ถ้าพูดถึงเรื่องคอมพิวเตอร์ PC กันแล้วหล่ะก็เชื่อได้เลยครับว่าไม่มีใครไม่เคยได้ยินชื่อของ Microsoft มาก่อน แค่เอาเรื่องความสำเร็จผลิตซอฟต์แวร์ระบบปฎิบัติการแต่เพียงอย่างเดียวนั้น Microsoft ก็กลายเป็นบริษัททางด้านเทคโนโลยีชั้นนำของโลกไปได้อย่างสบายๆ ทว่าเมื่อใดก็ตามที่ Microsoft ก้าวเข้ามาสู่โลกของฮาร์ดแวร์แล้วนั้นดูเหมือนความสำเร็จในเรื่องของซอฟต์แวร์จะไม่ได้ช่วยเหลือให้ทาง Microsoft สามารถที่จะต่อกรกับคู่แข่งได้เลยหล่ะครับ
แล้วยิ่งกับธุรกิจสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่โดยเฉพาะมือถือนั้น Microsoft ล้มไม่เป็นท่ามาหลายต่อหลายครั้งแล้วครับ ถ้าคุณเป็นคนที่ติดตามเรื่องมือถือจาก Microsoft คนหนึ่งหล่ะก็ในปี 2010 น่าจะพอจำได้ว่า Microsoft นั้นมีการเปิดตัวสมาร์ทโฟนระบบปฎิบัติการ Windows Phone ของตัวเองออกมาด้วยกันถึง 2 รุ่น Kin One และ Kin Two ซึ่งเหลวแหลกสิ้นดีทางด้านยอดขายหล่ะครับ(เหลวจนกระทั่ง Microsoft ตัดออกไปจากผลิตภัณฑ์ของตัวเองที่เคยจัดจำหน่ายด้วยซ้ำ)
และในปีที่ผ่านมานั้น CEO ของบริษัทอย่าง Steve Ballmer ได้ทำการเข้าซื้อส่วนผลิตสมาร์ทโฟนจากทาง Nokia เอาไว้ในมือจนทำให้ทาง Microsoft มีส่วนผลิตฮาร์ดแวร์ทางด้านมือถืออย่างเป็นทางการและก็วางจำหน่ายสมาร์ทโฟนระบบปฎิบัติการ Lumia มาโดยตลอด แต่เรื่องของเรื่องนั้นก็คงจะอย่างที่ทุกท่านทราบกันหล่ะครับว่าสมาร์ทโฟนระบบปฎิบัติการ Windows Phone อย่าง Lumia นั้นยอดส่วนแบ่งและยอดขายในตลาดลงลงเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่องจนตอนนี้นั้นมันจะไม่มีที่ยืนในตลาดอีกต่อไปแล้วก็ว่าได้ครับ
สัญญาณของการล่มสลายของสมาร์ทโฟนระบบปฎิบัติการ Windows Phone โดยเฉพาะ Lumia นั้น เริ่มตั้งแต่ช่วงที่มีข่าวว่าทาง Microsoft ขายสิทธิ์ในการผลิตไปให้บริษัทลูกของ Lumia ที่ร่วมกับ Foxconn ในราคา $950 million หรือประมาณ 3.35 หมื่นล้านบาทไทย(ขาดทุนย่อยยับเพราะซื้อมาในหลักพันล้านเหรียญดอลลาร์) แถมด้วยการประกาศปลดพนักงานในฝ่ายพัฒนาและวิจัยสมาร์ทโฟนออกกว่า 1,850 ราย ทำให้เราเห็นได้ครับว่าไม่เพียงเฉพาะเราๆ ท่านๆ เท่านั้นที่รู้ชะตากรรมของ Lumia ทว่า Microsoft เองก็รู้ตัวด้วยเช่นเดียวกัน
ถามว่าทำไม Microsoft ถึงไม่ประสบความสำเร็จในเรื่องของโทรศัพท์มือถือเลยนั้น สาเหตุหนึ่งที่พอจะเชื่อถือได้ก็คือ Microsoft เองไม่ลงทุนลงแรงกับสมาร์ทโฟนมากจนเกินไปครับ คือจริงๆ แล้วก็อาจจะลงทุนแต่เมื่อมาเทียบกับการลงทุนในเรื่องของระบบปฎิบัติการ Windows สำหรับคอมพิวเตอร์ PC แล้วนั้นเรียกได้ว่าเรื่องดังกล่าวนี่เป็นเหมือนแมวกับสิงโตเลยหล่ะครับ การทุ่มกำลังทั้งหมดลงไปลบระบบปฎิบัติการ Windows สำหรับคอมพิวเตอร์ PC นั้นทำให้ Microsoft ได้เห็นผลอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของจำนวนผู้ใช้ที่มากขึ้นเรื่อยๆ การได้รับเสียงตอบรับที่ดี ฯลฯ เอาเป็นว่า Microsoft เองนั้นน่าจะเบาใจสำหรับระบบปฎิบัติการ Windows คอมพิวเตอร PC ได้ได้อีกสักระยะใหญ่ๆ เลยหล่ะครับ
ความล้มเหลวของมือถือระบบปฎิบัติการ Windows Phone ของทาง Microsoft นั้นจะว่าไปแล้วก็เหมือนกับความล้อมเหลวของระบบปฎิบัติการคอมพิวเตอร์ PC อย่าง Microsoft Vista ที่เคยเกิดขึ้นมาก่อนแล้วครับ ปัญหาที่หนักที่สุดที่ทาง Microsoft กำลังแบกอยู่ ณ เวลานี้ก็คือการที่ Microsoft พยายามที่จะรวมเอาระบบปฎิบัติดการเพียงหนึ่งเดียวเข้าร่วมกันทั้งหมด ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงแล้วตัวแกนหลักของระบบปฎิบัติการยังจะไม่ค่อยสู้ดีเท่าไรนักครับ
ผู้ใช้ระบบปฎิบัติการ Windows 10 หลายๆ ท่านน่าจะเห็นได้ชัดเจนว่าถึงแม้จะมีการส่งอัพเดทแก้ไขข้อผิดพลาดของระบบปฎิบัติการ Windows 10 ออกมาโดยตลอดภายในช่วงเกือบ 1 ปีที่ผ่านมานี้ ทว่าในความเป้นจริงแล้วระบบปฎิบัติการ Windows 10 เองนั้นก็ยังไม่ค่อยจะมีความเสถียรมากนักสักเท่าไรนักแต่ทว่าทาง Microsoft เองก็พยายามที่จะทั้งผลักทั้งดันให้ Windows 10 กลายเป็นระบบปฎิบัติการที่อยู่บนอุปกรณ์ทุกชนิดให้เร็วที่สุดผลเสียที่ได้ก็คือปัญหาใหญ่ที่แก้ยังไงก็แก้ไม่ตกดังนี้ครับ
- ครั้งหนึ่ง Microsoft พยายามที่จะเอาระบบ Live Tile interface ลงไปใช้งานบน Windows Phone 7 ทว่ามันไม่สามารถใช้งานได้จริงและโดนเสียงด่าจากผู้ใช้งานเป็นจำนวนมาก
- ระบบปฎิบัติการ Windows 10 ไม่สามารถที่จะอัพเดทให้กับระบบปฎิบัติการ Windows 8.1 ได้ครบทุกเครื่อง(ในที่นี้พูดถึงเฉพาะ Lumia ด้วยนะครับ) ซึ่งนั่นเป็นอะไรที่เสียคำพูดแบบสุดๆ เนื่องจากว่าในตอนแรกทาง Microsoft ต้องการที่จะให้ Lumia สามารถที่จะใช้งานระบบปฎิบัติการ Windows 10 Mobile ได้ครับ
- ระบบปฎิบัติการ Xbox 10 ที่มีฐานมาจากระบบปฎิบัติการ Windows 10 นั้นถูกเลื่อนแล้วเลื่อนอีกทำให้ผู้ใช้เริ่มเลิกที่จะรอแล้วหล่ะครับ
ก่อนที่ทาง Microsoft จะเปิดตัวระบบปฎิบัติการ Windows Phone 7 นั้นทาง Microsoft เคยผลิตสมาร์ทโฟนระบบปฎิบัติการ Windows ออกมาก่อนถึง 2 รุ่นคือ Kin One และ Two ดังรูป ซึ่งผลตอบรับนั้นเงียบสนิทจนต้องพับโครงการหนีไปอย่างที่บอกครับ ปัฐหาของ Kin ทั้ง 2 รุ่นนั้นก็คือมันใช้พื้นฐานระบบปฎิบัติการ Windows CE แทนที่จะเป็น Windows Phone 7 ซึ่งหากจะว่าไปแล้วนั้นในสมัยนั้นระบบปฎิบัติการ Windows Phone 6.5 และ Windows Phone 7 ยังคงพอได้รับความนิยมอยู่มาก(ผมเองยังมีใช้เลยครับ) แต่ด้วยความที่ทาง Microsoft เลือกทางผิดทำให้ตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมาสมาร์ทโฟนระบบปฎิบัติการ Windows Phone ก็มีชื่อเสียงที่ไม่ค่อยจะดีนักครับ
กลับมาดูกับฝั่งแท็บเล็ตอย่างซีรีส์ Surface กันบ้างที่ในปีแรกนั้นทาง Microsoft ต้องการให้ Surface เป็นอุปกรณ์ที่เอาไว้ใช้สำหรับการโชว์ฟีเจอร์ทางด้านแท็บเล็ตใหม่ๆ บนระบบปฎิบัติการ Windows 8 ทว่าก็อย่างที่ทุกท่านทราบกันครับว่ามันล้มไม่เป็นท่าเหมือนเดิมเพราะระบบปฎิบัติการ Windows 8 นั้นได้ทำการนำเสนออะไรที่ใหม่มากๆ ให้กับผู้ใช้โดยที่อยู่ในลักษณะของการยัดเยียดให้ผู้ใช้จำเป็นจะต้องใช้งานมันมากกว่า โชคยังดีที่ระบบปฎิบัติการ Windows 8 นั้นมีให้ใช้งานทั้งบันแท็บเล็ตและคอมพิวเตอร์ PC เลยทำให้ยอดผู้ใช้งานโดยรวมของมันนั้นไม่ได้น้อยมากจนน่าตกใจเท่าไรนัก และจากเหตุผลของ Windows 8 นี้เองแหละครับที่ทำให้ทาง Microsoft หันมาใส่ใจในความต้องการของผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้น
แผนผังการรวมร่างของระบบปฎิบัติการ Windows ในแต่ละช่วงอายุ
ถึงแม้ว่าระบบปฎิบัติการ Windows 10 Mobile จะไม่สามารถนำเอาไปใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนระบบปฎิบัติการ Windows 8 ได้อย่างที่ Microsoft ได้คาดการณ์เอาไว้ อย่างไรก็ตามแต่ดูเหมือนว่า Microsoft จะแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้ค่อนข้างดีซึ่งนั่นก็คือแทนที่จะไปเก็บเงินจากผู้ผลิต(ซึ่งก็ต้องมาเก็บจากผู้ซื้ออย่างเราๆ ท่านๆ อีกต่อ) ในเรื่องของสิทธิ์การใช้งานระบบปฎิบัติการ Windows 10 Mobile
ทว่าทาง Microsoft ก็ได้ปล่อยให้ผู้ผลิตสามารถที่จะนำเอาระบบปฎิบัติการ Windows 10 Mobile ไปใช้บนอุปกรณ์ของตัวเองโดยไม่ต้องเสียค่าสิทธิ์(เหมือนกับ Android) เพื่อที่จะเร่งจำนวนผู้ใช้งานและเป็นการกระตุ้นผู้ผลิตให้หันมาผลิตสมาร์ทโฟนระบบปฎิบัติการ Windows 10 Mobile ให้มากขึ้นแต่จากผลที่เห็นนั้นก็ทำให้รู้ได้ครับว่า Microsoft ทำอะไรสายไปซะแล้ว
กลับมาดูที่ระบบปฎิบัติการที่กำลังมาแรงอย่าง Windows 10 กันบ้างครับ ถ้าถามว่าระบบปฎิบัติการ Windows 10 นั้นจะสามารถที่จะประสบความสำเร็จตามที่ทาง Microsoft ได้คาดหวังเอาไว้หรือไม่นั้นที่จะบอกเราได้ก็คือเรื่องของเวลาหล่ะครับ จุดที่จะบอกเราได้ว่าระบยบปฎิบัติการ Windows 10 บน สมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์อื่นๆ ที่ไม่ใช่คอมพิวเตอร์ PC นั้นจะสามารถไปรอดได้ไหมนั้นก็คือ universal app ที่ทาง Microsoft พยายามที่จะผลักดันอย่างเต็มที่เพราะ universal app นั้นมีประโยชน์ที่จะค่อนข้างมากเนื่องจากนักพัฒนาสามารถที่จะทำการพัฒนาแค่เพียงครั้งเดียวแต่ก็สามารถวางขายแล้วให้ผู้ใช้ใอุปกรณ์ระบบปฎิบัติการ Windows 10 ต่างๆ เลือกซื้อได้ทั้งหมดครับ(แต่จะมีนักพัฒนาพัฒนาให้รึเปล่านี่ก็อีกเรื่องนะครับ)
ถ้าจะให้ตอบว่าสรุปแล้ว Microsoft จะทิ้งวงการฮาร์ดแวร์สมาร์ทโฟนไปเลยหรือไม่ก็เป็นเรื่องอะไรที่ตอบยากเช่นเดียวกันครับ เมื่อปี 2015 ที่ผ่านมานั้นทาง CEO ของบริษัทเองอย่าง Satya Nadella ได้ออกมาบอกเอาไว้ว่า Microsoft จะผลิตสมาร์ทโฟนระบบปฎิบัติการ Windows 10 Mobile ออกมาเพียงแค่ 3 รุ่นต่อปีเท่านั้นโดยแต่ระรุ่นจะอยู่ในแต่ละช่วงของตลาด ทว่าเมื่อไม่นานมานี้ตามข่าวลือนั้นก็เปลี่ยนไปหมดจนทำให้แฟนๆ ระดับบนยังต้องลุ้นตัวไม่ติดเก้าอี้เลยครับว่าเจ้า Surface Phone สมาร์ทโฟนระบบปฎิบัติการ Windows 10 Mobile รุ่นระดับบนนั้นจะมีออกมาให้ใช้จริงๆ หรือไม่
หมายเหตุ – หลายๆ ฟีเจอร์ที่ Microsoft ลงทุนไปมากบนระบบปฎิบัติการ Windows 10 Mobile ยกตัวอย่างเช่น Continuum สามารถที่จะใช้งานได้ดีมากเลยทีเดียวครับ(ฟีเจอร์ที่ช่วยแปลงร่างสมาร์ทโฟนให้กลายเป็นคอมพิวเตอร์ PC เต็มรูปแบบ) แต่สิ่งที่จะช่วยให้มันสามารถที่จะใช้มันได้เต็มที่เต็มความสามารถมากที่สุดนั้นก็คือ universal apps แบบใหม่ของทาง Microsoft ที่จะต้องรองรับการใช้งานในรูปแบบนี้ให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
หมายเหตุ 2 – หลายๆ ข่าวลือก่อนหน้านี้บอกเอาไว้ว่า Surface Phone จะใช้ชิปเซ็ทของทาง Intel ในรุ่น Atom เนื่องจากว่ามีความสามารถในเรื่องของชุดคำสั่งสถาปัตยกรรม x86 มากกว่าชิปเซ็ทรุ่นอื่นๆ ทว่าจากข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้ว่า Intel ได้ยุติการผลิตชิปเซ็ท Atom ไปเนื่องจากว่าไม่คุ้มทุนนั้นทำให้อนาคตของ Surface Phone ยังคงมืดมนอยู่ต่อไปครับ
อีกหนึ่งความพยายามในการกลับเข้าสู่อุปกรณ์เคลื่อนที่ขนาดเล็กของทาง Microsoft ก็คือ Surface Mini ที่เป็นแท็บเล็ตซึ่งมันเคยมีข่าวออกมาครับว่าทาง Microsoft ถึงขั้นผลิต Surface Mini เพื่อแจกจ่ายสำหรับทดสอบในการใช้งานแล้ว(ช่วงเดียวกับ Surface Pro 3) ทว่าไม่รู้ด้วยเหตุผลกลใดมิอาจทราบได้ Satya Nadella ผู้ดำรงตำแหน่ง CEO ของทางบริษัท Microsoft ก็สั่งให้ระงับไม่ให้เปิดตัว Surface Mini ก่อนเพียงแค่คืนเดียวเท่านั้นที่จะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการด้วยเหตุผลที่ว่า Surface Mini นั้นดูแล้วไม่ได้มีความแตกต่างอะไรมากมายไปจากคู่แข่งแต่อย่างใดเลยครับ
ข่าวลือล่าสุดนั้นลือออกมาครับว่า ณ เวลานี้ทาง Microsoft กำลังทุ่มทุนในการศึกษาเทคโนโลยี digital inking สำหรับระบบปฎิบัติการ Windows 10 อยู่ ซึ่งนั่นทำให้เราสามารถที่จะคิดไปได้ว่าไม่แน่แล้วนั้นทาง Microsoft กำลังอาจจะให้ความสนใจในการพัฒนา phablet ในซีรีส์ Surface ที่มาพร้อมกับสไตลัสก็เป็นได้(จากที่ที่ทาง Microsoft ได้เทคโนโลยีในเรื่องของ Surface Pen มาจากการเข้าซื้อบริษัท N-trig ในปี 2015 ที่ผ่านมาครับ) งานนี้คงต้องรอดูครับว่า Microsoft จะเอายังไงกันแน่กับอุปกรณ์เคลื่อนที่อย่างสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต(Surface นั้นคงจะนับไม่ได้เท่าไรเนื่องจากว่ามันมีหน้าจอที่ใหญ่กว่าปกติพอดู)
ไม่ว่า Surface Phone หรือ Surface Mini จะถูกเปิดตัวและวางจำหน่ายอออกมาอย่างเป็นทางการจริงๆ หรือไม่นั้น อย่างไรก็ตาม ณ ปัจจุบันนี้อุปกรณ์ทั้ง 2 ดังกล่าวก็คงจะไม่เพียงพอในการที่จะต่ออายุให้กับระบบปฎิบัติการ Windows Phone ได้อีกต่อไปแล้วครับ สิ่งที่ Surface Phone หรือ Surface Mini จะสามารถทำได้นั้นก็คงจะแค่เพิ่มประสบการณ์ในการใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก(Pocket PC) ให้แก่ผู้ใช้เท่านั้นเอง ปัญหาใหญ่ที่สุดที่ทาง Microsoft จะต้องเผชิญก็คือเรื่องของการดึงดูดให้บรรดานักพัฒนาหันมาพัฒนาแอปพลิเคชันลงระบบปฎิบัติการ Windows 10 Mobile ให้ได้ซึ่งก็คงจะยากหน่อย
Microsoft ลงทุนไปกับเรื่องของระบบปฎิบัติการ Windows 10 Mobile ไปมากเลยทีเดียวครับ รวมๆ แล้วทั้งหมดที่ผ่านมาตั้งแต่ซื้อ Nokia ไปจนถึงเข้าซื้อบริษัทที่ผลิตแอปพลิเคชันสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ต่างๆ เช่น Sunrise, Acompli และ SwiftKey ฯลฯ รวมๆ กันแล้วก็กว่า $8 billion หรือประมาณ 2.96 แสนล้านบาทเข้าไปแล้วครับซึ่งถือว่านี่ไม่ใช่เงินจำนวนน้อยๆ เลยทีเดียวครับจะว่าไปแล้วในอดีตนั้น Windows Phone ถือได้ว่าเป็นระบบปฎิบัติการสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่อย่างสมาร์ทโฟนที่ดีมากเลยทีเดียวแต่ก็มาล้มตอนสมัย Windows Phone 6.5 และ 7
กลยุทธ์ที่ทาง Microsoft ใช้กับ Windows 10 สำหรับอุปกรณ์ทุกรูปแบบนั้นจะเป็นจริงหรือไม่และสู้กับระบบปฎิบัติการ Android และ iOS(ที่ใช้กลยุทธ์ในลักษณะเดียวกัน) ที่ ณ ปัจจุบันแล้วทางด้านอุปกรณ์เคบื่อนที่อย่างสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตนั้นถือว่าไปไกลกว่า Microsoft เยอะมาก ก็คงจะต้องดูกันต่อไปครับ แต่ที่น่าแปลกนิดหน่อยก็คือในบรรดาอุปกรณ์ทั้งหมดที่ทาง Microsoft บอกว่าจะมาพร้อมกับระบบปฎิบัติการ Windows 10 นั้นกลับไม่มีอุปกรณ์สำหรับการสร้างภาพเสมือนจริงอย่าง HoloLens รวมอยู่ด้วยเลยครับ
ที่มา : theverge