Connect with us

Hi, what are you looking for?

Other News

[Technology] “Paperlike” … หน้าจอแบบ e-ink ขนาด 13.3 นิ้วตัวแรกของโลก

จริงๆ แล้วหน้าจอแบบ E-ink นั้นไม่ใช่ของใหม่อะไรครับ ถ้าคุณเป็นคนที่นิยมและคุ้นเคยกับการอ่านหนังสือแนว E-book อยู่แล้วหล่ะก็คุณน่าจะคุ้นเคยกับหน้าจอแบบนี้เป็นอย่างดี ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนที่สุด

จริงๆ แล้วหน้าจอแบบ E-ink นั้นไม่ใช่ของใหม่อะไรครับ ถ้าคุณเป็นคนที่นิยมและคุ้นเคยกับการอ่านหนังสือแนว E-book อยู่แล้วหล่ะก็คุณน่าจะคุ้นเคยกับหน้าจอแบบนี้เป็นอย่างดี ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดก็คงหนีไม้พ้น Amazon Kindle หล่ะครับ ประโยชน์ของหน้าจอแบบ E-Ink นั้นมีหลายอย่างครับไม่ว่าจะเป็นการถนอมสายตาเพราะลักษณะของหน้าจอนั้นไม่ต้องใช้แสงในการส่งเข้าตา(โดยเฉพาะแสงสีฟ้า)

และที่สำคัญที่สุดก็คือประสิทธิภาพในการใช้งานแบตเตอรี่ของมันนั้นก็ดีกว่าหน้าขอแบบปกติทั่วไปด้วยอีกต่างหาก อย่างไรก็ตามแต่ในช่วงที่ผ่านมานั้นหน้าจอแบบ E-Ink นั้นมักจะมีขนาดที่เล็กไม่ใหญ่มากเท่าไรนักจนกระทั่งคุณได้รู้จักกับเจ้า “Paperlike” นี่เข้าให้แหละครับ

Advertisement

Paperlike e-ink PC desktop 13.3 600

“Paperlike” เป็นหน้าจอแบบ E-Ink ที่ถือได้ว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกเพราะขนาดของหน้าจอ “Paperlike” นั้นอยู่ที่ 13.3 นิ้วสร้างสรรค์โดยบริษัทจากประเทศจีนนาม Dasung ซึ่งทางบริษัทนั้นได้มีการเปิดตัวหน้าจอ “Paperlike” เป็นครั้งแรกในโลกในงาน CES 2016 ซึ่งจัดขึ้นในเดือนมกราคมที่ผ่านมาครับ โดยความที่ Dasung นั้นไม่ใช่บริษัทที่มีเงินทุนหนาอะไรมากเท่าไรนักแต่พวกเขามีความพยายามเป็นอย่างมากในการที่จะทำให้ “Paperlike” สามารถเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถวางจำหน่ายได้จริงพวกเขาจึงได้นำ “Paperlike” ขึ้นบนเว็บไซต์ร่วมทุนอย่าง Indiegogo ครับ

แน่นอนหล่ะครับว่าหน้าจอ “Paperlike” นั้นเหมาะมากเลยทีเดียวกับผู้ที่ทำงานจ้องอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นระยะเวลานานๆ จากเหตุผลที่บอกไปแล้วว่ามันทั้งถนอมสายตาและก็ประหยัดพลังงานในการใช้งานด้วย ทั้งนี้ “Paperlike” นั้นจะใช้วิธีการเชื่อมต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์โดยผ่านพอร์ท micro USB โดยสามารถที่จะทำงานได้ทั้งโหมดการคัดลอกหน้าจอมาจากหน้าจอหลักหรือจะใช้เป็นหน้าจอเสริมสำหรับการทำงานอย่างอื่นก็ได้ ข้อเสียอย่างเดียวของ “Paperlike” ณ เวลานี้ก็คือมันค่อนข้างที่จะใช้เวลาในการรันหน้าจอนานพอสมควรเพื่อที่จะแสดงผลสิ่งที่คุณต้องการให้ครบถ้วนและมันคงไม่เหมาะเป็นอย่างยิ่งกับผู้ใช้งานที่เน้นเรื่องงานภาพที่ต้องอากศัยความถูกต้องของการแสดงสีเป็นหลัก

ทว่าถ้าคุณไม่ได้จัดอยู่ในกลุ่มใช้งานหน้าจอที่บอกไปตามข้างต้นแล้วหล่ะก็ “Paperlike” นั้นถือว่าน่าสนใจมากเลยทีเดียวกับการถนอมสายตาครับ น่าเสียดายที่ “Paperlike” นั้นมีราคาสำหรับผู้ที่ร่วมสนับสนุนในช่วงแรกเพียงแค่ $699 หรือประมาณ 25,170 บาทซึ่งโปรโมชันนี้ได้หมดลงไปแล้ว ณ เวลานี้ราคาต่ำสุดที่คุณจะได้รับ “Paperlike” มาครอบครองอยู่ที่ $799 หรือประมาณ 28,770 บาท โดยทุกราคาการร่วมทุนนั้นจะได้รับ “Paperlike” มาใช้งาน(หากไม่มีอะไรผิดพลาด) ในช่วงเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้กันครับ

ที่มา : theverge

Click to comment
Advertisement

บทความน่าสนใจ

CONTENT

ในช่วงสามปีหลังมานี้ การพัฒนาและการนำเทคโนโลยีระบบ AI มาใช้มีอัตราการเติบโตขึ้นมาก ทำให้เราได้เห็นทั้งแบรนด์โน้ตบุ๊กและมือถือต่างโฆษณาถึงการนำ AI มาช่วยเสริมการทำงานของเครื่องในหลาย ๆ ด้าน ในบทความนี้จะมาดูกันครับว่าตอนนี้ AI ในโน้ตบุ๊ก มือถือ รวมถึงใน CPU มีไว้ใช้ทำอะไรกันบ้าง Advertisement AI ย่อมาจาก Artificial Intelligence ในคำไทยจะหมายถึงระบบปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งเป็นระบบที่ถูกออกแบบขึ้นมาให้มีการทำงานคล้ายกับสมองมนุษย์ ส่งผลให้ตัวระบบสามารถคิดคำนวณแบบซับซ้อนจากข้อมูลที่รับเข้าไป...

CONTENT

แม้ในตอนนี้ อุปกรณ์เก็บข้อมูลของคอมพิวเตอร์สำหรับการใช้งานทั่วไปจะเปลี่ยนเป็น SSD เกือบจะทั้งหมดแล้วก็ตาม แต่ฮาร์ดดิสก์ (HDD) แบบจานหมุนก็ยังคงเป็นอุปกรณ์ที่ยังมีการพัฒนาอยู่อย่างต่อเนื่อง เพราะยังเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการใช้เก็บข้อมูลปริมาณมาก ด้วยราคาต่อความจุที่ต่ำกว่า SSD ซึ่งจะพบได้มากในกลุ่มของเครื่อง server หรือการใช้งานในระดับ data center ที่ต้องมีการเก็บข้อมูลไว้เป็นจำนวนมาก ซึ่งในปัจจุบันก็มีการเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่อย่าง HAMR ที่คาดกันว่าน่าจะถูกนำมาใส่ไว้ใน HDD จานหมุนที่จะออกสู่ท้องตลาดในปีนี้ด้วย Advertisement แล้วเทคโนโลยีนี้คืออะไร จะมีผลอะไรกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนที่เราใช้กันอยู่บ้าง...

IT NEWS

Geoffrey Hinton หนึ่งในสามของ “เจ้าพ่อแห่ง AI” ที่ได้รับรางวัล Turing Award ประจำปี 2018 จากผลงานที่เกี่ยวข้องกับ AI เผยเหตุผลของการลาออกออกจาก Google ว่ามาจากความขัดแย้งทางผลประโยชน์และความขัดแย้งด้านทัศนติเกี่ยวกับ AI เมื่อตอนที่ Hinton ให้สัมภาษณ์กับ The New York Times เขาได้รับคำถามที่มีการกล่าวอ้างว่าสาเหตุที่เขาลาออกจาก...

Other News

ระบบจดจำใบหน้าคาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่องในฐานะอุตสาหกรรมภายในทศวรรษหน้า ซึ่งคาดว่าตลาดจะมีมูลค่าถึง 3.2พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 98ล้านบาท)

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก