เพลงประกอบเกมก็เป็นอีกปัจจัยที่เสริมให้เกมมีอรรถรสหรือเพิ่มความรู้สึกร่วมของผู้เล่นได้มากขึ้นจึงทำให้เพลงประกอบเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้น ๆ ในการสร้างเกมเลยล่ะครับและแน่นอนว่าในปัจจุบันก็มีเกมที่มีจุดเด่นเรื่องเพลงประกอบมากมายแต่จะมีเกมไหนบ้างที่จัดว่าโดดเด่นที่สุดฉะนั้นทาง PCGAMER เลยได้คัด 11 เพลงประกอบเกมที่จัดว่าเด็ดมาให้สดับรับฟังกันครับ
Furi
เริ่มต้นกับเพลงจากเกม Furi ที่เป็นแนวอิเล็กทรอนิกส์ชวนขยับเท้ารังสรรค์โดยยอดศิลปินแนวเพลงอิเล็กโทรฯ แต่แนวเพลงจะให้กลิ่นอายของความลึกลับผสมความดาร์กหน่อย ๆ กับเสียงของซินธิไซเซอร์ที่เรียกว่าเอาไปฟังในขณะขับรถก้ได้อารมณ์ไปอีกแบบครับ
Doom
เกม Doom ก็เป็นอีกเกมที่โดดเด่นเรื่องเพลงประกอบที่ทำออกมาได้ฮาร์ดคอร์รุนแรงพอ ๆ กับตัวเกมเลยครับกับดนตรีแนวเมทัลหนักแน่นด้วยเสียงเบสหรือเสียงกระเดื่องกลองที่รัวกระหน่ำดั่งปืนกลฟังแล้วต้องเผลอโยกหัวหน้าคอมกันบ้างล่ะ!
Samorost 3
เพลงที่สร้างสรรค์โดยคุณ Tomáš Dvořák’ ที่เน้นเพลงในธีมธรรมชาติฟังแล้วเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในป่าซึ่งก็เหมาะกับเกม Samorost 3 เป็นอย่างดีนอกจากนี้บทเพลงของเขาก็สามารถสื่ออารมณ์ได้หลายรูปแบบทั้งสนุกสนาน , เศร้า , ลึกลับ เรียกว่าเป็นบทเพลงที่มีชีวิตเลยทีเดียว
Hyper Light Drifter
Disasterpeace ก็เป็นศิลปินที่ชอบใช้ซาวด์ดนตรีย้อนยุคและการเรียบเรียงบทเพลงที่ใช้เสียงดนตรีน้อย ๆ ในการสร้างสรรค์สิ่งที่เขาทำกลับเต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกที่เขาถ่ายทอดออกมาซึ่งชื่อเพลงแต่ละเพลงต่างมีความหมายทั้งนั้นจึงทำให้ Hyper Light Drifter เป็นเกมที่ทั้งน่าเล่นและเพลงก็น่าฟังไปด้วยครับ
Oxenfree
งานจากคุณ SCNTFC กับแนวเพลงอิเล็กทรอนิกส์ผสมกับความดาร์กลึกลับ ๆ พร้อมกับเสียงจากเครื่องดนตรีสังเคราะห์ก็ทำให้บทเพลงใน Oxenfree เต็มไปด้วยความลึกลับ , อ้างว้าง , หลอน , น่ากลัว จนถ้าหากนำไปเปิดฟังคนเดียวในห้องมืด ๆ ก็ยิ่งเพิ่มอรรถรสมากขึ้น 2 เท่า
Dark Souls 3
การฟังเพลงของเกมนี้จะรู้สึกได้เลยถึงกลิ่นอายของความตายที่แผ่เข้ามาหรือความเศร้าโศก ความอ้างว้าง ที่คุณ Motoi Sakuraba ได้ประพันธ์ออกมาอย่างลึกซึ้งใส่ใจในรายละเอียดไม่แพ้กับตัวเกมเลยและเมื่อนำเพลงแบบนี้มาผสมผสานกับเกมในธีมความมืด ความตายอย่าง Dark Souls ก็เป็นอะไรที่สมบูรณ์แบบครับ
The Aquatic Adventure of the Last Human
เป็นบทเพลงที่จะพาผู้ฟังดำดิ่งสู่ท้องทะเลอันกว้างใหญ่ทุกเพลงของคุณ Karl Flodin ในเกมนี้เรียกว่าทำให้ผู้เล่นเกมรู้สึกว่ากำลังผจญภัยใต้ทะเลที่ลึกลับสุดแสนจะคาดเดาและเพลงที่แนะนำเลยต้องเป็นเพลง The Heart of the Cityและ Seaweed Forest
The Banner Saga 2
บทเพลงในเกมนี้จะอุดมไปด้วยกลิ่นอายสงครามไวกิ้งเต็มรูปแบบกับการสร้างสรรค์ผ่านเครื่องดนตรีมากชิ้นแบบวงออเครสตร้าที่นำโดยคุณ Austin Wintory (Journey , Assassin’s Creed: Syndicate) โดยเฉพาะเพลง The World is Breaking Apart จะทำให้ผู้ฟังรู้ถึงความเหน็บหนาว ความตายในสมรภูมิ ศักกดิ์ศรีและความหวังครับ
Deep Space Deluxe
จากผลงานของ Ben Prunty ผู้สร้างสรรค์บทเพลงจากเกม FTL สู่ Deep Space Deluxe ที่พัฒนาขึ้นอีกขั้นกับเพลงแนวอิเล็กทรอนิกส์จังหวะสนุก ๆ ที่ทำให้รู้สึกอยากสำรวจอวกาศแต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้รู้สึกถึงความอันตรายของมันไปด้วยซึ่งถ้าหากคุณชอบเพลงจากเกม FTL แล้วล่ะก็เพลงจาก Deep Space Deluxe ก็น่าสนใจไม่แพ้กันครับ
Brigador
เสียงจากเครื่องซินธิไซเซอร์สามารถบรรเลงเสียงได้หลายรุปแบบและในเกมนี้ก็ใช้เครื่องดนตรีดังกล่าวเหมือนกันที่สร้างสรรค์เสียงเพลงออกมาให้เป็นเพลงยุคเก่าแต่ฟังแล้วล้ำสมัยไปในตัวอย่างเพลง There is No Law Here ที่จะทำให้รู้สึกว่าเรากำลังอยู่ในสงครามโลกไซเบอร์เลยล่ะครับ
Poly Bridge
ปิดท้ายด้วยเพลงจากเกม Poly Bridge กับแนวเพลงสบาย ๆ สุดชิลล์ที่ใช้กีต้าร์อคูสติกในการบรรเลงอย่างเพลง Fall In to Place ที่เรียกว่าเป็นเพลงที่เหมาะแก่การนั่งฟังสบาย ๆ เอนตัวลงบนเก้าอี้พร้อมกับจิบเครื่องดื่มสุดโปรดไปด้วยหรือถ้าหากใครมีกีต้าร์จะนำไปแกะเพื่อเล่นเองก็เป็นอะไรที่ Cool สุด ๆ ครับ
ที่มา: PCGAMER