Logitech ก็เป็นแบรด์ชั้นนำที่โดดเด่นในเรื่องอุปกรณ์เกมมิ่งเกียร์โดยเฉพาะเม้าส์ที่มีผลิตภัณฑ์ออกมามากมายให้ได้ใช้กันซึ่งประสิทธิภาพของมันก็ทำให้นักกีฬา eSports หลายคนที่ใช้คว้าชัยชนะมาแล้วนับไม่ถ้วนแต่ว่าเกมมิ่งเกียร์ของ Logitech ในตอนนี้ที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุดก็คงจะเป็นเม้าส์ที่มีนามว่า Logitech G900 Chaos Spectrum ครับ
Logitech G900 Chaos Spectrum ก็เป็นเม้าส์เกมมิ่งที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่นานนักที่มาพร้อมกับคุณสมบัติที่ตอบโจทย์เกมเมอร์กับค่า DPI ที่สูงจัดถึง 12000 DPI , สามารถเปลี่ยนปุ่มกดเสริมได้ , เป็นเม้าส์ไร้สายหรือใช้สายก็ได้และรูปทรงที่สวยงามเหมาะมือแต่ทราบหรือไม่ว่าเบื้องหลังความอลังการเหล่านี้มันมีที่มาครับซึ่ง Chris Pate ดีไซน์เนอร์ของ Logitech จะมาอธิบายสาเหตุทั้งหมด
คุณ Chris Pate ได้เผยกับ PCGAMER ว่าเขาต้องการยกระดับเม้าส์ไร้สายให้พัฒนามากขึ้นเพื่อตอบรับความต้องการของเกมเมอร์ระดับสูงสามารถนำไปใช้ในการแข่งขัน eSports ได้ฉะนั้นใน G900 เขาจึงได้อัดขุมพลังที่เกมเมอร์ต้องการเช่นน้ำหนักที่เบา , ใช้ได้ทั้งมือซ้าย-มือขวา , ปุ่มกดตอบสนองได้เร็วซึ่งทั้งหมดนี้ต้องใช้เวลาถึง 3 ปีเต็มกว่าจะคลอดมันออกมาเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาได้
สำหรับการเริ่มต้นการสร้างทาง Logitech ก็ได้ขึ้นโครงสร้างคร่าว ๆ เป็นจำนวนมากกว่า 40 แบบเลยทีเดียวเพื่อทดสอบว่ารูปทรงแบบไหนจะเหมาะกับมือของผู้ใช้งานได้ดีที่สุดซึ่งเป้าหมายแรกที่ต้องการก็คือการทำให้เม้าส์มีน้ำหนักที่เบาจากนั้นก็ค่อยให้ความสำคัญเรื่องรูปทรงที่สามารถใช้ได้ทั้งมือซ้ายและมือขวา
“เรามีโมเดลให้เลือกประมาณ 30-40 แบบเลยล่ะแต่ว่าเราจำเป็นต้องเลือกมา 1 แบบเท่านั้น”
จนสุดท้ายพวกเขาก็ได้เลือกแบบมา 1 แบบโดยจะเน้นรูปร่างที่เบาเป็นหลักและมีส่วนเว้าโค้งที่สมส่วนทั้งสองด้านและที่สำคัญเลยก็คือมันเป็นแบบที่ดูแล้วไม่เหมือนกับเม้าส์มีสายอีกด้วยซึ่งก็ตรงกับความต้องการของผู้พัฒนาที่ต้องการสร้างเม้าส์เกมมิ่งไร้สายพอดี
“วิวัฒนาการโมเดล G900 ตั้งแต่เริ่มแรก”
เมื่อเลือกแบบที่ต้องการได้แล้วขั้นตอนถัดไปก็คือการนำมันไปขึ้นรูปเป็นโมเดล 3D โดยหน้าที่นี้ก็จะรับมอบไปยังคุณ Niall White วิศวกรด้าน Mechanical Design โดยเขาได้บอกว่าการทำให้มันมีน้ำหนักเบาและมีประสิทธิภาพในการกดสูงเป็นสิ่งที่ยากมากแต่ก็จะทำมันให้ได้โดยเขาจะต้องขึ้นรูปออกแบบรายละเอียดปุ่มกดพร้อมกับทดสอบที่มีความแตกต่างจากเม้าส์ Logitech ทั่วไปอีกด้วย
“เราต้องทำให้แน่ใจว่ามันอยู่ในขอบเขตที่เหมาะสมแต่ถ้าหากไม่เราก็จะทำให้มันเป็นไปได้ให้ได้ครับ”
ซึ่งการทดสอบของ G900 นี้จะพิเศษกว่าเม้าส์ตัวอื่น ๆ ที่มักจะใช้เวลาทดสอบกันประมาณ 10-15 นาทีเพื่อตรวจสอบว่าปุ่มกดอยู่ถูกตำแหน่งหรือไม่ รูปร่างดีไซน์ใช้งานได้คล่องหรือเปล่าแต่กับเม้าส์ G900 นี้จะเปลี่ยนเป็นการทดสอบโดยผู้ใช้งานจริงจำนวน 10-20 คนต่อสัปดาห์แล้วบันทึกข้อมูลว่าได้ผลตอบรับเป็นอย่างไรบ้างซึ่งการทดสอบนี้ต้องไปทำกันในออฟฟิศที่ Cork ประเทศ Ireland
โดยทีมงานที่ Cork นั้นก็จะมีนักจิตวิทยา Dr. Noirin Curran มาร่วมด้วยครับซึ่งเขาจะมีหน้าที่เก็บรวบรวมข้อมูลฟีดแบ็คจากผู้ทดสอบแล้วนำมาวิเคราะห์ว่าความรู้สึกการสัมผัสของเม้าส์ของผู้ใช้งานเป็นอย่างไร ในส่วนนี้มันก็จะส่งผลต่อการลดน้ำหนักตัวเม้าส์ที่เป็นเป้าหมายหลัก
การลดน้ำหนักเม้าส์ที่ง่ายที่สุดมักจะเป็นการลดจำนวนอุปกรณ์ภายในออกให้ซับซ้อนน้อยลงแต่นั่นใช้ไม่ได้กับ Logitech G900 ครับเพราะภายในของมันจัดเต็มไปด้วยอุปกรณ์หลักแถมมีความซับซ้อนมากกว่าเม้าส์รุ่นอื่นซึ่งการแก้ไขกพวกเขาก็จะใช้วัสดุที่เป็นพลาสติกมีความบางมากระดับ 1.2mm แต่มีความคงทนไปพร้อม ๆ กันและยังเป็นเม้าส์ตัวแรกที่ใช้วัสดุที่บางขนาดนี้อีกด้วย
“เทียบโครงสร้างภายในระหว่าง G900 (ขวา) และ G700 (ซ้าย)”
การที่ทำให้ตัวเม้าส์มีน้ำหนักเบาซึ่งเหลือเพียง 107 กรัมนั้นสิ่งที่ต้องใส่ใจก็คือปุ่มคลิกซ้าย-ขวาด้วย Kevin Forde หนึ่งในทีมวิศวกร Logitech ที่ได้รับหน้าที่นี้เผยว่าการที่ใช้พลาสติกชนิดบางจะทำให้ปุ่มกดสามารถกดได้ง่ายขึ้นไม่จำเป็นต้องใช้แรงมากซึ่งเขาได้เทียบแรงกดราวกับว่าเบาเหมือนกระดาษเลยล่ะครับ
นอกจากวัสดุแล้วภายในปุ่มกดก็สำคัญไม่แพ้กันซึ่งถ้าหากถอดชิ้นส่วนแงะดูภายในก็จะพบว่ามีสปริงและบานพับเดือยโลหะทั้งด้านซ้าย-ขวาข้อดีของมันก็คือจะช่วยลดระยะห่างของปุ่มกับสวิตซ์ส่งสัญญาณจะทำให้เพิ่มความไวในการตอบสนอง นอกจากนี้ยังช่วยให้การเด้งกลับของปุ่มมีความเร็วมากกว่าเดิมเพิ่มความแม่นยำสร้างความมั่นใจแก่ผู้ใช้ด้วยมันจึงเป็นความลับที่เจ๋งมาก ๆ ทีเดียว
“Kevin Forde วิศวกรผู้คิดระบบการคลิกของ G900”
ถัดมาก็จะเป็นในเรื่องของเซ็นเซอร์ที่จัดหนักไม่แพ้กันเพราะพวกเขาได้นำเทคโนโลยีเซ็นเซอร์ที่ว่ากันว่าเป็นเซ็นเซอร์ความแม่นยำมากที่สุดในตอนนี้อีกด้วยกับ PMW-3366 เซ็นเซอร์ Optical ที่สามารถให้ค่า DPI ที่ 12000 DPI ซึ่งการนำเทคโนโลยีสุดล้ำนี้มาใส่ไว้ใน G900 คุณ Francois Morier หัวหน้าฝ่ายพัฒนาเซ็นเซอร์ได้บอกว่ามันเป็นแนวคิดที่เขาคิดไว้เมื่อปี 6 ปีที่แล้วอีกด้วย
“พวกเรามีแนวคิดเรื่องเม้าส์ไร้สายกับเซ็นเซอร์ตัวนี้ตั้งแต่ปี 2010 แล้วนะ” Francois Morier กล่าว
จากแนวคิดเมื่อ 6 ปีที่แล้วบัดนี้ก็ได้กลายเป็นจริงซะทีและการนำเทคโนโลยีเซ็นเซอร์ที่มีค่า DPI 12000 มาใส่ใน G900 ก็เป็นอะไรที่เหมาะเจาะมากเพราะคอนเซ็ปต์ของ G900 คือเม้าส์ไร้สายที่ทรงประสิทธิภาพสูงดังนั้นมันจึงเป็นการผสมผสานที่ลงตัวที่สุดครับ
“Francois Morier หัวหน้าฝ่ายพัฒนาเซ็นเซอร์”
ส่วนถัดไปก็จะเป็นฟีเจอร์ปลีกย่อยอย่างการออกแบบตัวรับสัญญาณไวรเลสหรือช่องเสียบในกรณีต้องการเล่นแบบมีสายก็จะมีช่องเสียบด้านหน้า มีระบบตั้งนาฬิกาสำหรับใช้ในการประหยัดแบตเตอรี่พร้อมทั้งมีระยะเวลาในการชาร์จที่ไวหรือจะเป็นตัว Scroll Wheel ที่ใช้แรงน้อยเลื่อนไปมาได้รวดเร็วก็ทำให้ G900 Chaos Spectrum เป็นเม้าส์เล่นเกมที่มีลักษณะเฉพาะตัวไม่เหมือนใคร
“Logitech G900 Chaos Spectrum”
เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นจนออกมาเป็นรูปร่างหน้าตาสุดท้ายก็จึงเริ่มกระบวนการผลิตนำไปจัดจำหน่ายให้นักเล่นเกมได้ใช้งานกันอย่างแพร่หลาย ก็ต้องเรียกว่ากว่าจะมาเป็นสุดยอดเม้าส์ G900 Chaos Spectrum ได้ต้องผ่านกระบวนการมาหลายขั้นตอนทีเดียวและผลลัพธ์ที่ได้หลังจากรอคอยกันมา 3 ปีก็ถือว่าคุ้มค่าครับเพราะมีรีวิวจากหลาย ๆ สำนักให้คะแนนเม้าส์ตัวนี้ 9-10 คะแนนเต็มเลยล่ะ
สำหรับ Logitech G900 Chaos Spectrum นี้ก็ได้วางจำหน่ายไปแล้วเมื่อเดือนเมษายนโดยจะสนนราคาประเทศไทยอยู่ที่ 5,999 บาทครับ
ที่มา: PCGAMER