เราทุกคนน่าจะรู้จักกับ TP-LINK มาเป็นอย่างดีกับอุปกรณ์เน็ตเวิร์คชั้นนำ ที่มีจุดขายในเรื่องของความคุ้มค่าและการรับประกัน โดยที่ผ่านมานั้นทาง KING I.T. เป็นดิสทริบิวเตอร์นำเข้ามาขายอย่างเป็นทางการ จนกระทั่งวันนี้ทาง KING I.T. ได้ประกาศยุติการจัดจำหน่าย TP-LINK รวมไปถึงทาง TP-LINK ก็ประกาศถอน KING I.T. จากการเป็นดิสทริบิวเตอร์เช่นกัน เรียกได้ว่าเป็นดราม่าหนักเลย เพราะต่างคนต่างกล่าวถึงเหตุผลของการเลิกลากันไปคนละแบบ
โดยทาง KING I.T. กล่าวว่า TP-LINK มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบประกันสินค้าจากที่เป็น “LIFETIME FOREVER” ลดเป็น “Lifetime Warranty Limited” รวมไปถึงมีความขัดแย้งในเรื่องของการตั้งตัวแทนจำหน่ายมาแข่งขัน
ส่วนทาง TP-LINK ก็กล่าวว่าทาง KING I.T. กระทำการทำผิดเงื่อนไขทางธุรกิจ มาเป็นระยะเวลานาน “ทั้งนี้ทาง ทีพี ลิงค์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จะชี้แจงรายละเอียด ต่อไป” โดยตอนนี้ก็ยังมีตัวแทนจำหน่ายไว้ตอยสนองความต้องการอยู่
ในส่วนของรายละเอียดเนื้อความที่ทาง KING I.T. โพสไว้ในเพจ Facebook มีดังต่อไปนี้ (โพวก่อน 3 ชั่วโมง)
“KING I.T.” ประกาศยุติการจัดจำหน่าย “TP-LINK”
บริษัท คิงส์ ไอ.ที. จำกัด (บริษัท คิงส์ อินเทลลิเจ้นท์ เทคโนโลยี จำกัด) หรือ ในนาม TP-LINK THAILAND ผู้นำเข้าอุปกรณ์เน็ทเวิร์ครายใหญ่ของไทย ถือหุ้นโดยคนไทย 100% โดยปัจจุบัน บริษัท คิงส์ ไอ.ที. จำกัด ได้รับการแต่งตั้งให้จำหน่ายอุปกรณ์ Network หลากหลายแบนด์จากหลายประเทศ อาทิเช่น NETGEAR (USA), CAMBIUM (USA), EDIMAX (TAIWAN), PLANET (TAIWAN), TOTOLINK (KOREA)
รวมทั้ง TP-LINK (CHINA) ตลอดระยะเวลาที่ดำเนินธุรกิจด้านนี้มากว่า16 ปี บริษัท คิงส์ ไอ.ที. จำกัด มุ่งเน้นให้คำแนะนำ, แก้ไขปัญหาและเน้นการบริการหลังการขายทางด้านเน็ทเวิร์ค โดยชูประเด็นการรับประกันแบบ “LIFETIME WARRANTY” และ 5 ปีที่ผ่านมาได้ทำการเปลี่ยนรูปแบบการรับประกันเป็น “LIFETIME FOREVER” ซึ่งได้รับการยอมรับจากผู้ใช้เป็นอย่างมากในประเทศไทย
สำหรับแบนด์ TP-LINK (CHINA) บริษัท คิงส์ ไอ.ที. จำกัด (บริษัท คิงส์ อินเทลลิเจ้นท์ เทคโนโลยี จำกัด) ได้รับการแต่งตั้งจาก TP-LINK (CHINA) เมื่อปี 2006 ให้จำหน่ายอุปกรณ์เน็ทเวิร์ค TP-LINK รายเดียวในประเทศไทย (อายุสัญญา 3 ปี ต่อครั้งจนกระทั่งปี 2012 อายุสัญญาเปลี่ยนเป็นปีต่อปี) ซึ่งบริษัท คิงส์ ไอ.ที. จำกัด มุ่งเน้นทำการตลาด การบริการหลังการขายที่จริงจังและจริงใจสำหรับผู้ใช้
ไม่ว่าจะเป็นการรับประกันแบบ “LIFETIME WARRANTY” จริงๆ คือ รับประตลอดอายุการใช้งานจริงๆ ผ่านไป 10 ปี ก็สามารถเคลมอุปกรณ์ได้ และพัฒนามาเป็น “LIFETIME FOREVER” ในปัจจุบัน, ศูนย์บริการ 30 สาขาทั่วประเทศ, CALL CENTER ภาษาไทยตลอด 24 ชั่วโมง, ประชาสัมพันธ์ทั้ง โทรทัศน์, วิทยุ, นิตยสาร, ป้ายบิลบอร์ด จนเป็นที่ยอมรับอันดับต้นๆในประเทศไทย
จนต้นปี 2014 ได้มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น TP-LINK (CHINA) ได้มาตั้งสาขาในประเทศไทยในนาม “TP-LINK ENTERPRISE CO., LTD.” โดยให้เหตุผล คือ ต้องการเข้ามาช่วยทำการตลาดในประเทศไทย โดยให้คำสัญญาว่าจะไม่แต่งตั้งตัวแทนขายเพิ่ม (DISTRIBUTOR) แต่ตลอดระยะเวลาปี 2014 ได้พยายามบังคับให้บริษัท คิงส์ ไอ.ที. จำกัด ลดการประกันลงจาก “LIFETIME FOREVER” เป็น “Lifetime Warranty Limited”
ซึ่ง บริษัท คิงส์ ไอ.ที. จำกัด ได้ทำการปฏิเสธตลอดมาเพราะการประกันแบบ “LIFETIME FOREVER” เป็นจุดเด่นและจุดขายสำคัญของบริษัทฯ และอีกหนึ่งประเด็น คือ เข้ามาควบคุมการตั้งราคาสินค้า ซึ่งประเด็นนี้มีผลกระทบต่อผลประกอบการบริษัทฯ เป็นอย่างมาก
จนต้นปี 2015 “TP-LINK ENTERPRISE CO., LTD.” ได้แต่งตั้งตัวแทนขายเพิ่มขึ้น 1 ราย ซึ่งทำให้บริษัท คิงส์ ไอ.ที. จำกัด เริ่มไม่มั่นใจในการทำธุรกิจของ “TP-LINK ENTERPRISE CO., LTD.” ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของความขัดแย้ง จนต้นปี 2016 “TP-LINK ENTERPRISE CO., LTD.” ได้แต่งตั้งตัวแทนขายเพิ่มขึ้นอีก 1 ราย โดยครั้งนี้ไม่มีการแจ้งล่วงหน้า ทำให้เกิดความขัดแย้งเพิ่มมากขึ้นจนถึงปัจจุบัน
ตลอดระยะเวลาตั้งแต่ต้นปี 2015 จนถึงปัจจุบัน บริษัท คิงส์ ไอ.ที. จำกัด ทางผู้บริหารและทีมงานรู้สึกอึดอัดใจ กดดันและเสียใจเป็นอย่างมาก เพราะมีผู้ใช้จำนวนไม่น้อยซื้อ TP-LINK โดยเข้าใจว่าเป็นการประกันของบริษัท คิงส์ ไอ.ที. จำกัด ทำให้ผู้ใช้เสียโอกาส ถูกเอารัดเอาเปรียบ
ซึ่งนับวันก็จะเกิดปัญหาเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ตลอดจนนโยบายที่ขัดแย้งกันระหว่าง “บริษัท คิงส์ ไอ.ที. จำกัด” และ “TP-LINK ENTERPRISE CO., LTD.” ดังนั้นวันที่ 26 กรกฎาคม 2559 ที่ผ่านมา คณะผู้บริหารบริษัท คิงส์ ไอ.ที. จำกัด จึงได้มีการประชุมปัญหาดังกล่าว โดยได้ข้อสรุปดังนี้ คือ ขอหยุดการดำเนินธุรกิจ ร่วมกับ TP-LINK ENTERPRISE CO., LTD. ตั้งแต่วันที่ 26 กรกฎาคม 2559 เป็นต้นไป
ทั้งนี้อุปกรณ์ TP-LINK ทั้งหมดที่มี VOID WARRANTY ของ “บริษัท คิงส์ ไอ.ที. จำกัด” ทางบริษัทฯ ก็ยังคงรับผิดชอบเหมือนเดิม “LIFETIME FOREVER” ไม่ว่าจะเป็นการเคลมอุปกรณ์ที่ศูนย์บริการ 30 สาขาทั่วประเทศหรือ CALL CENTER ภาษาไทยตลอด 24 ชั่วโมง
หากมีข้อสงสัยประการใด สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมWWW.KIT.CO.TH, 02 419-0555 หรือ https://www.facebook.com/kingit.network บริษัท คิงส์ ไอ.ที. จำกัด ขอขอบคุณลูกค้าทุกๆ ท่านมา ณ โอกาสนี้ ที่ให้การสนับสนุนและส่งเสริมบริษัทด้วยดีตลอดมาในแบนด์ “TP-LINK” พวกเราสัญญาว่าจะทำสิ่งดีๆ และบริการดีๆ ให้กับคนไทยตลอดไป จากใจพวกเราชาว “คิงส์ ไอ.ที.” (ฝากบริษัทคนไทยด้วยนะครับ)
และในส่วนของรายละเอียดเนื้อความที่ทาง TP-LINK โพสไว้ในเพจ Facebook มีดังต่อไปนี้
บริษัท ทีพี-ลิงค์ เอ็นเตอร์ไพรส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศถอด ดิสทริบิวเตอร์ (บริษัท คิงส์ อินเทลลิเจ้นท์ เทคโนโลยี จำกัด) ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เนื่องจากมีการทำผิดเงื่อนไขทางธุรกิจ มาเป็นระยะเวลานาน *ทั้งนี้ทาง ทีพี ลิงค์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จะชี้แจงรายละเอียด ต่อไป*
ทั้งนี้ TP-LINK ยังดำเนินการตามปกติในประเทศไทย พร้อมด้วยตัวแทนจำหน่าย อย่าง บริษัท ซินเน็ค ประเทศไทย และ บริษัท เอสเทรค (ประเทศไทย) จำกัด ที่สามารถตอบสนองความต้องการให้คู่ค้าในไทยอย่างต่อเนื่อง
โดยสินค้า TP-LINK ยังคงวางจำหน่าย ผ่านตัวแทนชั้นนำ ได้แก่ Advice, Com7, JIB, Power Buy, Big C, Office Mate และร้านค้าทั่วไปภายในห้าง IT ทั่วประเทศ เพื่อตอบสนองตลาดเทคโนโลยีในไทยที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ข้อมูลเพิ่มเติมhttp://www.tp-link.co.th/where-to-buy/resellers.aspx
ขออภัยในความไม่สะดวกของลูกค้า หากมีคำถามเกี่ยวกับสินค้าและบริการ สามารถติดต่อได้ที่
บริษัท ทีพี-ลิงค์ เอ็นเตอร์ไพรส์ (ประเทศไทย) จำกัด 02-440-0029 วันจันทร์-เสาร์ 8.30-17.30น.
เอาเป็นว่าระหว่าง 2 บริษัทนี้เค้าแตกหักกันเรียบร้อยแล้ว ส่วนประกันอุปกรณ์ TP-LINK ที่ซื้อจาก KING I.T. ก็ยังมีประกันอยู่ ตรงนี้ไม่ต้องกังวลไป โดยทางทาง KING I.T จะหาผลิตภัณฑ์รุ่นใกล้เคียงกันทดแทนให้ ซึ่งเสปคเทียบเคียงหรือดีกว่า การรับประกันก็ยังใช้ได้เช่นเดิม สำหรับประเด็นนี้หลายคนคงให้ความสนใจกันเป็นอย่างมาก เพราะโดยส่วนตัวผู้เขียนเองก็ใช้ Wi-Fi Router ของทาง TP-LINK ที่เป็นประกันของ KING I.T. อยู่เช่นกัน