การลักขโมยถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายที่มีคนทำบ่อยครั้งมากและก็มีคนถูกจับมากที่สุดเช่นกันและแม้ว่าจะมีบทลงโทษที่เพิ่มขึ้นแต่เราก็ยังเห็นการลักขโมยอยู่เนือง ๆ ซึ่งคนที่ขโมยต่างก็รู้สึกผิดบ้างหรือไม่รู้สึกบ้างแต่กลับกันถ้าเป็นโลกของวีดีโอเกมการลักขโมยสิ่งของในบ้าน NPC หรือตามรายทางเชื่อได้เลยว่าเกือบทั้งหมดแทบไม่มีความรู้สึกผิดอยู่เลย
แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นการขโมยเหมือนกันแต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นกลับแตกต่างกันมากรวมถึงความรู้สึกผิดอีกด้วย ฉะนั้นแล้วการค้นหาเหตุผลที่ว่าการขโมยในเกมกับชีวิตจริงมีความแตกต่างกันอย่างไรจึงเริ่มต้นขึ้นซึ่งเริ่มจากการสอบถามจากบุคคลากรในมหาวิทยาลัยอย่างคุณ Graham Scott อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยในสก็อตแลนด์ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องจิตวิทยาและพฤติกรรม
คุณ Scott ได้บอกว่าการลักขโมยมักเกิดจากการที่คนนั้น ๆ ไม่ได้รับการเอาใจใส่ในวัยเด็กหรือการเลี้ยงดูที่ดีพอดังนั้นจึงเกิดพฤติกรรมที่แสดงถึงความภาคภูมิใจว่าตัวเองนั้นมีดีและปัจจัยอื่น ๆ อย่างเศรษฐกิจหรือสภาพสังคมแต่ขณะเดียวกันเมื่อมีการพูดถึงผู้เล่นเกมเขาได้อธิบายว่าสิ่งเหล่านั้นมันไม่มีส่วนเกี่ยวกันเลยทั้งเรื่องพฤติกรรมหรือแม้กระทั่งความรู้สึกผิด
ในกรณีของการขโมยในเกมนั้นคุณ Scott ได้บอกว่าการที่คนไม่รู้สึกหวาดกลัวหรือระแวงนั้นก็เป็นเพราะว่าในโลกของเกมไม่มีบทลงโทษที่จริงจังในขณะที่คุณเข้าไปขโมยของหรือบางเกมก็ทำเหมือนกับว่าเป็นเรื่องปกติซึ่งแตกต่างจากชีวิตจริงที่การแย่งของ ๆ คนอื่นจะส่งผลกระทบต่อชีวิตมากมายและในบางกรณีเราก็ต้องทำเพราะมันเป็นสคริปต์ของเกม
นอกจากนี้คุณ Scott ได้ยกตัวอย่างที่เห็นชัดที่สุดกับเกม Grand Theft Auto ที่เราจำเป็นจะต้องขโมยรถเพื่อไปทำภารกิจให้สำเร็จทำให้ผู้เล่นคิดว่าการขโมยมันเป็นสิ่งจำเป็นต้องทำอีกทั้งเขาได้เสริมอีกว่าการที่ผู้เล่นมองว่าการขโมยไม่ใช่เรื่องเลวร้ายก็เป็นเพราะพวกเขาสามารถแยกแยะได้ว่าอะไรคือของจริงและอะไรคือเกมครับ
จากความเห็นของอาจารย์ท่านนี้ก็แสดงให้เห็นว่าการที่ผู้เล่นไม่มีความรู้สึกผิดก็เป็นเพราะพวกเขาสามารถแยกแยะได้ว่าอะไรเป็นอะไรและการขโมยสิ่งของในเกมเป็นเรื่องที่จำเป็นต้องทำหรือทำเพราะไม่มีผลกระทบต่อชีวิตจริงแต่ถ้าหากลองมาดูความคิดเห็นของคนที่เคยเป็นขโมยตัวจริงเสียงบ้างก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจไม่น้อยว่าเขามีความเห็นกับเรื่องนี้อย่างไร
คุณ David (นามสมมุติ) เคยติดคุกเป็นระยะเวลา 7-8 ปีในข้อหาขโมยอาวุธเมื่อปี 1970 ได้บอกว่าตัวเขาเริ่มขโมยมาตั้งแต่วัยรุ่นซึ่งของส่วนมากก็จะเป็นเสื้อผ้า , น้ำหอมหรืออะไรก็ได้ที่สามารถขายให้โรงจำนำแล้วได้ราคาดี ๆ โดยคุณ David ได้มองว่าการที่เราขโมยในเกมแล้วไม่มีความรู้สึกผิดนั้นก็เป็นเพราะว่าของที่เราได้มามันสามารถทำประโยชน์แก่ตนเองได้
หรือจะพูดอีกอย่างก็คือเขาบอกว่าทุก ๆ คนย่อมทำในสิ่งที่คิดว่ามันสร้างชื่อเสียงหรืออะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้ตนเองแข็งแกร่งขึ้นและการขโมยก็เหมือนจะเป็นทางเลือกที่ตัวเกมเสนอให้ทำได้และอีกอย่างมันไม่มีตำรวจมาคอยไล่จับเหมือนในชีวิตจริงนั่นเองครับ
ฉะนั้นเมื่อได้ฟังสิ่งที่คุณ Scott และคุณ David ได้อธิบายมาก็พอจะสรุปได้ว่าในโลกของเกมเปิดโอกาสให้เราขโมยของได้โดยที่ผู้เล่นไม่รู้สึกผิดก็เพราะมันไม่ส่งผลต่อชีวิตประจำวันจริง ๆ ไม่มีตำรวจคอยไล่จับ การขโมยบางครั้งก็เป็นสิ่งจำเป็นต้องทำและการขโมยในเกมก็ทำให้เราอัพเกรดความเก่งของตัวละครได้ไวขึ้นมากกว่าการเล่นเกมแบบซื่อตรง
หรืออย่างมากก็ทำให้เจ้าของร้านหัวเสียเท่านั้นเองอย่างใน Legend Of Zelda: Link’s Awakening ที่สามารถขโมยของได้แต่ถ้าหากกลับเข้าไปในร้านอีกครั้งก็จะเจอการลงโทษด้วยสายฟ้าฟาดจากเจ้าของร้านเท่านั้นเองครับ
ที่มา: Kotaku