เชื่อว่ามีเกมเมอร์ที่เล่นเกม PC หลายคนทีเดียวครับที่ไม่ค่อยถูกโฉลกกับการควบคุมด้วยคีย์บอร์ดและเม้าส์สักเท่าไหร่แต่จะทำได้ดีกับการใช้จอยคอนโทรลเลอร์มากกว่าและถ้าหากคุณเป็นเกมเมอร์เหล่านั้นก็ถือว่าดีทีเดียวครับเพราะตอนนี้ทาง PCGAMER ได้มีการทดสอบจอยคอนโทรลเลอร์มากมายว่าจะสามารถใช้กับ PC ได้ดีกี่แบบจนสุดท้ายผลก็ลงเอยที่ 4 แบบ 4 สไตล์ด้วยกันครับ
ซึ่งจอยคอนโทรลเลอร์ทั้ง 4 แบบนี้ก็จะสามารถแบ่งเป็นตามการใช้งานได้เช่นจอยที่ครบเครื่องรอบด้าน , จอยราคาถูก หรือจอยควบคุมที่เน้นการดีไซน์ทาง PCGAMER ก็ได้จัดมาให้แล้วและเรามาดูกันว่าจะตรงกับความต้องการของเพื่อน ๆ หรือไม่
PlayStation DualShock 4
ประเดิมกับจอยของค่าย Sony ที่คงไม่ต้องบรรยายสรรพคุณมากมายนักกับรูปทรงภายนอกที่ออกแบบมาให้รับกับมือของผู้เล่นทุกขนาดจับกระชับมือมีแผ่น Touch Screen ที่ใช้งานง่ายหรือจะเป็นพวกปุ่มกดที่ออกแบบมาได้ตรงกับทิศทางของนิ้วมือ ใช้วัสดุที่แข็งแรงทนทานและการควบคุมที่เอื้อต่อการเล่นเกมแนว FPS มาก ๆ อีกด้วย
นอกจากนี้การนำจอยมาใช้กับ PC ก็จำเป็นต้องมีซอฟต์แวร์มารองรับซึ่ง PlayStation DualShock 4 ก็มีโปรแกรมชื่อ DS4Windows ซึ่งการติดตั้งก็ทำได้ไม่ยากครับแต่การเชื่อมต่อนั้นจะต้องใช้ Bluetooth 4.0 ซึ่งผู้เล่นจำเป็นจะต้องมีตัวรับสัญญาณ Bluetooth 4.0 ก่อนถึงจะใช้งานได้ สามารถดูวิธีติดตั้งได้ที่คลิปวีดีโอด้านล่างครับ
รวมแล้วจอยจาก PS4 ชิ้นนี้จะให้ประสิทธิภาพการเล่นเกมได้ดีเยี่ยมมีการออกแบบที่กระชับมือปุ่มกดต่าง ๆ จัดวางในระดับที่นิ้วมือเอื้อมไปถึงหรือตัวคันโยกที่ให้ความนุ่มนวลมีแสงไฟสวยงามแม้ว่าราคาของมันจะถือว่าแพงแต่สิ่งที่ได้รับกลับมาก็ถือว่าคุ้มค่าครับดังนั้นจึงเหมาะกับเกมเมอร์ที่ต้องการความสมบูรณ์แบบในการควบคุมโดยเฉพาะเกม FPS ที่จอยตัวนี้ทำได้ดีและไม่เกี่ยงเรื่องราคา
PlayStation DualShock 4 จะมีราคาที่ $47 หรือ 1,650 บาท (อิงราคาจาก Amazon)
ข้อดี
- ปุ่มกด D-Pad ให้ความรู้สึกดีมั่นใจกว่าจอย Xbox
- คันโยกให้ความนุ่มนวล
- มีโครงสร้างที่แข็งแรง
ข้อเสีย
- พบปัญหาเรื่องก้าน Analog เล็กน้อย
- ต้องใช้ซอฟต์แวร์ติดตั้งเพิ่มถ้าจะเล่นบน PC
Xbox 360 Controller
แม้ว่าจอยจากฝั่ง PS4 จะดูดีแค่ไหนแต่ราคาของมันก็แพงเอาเรื่องและสำหรับใครที่ไม่ซีเรียสเรื่องประสิทธิภาพมากขนาดนั้นก็ลองหันมาดูจอยของค่าย Microsoft กันบ้างครับอย่างจอย Xbox 360 ตัวนี้ที่มาพร้อมกับปุ่มกดมาตรฐานที่มีสีสันสดใสปุ่มมาตรฐานทั้ง 4 จะมีลักษณะใสเป็นเงางามแต่ก้าน Analog จะอยู่ด้านบน
การดีไซน์รูปร่างของจอยอาจจะใหญ่กว่าของ DualShock 4 บ้างแต่โดยรวมแล้วก็ไม่ถึงกับขี้เหร่นักแถมความรู้สึกการจับก็กระชับพอ ๆ กันหรือการซัพพอร์ทกับ PC จอยตัวนี้ก็สามารรองรับเกม PC ได้จำนวนมากจึงไม่จำเป็นต้องใช้ซอฟต์แวร์โปรแกรมเสริมเลยและเหนือสิ่งอื่นใดราคาของมันเพียง $26.99 หรือ 947 บาท (อิงราคา Amazon) ก็ยิ่งทำให้จอย Xbox 360 มีความน่าสนใจมากขึ้นอีก
ดังนั้นแล้ว Xbox 360 Controller ก็จะเหมาะกับผู้เล่นที่งบน้อยและไม่ซีเรียสเรื่องการกดปุ่มหรือการควบคุมมากและไม่ต้องการความยุ่งยากในการติดตั้งจอยจาก Microsoft ตัวนี้ตอบโจทย์ให้ได้หมดครับ
ข้อดี
- ราคาถูก
- รองรับกับเกม PC ได้หลายเกม
ข้อเสีย
- ปุ่มกดไม่มีประสิทธิภาพมากนัก
- ตำแหน่งของปุ่มต่าง ๆ ใช้ไม่ถนัด
Xbox Elite
ยังอยู่กับจอยของ Xbox อีกตัวแต่จอยตัวนี้ถูกอัพเกรดให้ดูไฮโซดูแพงขึ้นในชื่อว่า Xbox Elite กับรูปทรงที่สวยงามตกแต่งด้วยโทนสีดำส่วนปุ่มกดต่าง ๆ ก็จะเหมือนกับจอย Xbox เดิมแต่ตรงแป้นจานด้านล่างซ้ายมีการใส่ลวดลายสีเงิน เป็นจอยไร้สายทำให้พกพาสะดวกพร้อมกับวัสดุที่ใช้จะเป็นอลูมิเนียมทั้งหมดทำให้แข็งแกร่งกว่าจอย Xbox ทั่วไป
ส่วนการใช้งานก็ไม่แพ้กันปุ่ม Trigger มีการกดหลายระดับ ก้าน Analog จะเพิ่มความแม่นยำมากขึ้นบวกกับมีปุ่มกดเสริมด้านหลังจอยฝั่งละ 2 เอาไว้เปลี่ยนเกียร์เวลาเล่นเกมแนวแข่งรถและมีปุ่ม D-Pad เสริมที่สามารถถอดเปลี่ยนได้ตามความถนัดของผู้ใช้งานเรียกว่าเต็มไปด้วยประสิทธิภาพและความยืดหยุ่นในจอยอันเดียว
สำหรับราคาก็ Elite ไฮโซเหมือนกันครับโดยจะมีราคาที่ $149 หรือ 5,200 บาท (อิงราคาจาก Amazon) ทำให้ Xbox Elite เหมาะกับเกมเมอร์ที่ชอบดีไซน์จอยสวย ๆ และต้องการประสิทธิภาพไปในตัวและอาจจะพ่วงเป็นเกมเมอร์กระเป๋าหนักด้วยครับ
ข้อดี
- มีรูปร่างสวยงาม ทนทาน
- สามารถถอดเปลี่ยนปุ่มได้ตามถนัด
ข้อเสีย
- มีราคาแพงมากแพงกว่า 3 เท่าของจอย Xbox ปกติ
Steam Controller
มาถึงจอยตัวสุดท้ายจากฝั่ง Valve กับจอยที่จะทำให้ผู้เล่นสามารถควบคุมเหมือนใช้เม้าส์และคีย์บอร์ดเลยล่ะครับด้วย Touch Pad ที่เปรียบเสมือนเม้าส์สามารถลาก หมุน วน ส่วนปุ่มอื่น ๆ ก็จะมีให้มาตามมาตรฐานเช่นปุ่มกด 4 ปุ่ม ปุ่มบังคับทิศทาง ก้าน Analog และที่เพิ่มเข้ามาคือปุ่มด้านหลังสามารถใช้แทนคำสั่งยิงปืนได้ครับ
ถึงดีไซน์ของมันจะดูเทอะทะไปนิดหน่อยหรือด้ามจับที่ใหญ่โตแต่การใช้งานจริงก็ตอบสนองกับเกมแนวต่าง ๆ ได้ดีทีเดียวการกดปุ่มหรือคันโยกมีความแม่นยำรวมทั้งการ Setting ของมันสามารถทำได้อิสระแต่จุดเด่นจริง ๆ ก็จะอยู๋ที่ Touch Pad อยู่นั่นแหละครับเพราะมันสามารถใช้แทนเม้าส์จริงๆ ได้เลยทีเดียว
ฉะนั้นแล้วจึงเหมาะกับผู้เล่นที่ต้องการใช้จอยแต่ให้ความรู้สึกเหมือนใช้เม้าส์และคีย์บอร์ดและต้องการเล่นเกมที่ไม่ได้รองรับกับจอยโดยตรงซึ่ง Steam Controller จะทดแทนในจุดนี้ได้ส่วนทางด้านราคาของมันนั้นก็จะอยู่ที่ $49.99 หรือ 1,755 บาท (อิงราคาจาก Amazon) ก็ถือว่าพอรับได้ครับ
ข้อดี
- มีการใช้งานเหมือนเม้าส์และคีย์บอร์ด
- ปุ่มกดใช้งานได้คล่องตัวตอบสนองได้ดี
ข้อเสีย
- มีรูปร่างที่เทอะทะไม่ถนัดมือ
- ต้องใช้เวลาศึกษาการใช้งานในระยะแรก ๆ
ก็หวังว่าจอยทั้ง 4 แบบนี้จะช่วยให้ตัดสินใจเลือกใช้งานได้ง่ายขึ้นนะครับซึ่งทั้งหมดก็จะมีดีคนละแบบไม่มีใครด้อยกว่าใครครับ
ที่มา: PCGAMER