จากงาน Google I/O 2016 ที่พึ่งจัดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้นั้นดูเหมือนจะมีสิ่งใหม่สิ่งหนึ่งที่ทาง Google ต้องการจะให้ผู้ใช้ได้ทำการปรับตัว(หรืออีกนัยหนึ่งก็คืออาจจะยัดเยียดให้เปลี่ยนลักษณะการใช้งานนิดๆ) ในเรื่องของการเข้าสู่ระบบด้วยการใช้รหัสหรือ password ที่เราๆ ท่านๆ เคยชินกันมายาวนานด้วยระบบใหม่ที่ทาง Google เรียกว่า Trust API ซึ่งพัฒนาโดยฝ่าย Advanced Technology and Projects(ATAP) ของทาง Google เองโดยอุปกรณ์ที่จะได้รับผลกระทบนี้ก่อนเลยก็คืออุปกรณ์ที่ใช้ระบบปฎิบัติการ Android ซึ่งทาง Google บอกเอาไว้ในงานว่าเป็นไปได้แล้วก็อาจจะเปลี่ยนการใช้งานการเข้าสู่ระบบมาเป็น Trust API ภายในสิ้นปีนี้ครับ
Google ได้ให้เหตุผลเอาไว้ครับว่าการเข้าสู่ระบบด้วยวิธีการใช้รหัสหรือ password นั้นถูกใช้งานมาอย่างเนิ่นนานและเป็นของที่เก่าคร่ำครึไปแล้ว ในปัจจุบันนี้เราเข้าสู่ยุคดิจิทัลกันแล้วดังนั้นก็ควรที่จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องดังกล่าวกันบ้าง โดยอุปกรณ์สมาร์ทโฟนนั้นเป็นหนึ่งตัวอย่างที่ทาง Google ยกขึ้นมาว่ามันมาพร้อมกับเซ็นเซอร์ต่างๆ มากมายและเซ็นเซอร์ต่างๆ เหล่านั้นสามารถที่จะทำการระบุตัวตนของผู้ใช้งานได้อย่างแม่นยำ ด้วยเซ็นเซอร์หลายๆ อย่างดังกล่าวดังนั้นทำไมเราจึงยังต้องใช้วิธีการเข้าสู่ระบบด้วยรหัสอันแสนโบราณอีก โดย Trust API ของทาง Google นี้นั้นจะทำให้สมาร์ทโฟนสามารถที่ใช้เซ็นเซอร์ต่างๆ บนสมาร์ทโฟนในการเป็นเครื่องมือวัดเพื่อคำนวณหาสิ่งที่เรียกว่า “Trust Score” สำหรับใช้ในการยืนยันตัวตนผู้ใช้ได้ครับ
“Trust Score” นั้นจะเกิดขึ้นจากการรวมค่าที่วัดได้หลายๆ อย่างไม่ว่าจะเป็นความเร็วในการพิมพ์, รูปแบบเสียงของผู้ใช้, การจำแนกใบหน้า, ตำแหน่งที่อยู่หรือแม้กระทั่งอุปกรณ์ที่ใช้การเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth ที่มีการจับคู่ไว้และ wifi hotspots ในด้านการใช้งานนั้นก็จะขึ้นอยู่กับแอปพลิเคชันหรือการเข้าถึงต่างๆ นั้นว่าสำคัญมากแค่ไหน ตัวอย่างเช่นหากเป็นการเข้าเล่นเกมก็อาจจะไม่จำเป็นต้องใช้ Trust Score มากนัก แต่ถ้าเป็นการเข้าถึงแอปพลิเคชันที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องของการเงินก็อาจจะต้องใช้ Trust Score ที่มากขึ้นหน่อยเป็นต้นครับ โดยทาง Google คาดว่า Trust API นี้จะสามารถใช้งานได้อย่างสมบูรณ์ภายในสิ้นปี 2016 นี้ งานนี้คงต้องรอดูกันต่อไปหล่ะครับว่าระบบดังกล่าวนี้จะได้รับเสียงตอบรับเช่นไร
ที่มา : androidauthority