าง HP Support Assistant โดยเป็นโปรแกรมซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้เราดูแลคอมพิวเตอร์ได้อย่างเหมาะสม ป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น และช่วยแก้ปัญหาได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว โปรแกรมนี้ยังระบุข้อมูลที่สำคัญสำหรับแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งนั่นหมายรวมไปถึงการอัพเดทไดร์เวอร์ต่างๆ และ Windows ด้วย จัดได้ว่าดีและใช้งานได้จริง

 

 

Battery / Heat / Noise

แบตเตอรี่ของ HP Pavilion 14 ปี 2016 เป็นแบบฝังไว้ในเครื่องเหมือนกับโน้ตุบ๊คหลายๆ ตัวในปัจจุบัน ตัวแบตเตอรี่มีขนาด 3190 mAh ทำงานต่อเนื่องยาวนานได้เกือบ 5 ชั่วโมงต่อเนื่องในการใช้งานแบบปกติ (ดูภาพยนตร์และเล่นอินเตอร์เน็ต) และคาดว่าจะทำได้นานหรือหมดเร็วยิ่งกว่านั้นปรับเปลี่ยนตามการใช้งานของแต่ละคน ว่าเปิดโปรแกรมอะไร ส่วนช่องระบายความร้อนของHP Pavilion 14 ปี 2016 จะอยู่ด้านบนของแท่นเครื่องบริเวณขาพับจอ โดยออกแบบให้ซ่อนตัวเอาไว้ด้านหลังติดกับด้านท้ายของตัวเครื่อง ถึงพับจอก็ไม่เห็นช่องระบายความร้อนเลย

อุณหภูมิปกติของเครื่องจะอยู่ที่ 30 องศาเซลเซียส แต่พอรีดประสิทธิภาพเต็มที่จะเห็นว่าเครื่องจะร้อนที่สุดเพียง 83 องศาเซลเซียสเท่านั้นตอนทำงานเต็มที่แล้ว นับว่าระบบระบายความร้อนของ HP Pavilion 14 ปี 2016 เครื่องนี้ทำออกมาได้ดีกว่าโน๊ตบุ๊คเครื่องอื่นๆ ที่เคยทำการรีวิวมาพอควร เพราะความร้อนทั่วไปจะอยู่ที่เพียง 45 องศาเซลเซียส ซึ่งนั่นน่าจะเป็นเพราะชุดระบายความร้อนจาก HP ที่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพ และชิปประมวลผล Intel และ NVIDIA รุ่นล่าสุดที่มีมีเทคโนโลยีการผลิตที่เล็กลง

Conclusion / Award

สรุปได้ว่า HP Pavilion 14 ปี 2016 เป็นโน๊ตบุ๊คบางเบาแต่ประสิทธิภาพดีเพื่อการทำงานหรือความบันเทิงที่น่าสนใจ จากระดับราคา 24,990 บาท ไปจนถึง 31,990 บาท โดยสเปกหลักๆ จะเป็น Core i5 หรือ Core i7 ส่วนกราฟิกการ์ดก็จะมีอยู่รุ่นเดียวเลยก็คือ NVIDIA GeForce 940MX แรมก็จะมีทั้ง 4GB และ 8GB ซึ่งมีข้อสังเกตว่าถ้าแรมเป็น 4GB ก็จะมาพร้อม Windows 10 แท้ด้วย (เท่าที่ทราบว่าถ้าให้แรมมา 8GB แล้วใส่ Windows 10 มาด้วย ราคามันจะกระโดด จากการที่ Microsoft เก็บค่าไลน์เซนซ์มากกว่ารุ่น 4GB)

หน้าจอขนาด 14″ พาเนล IPS ความละเอียด Full HD สวยงาม แบบด้านลดแสงสะท้อน โดยมีทั้งแบบทัชกรีนและปกติ ระบบเสียง B&O ดู หนัง ฟังเพลง ใช้งานออนไลน์ต่างๆ ได้อย่างคมชัดสวยงาม และมีชีวิตชีวาสดชื่นแจ่มใสด้วยจอแบบ IPS และระบบเสียงที่จัดว่าทำได้สมราคา สำหรับใครถ้าซื้อรุ่นที่เป็นแรม 4GB ที่พร้อม Windows 10 มาก็นำมาอัพเกรดแรมทีหลังได้ (ราคาแรมแถว 4GB DDR4 ไม่แพงแล้ว) รวมไปถึงจะเลือกอัพ SSD แบบ M.2 ก็สามารถทำได้

บวกการรับประกันอย่าง HP On-site Service รับซ่อมเครื่องถึงหน้าบ้านเป็นระยะเวลา 2 ปี + Smart Friend 1 ปี กู้ข้อมูลฟรี 1 ครั้ง , เช็คเครื่องฟรี 2 ครั้ง และ Call Center Support ตลอด 24 ชั่วโมงเพิ่มความคุ้มยิ่งเพิ่มเข้ามาอีกเยอะเลยละ เอาเป็นว่าใครกำลังมองหาโน๊ตบุ๊คที่เน้นประสบการณ์ใช้งานที่ดีเหนือระดับกว่าโน๊ตบุ๊คยุคก่อนๆ ในเรื่องความแตกต่างและมีดีไซน์ที่หรูหราน่าใช้งานแล้วล่ะก็

HP Pavilion 14 ปี 2016 น่าจะตอบโจทย์ความต้องการได้เป็นอย่างดีทีเดียวกับโน้ตบุ๊ตบางเบาแต่ประสิทธิภาพแรงพอตัว ส่วนถ้าใครเน้นเล่นเกมจริงๆ แนะนำว่า HP Pavilion 15 ปี 2016 รุ่นราคา 29,990 บาท น่าสนใจกว่า เพราะเอาจริงๆ กราฟิกการ์ด NVIDIA GeForce 940MX ก็ไม่ได้แรงกว่า NVIDIA GeForce 940M ซักเท่าไหร่

ข้อดี

• ตัวเครื่องออกแบบใหม่ ให้ความสวยงามและหรูหรา งานประกอบดี
• ตัวเครื่องบางเบา เทียบกับคู่แข่งในตอนนี้แล้วถือว่าเบากว่า
• ชิปประมวลผลเป็น Intel Core i7 Gen 6 รุ่นใหม่ล่าสุด
• การ์ดจอ NVIDIA GeForce 940MX สามารถเล่นเกมได้ทั้งออนไลน์หรือออฟไลน์
• รองรับการอัพเกรด SSD มาตรฐาน M.2 ได้ทันที
• การจัดการระบายความร้อนทำออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• ตัวเครื่องให้พื้นที่สำหรับลำโพงมากเป็นพิเศษสำหรับประสบการณ์ฟังเพลง
• มีพอร์ต USB 3.0 ทั้งหมดและมีระบบ Sleep and Charge
• มีระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้ลิขสิทธิ์มาให้ พร้อมใช้งาน
• รับประกัน 2 ปีแบบ On-site Service
• HP SmartFriend บริการหลังการขายที่มากกว่าจาก HP

ข้อสังเกตุ

• ชิปประมวลผล Intel Core i7 เป็นเพียงรหัส U
• ไม่มีไดร์ฟ DVD ในตัวมาให้ (ต้องซื้อแยก)
• ไม่มีพอร์ต VGAในตัวมาให้ (ต้องซื้อแยก)
• แรมมีขนาดเพียง 4GB ถ้าให้ดีแนะนำให้อัพเกรดเป็น 8GB

Award

โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน้ต บุ๊คขนาดหน้าจอ 14 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง HP Pavilion 14 ปี 2016 ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้

Best Design

ในกลุ่มโน๊ตบุ๊คที่รองรับการทำงานรอบด้านและมาพร้อมหน้าจอ 14″ ที่ให้วัสดุเกรดคุณภาพ อีกทั้งมีดีไซน์ที่ทันสมัยสุดๆ แน่นอนว่าทำได้น่าประทับใจเสมอมาสำหรับ HP ซีรีส์ Pavilion รวมไปถึงการเอาส่วนที่ใช้งานน้อยอย่างตัว DVD ออกทำให้มีน้ำหนักเบากว่าโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 14 นิ้วทั่วไปเป็นอย่างมากทำให้เหมาะสมที่จะรับรางวัลนี้

Best Multimedia

ด้วยสเปคที่จัดเต็มทั้งชิปประมวลผลกราฟิกการ์ด หน้าจอขนาด 14″ ระบบ Full HD พาเนล IPS แบบจอด้าน รองรับการทัชกรีน และการเอาใจใส่ในการเพิ่มพื้นที่ลำโพง และ ระบบ B&O Play ทำให้มีความเหมาะสมในงานสายบันเทิงอย่างเต็มเปี่ยม อาธิ ดูหนัง ฟังเพลง ดู MV จาก Youtube ก็สามารถทำได้อย่างไม่มีติดขัด

VDO Review

Specification

สำหรับสเปคโดยรวมของ HP Pavilion 14 ปี 2016 รุ่นที่ทีมงาน NotebookSPEC ได้รับมารีวิวนี้ ได้ใช้ชิปประมวลผลเป็น Inter Core i7-6500U ซึ่งถือได้ว่าเป็นซีพียูรุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงทั้งการทำงานทั่วไปและการเล่นเกม ตามมาด้วยกราฟิกการ์ดแยก NVIDIA GeForce 940MX รุ่นกลางๆ ซึ่งสามารถการเล่นเกมได้ครบครัน ทั้ง Offline และ Online ได้อย่างไม่มีปัญหา แรมเดิมๆ เป็น 4GB แบบ DDR4 บัส 2133 MHz (สามารถอัพเกรดได้ 16GB) และฮาร์ดดิกส์ 1TB พร้อมติดตั้งอัพเกรด SSD แบบ M.2 ได้ในอนาคต ซึ่งเพียงพอสำหรับการทำงานครบครันเลยทีเดียว

หน้าจอขนาด 14″ ความละเอียด Full HD 1920×1080 พิกเซล พาเนล IPS สีสันสดใส และเป็นแบบด้านทัชกรีน ส่วนพอร์ตที่ติดตั้งมาให้จะใช้ USB 3.0, USB 2.0, SD Card Reader, HDMI สำหรับต่อหน้าจอเสริม, Ethernet LAN, Audio Jack แน่นอนว่ารองรับการเชื่อมต่อไร้สายด้วย Wi-Fi กับ Bluetooth ในส่วนของรุ่นนี้จะมี Windows 10 ลิขสิทธิ์ติดมาด้วย น้ำหนักอยู่ที่ 1.58 กิโลกรัม รับประกัน 2 ปี และได้รับบริการ HP SmartFriend จำนวน 1 ปี สนนราคาจะอยู่ที่ 31,990 บาท

สเปกเต็มๆ ของ HP Pavilion 14-AL007TX <<<

Hardware / Design

ลักษณะการออกแบบ HP Pavilion 14 ปี 2016 ที่ทำได้น่าสนใจ จากวัสดุที่ดีอย่างพลาสติกเกรดสูง งานประกอบก็มีความเรียบร้อยแบบสุดๆ โดยรวมถือว่าเรียบหรูไล่จากด้านนอกตัวเครื่องสีเงิน ตัดด้วยโลโก้ HP โครเมี่ยมด้านหลัง ส่วนใต้เครื่องจะเป็นสีเดียวกันกับด้านนอกที่ดูแล้วก็สวยงามดี ซึ่ง HP Pavilion 14 ปี 2016 ที่มีจำหน่ายในไทยจะมีอยู่ 2 สีด้วยกัน คือสีเทาและสีทอง

ส่วนด้านในตัวเครื่องบริเวณที่พักข้อมือมาแบบแถบสีเทา Racing พาดกลาง รวมถึงตัดด้วยไฟสีขาวจากแป้นคีย์บอร์ดเสริมความสวยงามได้ดี และจุดเด่นที่สุดเลยก็คือบานพับใหม่ ที่ให้ลุคสวยแลดูแข็งแรงทนทานเข้ากับเครื่อง ทำให้ภาพรวมการดีไซน์ HP Pavilion 14 ปี 2016 ทำออกมาได้น่าดึงดูด และได้ยกเครื่องลบจุดสังเกตจาก HP Pavilion 14 ปี 2015 ได้ทั้งหมด แถมยังบางเบาพกพาง่ายกว่าเดิมมาก ด้วยน้ำหนักเพียง 1.58 กิโลกรัม และด้วยความบางของตัวเครื่องเพียงที่ 19.5 ม.ม. จากแบตเตอรี่ที่นำไปไว้ในตัวเครื่อง

HP Pavilion 14 ปี 2016 ต้องบอกว่งานดีจริงๆ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการโน๊ตบุ๊คเพื่อใช้งานทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นงานเอกสารหรือเล่นอินเตอร์เน็ตเว็บไซต์ รวมไปถึงงานหนักๆ หรือเล่นเกมก็สามารถรองรับได้อย่างสบายๆ ที่สำคัญดีไซน์การออกแบบยังก้าวล้ำด้วยความบางเบากว่าคู่แข่งในสเปกและราคาที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งตรงนี้ก็ต้องยอมรับว่ามีการตัดไดร์ฟออฟติคอล DVD ที่คนที่ไม่ค่อยได้ใช้ออกไปด้วย

ส่วนระบบระบายความร้อนก็ได้ถูกย้ายจากทางด้านข้างทางขวา ที่ปกติแล้วในรุ่นก่อนีคนบ่นว่าทำให้ร้อนมือ แต่ใน HP Pavilion 14 ปี 2016 ได้ถูกพัฒนาขึ้นไป โดยได้ย้ายไปด้านหลังแล้ว ทำให้หมดกังวลเรื่องปัญหาที่จะทำให้ร้อนมือ จนหัวร้อนอีกต่อไป เรียกได้ว่า HP ยินดีรับฟังและแก้ไขตามใจผู้ใช้งานจริงๆ แต่อย่างไรก็ตามระบบระบายความร้อนภายในนั้นจะมีพัดลมเพียงตัวเดียว ซึ่งนั่นเป็นเพราะชิปประมวลผลและกราฟิกการ์ดนั้นไม่ได้แรงจนทำให้ร้อนมากมายนัก แต่ต่างจากรุ่นพี่อย่าง HP Pavilion 15 ปี 2016 ที่มีสองตัว ด้วยกัน

Keyboard / Touchpad

ส่วนของคีย์บอร์ดนั้นตัวปุ่มเป็นพลาสติกสีดำเข้ากับตัวเครื่อง โดยสกรีนตัวอักษรเป็นขาว อีกทั้งได้รับการปรับดีไซน์ใหม่แบบ Island Style ทำให้สามารถพิมพ์ได้ง่ายขึ้น แต่สำหรับคนที่นิ้วเล็กนิ้วใหญ่สามารถใช้งานได้สะดวกทั้งหมด

ในส่วนของไฟ LED Backlit ก็สามารถใช้งานได้ดีทีเดียว โดยมีระบบการปรับระดับความสว่างได้สองระดับ ส่วนปุ่มเปิดเครื่องจะไปอยู่ที่มุมซ้ายบนสีกลืนไปกับเครื่อง ซึ่งข้อดีก็คือมั่นใจได้ว่าจะไม่ไปเผลอกดระหว่างการใช้งานแน่นอน พร้อมมีไฟส่องสว่างให้เห็นสถานะ

ทัชแพดมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับขนาดตัวเครื่อง ส่วนดีไซน์นั้นก็ใช้เป็นแบบไม่มีปุ่มแยกออกมาเช่นเดียวกับ HP Pavilion 14 และ HP Pavilion 15 ปี 2016 หลายๆ รุ่น การใช้งานจัดได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ตัวซอฟต์แวร์ควบคุมก็ช่วยจัดการได้ดี โดยมีการจับความเคลื่อนไหวว่าผู้ใช้กำลังพิมพ์ข้อความอยู่หรือไม่ ซึ่งจะช่วยให้เคอร์เซอร์ไม่เลื่อนไปจากตำแหน่งเก่า ถ้าผู้ใช้เผลอนำมือไปโดนทัชแพดเข้า

Screen / Speaker

ในส่วนของหน้าจอด้านขนาด 14″ บนความละเอียดในระดับ Full HD หรือ 1920 x 1080 พิกเซล  ถือว่าเป็นไปตามมาตรฐานของโน๊ตบุ๊คหน้าจอขนาด 14″ ในปัจจุบัน ซึ่งต้องบอกว่าเป็นไม่กี่แบรนด์ที่ให้หน้าจอระดับ Full HD มาในราคานี้ กับความสามารถทัชกรีนได้ ที่สำคัญพาเนลเป็น IPS คุณภาพสูง ให้การแสดงผลที่สมจริงแบบสุดๆ มุมมองกว้างที่ 178 องศส ทำให้สีสันแทบไม่เพี้ยนเลย เมื่อลองใช้งานจริงแล้วให้ประสบการณ์ใช้งานระดับที่น่าพึงพอใจ ทั้งการเล่นเกม ดูหนัง ฟังเอ็มวีผ่าน Youtube ก็สามารถมอบประสบการณ์ความบันเทิงให้อย่างดี จากความเรียบเนียนของพิกเซลและพื้นที่ในการใช้งานที่เหนือกว่า 1366 x 768 พิกเซลเดิมๆ

จุดที่โดดเด่นก็ยังหนีไม่พ้นระบบและการออกแบบลำโพงที่เป็นจุดเด่นของรุ่นอย่างแท้จริง เนื่องจากด้านบนเป็นลำโพงขนาดใหญ่เป็นแผงยาวตลอดคีย์บอร์ดจำนวน 2 ตัว  โดยใช้ระบบเสียงด้วย B&O Play ซึ่งได้ให้การแบ่งทิศทางเสียงด้านซ้ายขวา อีกทั้งมีเทคโนโลยี HP Audio Boost ทำให้ได้พลังของเสียงที่มีคุณภาพ และความหนักแน่น สร้างประสบการณ์ที่ดูดีกว่าเสียงจากโน๊ตบุ๊คทั่วไปเลยทีเดียว

Connector / Thin And Weight

พอร์ตการเชื่อมต่อตัวเครื่อง HP Pavilion 14 ปี 2016 นี้จัดว่าเป็นโน๊ตบุ๊คที่มีความครบครับอย่างมาก แม้ว่าจะเป็นเครื่องที่มีการออกแบบมาให้เป็นเครื่องที่มีขนาดความบางและน้ำหนักเบาแต่เรื่องพอร์ตการเชื่อมต่อต่างๆ นั้น ก็มีมาให้มากพอทีเดียว

ไม่ว่าจะเป็น USB 3.0 จำนวน 2 พอร์ต, USB 2.0 อีก 1 พอร์ต และ HDMI พร้อมช่องต่อหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร แน่นอนว่ามี SD Card Reader เป็นมาตรฐาน พร้อมพอร์ต LAN ตัวเต็ม แต่ก็น่าเสียดายที่ไม่มีพอร์ตอนาคตอย่าง USB 3.1 Type-C มาให้ใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ใหม่ๆ แต่อย่างใด

ขนาดของตัวเครื่องและสายชาร์จ เมื่อเทียบกับขนาดของโน๊ตบุ๊ค 14″ ทั่วไปถือได้ว่ามีมิติที่เล็กกว่าพอสมควร ส่วนน้ำหนักตัวเครื่องเปล่านั้น อยู่ที่ 1.58 กิโลกรัม และเมื่อรวมกับตัวอแด็ปเตอร์เข้าไปด้วย ก็จะมีหนักไม่เกิน 2 กิโลกรัมเท่านั้น ก็จัดว่ามีน้ำหนักที่มีความไม่หนักจนเกินไปนัก แน่นอนว่าตอบสนองในเรื่องของการพกพาไปนอกสถานที่ได้อย่างเต็มรูปแบบ สมกับเป็นโน๊ตบุ๊คในยุคปัจจุบันทีเดียว

Performance / Software

HP Pavilion 14 ปี 2016 เครื่องรีวิวนี้มาพร้อมกับชิปประมวลผลจาก Intel Core i7-6500U ซึ่งเป็นชิปประมวลผลใช้พลังงานไฟต่ำมาก มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.50 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 3.1 GHz นะครับ เป็นซีพียูแบบ 2 Core 4 Threads ที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป หรือถ้างานที่ต้องประมวลผลหนักก็รองรับได้อย่างสบายๆ

แม้ก็ต้องยอมรับว่าอาจจะสูงกว่าพวก Core i7 ตัวรหัส HQ ไม่ได้ แต่เรื่องประหยัดพลังงานนั้นไม่เป็นรองใครอย่างแน่นอน มาพร้อมแรมภายในขนาด 4GB ที่สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ลิขสิทธิ์ที่มีมาให้แบบสบายๆ

กราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel HD Graphics 520 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน

ที่โดยรวมแล้วให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีกว่า Intel HD Graphics รุ่นก่อนหน้าแน่นอน เพราะอย่างน้อยๆ ก็รองรับการทำงานกับหน้าจอความละเอียดสูงได้แบบไม่มีปัญหา อีกทั้งยังมีกราฟิกการ์ดจอแยกระดับกลางอย่าง NVIDIA GeForce 940MX ซะด้วย เรียกได้ยิ่งตอบสนองในส่วนของการทำงานที่เกี่ยวข้องกับ 3 มิติ หรือเกมบางเกมได้เป็นอย่างดีทีเดียว

สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลที่เป็นรหัส U รุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย รวมไปถึงตัวกราฟิกการ์ดเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ ไม่น่าเป็นห่วงนัก

ทดสอบการทำงานฮาร์ดดิสก์ความจุอยู่ที่ 1TB ที่ติดตั้งมาให้ด้วยโปรแกรม HD Tune แล้วพบว่าอัตราการถ่ายโอนข้อมูลน้อยสุดที่ 50.2 MB/s และสูงสุดที่ 103.9 MB/s ทำให้ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 82.2 MB/s ด้วยกัน มีอัตราการเข้าถึงข้อมูลที่ 18.6 ms ซึ่งนับได้ว่าผลทดสอบที่ออกมานั้นมีความน่าประทับใจทีเดียว เรียกได้ว่าจัดอยู่มาตรฐานของฮาร์ดดิสก์

สำหรับ Street Fighter 4 เกมที่ค่อนข้างเป็นมาตรฐาน (จะได้วัดกับเครื่องรุ่นอื่นๆ ได้ง่าย) ที่ตั้งค่าเป็น Default บนความละเอียด 1280 x 720 พิกเซล ผลคะแนนก็ได้มากกว่ารุ่นก่อนๆ โดยได้คะแนนอยู่ที่ 17695 คะแนนด้วยกัน มีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยอยู่ที่ 153.43 FPS ด้วยกัน ทำให้ได้ระดับ Rank A ทีเดียว ซึ่งสำหรับเกมที่ไม่ได้กินทรัพยากรมากมายอะไร ถือได้ว่าพอจะเล่นได้แบบสบายๆ HP Pavilion 14 ปี 2016 เครื่องนี้ก็พร้อมตอบสนองความสุขของทุกคนได้เป็นอย่างดี

ทดสอบเกมกินทรัพยากรพอตัวอย่าง Resident Evil 6 ก็สามารถเล่นได้ดีที่ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล โดยกราฟิกปรับระดับกลางๆ  ภาพก็สวยจนน่าประทับใจแล้ว อยู่ในระดับ Rank C นับว่าใช้ได้ทีเดียว ซึ่งดูจากเฟรมเรทแล้วรองรับสูงสุดที่  30FPS อย่างไรก็ตามอาจจะไม่ถึงขั้นดีมากกับเกมที่กินสเปกหนักๆ แต่ก็พอจะตอบสนองความต้องการได้บางส่วน ยังไงอย่าลืมว่า HP Pavilion 14 ปี 20160 ไม่ได้ถูกออกแบบให้เล่นเกมหนักๆ อยู่แล้ว

อีกเกมหนึ่งที่โดยส่วนตัวเล่นเป็นประจำอย่าง DOTA 2 ก็จัดการทดสอบให้ด้วยเช่นกัน โดยทั้งนี้การตั้งค่าความละเอียดของภาพก็อยู่ที่ 1920 x 1080 พิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่จะสามารถเล่นให้ลื่นได้ สำหรับรายละเอียดภาพอื่นๆ ก็เรียกได้ว่าเปิดทุกอัน  ผลที่ได้ออกมาก็คือสามารถเรนเดอร์ได้อย่างไหลลื่น ระดับเฟรมเรทอยู่ที่ประมาณ 30-40 แม้กระทั่งฉากตะลุมบอนกันก็สบายๆ ค่าเฟรมเรทอยู่ที่ราวๆ 30 ขึ้นไปตลอด สรุปโดยรวมแล้วคือเล่นได้สบายๆ  ซึ่งในการทดลองเล่นเกม DOTA 2 ทำได้อย่างน่าประทับใจ ทั้งจากความลื่นไหลและหน้าจอที่สวยงามสมจริง

อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจของ HP Pavilion 14 ปี 2016 ก็คือมาพร้อมซอฟต์แวร์บันเดิลอย่าง HP Support Assistant โดยเป็นโปรแกรมซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้เราดูแลคอมพิวเตอร์ได้อย่างเหมาะสม ป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น และช่วยแก้ปัญหาได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว โปรแกรมนี้ยังระบุข้อมูลที่สำคัญสำหรับแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งนั่นหมายรวมไปถึงการอัพเดทไดร์เวอร์ต่างๆ และ Windows ด้วย จัดได้ว่าดีและใช้งานได้จริง

 

 

Battery / Heat / Noise

แบตเตอรี่ของ HP Pavilion 14 ปี 2016 เป็นแบบฝังไว้ในเครื่องเหมือนกับโน้ตุบ๊คหลายๆ ตัวในปัจจุบัน ตัวแบตเตอรี่มีขนาด 3190 mAh ทำงานต่อเนื่องยาวนานได้เกือบ 5 ชั่วโมงต่อเนื่องในการใช้งานแบบปกติ (ดูภาพยนตร์และเล่นอินเตอร์เน็ต) และคาดว่าจะทำได้นานหรือหมดเร็วยิ่งกว่านั้นปรับเปลี่ยนตามการใช้งานของแต่ละคน ว่าเปิดโปรแกรมอะไร ส่วนช่องระบายความร้อนของHP Pavilion 14 ปี 2016 จะอยู่ด้านบนของแท่นเครื่องบริเวณขาพับจอ โดยออกแบบให้ซ่อนตัวเอาไว้ด้านหลังติดกับด้านท้ายของตัวเครื่อง ถึงพับจอก็ไม่เห็นช่องระบายความร้อนเลย

อุณหภูมิปกติของเครื่องจะอยู่ที่ 30 องศาเซลเซียส แต่พอรีดประสิทธิภาพเต็มที่จะเห็นว่าเครื่องจะร้อนที่สุดเพียง 83 องศาเซลเซียสเท่านั้นตอนทำงานเต็มที่แล้ว นับว่าระบบระบายความร้อนของ HP Pavilion 14 ปี 2016 เครื่องนี้ทำออกมาได้ดีกว่าโน๊ตบุ๊คเครื่องอื่นๆ ที่เคยทำการรีวิวมาพอควร เพราะความร้อนทั่วไปจะอยู่ที่เพียง 45 องศาเซลเซียส ซึ่งนั่นน่าจะเป็นเพราะชุดระบายความร้อนจาก HP ที่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพ และชิปประมวลผล Intel และ NVIDIA รุ่นล่าสุดที่มีมีเทคโนโลยีการผลิตที่เล็กลง

Conclusion / Award

สรุปได้ว่า HP Pavilion 14 ปี 2016 เป็นโน๊ตบุ๊คบางเบาแต่ประสิทธิภาพดีเพื่อการทำงานหรือความบันเทิงที่น่าสนใจ จากระดับราคา 24,990 บาท ไปจนถึง 31,990 บาท โดยสเปกหลักๆ จะเป็น Core i5 หรือ Core i7 ส่วนกราฟิกการ์ดก็จะมีอยู่รุ่นเดียวเลยก็คือ NVIDIA GeForce 940MX แรมก็จะมีทั้ง 4GB และ 8GB ซึ่งมีข้อสังเกตว่าถ้าแรมเป็น 4GB ก็จะมาพร้อม Windows 10 แท้ด้วย (เท่าที่ทราบว่าถ้าให้แรมมา 8GB แล้วใส่ Windows 10 มาด้วย ราคามันจะกระโดด จากการที่ Microsoft เก็บค่าไลน์เซนซ์มากกว่ารุ่น 4GB)

หน้าจอขนาด 14″ พาเนล IPS ความละเอียด Full HD สวยงาม แบบด้านลดแสงสะท้อน โดยมีทั้งแบบทัชกรีนและปกติ ระบบเสียง B&O ดู หนัง ฟังเพลง ใช้งานออนไลน์ต่างๆ ได้อย่างคมชัดสวยงาม และมีชีวิตชีวาสดชื่นแจ่มใสด้วยจอแบบ IPS และระบบเสียงที่จัดว่าทำได้สมราคา สำหรับใครถ้าซื้อรุ่นที่เป็นแรม 4GB ที่พร้อม Windows 10 มาก็นำมาอัพเกรดแรมทีหลังได้ (ราคาแรมแถว 4GB DDR4 ไม่แพงแล้ว) รวมไปถึงจะเลือกอัพ SSD แบบ M.2 ก็สามารถทำได้

บวกการรับประกันอย่าง HP On-site Service รับซ่อมเครื่องถึงหน้าบ้านเป็นระยะเวลา 2 ปี + Smart Friend 1 ปี กู้ข้อมูลฟรี 1 ครั้ง , เช็คเครื่องฟรี 2 ครั้ง และ Call Center Support ตลอด 24 ชั่วโมงเพิ่มความคุ้มยิ่งเพิ่มเข้ามาอีกเยอะเลยละ เอาเป็นว่าใครกำลังมองหาโน๊ตบุ๊คที่เน้นประสบการณ์ใช้งานที่ดีเหนือระดับกว่าโน๊ตบุ๊คยุคก่อนๆ ในเรื่องความแตกต่างและมีดีไซน์ที่หรูหราน่าใช้งานแล้วล่ะก็

HP Pavilion 14 ปี 2016 น่าจะตอบโจทย์ความต้องการได้เป็นอย่างดีทีเดียวกับโน้ตบุ๊ตบางเบาแต่ประสิทธิภาพแรงพอตัว ส่วนถ้าใครเน้นเล่นเกมจริงๆ แนะนำว่า HP Pavilion 15 ปี 2016 รุ่นราคา 29,990 บาท น่าสนใจกว่า เพราะเอาจริงๆ กราฟิกการ์ด NVIDIA GeForce 940MX ก็ไม่ได้แรงกว่า NVIDIA GeForce 940M ซักเท่าไหร่

ข้อดี

• ตัวเครื่องออกแบบใหม่ ให้ความสวยงามและหรูหรา งานประกอบดี
• ตัวเครื่องบางเบา เทียบกับคู่แข่งในตอนนี้แล้วถือว่าเบากว่า
• ชิปประมวลผลเป็น Intel Core i7 Gen 6 รุ่นใหม่ล่าสุด
• การ์ดจอ NVIDIA GeForce 940MX สามารถเล่นเกมได้ทั้งออนไลน์หรือออฟไลน์
• รองรับการอัพเกรด SSD มาตรฐาน M.2 ได้ทันที
• การจัดการระบายความร้อนทำออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• ตัวเครื่องให้พื้นที่สำหรับลำโพงมากเป็นพิเศษสำหรับประสบการณ์ฟังเพลง
• มีพอร์ต USB 3.0 ทั้งหมดและมีระบบ Sleep and Charge
• มีระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้ลิขสิทธิ์มาให้ พร้อมใช้งาน
• รับประกัน 2 ปีแบบ On-site Service
• HP SmartFriend บริการหลังการขายที่มากกว่าจาก HP

ข้อสังเกตุ

• ชิปประมวลผล Intel Core i7 เป็นเพียงรหัส U
• ไม่มีไดร์ฟ DVD ในตัวมาให้ (ต้องซื้อแยก)
• ไม่มีพอร์ต VGAในตัวมาให้ (ต้องซื้อแยก)
• แรมมีขนาดเพียง 4GB ถ้าให้ดีแนะนำให้อัพเกรดเป็น 8GB

Award

โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน้ต บุ๊คขนาดหน้าจอ 14 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง HP Pavilion 14 ปี 2016 ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้

Best Design

ในกลุ่มโน๊ตบุ๊คที่รองรับการทำงานรอบด้านและมาพร้อมหน้าจอ 14″ ที่ให้วัสดุเกรดคุณภาพ อีกทั้งมีดีไซน์ที่ทันสมัยสุดๆ แน่นอนว่าทำได้น่าประทับใจเสมอมาสำหรับ HP ซีรีส์ Pavilion รวมไปถึงการเอาส่วนที่ใช้งานน้อยอย่างตัว DVD ออกทำให้มีน้ำหนักเบากว่าโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 14 นิ้วทั่วไปเป็นอย่างมากทำให้เหมาะสมที่จะรับรางวัลนี้

Best Multimedia

ด้วยสเปคที่จัดเต็มทั้งชิปประมวลผลกราฟิกการ์ด หน้าจอขนาด 14″ ระบบ Full HD พาเนล IPS แบบจอด้าน รองรับการทัชกรีน และการเอาใจใส่ในการเพิ่มพื้นที่ลำโพง และ ระบบ B&O Play ทำให้มีความเหมาะสมในงานสายบันเทิงอย่างเต็มเปี่ยม อาธิ ดูหนัง ฟังเพลง ดู MV จาก Youtube ก็สามารถทำได้อย่างไม่มีติดขัด