อ้างอิงจากผลการวิจัยล่าสุดของทาง US Census Bureau พบว่าประชาชนชาวสหรัฐอเมริกาหลายๆ คนในหลายๆ พื้นที่เริ่มเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่บ้านจากแต่เดิมที่เคยใช้การเข้าถึงผ่านบริการ ISP แบบมีสาย(อย่างเช่นเทคโนโลยี DSL, Fiber obtic เป็นต้น) เป็นเข้าถึงอินเทอร์เน็ตด้วยอุปกรณ์เคลื่อนที่ผ่านเครือข่ายไร้สายแทนครับ การวิจัยนี้จัดทำโดยวิธีการสำรวจจากจำนวนบ้านของประชากรในสหรัฐอเมริกาประมาณ 53,000 ครัวเรือนและการวิจัยในครั้งนี้นั้นจัดทำโดย Giulia McHenry ซึ่งดำรงตำแหน่งหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ National Telecommunications and Information Administration(NTIA) ครับ
การวิจัยนี้ได้เปรียบเทียบช่วงปีที่แตกต่างกันเพียงแค่ 2 ปีเท่านั้นคือระหว่างปี 2013 มาจนถึงปี 2015 ครับ ซึ่งผลการวิจัยนั้นดูแล้วก็น่าใจหายและน่าจะเป็นการส่งสัญญาณอีกอย่างหนึ่งให้กับวงการคอมพิวเตอร์ PC ได้รู้ครับว่าในช่วงเวลาเพียงไม่กี่ปีที่ผ่านมานั้นประชาชนเริ่มเปลี่ยนไปใช้อุปกรณ์จำพวกไร้สายในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตมากขึ้นกว่าเดิมเป็นอย่างมากเลยทีเดียว ซึ่งผลการวิจัยดังกล่าวนี้สรุปพฤติกรรมการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตจากที่บ้านของประชาชนชาวสหรัฐอเมริกาได้ง่ายๆ 3 ข้อดังต่อไปนี้ครับ
- ยอดการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตจากที่บ้านของประชาชนชาวสหรัฐอเมริกาผ่านช่องทางแบบเดิมอย่าง ISP ที่ใช้สายไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อแบบ cable, DSL และ fiber-optic ลดลงถึง 7% ภายในเวลา 2 ปี(ปี 2015 มีจำนวนอยู่ที่ 75% ส่วนปี 2013 มีจำนวนอยู่ที่ 82%)
- ยอดการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตจากที่บ้านของประชาชนชาวสหรัฐอเมริกาผ่านช่องทางไร้สายด้วยอุปกรณ์เคลื่อนที่ผ่านเครือข่าย(อย่างเช่น 3G และ 4G รวมไปถึง WiFi ที่ต้องเสียค่าบริการหรือ WiFi จากผู้ให้บริการโอเปอร์เรเตอร์) เพิ่มขึ้นถึง 10% ภายในเวลา 2 ปี(ปี 2015 มีจำนวนอยู่ที่ 20% ส่วนปี 2013 มีจำนวนอยู่ที่ 10%)
- จากการสำรวจพบว่าในระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมาการเชื่อมต่อแบบไร้สายไม่ว่าจะรูปแบบใดๆ ได้ถึงจุดที่มันจะสามารถก้าวเข้ามาเป็นคู่แข่งโดยตรงกับการเชื่อมต่อผ่านสายได้แล้ว(ข้อนี้ในไทยเองนั้นก็เหมือนกันครับ อย่างจะเห็นได้จากในพื้นที่ที่มี 4G อยู่คุณจะเห็นได้ว่าความเร็วของการเข้าถึงเครือข่ายแบบ 4G นั้นเร็วกว่าใช้แบบมีสายอีก จุดที่ทำให้เกิดความแตกต่างกันอยู่ที่ราคาของรูปแบบการเชื่อมต่อที่การเชื่อมต่อแบบไร้สายนั้นยังแพงกว่าแบบมีสายและยังมีการจำกัดปริมาณการเข้าถึงตามแพ็กเกจครับ)
มาดูผลการสำรวจตามกราฟที่น่าสนใจกันครับ กราฟแรกนั้นเป็นเทคโนโลยีที่ใช้ในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตจากที่บ้านของประชาชนชาวสหรัฐอเมริกาที่ทำแบบสำรวจเทียบระหว่างปี 2015 และ 2013 ซึ่งจะเห็นได้ครับว่าการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตแบบไร้สายนั้นสูงมากขึ้นและแบบมีสายนั้นลดลงตามที่ได้ระบุไว้ที่สรุปข้างต้นครับ
หมายเหตุ – ในส่วนของข้อมูล Other Combinations นั้นในการรายงานการวิจัยไม่ได้ระบุไว้ครับว่าเป็นการรวมของเทคโนโลยีใดแต่ผมคาดว่าน่าจะเป็นการรวมในส่วนของเทคโนโลยีประเภทมีสายและไร้สายเข้าไว้ด้วยกันซึ่งเมื่อการเข้าถึงแบบไร้สายขยายวงกว้างมากขึ้นการรวมกันของเทคโนโลยีในรูปแบบนี้ก็ไร้ความจำเป็นและลดตามไปด้วย(ทั้งนี้ไม่แน่ใจนะครับเป็นการคาดเดาเท่านั้นเนื่องจากว่าทางต้นฉบับไม่ได้ระบุไว้ครับ)
กราฟต่อมาเป็นการแสดงให้เห็นถึงจำนวนของการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตจากที่บ้านของประชาชนชาวสหรัฐอเมริกาที่ทำแบบสำรวจเฉพาะผ่านทางอินเทอร์เน็ตแบบไร้สายเทียบระหว่างปี 2015 และ 2013 แยกตามระดับรายได้ของประชากร ซึ่งจากกราฟนั้นจะเห็นได้ครับว่าในปี 2015 นั้นประชาชนชาวสหรัฐอเมริกาไม่ว่าจะได้รายได้ที่เท่าไรก็มีการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตมากขึ้นกว่าปี 2013 เป็นอย่างมาก(มากกว่า 2 เท่าทุกระดับชั้นรายได้เว้นกลุ่มประชากรที่รายได้ต่ำกว่า $25,000 ต่อปี หรือประมาณ 900,000 บาทต่อปี)
ข้อมูลตรงนี้ทำให้เราเห็นได้ครับว่าในระยะเวลาแค่ 2 ปีที่ผ่านมานั้นทางสหรัฐอเมริกาสามารถที่จะทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้มากขึ้นผ่านทางอินเทอร์เน็ตแบบไร้สายและจากข้อมูลพบว่าประชากรที่มีรายได้ต่ำกว่า $25,000 นั้นพึ่งการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตผ่านทางอินเทอร์เน็ตแบบไร้สายมากกว่าประชากรที่มีรายได้มากกว่า
กราฟสุดท้ายนั้นเป็นกราฟที่แสดงให้เห็นถึงจำพวกอุปกรณ์ที่ประชาชนชาวสหรัฐอเมริกาที่ทำแบบสำรวจใช้ในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตจากที่บ้านของพวกเขา ซึ่งกราฟนี้แหละครับที่น่าจะเป็นสัญญาณให้กับวงการคอมพิวเตอร์ PC ได้เป็นอย่างดีดังจะเห็นได้ว่ายอดการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตผ่านคอมพิวเตอร์ PC แบบ Desktop นั้นลดลงถึง 6% จากปี 2013 ที่อยู่ที่ 40% ไปอยู่ที่ 34% ในปี 2015 ทว่ายังดีหน่วยที่การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตผ่านทางคอมพิวเตอร์ PC แบบโน๊ตบุ๊คนั้นยังลดลงเพียงแค่ 1% เท่านั้นคือจากปี 2013 ที่อยู่ที่ 47% ไปอยู่ที่ 46% ในปี 2015 ครับ
ในส่วนของอุปกรณ์เคลื่อนที่นั้นก็อย่างที่เห้นในภาพครับไม่ว่าจะเป็นแท็บเล็ตหรือสมาร์ทโฟน(ในที่นี่ใช้คำว่า Mobile Phone with internet ซึ่งอาจหมายรวมฟีเจอร์โฟนที่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ด้วยอย่างมือถือที่ใช้ระบบปฎิบัติเก่าๆ เช่น BlackBerry รุ่นเก่าหรือ Symbian ของ Nokia รุ่นเก่าครับ) ที่น่าสนใจมากกว่านั้นก็คือการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตจากที่บ้านผ่านทางอุปกรณ์จำพวกโทรทัศน์ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 9% คือจากปี 2013 ที่อยู่ที่ 18% ไปอยู่ที่ 27% ในปี 2015 ทำให้เห็นได้ว่าประชาชนเริ่มที่จะใช้เวลาหน้าจอโทรทัศน์ที่มีขนาดใหญ่ในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่บ้านมากขึ้น
กับอุปกรณ์สุดท้ายที่จริงๆ แล้วส่วนตัวผมไม่คาดว่าจะมีการใช้งานเข้าถึงอินเทอร์เน็ตจากที่บ้านแต่ทว่าก็มีมาด้วยเหมือนกันอย่างอุปกรณ์สวมใส่ซึ่งในที่นี้น่าจะเป็นสมาร์ทวอทช์ซะเป็นส่วนใหญ่โดยมีจำนวนเพิ่มขึ้นมา 1% ภายใน 2 ปี ไม่แน่ว่าในอนาคตข้างหน้าเราอาจจะได้เห็นการใช้อุปกรณ์ประเภทนี้เข้าถึงอินเทอร์เน็ตจากที่บ้านมากขึ้นก็เป็นได้ครับ
งานวิจัยชิ้นนี้ค่อนข้างที่จะชี้ให้เห็นพฤติกรรมการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตจากที่บ้านของประชาชนได้เป็นอย่างดีครับ ซึ่งส่วนตัวแล้วผมคิดว่านี่ไม่ได้เป็นกระแสที่เกิดขึ้นเฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกาเท่านั้นแต่น่าจะเป็นกระแสเดียวกันที่เกิดขึ้นเหมือนๆ กันทั่วโลก ทั้งนี้หากผู้ให้บริการการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตแบบใช้สายหรือ ISP เดิมไม่มีการปรับตัวให้ตามยุคสมัยหรือไม่ปรับตัวให้เหมาะกับการแข่งขันมากพอเป็นไปได้ว่าในอนาคตอันใกล้นี้เราอาจจะได้เห็นการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตผ่านเครือข่ายไร้สายมากขึ้นกว่าเดิมเป็นอย่างมากกว่านี้แบบหลายเท่าตัวก็เป็นได้ครับเนื่องจากว่าผู้ให้บริการเครือข่ายแบบไร้สายนั้นขยันปล่อยโปรโมชันมาดึงลูกค้ากันแบบตาต่อตา ฟันต่อฟันจริงๆ ครับ(นี่หมายรวมถึงในไทยด้วยนะครับ)