เมื่อช่วงวันเสาร์ที่ผ่านมาคอเกมสายชู้ตติ้งหรือแฟนพันธุ์แท้ของ Battlefield ก็คงจะได้เห็นกันแล้วกับตัวอย่างใหม่ของ Battlefield 1 ที่ทำให้หลาย ๆ คนฮือฮากันเพราะเป็นเรื่องราวของสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 ซึ่งเป็นการนำเสนอเกมที่สวนทางกับคู่แข่ง Call of Duty ที่รายนั้นได้ออกนอกโลกกันไปแล้วแต่การที่ DICE ผู้พัฒนาได้ส่งเกมในสังกัดออกมาเช่นนี้แล้วย่อมไม่ธรรมดาแน่ ๆ และน่าจะมีสิ่งที่น่าสนใจแปลกใหม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน
การที่ DICE ได้เลือกที่จะย้อนอดีตแทนที่จะมุ่งหน้าสู่อนาคตแบบเกมอื่น ๆ ทำนั้นก็น่าจะเป็นการสร้างความแปลกใหม่ให้กับซีรี่ส์ Battlefield ซึ่งภาคที่ผ่าน ๆ มาอย่าง Battlefield 4 ที่แฟน ๆ ไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่นัก อีกทั้งถ้าหากเดินเรื่องเนื้อเรื่องในสงครามยุคปัจจุบันอยู่ก็อาจจะส่งผลกระทบระหว่างประเทศเลยก็เป็นได้เฉกเช่นการแบนเกม Battlefield 4 ของรัฐบาลจีนและถ้าหากพัฒนาเกมในช่วงยุคปัจจุบันอีกมันก็คงจะไม่ดีแน่ ๆ ดังนั้นแล้วการเลือกที่จะย้อนอดีตไปสู่ยุควงครามโลกครั้งที่ 1 ก็ดูเหมือนว่าจะเป็นอะไรที่เข้าท่ากว่าแถมเหตุการณ์ในช่วงนั้นก็น่าจะสามารถดัดแปลงหรือทำอะไรได้มากกว่าช่วงยุคปัจจุบัน
แล้วในสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่เป็นสงครามที่ยังไม่มีเทคโนโลยีล้ำโลกอะไรมากนักมันจะช่วยให้เกมสนุกกว่าเดิมหรือเปล่านั้น ถ้าหากมองจากเหตุการณ์จริงในยุคนั้นอาวุธปืนถือว่าเป็นสิ่งหายากแม้จะมีพลังทำลายที่ดีแต่การยิงแต่ละครั้งก็จัดว่านานกันพอสมควรซึ่งตรงนี้คาดว่าทาง DICE เองก็น่าจะเตรียมความพร้อมไว้อยู่แล้วและเราอาจจะได้เห็นอาวุธปืนที่สมดุลทุกฝ่ายหรือการใช้อาวุธเพื่อป้องกันฐานที่อาจจะต้องใช้ผู้เล่นมากกว่า 1 คนควบคุมมันก็เป็นได้
นอกจากนี้สิ่งที่น่าสนใจของสงครามโลกครั้งที่ 1 คือมันเป็นรอยต่อเทคโนโลยียุคเก่ากับยุคใหม่ผสมกันดังจะเห็นได้จากตัวอย่างแรกที่เราจะเห็นทั้งม้าและเครื่องบินใบพัดปีก 2 ชั้นในเกมเดียว มีรถถังในยุคบุกเบิกหรือการต่อสู้ที่เน้นระยะประชิดภายในสนามเพลาะ อีกทั้งในสงครามโลกครั้งที่ 1 ยังเป็นเหตุการณ์ที่ใช้แทคติกกลยุทธ์ค่อนข้างสูงเช่นการทิ้งระเบิดใส่แนวหน้าของศัตรู การแยกกองกำลังเล็ก ๆ เข้าตีจากด้านข้างเพื่อหาจุดอ่อนส่วนกองกำลังหลักก็บุกเข้าโจมตีแบบซึ่งหน้าค่อย ๆ ยึดครองพื้นที่ไปเรื่อย ๆ อาวุธปืนใหญ่จะเป็นสิ่งที่น่ากลัวสามารถปลิดชีวิตได้ง่ายรวมไปถึงการต่อสู้ในสนามเพลาะที่จะต้องบุกตะลุยไปทีละส่วนสังหารศัตรูด้วยดาบปลายปืนหรือฟาดพวกมันด้วยพลั่วสงครามและรูปแบบสงครามที่เป็นสงครามโลกการยึดพื้นที่ได้ในแต่ละครั้งย่อมส่งผลอย่างมากต่อทั้งสองฝ่าย
ซึ่งถ้าหากใน Battlefield 1 มีอย่างที่ว่านั้นก็คงจะเป็นเกมที่เน้นแทคติกลูกเล่นมากขึ้นอาศัยความสามัคคีจากบรรดาผู้เล่นเป็นหลักในการป้องกันจุด ๆ หนึ่งหรือเข้าโจมตีและการที่ Battlefield โดดเด่นที่ระบบ Multiplayer การรบร่วมกันกับผองเพื่อนในภาคล่าสุดนี้ก็คงจะมีความสำคัญมากขึ้นด้วย ฉะนั้นด้วยเหตุนี้จึงทำให้ Battlefield 1 ดูมีความน่าสนใจมากกว่าสงครามยุคปัจจุบันจำพวก Battlefield 3 และ 4 เสียอีกครับ
ทั้งนี้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 จะมีจุดเด่นตรงที่บรรยากาศของสมรภูมิรบหรือมีเหตุการณ์ปลีกย่อยที่น่าหดหู่อีกด้วยดังเช่นเกม Verdun ที่หยิบเอาสมรภูมิรบ “เวอร์ดัน” มาพัฒนาเป็นเกม FPS ซึ่งถ่ายทอดบรรยากาศของสงครามได้สมจริงมาก ๆ และหวังว่าใน Battlefield 1 ก็น่าจะใส่บรรยากาศแบบนั้นเข้าไปด้วยเหมือนกันเพราะจะช่วยเพิ่มอรรถรสการเล่นเกมได้มากขึ้นอย่างแน่นอน
ดังนั้นอาจจะบอกได้ว่าการที่ DICE นำสงครามโลกครั้งที่ 1 มาไว้ใน Battlefield นั้นต่อให้มันสร้างความสนุกแก่ผู้เล่นได้หรือไม่ก็ตามแต่มันก็เป็นการเริ่มต้นที่ดีในการหยิบเอาเหตุการณ์นี้มาเล่าเรื่องเพราะมันเป็นสงครามที่มีประเด็นปัจจัยอื่น ๆ ปลีกย่อยให้เล่นมากมายเช่นสนามเพลาะ , การต่อสู้เน้นประชิดตัว , เครื่องบินรบ , บอลลูนเรือเหาะ , ต่อสู้บนหลังม้าซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็เป็นที่น่าสนใจอย่างมากว่าทาง DICE จะหยิบฉวยสิ่งเหล่านั้นมานำเสนอได้มากน้อยแค่ไหน
Battlefield 1 จะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 21 ตุลาคม 2016 พัฒนาลงบนทั้ง PlayStation 4 , Xbox One และ PC สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Battlefield ครับ
ที่มา: PCGAMER