เป็นตัวเสริม Expansion ส่งท้ายจากทีมงาน CD Projekt Red ที่จะพาผู้เล่นเข้าสู่ Toussaint พื้นที่แห่งใหม่เต็มไปด้วยความกว้างใหญ่และความสงบสุขแต่ภายใต้ความสวยงามของธรรมชาติกับบ้านเมืองกลับแฝงไปด้วยความชั่วร้ายจาก Vampire ผีดูดเลือดกับสัตว์ประหลาดที่งานนี้ต้องเดือดร้อนให้พ่อหนุ่ม Geralt ไปช่วยปราบและสืบสาวราวเรื่องทั้งหมดว่ามันเป็นอะไรอย่างไรกันแน่
สำหรับตัวเสริมตัวสุดท้ายนี้ก็ต้องบอกเลยว่ายังคงความเจ๋งพอ ๆ กับเกมภาคหลักได้เลยซึ่งทาง CD Projekt Red ได้ใส่ลูกเล่นกับเนื้อหาใหม่ ๆ เข้ามาเพียบที่เห็นได้ชัดเจนเลยก็คือบรรยากาศสภาพพื้นที่ของ Toussaint ที่อลังการ งดงาม ธรรมชาติ สมกับคำโฆษณาว่าเป็นดินแดนที่รอดพ้นจากสงคราม เราจะได้พบกับชาวเมืองที่เป็นมิตรมีวังสุดอลังการพื้นที่อันเขียวชอุ่มสร้างความแตกต่างกันได้อย่างชัดเจน
เนื้อเรื่องใน Blood and Wine ก็ดูดีไม่แพ้กันครับเมื่อ Geralt ได้รับเชิญจาก Duchess ให้มาที่ดินแดน Toussaint เพื่อมช่วยปราบปีศาจที่ออกอาละวาดโดยโทนเรื่องจะเน้นการสืบสวนเป็นหลักพูดคุยกับ NPC สืบหาเบาะแสการฆาตกรรมราวกับว่าเป็นนักสืบในโลกแฟนตาซียังไงยังงั้น อีกทั้งยังมีความเป็นดราม่าเล็ก ๆ ช่วยให้ตัวเกมมีความน่าสนใจมากขึ้นบวกกับการให้เสียงของตัวละครก็จัดว่าทรงพลังอินไปกับเนื้อเรื่องได้ง่าย ๆ
ส่วนเควสก็มีเควสใหม่ให้ทำเยอะมากอย่างเควสหลักที่ถ้าตั้งใจทำก็จะจบประมาณ 10 ชั่วโมงส่วนเควสย่อยนั้นก็เป็นทีเด็ดของตัวเสริมนี้เพราะให้เราได้เพลิดเพลินในดินแดน Toussaint กันมากกว่า 30 ชั่วโมงเลยทีเดียวรูปแบบเควสก็จะมีทั้งการตามหา NPC , เก็บสะสมของ , ล่ามอนสเตอร์หรือเข้าร่วมกลุ่มคณะเดินทางที่เรียกว่าไม่มีวันเบื่อง่าย ๆ แน่นอน
สำหรับฟีเจอร์อื่น ๆ ที่น่าสนใจก็จะมีสิ่งที่เรียกว่า Vineyard หรือฐานทัพในรูปแบบไร่องุ่นซึ่ง Geralt จะมีไร่องุ่นเป็นของตนเองสามารถอัพเกรดได้แต่ว่ามันก็ใช้เงินเยอะพอสมควรบวกกับใช้เวลาค่อนข้างนาน ประโยชน์ของมันก็จะเอาไว้ปลูกพืช Craft ของต่าง ๆ จำพวก ยา , อาวุธ , ชุดเกราะ นอกจากนี้ก็ยังมีห้องแลปกับห้องรับแขกมาให้ด้วยพร้อมกับระบบการย้อมสีชุดก็จะมีให้ด้วยงานนี้ใครที่ชอบตกแต่งสีได้เพลินจนลืมทำเควสกันเลยล่ะ
ระบบการต่อสู้จะเป็นอีกรูปแบบใหม่ที่ไม่ใช่การปรับปรุงเพิ่มเติมแต่เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เลยล่ะครับด้วยระบบที่เรียกว่า Mutation System จะทำให้ผู้เล่นปลดล็อคสกิลความสามารถแปลกใหม่มากขึ้นทำให้การต่อสู้กับศัตรูมีสีสันมากขึ้นกว่าเดิมเช่นความสามารถถ้าหากตีติดคริติคอลจะทำให้ศัตรูระเบิดหรือถ้าหากผู้เล่นตายจะสามารถป้องกันความเสียหายได้เมื่อฟื้นขึ้นมาให้ความรู้สึกว่า Geralt ในภาคเสริมนี้ดูเหนือมนุษย์ขึ้นมาทันที
แม้ว่าจะมีส่วนที่ชื่นชมไปเยอะแต่ข้อเสียในภาค Blood and Wine ที่พบเห็นก็คือการเคลื่อนไหวเวลาขี่ม้าไม่เป็นธรรมชาติดูแปลก ๆ หรือพลังเวทย์ที่ต้องใช้ในการสืบสวนก็มีปัญหาเรื่องการใช้งานบ้างแต่นั่นก็เพียงแค่ข้อเสียเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสิ่งที่ได้รับในภาคนี้ครับ
สรุปแล้ว The Witcher 3: Blood and Wine ก็เป็นอีกภาคเสริมที่ CD Projekt Red ทำออกมาไม่ผิดหวังเติมเต็มความเป็นเกม Fantasy RPG ได้สมบูรณ์แบบมอบความเพลิดเพลินหรือความแตกต่างจากเดิมได้ยอดเยี่ยมไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสภาพภูมิประเทศของ Toussaint ก็ดีหรือระบบใหม่ ๆ ที่เพิ่มเข้ามาก็ดีไม่ทำให้น่าเบื่อเลยสักนิดและคาดว่าหลังจากนี้ตัวเกมน่าจะเล่นได้เรื่อย ๆ จนถึงปี 2020 เลยทีเดียวและใครที่เป็นแฟนเกม The Witcher อยู่แล้วควรซื้อภาคเสริมนี้โดยเร็วไม่ผิดหวังแน่นอน
The Witcher 3: Blood and Wine (PS4 , Xbox One , PC)
ผู้พัฒนา: CD Projekt RED
ผู้จัดจำหน่าย: CD Projekt RED
วันวางจำหน่าย: 31 พฤษภาคม 2016
Minimum Requirements
- OS: 64-bit Windows 7, 64-bit Windows 8 (8.1) or 64-bit Windows 10
- CPU: intel CPU Core i5-2500K 3.3GHz / AMD CPU Phenom II X4 940
- RAM: 6 GB of RAM
- GPU: Nvidia GPU GeForce GTX 660 / AMD GPU Radeon HD 7870
- Disk Space: 35 GB
Recommend Requirements
- OS: 64-bit Windows 7, 64-bit Windows 8 (8.1) or 64-bit Windows 10
- CPU: intel CPU Core i7 3770 3.4 GHz / AMD CPU AMD FX-8350 4 GHz
- RAM: 8 GB of RAM
- GPU: Nvidia GPU GeForce GTX 770 / AMD GPU Radeon R9 290
- Disk Space: 35 GB
PCGAMER Score: 94/100
ที่มา: PCGAMER