ต้องถือว่าเป็นการเปิดซีรีส์ใหม่สำหรับเมนบอร์ดในตระกูล Hyper จากทาง ASRock ที่เริ่มเผยโฉมมาให้เห็นช่วง Computex 2016 ที่ผ่านมา กับดีไซน์ที่ดูโดดเด่นและแปลกตา ซึ่งทาง ASRock ตั้งใจให้เป็นเมนบอร์ดสำหรับกลุ่มผู้ใช้ที่ต้องการฟีเจอร์และศักยภาพในการทำงานมากกว่าเดิม ดูได้จากการเสริมฟังก์ชั่นการทำงานในส่วนต่างๆ เข้ามามากมาย ทั้งในเรื่องของภาคจ่ายไฟขนาดใหญ่ขึ้น สนับสนุนอุปกรณ์ต่อพ่วงความเร็วสูงและเพิ่มของแต่งสวยงามเข้าไป ทำให้ดูแปลกตาไปจากเดิมมากทีเดียว
ASRock H170 Pro4/ Hyper มาพร้อมการออกแบบเมนบอร์ดแผงวงจรสีดำแซฟไฟร์ และใช้ส่วนประกอบอื่นๆ ที่เป็นสีขาว ซึ่งดูตัดกันอย่างสิ้นเชิง โทนนี้ดูคล้ายๆ กับเมนบอร์ด ASRock Taichi ที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่นานนี้ ดูเคร่งขรึมจริงจังมากขึ้น ชิปเซ็ต H170 มาภายใต้ซิงก์ระบายความร้อนขนาดใหญ่ พร้อมครีบระบายความร้อน อยู่ทางมุมล่างซ้ายของเมนบอร์ด และซิงก์ขนาดใหญ่ ที่ช่วยระบายความร้อนให้กับภาคจ่ายไฟ 10-phase และครอบพลาสติกปิดพาแนลด้านหลังสีขาวขนาดใหญ่ ที่เป็นแนวของ ASRock ทำมาให้บนเมนบอร์ดระดับเกมมิ่งหลายรุ่น ซึ่งส่วนหนึ่งก็ช่วยในการระบายความร้อนได้ไปพร้อมๆ กับความสวยงาม อย่างไรก็ดีความโดดเด่นเหล่านี้ ยังไม่เท่ากับฟีเจอร์ต่างๆ ที่เพิ่มเติมเข้ามา ไม่ว่าจะเป็น Hyper BCLK Engine หรือ DDR4 Non-Z OC และ Ultra M.2 ที่ตอบโจทย์การใช้งานในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี
Specification
- ASRock Super Alloy
- Supports 6th Generation Intel® Core™ Processors (Socket 1151)
- Digi Power, 10 Power Phase Design
- Supports Dual Channel DDR4 2133, DDR4 Non-Z OC
- Hyper BCLK Engine Integrated
- 2 PCIe 3.0 x16, 3 PCIe 3.0 x1
- AMD Quad CrossFireX™, CrossFireX™
- Graphics Output Options: DVI-D, HDMI
- 7.1 CH HD Audio (Realtek ALC892 Audio Codec), ELNA Audio Caps
- 1 SATA Express, 6 SATA3, 1 Ultra M.2 (PCIe Gen3 x4 & SATA3)
- 8 USB 3.0 (2 Front, 6 Rear)
Feature
ฟีเจอร์บนเมนบอร์ด Hyper Series รุ่นนี้ ยังคงจัดเต็มมาเช่นเคย โดยบางฟีเจอร์นั้นช่วยเสริมประสิทธิภาพการใช้งานเมนบอร์ดได้ดียิ่งขึ้น เช่น DDR4 Non-Z OC ที่ช่วยในการปรับสัญญาณนาฬิกาของแรมให้สูงกว่าเดิม ทดแทนข้อจำกัดของ H170 หรือจะเป็นเรื่องของการสนับสนุน Ultra M.2 สำหรับคนที่ต้องการความแรงในการใช้งานร่วมกับ SSD ในแบบ M.2 ที่มีความเร็วสูงขึ้นระดับ 1000MB/s เลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีลูกเล่นที่น่าสนใจอีกมากมาย ที่เติมเต็มการทำงานและการเล่นเกมได้เป็นอย่างดี
แกะกล่อง
หน้าตาของกล่องแปลกตาออกไปจากเดิม เพราะส่วนใหญ่เราจะคุ้นเคยกันบนกล่องสีแดง-ดำ ที่ดูเป็นเกมเมอร์ เช่นในซีรีส์ Fatal1ty หรือจะเป็น Performance ก็ตาม แต่สำหรับ Hyper มาในภาพของเทคโนโลยีอย่างชัดเจน ส่วนหนึ่งน่าจะต้องการสื่อสารในเรื่องของฟีเจอร์ใหม่ที่ถูกเสริมเข้ามาบนเมนบอร์ด
อุปกรณ์ที่มีมาในกล่อง ASRock H170 Pro4/ Hyper ยังคงเป็นรูปแบบเดียวกันกับเมนบอร์ดในระดับเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น คู่มือการติดตั้ง, แผ่นไดรเวอร์, Back panel, SATA cable และน็อตยึด Ultra M.2
หน้าตาของเมนบอร์ดและกล่องที่ดูแปลกตาไปจากเดิมอยู่ไม่น้อย แต่ก็น่าใช้ทีเดียว ยิ่งนำมาใส่ในเคสสีขาว ด้านในสีดำ จัดแสงดีๆ น่าจะช่วยให้น่าใช้ขึ้นอีกเยอะ
การออกแบบและฟังก์ชั่นการใช้งาน
บริเวณโดยรอบของซ็อกเก็ต LGA1151 สำหรับซีพียูอินเทลรุ่นใหม่ Skylake ที่ล้อมรอบไปด้วยภาคจ่ายไฟ 10-phase และซิงก์ขนาดใหญ่ที่ช่วยในการระบายความร้อน รวมถึงฝาครอบพาแนลด้านหลังสีขาว ทำให้ตัวเมนบอร์ดโดดเด่นยิ่งขึ้น อย่างไรก็ดี ถ้ามีซิงก์ขนาดใหญ่ติดตั้งลงไป อาจจะต้องติดตั้งจากข้างนอกให้ดีเสียก่อน เพราะเมื่อลงเคสไปแล้ว จะขยับยาก ด้วยพื้นที่ที่แคบลงนั่นเอง
มองมุมกว้างจะเห็นได้ว่า ASRock เลือกจัดสเตปการวางชิปและซิงก์ไล่ลำดับเอาไว้ เพื่อให้มีพื้นที่สำหรับการขยับมือได้บ้างในการติดตั้ง
การใช้คาปาซิเตอร์แบบคุณภาพสูง ทำให้มั่นใจได้เรื่องเสถียรภาพในการใช้งาน รวมถึงชุดเก็บประจุเหล่านี้ ยังมีอายุการใช้งานมากขึ้นกว่าเดิม และรองรับแรงดันไฟได้ดีขึ้น พื้นที่บนบอร์ดบางส่วน ยังถูกคลุมด้วยชุดระบายความร้อนสำหรับชิป Sound controller อีกด้วย
มาที่มุมล่างกันบ้าง จะเห็นว่าแผงด้านล่างของเมนบอร์ดนี้ ถูกจัดวางคอนเน็กเตอร์ต่างๆ เอาไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น USB front panel, HD Sound, panel control มีอยู่อย่างครบครัน
สล็อตสำหรับกราฟฟิกการ์ดเป็นแบบ PCI-Express x16 จำนวน 2 สล็อต รองรับ AMD CrossFireX
อีกมุมของสล็อต PCI-Express บนเมนบอร์ด จะเห็นได้ว่า มีให้เลือกใช้อยู่หลายแบบ ใครที่มี Expansion card อื่นๆ ก็นำมาใช้ได้เช่นกัน
เมนบอร์ดรุ่นนี้รองรับแรม DDR4 2133 ตามมาตรฐาน สูงสุดที่ 64GB ซึ่งต้องถือว่าน่าจะเพียงพอต่อการใช้งานในปัจจุบัน แม้ว่าแรม DDR4 จะลดราคาลงมามากแล้วก็ตาม เชื่อว่า 16GB – 32GB ยังเป็นความจุที่บางคนต้องการ ก็ยังใช้บนเมนบอร์ดนี้ได้เช่นกัน
พอร์ต SATA พื้นฐานสำหรับอุปกรณ์ Storage มีมาให้จำนวน 6 พอร์ตด้วยกัน ซึ่งนับรวม SATA Express เข้าไปแล้ว เป็นจำนวนมาตรฐานของเมนบอร์ดทั่วไป
ระหว่างกลางของสล็อต PCI-Express ทั้งคู่ เป็นพื้นที่สำหรับติดตั้ง Ultra M.2 ที่เป็น SSD ความเร็วสูง สำหรับคนที่ต้องการประสิทธิภาพในการทำงานที่ดียิ่งขึ้น รองรับโมดูล 2230/2242/2260/2280/22110 M.2 SATA3 6.0 Gb/s และ M.2 PCI Express module up to Gen3 x4 (32 Gb/s)
Back panel มีให้เพียงพอต่อการใช้งานพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็น DVI, HDMI สำหรับพอร์ตการแสดงผล และ USB 3.0 รวมถึง Audio jack อาจจะดูน้อยไปบ้าง แต่ถ้าต้องการใช้มากกว่านี้ อาจจะต้องพึ่งพาการต่อพ่วงบริเวณ Front panel ของเคสแทน
Conclusion
ในแง่ของการใช้งานคงต้องบอกว่า หากเป็นการใช้งานพื้นฐาน H170 ก็ยังเติมเต็มการทำงานให้กับกลุ่มผู้ใช้ได้ในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็น การใช้งานในสำนักงาน เกมเมอร์พื้นฐาน และผู้ใช้ทั่วไป แต่สิ่งที่ทำให้เมนบอร์ดรุ่นนี้น่าใช้มากขึ้นก็คือ การเติมฟีเจอร์ให้กับผู้ใช้ระดับกลางและระดับล่าง เพื่อให้เกิดความยืดหยุ่นในการใช้งานมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การออกแบบภาคจ่ายไฟ 10-phase หรือการนำเอา Nichicon 12K Platinum Caps มาใช้ ทำให้ผู้ใช้อุ่นใจในการใช้งานแบบยาวๆ ทั้งในด้านของการจ่ายไฟที่เสถียรและรองรับแรงดันไฟได้ดี ใช้งานได้ยาวนานขึ้น นอกจากนี้การเสริมเอา Ultra M.2 เข้ามา ก็ยังทำให้กลุ่มของผู้ใช้ที่ต้องการระบบ Storage ที่มีประสิทธิภาพ เช่น ในงานกราฟฟิก งานวีดีโอหรือเล่นเกม สามารถอัพเกรดได้ง่ายกว่าเดิมและคุ้มค่า ไม่นับรวมถึงฟีเจอร์พื้นฐานอย่าง SuperAlloy ที่หลายคนคุ้นเคยกันดี
ต้องถือว่า ASRock H170 Pro4/ Hyper เป็นเมนบอร์ดในซีรีส์ใหม่ที่ถูกเติมความสามารถที่สำคัญเข้ามาในไลน์สินค้าที่เป็นเมนบอร์ดตลาดกลาง ลดช่องว่างของตลาดเมนบอร์ดบนและกลางได้กระชับยิ่งขึ้น ซึ่งถ้าใครต้องเน้นฟีเจอร์ในการทำงานหรือเล่นเกม พร้อมใช้ซีพียูแรงๆ แต่ไม่ได้สนใจเรื่องโอเวอร์คล็อกมากนัก เมนบอร์ดรุ่นนี้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่คุณจะต้องประทับใจ
จุดเด่น
- ออกแบบเมนบอร์ดได้สวยงามแปลกตายิ่งขึ้น
- ใส่ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้ดียิ่งขึ้
- ภาคจ่ายไฟระดับ 10-phase และคาปาซิเตอร์คุณภาพสูง
ข้อสังเกต
- มีพอร์ตต่อพ่วงน้อยไป ต้องอาศัยการต่อพ่วงจากพาแนลด้านหน้าเคส
- มีพอร์ตแสดงผลเพียง DVI และ HDMI เท่านั้น
ราคา : ประมาณ 4,190 บาท