เรียกว่ากระแสเกม MOBA ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีมันก็ยังได้รับความนิยมต่อเนื่องจนทำให้มีทีมพัฒนาเกมหลาย ๆ ทีมหันมาหยิบจับเกมแนวนี้กันไม่น้อยและในกรณีของทีมงาน Gearbox Software ก็เช่นกันครับแม้ว่าจะประสบความสำเร็จกับ Borderlands เกมลูกรักในสังกัดแต่พวกเขาก็เหมือนว่าอยากจะทดลองอะไรใหม่ ๆ จนสุดท้ายผลก็มาลงเอยที่ Battleborn กับเกมแนว MOBA ที่ผสมมุมมอง First Person และเล่นได้หลายคน Multiplayer หรือ Co-op ก็ได้และผลลัพธ์ที่ออกมาก็น่าพอใจเลยล่ะครับ
การเดินหน้าพัฒนาของ Gearbox Software ครั้งนี้ก็จะใช้โทนภาพกราฟิกประมาณเกม Borderlands พร้อมกับมีความเป็น MOBA เกมเต็มเปี่ยมผู้เล่นจะต้องร่วมทีมกับเพื่อน ๆ อีก 4 คนต่อสู้กับฝ่ายตรงข้ามมีโหมดเนื้อเรื่องให้เล่นด้วย ร่วมกันทำเควส , กำจัดบอส , มุ่งหน้าอีกจุดไปยังอีกจุด เป็นต้น ซึ่งดูแล้วอาจจะเหมือนกับ Borderlands ดังเช่นก่อนหน้านี้ที่ก็หลาย ๆ คนแซวกันว่ามันจะกลายเป็น Borderlands 3 หรือเปล่าก็คงต้องตอบตรงนี้เลยว่ามันไม่เหมือนกันแน่นอน Battleborn มีความแตกต่างตรงที่เกมเพลย์เนื้อเรื่องอันหนักแน่นและฮีโร่ที่มีให้เล่นนั้นจัดว่าหลากหลายมากทำให้ไม่มีเบื่อ
ขึ้นชื่อว่าเป็นเกม MOBA ใน Battleborn ก็มีส่วนผสมของเกมแนวนั้นอย่างที่ควรจะเป็นฮีโร่หนึ่งตัวจะมีสกิลหลัก 2 สกิลและสกิลอัลติเมทอีก 1 สกิลซึ่งจะปลดล็อกได้ก็ต่อเมื่อเก็บค่าประสบการณ์ครบตามจำนวนหรือทำภารกิจบางอย่างถ้าหากเล่นโหมดเนื้อเรื่อง ส่วนทางด้านสกิลความสามารถของฮีโร่ก็จะมีทั้งประเภทโจมตีระยะไกล (เพิ่มระยะโจมตีหรือเพิ่มพลังโจมตีชั่วขณะ) หรือสกิลประเภทปกป้องเพื่อนก็มีอย่างกางโล่บาเรียป้องกันการโจมตีจากศัตรู นอกจากนี้สำหรับฮีโร่บางตัวก็มีสกิลทำให้ลอยขึ้นฟ้าได้ซึ่งจะช่วยให้มองเห็นภาพรวมได้ว่ามีศัตรูบุกมาจากทิศไหนกันบ้างสามารถช่วยเหลือเพื่อนร่วมทีมเรื่องการชี้ตำแหน่งได้และทำให้เกมได้เปรียบขึ้นด้วย
ใน Battleborn ก็มีระบบเครื่องแต่งกายที่เรียกกันว่า Gear โดยจะเป็นชุดเกราะเสริมสำหรับเพิ่มค่าสเตตัสให้สูงขึ้นสามารถพบชุด Gear พวกนี้ได้ใน Story Mode เท่านั้นและจะใช้สิ่งที่เรียกว่า Shards เป็นสิ่งแลกเปลี่ยนโดย Gear แต่ละชนิดก็จะบวกสเตตัสต่างกันไปเช่นเมื่อสวมใส่แล้วจะเพิ่มความเร็วการโจมตี 5% ด้วยกันที่แม้ว่าอาจจะบวกน้อยไปหน่อยแต่ขอบอกเลยว่า 5% ที่เพิ่มขึ้นนี้มันแตกต่างกันมากและเห็นผลชัดเจนเมื่อเทียบกับเกม MOBA อื่น ๆ
ส่วนการเลือกฮีโร่ก็เฉกเช่นเดียวกันมีฮีโร่ให้เลือกถึง 25 ตัว (อนาคนจะมี DLC เสริมเพิ่มฮีโร่อีก 5 ตัว) แบ่งเป็นหลายประเภทสายโจมตี , ซัพพอร์ต , แท้งค์ เป็นต้น แต่สิ่งที่ต่างออกไปคือมุมมองการเล่นแบบ First Person เมื่อเล่นฮีโร่ถือปืนก็ให้ความรู้สึกเหมือนเล่นเกมยิงสามารถคลิกขวาใช้กล้องซูมได้หรือถ้าหากฮีโร่ระยะประชิดก็ไม่ต้องกลัวเสียเปรียบเพราะพวกเขามีพลังโจมตีที่รุนแรงและเร็วมากอย่าง Rath ที่ใช้ดาบคู่เป็นอาวุธมีสกิลหมุนตัวเป็นพายุเรียกว่าถ้าเข้าใกล้ได้เมื่อไหร่ก็เตรียมเฝ้ายมบาลได้เลยหรือฮีโร่สายแท้งค์ก็จะมี Boldur เป็นฮีโร่ที่โดดเด่นด้านพลังป้องกันสูงมีสกิลปกป้องเพื่อนในระยะกว้างได้สามารถแก้ทางพวกสายตีไกลที่ชอบตอดได้เป็นอย่างดีและการที่มีฮีโร่หลากหลายประเภทก็เป็นการเพิ่มความยืดหยุ่นในเกมได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ Battleborn ก็ได้ใส่สิ่งที่เกม MOBA ทั่วไปไม่อาจมีได้นั่นก็คือโหมดเนื้อเรื่องซึ่งเนื้อเรื่องของเกมนี้ก็ไม่ไก่กาเลยครับเพราะเนื้อเรื่องที่นำเสนอออกมาค่อนข้างซีเรียสจริงจังแต่ก็จะมุกตลกร้ายแฝงเข้าไปด้วยเผลอ ๆ โหมดเนื้อเรื่องในเกมนี้ทำได้ดีและสนุกกว่า Multiplayer ด้วยซ้ำไปแต่ก็น่าเสียตรงที่มีภารกิจเนื้อเรื่องให้ทำน้อยไปหน่อยโดยสามารถจบเกมได้ประมาณ 4 ชั่วโมงเท่านั้น อย่างไรก็ดีในโหมดเนื้อเรื่องผู้เล่นสามารถเล่นคนเดียวหรือ Co-op กับเพื่อนก็ได้ครับ
ด้วยแนวเกมแบบนี้กับมุมมองการเล่นแบบนี้ก็อดไม่ได้ที่จะถูกไปเปรียบเทียบกับเกม MOBA จาก Blizzard อย่าง Overwatch จนได้ซึ่งใน Overwatch แม้จะมีโหมดการเล่นแบบยึดพื้นที่แต่ฮีโร่ที่มีถือว่าเล่นง่ายนาน ๆ ไปก็ชินแต่สำหรับ Battleborn ฮีโร่จะอ่อนแอมากในตอนแรกและต้องใช้เวลาทำความเข้าใจเรื่องสกิลพอสมควรแต่ถ้าหากใช้คล่องแล้วก็จะเล่นสนุกกว่าเพราะมันสามารถทำคอมโบกับฮีโร่ตัวอื่นได้แม้โหมดสู้กับคนอื่นอาจจะไม่ได้เด่นนักแต่ก็มี Story Mode ทดแทนได้จึงบอกได้ว่ากินกันไม่ลงและดีคนละแบบครับ
รวมแล้ว Battleborn ก็เปรียบเหมือนเป็นงานทดลองของ Gearbox Software ที่พยายามใส่อะไรสนุก ๆ เข้ามามากมายทั้งมุมมอง First Person การเล่นเน้นวางแผนแบบ MOBA หรือมีโหมดเนื้อเรื่องที่สนุกมากเล่นคนเดียวก็ได้หรือกับเพื่อนก็ดีแต่อาจจะใช้เวลาไม่นานก็จบเกมได้แล้วแต่ก็หวังว่าใน DLC เสริมที่จะมีการเพิ่มเนื้อเรื่องและฮีโร่เข้ามาอีกจะทำให้ตัวเกมสมบูรณ์ยิ่งขึ้นครับ
Battleborn (PC , PS4 , Xbox One)
ผู้พัฒนา: Gearbox Software
ผู้จัดจำหน่าย: 2k Games
วันวางจำหน่าย: 3 พฤษภาคม 2016
Minimum Requirements
- OS: Windows 7 x64-Bit or Later
- CPU: Intel i5-750 / AMD Phenom IIx4 945
- RAM: 6 GB
- Hard Drive: 30 GB free
- Video Memory: 1 GB
- Minimum Required Video Card: AMD HD 6870/ NVIDIA GeForce GTX 460 or better, PhysX support
- Sound: DirectX 11
- Input: Keyboard or dual-analog gameplay
Recommend Requirements
- OS: Windows 7 x64-Bit or Later
- CPU: Intel i5-750 / AMD Phenom IIx4 945
- RAM: 6 GB
- Hard Drive: 50 GB free
- Video Memory: 2 GB
- Recommended Video Card: AMD HD 7850/ NVIDIA GeForce GTX 660 or better, PhysX support
- Sound: DirectX 11
- Input: Keyboard or dual-analog gamepad
PCGAMER Score: 75/100
ที่มา: PCGAMER