สิ่งที่ช่วยเพิ่มอรรถรสในการเล่นเกมอีกอย่างก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องเสียงล่ะครับซึ่งเกมสมัยใหม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้กันมากขึ้นทั้งเสียงดนตรีประกอบหรือเสียงเอฟเฟ็กต์ในเกมจึงทำให้การพัฒนาหูฟังก็ต้องรองรับบรรดาเสียงจำพวกนี้ด้วยและวันนี้ทาง PCGAMER ก็มีหูฟังไร้สายสำหรับเล่นเกมดี ๆ มาให้เป็นทางเลือกซื้อเลือกใช้กันถึง 3 ตัวเลยทีเดียวแต่จะถูกใจหรือไม่มาดูกันครับ
Steelseries Siberia 800
หูฟังเกมมิ่งจากค่าย Steelseries ที่มีความโดดเด่นเรื่องพลังเสียงจาก 7.1 virtual surround ที่จะให้เสียงกระหึ่มคมชัดได้ยินเสียงในเกมทุกประเภท ตัวหูฟังจะมีไมค์ในตัวสามารถพับเก็บได้โดยตัวไมค์ก็จะมีค่า Frequency Response ที่ 100Hz ถึง 10KHz ก็ทำให้เสียงที่พูดออกไปสามารถได้ยินชัดเจนและมีระยะ Wireless ที่มากถึง 12m เลยทีเดียว
การออกแบบของมันก็จะเน้นที่โทนสีดำมีโลโก้แปะตรงหูฟังทำให้ดูดีมีระดับมากครับบริเวณที่ครอบหูและสายคาดศรีษะก็จะบุด้วยผ้านิ่มทำให้ผู้ใช้รู้สึกสบายไม่เจ็บปวดขณะเล่นเกมสามารถรองรับการเล่นเกมได้ในระยะยาว มีแบตเตอรี่ Lithium-Ion 1000mAh สามารถใช้งานได้ 20 ชั่วโมงนำกลับไปชาร์จได้
แต่ทั้งนี้ตัวหูฟังอาจจะมีน้ำหนักมากนิดหน่อยประมาณ 279 กรัม (ไม่รวมแบตเตอรี่) และราคาของมันที่ $263.17 หรือ 9,200 บาท (ราคาจาก Amazon) ก็อาจจะเหมาะกับผู้ใช้ที่มีเงินหนานิดหน่อยแต่ไม่เหมาะกับผู้ใช้งบน้อยครับ
ข้อดี
- ให้เสียงที่สุดยอดกระหึ่มและคมชัด
- อายุการใช้งานแบตเตอรี่ค่อนข้างนาน
- มีวัสดุรองรับให้ผู้ใช้รู้สึกสบาย
ข้อเสีย
- แพงมากเกินไป
Corsair Gaming H2100
ถ้าหากใครที่มองหาหูฟังไร้สายที่มีราคาประหยัดแต่ให้คุณภาพเสียงไม่แพ้หูฟังแพง ๆ H2100 จาก Corsair ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจทีเดียวครับเพราะมีราคาที่ถูกแสนถูกและให้คุณภาพเสียงที่ดีเยี่ยมในระดับหนึ่งที่แม้ว่าอาจจะเทียบไม่ได้กับพวกหูฟังเกมมิ่งระดับไฮเอนด์แต่มันก็ดูดีกว่าหูฟังทั่วไปเยอะพอสมควร
นอกจากนี้สิ่งที่ Corsair Gaming H2100 โดดเด่นขึ้นไปอีกก็คือการดีไซน์สุดล้ำใส่แล้วเท่จนคนต้องหันมองแม้ว่ามันจะเปิดตัวมาหลายปีแล้วแต่รูปทรงของมันก็ยังดูทันสมัยอยู่ดี มีวัสดุทำจากพลาสติกผสมกับอลูมีเนียมเบาเลยทำให้มีน้ำหนักที่เบาพกพาง่าย บริเวณที่ครอบหูออกแบบมาให้รองรับกับใบหูทุกขนาดและมีการออกแบบตามหลักสรีระศาสตร์โดยเฉพาะ
ตัวหูฟังจะมี Wireless USB เป็นตัวเชื่อมต่อ แบตเตอรี่มีอายุการใช้งานประมาณ 10 ชั่วโมงและราคาของมันที่ $99.99 หรือ 3,500 บาท (อิงราคาจาก Amazon) เท่านั้นจึงเหมาะสำหรับเกมเมอร์สายประหยัดและอยากดูดีเวลาสวมใส่จึงอาจจะเรียกว่าของถูกและดียังมีอยู่จริงครับ
ข้อดี
- มีการออกแบบที่สวยงาม
- มีราคาถูกมาก
- ผลิตด้วยวัสดุคุณภาพสูง
ข้อเสีย
- ให้พลังเสียงด้อยกว่าหูฟังตระกูล H Series ของ Steelseries
Turtle Beach Ear Force Z300
สำหรับคนที่คิดว่าหูฟังจาก Corsair ด้านบนยังไม่ตอบโจทย์นักก็ขอให้ลองดูหูฟังจาก Turtle Beach กันหน่อยที่มาในรุ่น Z300 ที่มากับพลังเสียงของ 7.1 Dolby DTX Surround ที่จะให้เสียงกระหึ่มรอบทิศทางโดยเฉพาะเมื่อเล่นเกมแนวสงครามจะรู้สึกเหมือนได้อยู่ในสมรภูมิรบจริง มี USB Wireless 5GHz แถมยังสามารถรองรับกับสมาร์ทโฟนใช้พูดคุยหรือใช้ในเชิงมัลติมีเดียก็ได้
การออกแบบของ Turtle Beach Ear Force Z300 ก็จะเป็นส่วนผสมของความสวยงามและเน้นใช้งานด้วยนั่นก็คือตัวหูฟังมีการออกแบบที่สวยงามใช้โทนสีดำเป็นหลักที่ครอบใบหูและที่คาดศรีษะมีความนิ่มนวลและบริเวณหูฟังจะมีปุ่มกดสำหรับอำนวยความสะดวกเช่นลดเสียง Chat หรือเสียงในเกม , เปิด Bluetooth (รองรับ Bluetooth) เป็นต้น
นอกจากนี้ในส่วนฟีเจอร์อื่น ๆ ที่น่าสนใจก็จะมีแบตเตอรี่ที่มีระยะนานกว่า Corsair H2100 โดยของ Z300 จะมีระยะการใช้งานถึง 15 ชั่วโมง ก้านไมค์ปรับขึ้น-ลงได้สามารถใช้กับโปรแกรมชื่อดังได้มากมายเช่น Skype , Teamspeak , Google+ Hangout ตัวไมค์จะให้เสียงที่คมชัดและสามารถปรับแต่ง Mic Boom ได้ด้วยครับ
ส่วนราคาของมันก็จะอยู่ในเกณฑ์กลาง ๆ ครับที่ $164.99 หรือ 5,800 บาท (อิงจาก Amazon) ก็เหมาะสำหรับคนที่เดินสายกลางไม่อยากเสียเงินเยอะกับ SteelSeries และอยากได้คุณภาพเสียงที่ดีกว่า Corsair H2100 รวมถึงผู้ใช้ที่ต้องการความบันเทิงทุกรูปแบบด้วยซึ่ง Turtle Beach Ear Force Z300 ตอบสนองให้ได้ครับ
ข้อดี
- ใช้วัสดุที่มีคุณภาพ
- มีขุมกำลังเสียงแบบ Dolby DTX ให้เสียงรอบทิศทาง
- รองรับ Bluetooth
ข้อเสีย
- การสวมใส่มีความสบายน้อยกว่า SteelSeries H Series
- มีระยะ Wireless ที่สั้น
เรียกว่าหูฟังทั้ง 3 นี้ก็มีดีกันคนละแบบเลยครับใครถูกใจหูฟังตัวไหนก็ไปจัดกันได้หรือถ้าหากมีหูฟังเจ๋ง ๆ นอกเหนือจากนี้ก็แนะนำกันมาได้เลยนะครับ
ที่มา: PCGAMER