[Review] Cougar Attack X3 Mechanical Keyboard เรียบหรูมีสไตล์ใช้ง่ายมีราคาไม่แพง

คีย์บอร์ดเกมมิ่งจาก Cougar ก็เป็นอีกเจ้าที่ผลิตออกมาแล้วมีความสะดุดตาเป็นอย่างยิ่งชนิดที่ว่ามองครั้งเดียวก็รู้แล้วว่าเป็นของ Cougar และคีย์บอร์ดตัวล่าสุดที่พวกเขาได้เผยโฉมออกมาก็เป็นคีย์บอร์ดเกมมิ่งแบบ Mechanical ที่ชื่อว่า Attack X3 ที่มีจุดเด่นทั้งดีไซน์และประสิทธิภาพของมันที่คุ้มค่าเกินราคาแต่จะจริงหรือไม่มาดูพร้อม ๆ กันดีกว่าครับ

กล่องแพ็คเกจ

สำหรับกล่องบรรจุสินค้าก็จะมีในรูปแบบกล่องขนาดสี่เหลี่ยมผืนผ้ามีรายละเอียดของสินค้าเบื้องต้นและรูปโปรโมทที่ทำออกมาได้ดูดีมีสีสันทีเดียว

เมื่อหันไปดูด้านหลังก็จัดว่าประหลาดใจทีเดียวครับเพราะด้านหลังมีรายละเอียดบ่งบอกฟีเจอร์ของสินค้าได้ละเอียดยิบย่อยมากจนออกดูจะรกรุงรังเสียด้วยซ้ำ

ส่วนด้านข้างก็จะบอกสเปคข้อมูลพื้นฐานและประเภทของ Switch ที่มีในคีย์บอร์ดครับโดยใน Attack X3 จะใช้บริการของ Cherry MX สีดำ , แดง , น้ำตาล และ น้ำเงิน

เมื่อแกะกล่องออกมาเราก็จะเห็นคีย์บอร์ดตัวเก่งของเราที่ถูกห่อหุ้มด้วยพลาสติกอย่างดีพร้อมกับมีสมุดคู่มือมา 1 เล่ม พร้อมกับอุปกรณ์ดึง Key Cap ซึ่งโดยรวมแล้วก็ดูดีมีชาติตระกูลเลยครับ

ภายนอก

สำหรับภายนอกของ Attack X3 ก็จะเน้นความเรียบเป็นหลักลงสีด้วยโทนสีเงินสว่างมีโลโก้ Cougar อยู่ด้านบนโดดเด่นมาแต่ไกลปุ่มกดต่าง ๆ ถูกจัดวางตามมาตรฐานแต่ถ้าสังเกตบริเวณมุมบนซ้าย-ขวาก็จะเป็นลักษณะหัวตัดเพิ่มความเป็นเอกลักษณ์ได้ดีดูสวยงามไปอีกแบบ

ทางด้านตัวอักษรก็ถือว่าทำดีทีเดียวครับเพราะตัวอักษรค่อนข้างใหญ่อ่านง่ายเห็นแล้วน่ากดเล่นมากครับ

สาย USB เชื่อมต่อก็จะมีความยาวที่ 1.8mm บริเวณที่จับ USB ก็จะมีโลโก้ Cougar ติดเอาไว้อีกด้วย

ถ้าหงายท้องก็จะพบกับขาตั้งคีย์บอร์ดด้านบนสามารถพับเก็บได้เหมาะสำหรับเกมเมอร์บางคนที่ไม่ถนัดวางราบกับพื้นแต่ถ้ามองด้านล่างก็จะมีแผ่นกันลื่นติดตั้งเอาไว้ทั้งสองฝั่งป้องกันการไถลหรือลื่นครับ

ปุ่มกดของ Cougar Attack X3 ก็มีความพิเศษตรงที่ปุ่ม F ครับซึ่งนอกจากจะเป็นปุ่ม F1-F12 ทั่วไปแล้วก็มีคำสั่งเสริมเพิ่มเขามาโดยจะต้องกด Fn ตามด้วยปุ่ม F ทั้งหลายโดย F1-F3 จะเป็นการตั้งค่า Macro F4 จะเป็นปุ่มปรับแสง Backlight ส่วน F5-F8 จะเป็นปุ่มปรับแต่งค่า Poling Rate และ F9-F12 จะเกี่ยวกับเรื่องมัลติมีเดียครับ

ถัดจากปุ่ม F ก็จะเป็นปุ่มปรับลดเสียงครับพร้อมกับปุ่ม Print Screen , Scroll Lock และ Pause Break มีปุ่มคำสั่งเสริมถ้าหากกด Fn ด้วยครับอย่าง N-Key Rollover

เมื่อแงะปุ่มกดออกมาก็จะพบกับ Switch จาก Cherry MX ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติของ Mechanical Keyboard ที่จะต้องมีโดยในที่นี้จะเป็น Switch สีน้ำเงินครับ (ตัวคีย์บอร์ดจะมี Switch ให้เลือก 4 สีได้แก่ ดำ , แดง , น้ำตาล , น้ำเงิน)

นอกจากนี้สิ่งที่น่าสนใจอีกก็จะมีปุ่ม Window Lock ด้านล่างตรงกลางและปุ่ม Space Bar ของ Cougar รุ่นนี้ก็จะแตกต่างที่ขนาดครับโดยมันจะมีขนาดที่เล็กกว่าปกติเล็กน้อย

มาดูด้านข้างกันบ้างตัวปุ่มกดได้ถูกจัดเรียงได้อย่างสวยงามบรรจบกันที่ตรงกลางรองรับกับนิ้วมือเวลาพิมพ์และช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการพิมพ์ด้วย

แม้ว่ารูปลักษณ์ของมันจะดูเรียบ ๆ แต่ตัวมันก็มีไฟ Backlight ด้วยครับโดยจะเป็นไฟ LED สีแดงสดสามารถปรับระดับแสงได้มีเอฟเฟ็กต์ให้เล่นอย่าง Breathing Mode ที่จะทำให้แสงส่องสว่างมากขึ้นและค่อย ๆ จางหายไปเหมือนกับการหายใจเข้า-ออกครับ

ซอฟต์แวร์

ในส่วนของซอฟต์แวร์ UIX System นั้นก็สามารถติดตั้งได้ง่าย ๆ ครับส่วนการใช้งานผู้ใช้ก็จะสามารถปรับแต่งปุ่ม Macro ตั้งค่า Profile หรือเปลี่ยน Mode

การตั้งปุ่ม N-Key Rollover กับ Repeat delay

ส่วนการปรับแต่งแสงของคีย์บอร์ดก็สามารถปรับแสงได้ตั้งแต่ 0% , 33% , 66% , 100% หรือจะใช้เป็น Breathing Mode ก็ได้ครับ นอกจากนี้สิ่งที่พิเศษก็คือคีย์บอร์ดตัวนี้ไม่จำเป็นต้องติดตั้งซอฟต์แวร์ก็สามารถใช้งานได้เหมือนกันครับ

ประสิทธิภาพ

ประสิทธิภาพการใช้งานจริงของ Cougar Attack X3 ก็พบว่าใช้ได้ดีถึงดีมากเลยครับด้วย Switch จาก Cherry MX ที่ใช้ทดสอบเป็นสีน้ำเงินก็ใช้แรงกดน้อยถึงปานกลางให้สัมผัสการกด 2 จังหวะและให้เสียงคลิกชัดเจนเวลากดปุ่มทำให้ช่วยได้มากในเรื่องเล่นเกมประเภทไม่ต้องกดปุ่มถี่ ๆ นักและถ้าหากนำไปใช้พิมพ์งานก็ตอบโจทย์ได้ดีเยี่ยม

อย่างไรก็ตามด้วยวัสดุหลักของคีย์บอร์ดตัวนี้เป็นการผสมผสานระหว่างอลูมิเนียมกับพลาสติกจึงทำให้มีน้ำหนักที่เบามากสามารถพกพาได้สะดวกแต่จุดนี้ก็เหมือนว่าจะเป็นดาบสองคมครับเพราะด้วยน้ำหนักที่เบาไปและการดีไซน์ของมันทำให้ Cougar Attack X3 ตัวนี้ดูเป็นคีย์บอร์ดราคาถูกไปในทันทีเมื่อเทียบกับคู่แข่งอาจจะดูไม่ค่อยมีราศีจับเท่าไหร่

สรุป

รวมแล้ว Cougar Attack X3 ก็เป็นคีย์บอร์ดเล่นเกมที่มีดีในเรื่องของโปรแกรมที่ใช้ง่าย การปรับแต่งตั้งค่าบนคีย์บอร์ดทำได้สะดวกหรือการที่ตัวมันไม่จำเป็นต้องติดตั้งซอฟต์แวร์ก็เป็นอะไรที่ยืดหยุ่นสุด ๆ การกดปุ่มให้สัมผัสที่ดีด้วยประโยชน์จาก Cherry MX อีกทั้งราคาของมันที่ $80 หรือ 2,800 บาทก็จัดว่าคุ้มค่าเกินราคาเลยทีเดียว

สำหรับข้อเสียของมันใหญ่ ๆ ก็อยู่ที่รูปลักษณ์ภายนอกที่ดูเรียบง่ายเกินไปนิดและน้ำหนักของมันทำให้ดูเป็นคีย์บอร์ดราคาถูกไปเลยครับ

Specification

Score: 7.5

ที่มา: techpowerup