ในการเล่นเกมออนไลน์หรือเกมที่ต้องเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตก็อาจจะประสบปัญหาเรื่องสัญญาณขาดหายหรือความแรงของสัญญาณซึ่งปัญหาพวกนี้มักพบได้ในเราเตอร์ธรรมดาทั่วไปและอาจจะไม่เป็นปัญหามากนักสำหรับคนที่ไม่ซีเรียสเรื่องแต่สำหรับผู้เล่นบางกลุ่มที่ค่อนข้างจริงจังกับเรื่องแบบนี้การใช้เราเตอร์ธรรมดาก็ดูจะไม่เหมาะเท่าไหร่นักฉะนั้นจึงเกิดสิ่งที่เรียกว่าเราเตอร์เกมมิ่งนั่นเอง
ส่วนเราเตอร์เกมมิ่งนั้นมันก็สามารถแบ่งได้เป็นหลายรุ่นหลายยี่ห้อไปอีกจนเลือกกันไม่ถูกว่าอันไหนดีที่สุดแต่ในคราวนี้ก็มีทางเลือกจาก PCGAMER มาแนะนำเป็นตัวช่วยให้เพื่อน ๆ ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นครับกับเราเตอร์เกมมิ่งตัวเด็ดที่คัดมาแล้ว 3 ชิ้นด้วยกันแต่จะมีอะไรกันบ้างนั้นมาดูกันเลยครับ
Netgear Nighthawk X4S
เราเตอร์จาก Netgear รุ่น Nighthawk ตัวนี้ก็จะมีรูปทรงที่ดุดันเป็นทรงนูนออกแบบด้วยโทนสีเทา-ดำอ้างอิงการออกแบบจากเครื่องบินรบ Lockheed F-117 Nighthawk ตามชื่อ นอกจากนี้ตัวมันก็พกพาเสาอากาศ 4 แท่งมีสัดส่อนที่ 11.22 x 7.26 x 1.97 นิ้ว น้ำหนัก 0.84 กิโลกรัม มาพร้อมกับ 1.7GHz Dual-core processor มี Memory ที่ 128MB of flash และ 512MB of RAM
เป็นเราเตอร์แบบ Wireless มีพอร์ตเชื่อมต่อถึง 5 ช่อง (1 WAN, 4 LAN) ช่อง USB 3.0 2 ช่องและ eSATA พร้อมไฟ LED ส่องสว่างบ่งบอกสถานะ มีอัตราการรับส่งข้อมูลด้วยความเร็วสูงสุดถึง 2.53Gbps สามารถรองรับการเชื่อมต่อด้วยความเร็วสูงสุด800Mbps ที่คลื่น 2.4 GHz และรองรับการเชื่อมต่อด้วยความเร็วสูงสุด 1733Mbps ที่คลื่น 5GHz
ด้วยความเร็วที่สูงขนาดนี้และมากกว่าเราเตอร์รุ่นเดียวกันอีกก็ทำให้เหมาะอย่างยิ่งแก่การเล่นเกมในระยะเวลานาน ๆ และมีเทคโนโลยี MU-MIMO สำหรับลดอาการกระตุกหรือทำให้การส่งข้อมูลทำได้ราบรื่นหรือตัวซอฟต์แวร์ Netgear Genie ก็รองรับได้ทั้ง PC , สมาร์ทโฟน , แท็บเล็ตมีรายละเอียดที่เข้าใจง่ายมือใหม่ก็ใช้ได้มือเก๋าก็ใช้ดี
ดังนั้น Netgear Nighthawk X4S จึงเหมาะกับผู้เล่นทุกประเภททั้งมือเก่าหรือมือหใม่ที่ชอบเล่นเกมที่เชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตและต้องการประสิทธิภาพการใช้งานที่สูงมีราคาอยู่ที่ 284 ยูโร หรือ 11,000 บาทครับ
ข้อดี
- มีความสเถียรสูง , ให้ระยะกว้าง
- ให้ความเร็วสูงมากกว่าเราเตอร์ในรุ่นเดียวกัน
- มีพอร์ต USB 3.0 และไฟ LED
ข้อเสีย
- ไม่มีอุปกรณ์สำหรับติดตั้งบนกำแพง
D-Link DIR-879 EXO
เราเตอร์จาก D-Link ที่มาพร้อมกับการรองรับการเชื่อมต่อด้วยความเร็วสูงสุด 600Mbps ที่ 2.4GHz และรองรับการเชื่อมต่อด้วยความเร็วสูงสุด 1300Mbps ที่ 5GHz มี LAN Port ให้มาถึง 4 พอร์ตรองรับกับความเร็วที่ 10/100/1000Mbps และ WAN อีก 1 สำหรับเชื่อมต่อโมเด็ม
การออกแบบภายนอกก็มีความทันสมัยโมเดิร์นมาก ๆ ด้วยรุปทรงแบบเหลี่ยมมีนูนขึ้นตรงกลางลงสีด้วยโทนส้ม-ดำเป็น เราเตอร์แบบ Wi-fi 802.11ac ขับเคลื่อนด้วย Dual-core processor 1GHz ใช้วัสดุทำจากพลาสติกมีขนาดรูปร่างที่ 7.9 x 9.5 x 3.5 นิ้ว พร้อมกับมีที่ยึดสำหรับติดตั้งบนกำแพงได้ด้วยลดปัญหาเรื่องการกินเนื้อที่
ส่วนซอฟต์แวร์ SmartConnect ก็ออกแบบอย่างเรียบง่ายสะอาดตาสามารถปรับแต่งค่าสถานะได้ง่าย นอกจากนี้ในส่วนของราคาของมันก็จัดว่าถูกทีเดียวครับในราคาเพียง $149.95 หรือ 5,200 บาทโดยประมาณและเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพที่ได้รับแล้วก็ถือว่าคุ้มสุด ๆ เหมาะกับเกมเมอร์สายประหยัดงบน้อยครับ
ข้อดี
- ราคาถูก
- ติดตั้งบนกำแพงได้
- มีการเชื่อมต่อค่อนข้างคงที่
ข้อเสีย
- มีความเร็วต่ำเมื่อเทียบกับรุ่นเดียวกัน
- ไม่มีไฟตรงช่อง LAN Port
ASUS RT-AC5300
สุดท้ายกับ ASUS RT-AC5300 ที่ให้ความเร็วการเชื่อมต่อที่ 1000Mbps บนคลื่น 2.4GHz และ 2167Mbps บนคลื่น 5GHz พร้อมด้วย Dual core processor 1.4GHz มี Memory ที่ 512MB of RAM และ 128MB of flash มีช่อง Gigabit LAN port 4 ช่อง และ USB อีก 2 ช่องโดยหนึ่งในนั้นเป็นช่อง USB 3.0 และมีปุ่มควบคุม Wifi , WPS , LED อยู่ด้านข้าง
Asus RT-AC5300 เป็นเราเตอร์แบบ 3×3 มีเทคโนโลยี MU-MIMO ที่จะช่วยในเรื่องความไหลลื่นลดอาการกระตุก ส่วนทางด้านการออกแบบจะเน้นในด้านความทันสมัยมีรูปทรงล้ำอนาคตตกแต่งด้วยโทนสีเทาและมีลายสีส้มสลับด้านข้าง มีเสา 8 ต้นล้อมรอบให้ความรู้สึกดุดันทรงพลังทั้งรูปร่างและสเปค
ส่วนตัวซอฟต์แวร์ก็จะมีลูกเล่นให้ปรับแต่งกันเพียบโดยเฉพาะฟีงค์ชั่น Game Boost ที่ตอบโจทย์คอเกมมากเพราะจะช่วยรีดประสิทธิภาพของเราเตอร์ให้เต็มที่สามารถเล่นเกมได้ลื่นไหลไร้อาการกระตุก ส่วนอื่น ๆ ก็จะมีให้ปรับแต่งมากมายอย่าง Adaptive QoS หรือ AiCloud 2.0 เป็นต้น
ด้วยความแรงของมันเลยทำให้ AC5300 ตัวนี้เป็นเราเตอร์เกมมิ่งระดับไฮเอนด์สุด ๆ และราคาของมันก็เช่นกันที่ $383 หรือ 13,400 บาทก็จัดว่าแรงใช้ได้จึงเหมาะกับเกมเมอร์ที่กระเป๋าหนักและต้องการทุกอย่างครบครัน Asus RT-AC5300 สนองให้ได้ทุกอย่างครับ
ข้อดี
- มีดีไซน์ที่สวยงามเด่นเป็นเอกลักษณ์
- ซอฟต์แวร์มีลูกเล่นเยอะมากยืดหยุ่นสูง
ข้อเสีย
- มีช่อง USB 3.0 ช่องเดียว
- มีขนาดใหญ่มากเกินไป
- ไม่สามารถติดตั้งบนกำแพงได้
ทั้งหมดนี้ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกดี ๆ ในการเลือกซื้อเราเตอร์นะครับถูกใจตัวไหนจัดไปได้เลย
ที่มา: PCGAMER