ในการปลูกพืชแต่ละชนิดแต่ละฤดูในเกมนี้ก็ใช่ว่าจะปลูกได้ทุกชนิดแต่ต้องดูฤดูกาลฟ้าฝนด้วยถึงจะปลูกได้ซึ่งตรงนี้ก็น่าจะทำให้ผู้เล่นหลาย ๆ คนขัดใจไปไม่น้อยเลยและใครที่มีเมล็ดพืชเหลือจากฤดูกาลที่ผ่านมาก็ต้องรออีกหลายเดือนทีเดียวกว่าจะปลูกใหม่ได้แต่ว่าถ้าหากสร้างสิ่งที่เรียกว่าเรือนกระจกแล้วล่ะก็ปัญหาที่ว่านั้นก็จะถูกแก้ไขทันทีครับ
เรือนกระจกหรือ Greenhouse ก็จะเป็นอาคารขนาดกลางมีหลังคาเป็นกระจกรับแสงแดดเมื่อเข้าไปข้างในก็จะพบกับห้องโถงที่มีความกว้างพอสมควรซึ่งพื้นที่ว่างเหล่านี้คือพื้นที่ปลูกพืชผักโดยสามารถนำเมล็ดพืชมาปลูกในนี้ได้และแน่นอนว่าสิ่งที่มันพิเศษกว่าการปลูกพืชข้างนอกก็ต้องมีอยู่แล้วครับเพราะในพื้นที่นี้ผู้เล่นสามารถปลูกพืชได้ทุกชนิดทุกประเภทไม่เกี่ยงฤดูกาล
สำหรับการหาสิ่งก่อสร้างตัวนี้ว่าอยู่ที่ไหนก็ไม่ยากเลยครับแค่เพียงเดินไปด้านซ้ายมือถัดจากบ้านของผู้เล่นนิดหน่อยเท่านั้นก็จะพบกับอาคารเรือนกระจกแต่อย่าหวังว่าเราจะพบกับอาคารที่มีสภาพสมบูรณ์ 100% ซึ่งตอนแรกเราจะพบว่าอาคารแห่งนี้มีสภาพชำรุดและใช้งานไม่ได้อยู่ฉะนั้นวิธีซ่อมแซมมันก็มีอยู่ด้วยการทำเควสใน Community Center ครับ
“วงกลมสีแดงคือจุดที่ Greenhouse ตั้งอยู่”
การทำเควสใน Community Center จะต้องเข้าไปทำในส่วนของห้องเก็บของ (Pantry) ครับซึ่งจะเป็นรางวัลใหญ่ที่สุดผู้เล่นจะต้องทำเควส Bundle ย่อยทั้ง 6 เควสให้ครบถึงจะได้โดยเควส Bundle 6 เควสก็จะมีได้แก่
- Spring Crops Bundle
- Summer Crops Bundle
- Fall Crops Bundle
- Quality Crops Bundle
- Animal Bundle
- Artisan Bundle
เมื่อทำเควสครบแล้วก็รอ 1 วันพอตื่นขึ้นมาเราก็จะพบว่าเรือนกระจกได้ถูกซ่อมแซมเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ
“ก่อน”
“หลัง”
ทีนี้เราก็สามารถปลูกพืชหรือต้นไม้ต่างฤดูกาลได้โดยไม่จำเป็นต้องรอวันเวลาตามปฏิทินแถมยังมีส่วนช่วยในเรื่องทำเควสส่งของอื่น ๆ ได้เพราะบางทีเราอาจจะเผลอดองเควสจนข้ามฤดูกาลไปเช่นส่ง Cauliflower ให้ NPC ซึ่งเป็นดอกไม้ประจำฤดูใบไม้ผลิแต่ถ้าหากเราอยู่ฤดูร้อนก็ปลูกไม่ได้แต่ถ้านำไปปลูกใน Greenhouse มันก็จะเจริญงอกงามตามปกติครับ
ประโยชน์ของมันก็ทำให้เห็นแล้วว่าอาคารเรือนจกแห่งนี้มีค่ามากแค่ไหนดังนั้นก็อย่าลืมแวะไปทำเควสเรือนกระจกด้วยนะครับมีแต่ได้กับได้ทั้งนั้น
ที่มา: StardewValleyWiki